จี้รัฐชะลอหนี้-หยุดดอกเบี้ยธุรกิจถูกปิดกิจการจากโควิด
https://www.matichon.co.th/economy/news_2516889
จี้รัฐชะลอหนี้-หยุดดอกเบี้ยให้ธุรกิจถูกปิดกิจการ วอนศบศ.เร่งถกมาตรการช่วยปชช.
กรณีคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหยุดชะงัก 2-3 เดือน จึงปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวได้ในกรอบ 1.5% ถึง 3.5% จากเดิม 2.0% ถึง 4.0% พร้อมเสนอ 4 ข้อให้รัฐช่วยเหลือ
ประกอบด้วย
1. ต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดและบังคับใช้มาตรการต่างๆที่ประกาศออกมาอย่างเคร่งครัด
2. ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเรื่องงบประมาณช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด 2 แสนล้านบาท อาจนำมาต่ออายุโครงการคนละครึ่งและเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายต่อบุคคลเป็น 5,000 บาท ลดค่าไฟ 5%
3. เร่งรัดเรื่องวัคซีนให้ได้ตามกำหนดเวลาและมีปริมาณเพียงพอ
และ 4. เร่งรัดการใช้และการเจรจาการค้าข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซป)ให้มีผลบังคับใช้กลางปีนี้
นาย
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จาก 4 ข้อเสนอดังกล่าวเพื่อให้ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยตรง ขอเขอให้มีการจัดประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ภายในเดือนมกราคมนี้
ขณะเดียวกันจะเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ เพิ่มมาตรการช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจที่ต้องปิดกิจการตามคำสั่งรัฐ อาทิ สถานบันเทิง ฟิตเนส โดยอาจหยุดดอกเบี้ยให้กับกลุ่มดังกล่าว
นาย
สุพันธุ์ กล่าวว่า ภาครัฐควรให้ความรู้ เน้นย้ำ เรื่องการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ไม่ใช่อาหารสู่คน และอยากให้งบ 2 แสนล้านบาทตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเตรียมใช้ดูแลเศรษฐกิจ และอยากให้ไทยได้รับวัคซีนเร็วและทั่วถึง ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะด้านการส่งออกช่วงไตรมาสแรก(มกราคม-มีนาคม2564) คงไม่โตมากนัก เพราะประเทศจีนมีเทศกาลตรุษจีน วันหยุดยาว ขณะที่ไทยกำลังเจอปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ อีกครั้งหลายประเทศกำลังล็อกดาวน์ อาทิ ญี่ปุ่น โดยการส่งออกน่าจะกลับมาขยายตัวช่วงไตรมาส2(เมษายน-มิถุนายน2564) หรือ ไตรมาส3(กรกฎาคม-ตุลาคม2564) เป็นต้นไป
หอการค้า ชี้โควิดลาม-ล็อกดาวน์ กระเทือนศก.หนัก หั่นคาดการณ์จีดีพี เหลือ 2.2%
https://www.matichon.co.th/economy/news_2517517
นาย
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งมีผลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสูงขึ้น มีการล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด จนกระทบต่อการทำธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ทำให้ทางศูนย์พยากรณ์ฯได้ปรับตัวเลขประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2564 จากกรอบ 1.8-3.8% ค่ากลางที่มีโอกาสสูงสุดขยายตัว 2.8% เหลือกรอบ 0.9-2.8% และค่ากลางอยู่ที่ขยายตัว 2.2%
นาย
ธนวรรธน์ กล่าวว่า จึงเห็นด้วยที่รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชน อย่างโครงการคนละครึ่งต่อเนื่อง ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางธุรกิจ รวมถึงแนวทางทางดูแลหนี้ครัวเรือนและอัตราการว่างงาน ซึ่งแต่ละไตรมาสรัฐควรอัดฉีดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนล้านบาท ดังนั้น การที่รัฐจะกู้เพิ่มอีก1 ล้านล้านบาท ก็น่าจะทำได้ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูหลังโควิดคลี่คลายและกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
”
ตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่นิ่ง ไม่รู้ว่าจุดสูงสุดอยู่ที่ใด ทางการแพทย์ว่าจะมีการติดเชื้อถึง 1 หมื่นคน-1.8 หมื่นคน ในครั้งนี้ และการล็อกดาวน์จะยังแค่ 5 จังหวัด หรือ ลุกลามเพิ่มแค่ไหน ซึ่งทุกภาคส่วนขอดูสถานการณ์จากนี้ 30 วันน่าจะชัดเจนอีกครั้ง ขณะนี้มาตรการรัฐที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนและเอกชนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะการดูแลไม่เกิดการแพร่ระบาดโควิดลากถึงไตรมาส 2 ปีนี้ จะกดดันให้เศรษฐกิจไทยแย่ลง อาจสูงกว่าปีก่อน จนทำให้ปีนี้เศรษฐกิจไทยติดลบได้อีกครั้ง ” นาย
ธนวรรธน์ กล่าว
โฆษกพท. จี้กกต.สอบทุจริตเลือกตั้งอบจ. ยกเคส ประจวบฯ ขึ้นบี้ หลังถูกใส่ร้ายซื้อเสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_2517454
โฆษกพท. จี้กกต.สอบทุจริตเลือกตั้งอบจ. ยกเคส ประจวบฯ ขึ้นบี้ หลังถูกใส่ร้ายซื้อเสียง
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 7 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคพท. แถลงว่า การเลือกตั้งนายก อบจ. และส. อบจ.เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. แล้ว 12 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่เหลือยังมีเรื่องร้องเรียนการทุจริต จึงยังไม่สามารถรับรองผลได้นั้น พรรคพท. พบว่า
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นาย
วิชิต ปลั่งศรีสกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรคพท. ได้รวบรวมหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่อย่างชัดเจน โดยมีทั้งพยานบุคคลและหลักฐานภาพถ่าย ซึ่งมีผู้แอบอ้างเป็นหัวคะแนนของนายวิชิต ทำการซื้อเสียงและอ้างชื่อว่าเป็นทีมของนายวิชิต แต่รับสารภาพภายหลังว่าถูกจ้างมาเพื่อใส่ร้าย รวมทั้งมีพยานบุคคลและหลักฐานชัดเจนว่า มีการกากบาทหมายเลขผู้สมัครนายก อบจ. ที่บัตรลงคะแนนก่อนที่ประชาชนจะได้กากบาทด้วยตนเอง เรื่องนี้พรรคพท. ขอเรียกร้องให้ต่อ กกต. เพื่อให้เร่งตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพื่อให้ กกต.เป็นองค์กรอิสระ มีหน้าที่จัดสรรให้การเลือกตั้ง บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ก้าวไกล โวย ศบค. เอาแต่ขู่ให้ประชาชนกลัว ลั่น เข้มงวด ต้องมาคู่กับ การเยียวยา
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5684528
“ก้าวไกล” ย้ำ อำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เตือน รัฐบาลอย่าเล่นลิ้นปล่อยประชาชน เคว้งคว้าง 'ล็อกดาวน์กันเอง' จี้ เยียวยาพร้อมควบคุมเร่งด่วน
วันที่ 7 ม.ค. นาย
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นต่อการที่รัฐบาลเริ่มประกาศใช้มาตรการเข้มข้นในการจำกัดสิทธิ์ของประชาชนในบางพื้นที่เป็นพิเศษ เช่น กรณีพื้นที่ 5 จังหวัด (สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยระบุว่า
แม้จะมีการเล่นลิ้นว่า "
ไม่ใช่ล็อกดาวน์ แต่เป็นการทำให้เกิดความเข้มงวดขึ้นมา" รัฐบาลคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการจำกัดสิทธิ์ที่ใช้เป็นพิเศษในพื้นที่เหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อการทำมาหากิน รายได้ และปากท้องของประชาชนในพื้นที่เหล่านี้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อกลุ่มคนเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อยที่ต้องหาเช้ากินค่ำ
“
รัฐบาลมีหน้าที่ต้องออกมาตรการเยียวยาให้ประชาชนแต่ละกลุ่ม ในแต่ละจังหวัดที่ถูกจำกัดสิทธิ์ ให้พวกเขาได้มีชีวิตรอดจากปัญหาปากท้อง เพราะสำหรับพวกเขาปัญหาปากท้องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการที่รัฐบาลกลัวว่าพวกเขาจะติดเชื้อหรือแพร่เชื้อให้คนอื่น
แต่ทุกวันนี้ ศบค. มุ่งแต่จะขู่ให้ประชาชนกลัว หวาดระแวงซึ่งกันและกัน รวมถึงสร้างความสับสน ประชาชนในแต่ละกลุ่มในแต่ละพื้นที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ เดินทางข้ามจังหวัดแล้วต้องทำตัวอย่างไร พรรคก้าวไกลจึงอยากเห็นการปรับบทบาทของ ศบค. และรัฐบาล ให้คิดใหม่ทำใหม่ เอาประชาชนเป็นที่ตั้งแล้วถามตัวเองบ่อยๆว่า หากคุณเป็นเขา คุณอยากรู้อะไร อยากได้อะไร”
นาย
สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า มาตรการจำกัดสิทธิ์ต้องใช้ควบคู่ไปกับมาตรการเยียวยา เมื่อรัฐบาลให้อำนาจไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการจำกัดสิทธิ์แล้ว ก็ควรประกาศมาตรการเยียวยาควบคู่กันไปด้วย ประชาชนแต่ละกลุ่ม ในแต่ละจังหวัดควรได้รับรู้ว่าเขาจะต้องทำตัวอย่างไร ได้รับการเยียวยาจากที่ไหน อย่าปล่อยให้ประชาชนสับสน เคว้งคว้างและสิ้นหวังอีก
JJNY : จี้รัฐชะลอหนี้-หยุดดอกเบี้ย/หอการค้าหั่นคาดจีดีพี/พท.ห่วงวัคซีนไม่ทั่วถึง/กก.โวยศบค.เอาแต่ขู่/สว.เอกชี้เป้าบ่อน
https://www.matichon.co.th/economy/news_2516889
จี้รัฐชะลอหนี้-หยุดดอกเบี้ยให้ธุรกิจถูกปิดกิจการ วอนศบศ.เร่งถกมาตรการช่วยปชช.
กรณีคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหยุดชะงัก 2-3 เดือน จึงปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวได้ในกรอบ 1.5% ถึง 3.5% จากเดิม 2.0% ถึง 4.0% พร้อมเสนอ 4 ข้อให้รัฐช่วยเหลือ
ประกอบด้วย
1. ต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดและบังคับใช้มาตรการต่างๆที่ประกาศออกมาอย่างเคร่งครัด
2. ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเรื่องงบประมาณช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด 2 แสนล้านบาท อาจนำมาต่ออายุโครงการคนละครึ่งและเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายต่อบุคคลเป็น 5,000 บาท ลดค่าไฟ 5%
3. เร่งรัดเรื่องวัคซีนให้ได้ตามกำหนดเวลาและมีปริมาณเพียงพอ
และ 4. เร่งรัดการใช้และการเจรจาการค้าข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซป)ให้มีผลบังคับใช้กลางปีนี้
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จาก 4 ข้อเสนอดังกล่าวเพื่อให้ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยตรง ขอเขอให้มีการจัดประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ภายในเดือนมกราคมนี้
ขณะเดียวกันจะเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ เพิ่มมาตรการช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจที่ต้องปิดกิจการตามคำสั่งรัฐ อาทิ สถานบันเทิง ฟิตเนส โดยอาจหยุดดอกเบี้ยให้กับกลุ่มดังกล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ภาครัฐควรให้ความรู้ เน้นย้ำ เรื่องการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ไม่ใช่อาหารสู่คน และอยากให้งบ 2 แสนล้านบาทตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเตรียมใช้ดูแลเศรษฐกิจ และอยากให้ไทยได้รับวัคซีนเร็วและทั่วถึง ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะด้านการส่งออกช่วงไตรมาสแรก(มกราคม-มีนาคม2564) คงไม่โตมากนัก เพราะประเทศจีนมีเทศกาลตรุษจีน วันหยุดยาว ขณะที่ไทยกำลังเจอปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ อีกครั้งหลายประเทศกำลังล็อกดาวน์ อาทิ ญี่ปุ่น โดยการส่งออกน่าจะกลับมาขยายตัวช่วงไตรมาส2(เมษายน-มิถุนายน2564) หรือ ไตรมาส3(กรกฎาคม-ตุลาคม2564) เป็นต้นไป
หอการค้า ชี้โควิดลาม-ล็อกดาวน์ กระเทือนศก.หนัก หั่นคาดการณ์จีดีพี เหลือ 2.2%
https://www.matichon.co.th/economy/news_2517517
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งมีผลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสูงขึ้น มีการล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด จนกระทบต่อการทำธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ทำให้ทางศูนย์พยากรณ์ฯได้ปรับตัวเลขประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2564 จากกรอบ 1.8-3.8% ค่ากลางที่มีโอกาสสูงสุดขยายตัว 2.8% เหลือกรอบ 0.9-2.8% และค่ากลางอยู่ที่ขยายตัว 2.2%
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จึงเห็นด้วยที่รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชน อย่างโครงการคนละครึ่งต่อเนื่อง ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางธุรกิจ รวมถึงแนวทางทางดูแลหนี้ครัวเรือนและอัตราการว่างงาน ซึ่งแต่ละไตรมาสรัฐควรอัดฉีดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนล้านบาท ดังนั้น การที่รัฐจะกู้เพิ่มอีก1 ล้านล้านบาท ก็น่าจะทำได้ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูหลังโควิดคลี่คลายและกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
” ตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่นิ่ง ไม่รู้ว่าจุดสูงสุดอยู่ที่ใด ทางการแพทย์ว่าจะมีการติดเชื้อถึง 1 หมื่นคน-1.8 หมื่นคน ในครั้งนี้ และการล็อกดาวน์จะยังแค่ 5 จังหวัด หรือ ลุกลามเพิ่มแค่ไหน ซึ่งทุกภาคส่วนขอดูสถานการณ์จากนี้ 30 วันน่าจะชัดเจนอีกครั้ง ขณะนี้มาตรการรัฐที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนและเอกชนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะการดูแลไม่เกิดการแพร่ระบาดโควิดลากถึงไตรมาส 2 ปีนี้ จะกดดันให้เศรษฐกิจไทยแย่ลง อาจสูงกว่าปีก่อน จนทำให้ปีนี้เศรษฐกิจไทยติดลบได้อีกครั้ง ” นายธนวรรธน์ กล่าว
โฆษกพท. จี้กกต.สอบทุจริตเลือกตั้งอบจ. ยกเคส ประจวบฯ ขึ้นบี้ หลังถูกใส่ร้ายซื้อเสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_2517454
โฆษกพท. จี้กกต.สอบทุจริตเลือกตั้งอบจ. ยกเคส ประจวบฯ ขึ้นบี้ หลังถูกใส่ร้ายซื้อเสียง
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 7 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคพท. แถลงว่า การเลือกตั้งนายก อบจ. และส. อบจ.เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. แล้ว 12 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่เหลือยังมีเรื่องร้องเรียนการทุจริต จึงยังไม่สามารถรับรองผลได้นั้น พรรคพท. พบว่า
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรคพท. ได้รวบรวมหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่อย่างชัดเจน โดยมีทั้งพยานบุคคลและหลักฐานภาพถ่าย ซึ่งมีผู้แอบอ้างเป็นหัวคะแนนของนายวิชิต ทำการซื้อเสียงและอ้างชื่อว่าเป็นทีมของนายวิชิต แต่รับสารภาพภายหลังว่าถูกจ้างมาเพื่อใส่ร้าย รวมทั้งมีพยานบุคคลและหลักฐานชัดเจนว่า มีการกากบาทหมายเลขผู้สมัครนายก อบจ. ที่บัตรลงคะแนนก่อนที่ประชาชนจะได้กากบาทด้วยตนเอง เรื่องนี้พรรคพท. ขอเรียกร้องให้ต่อ กกต. เพื่อให้เร่งตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพื่อให้ กกต.เป็นองค์กรอิสระ มีหน้าที่จัดสรรให้การเลือกตั้ง บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ก้าวไกล โวย ศบค. เอาแต่ขู่ให้ประชาชนกลัว ลั่น เข้มงวด ต้องมาคู่กับ การเยียวยา
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5684528
“ก้าวไกล” ย้ำ อำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เตือน รัฐบาลอย่าเล่นลิ้นปล่อยประชาชน เคว้งคว้าง 'ล็อกดาวน์กันเอง' จี้ เยียวยาพร้อมควบคุมเร่งด่วน
วันที่ 7 ม.ค. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นต่อการที่รัฐบาลเริ่มประกาศใช้มาตรการเข้มข้นในการจำกัดสิทธิ์ของประชาชนในบางพื้นที่เป็นพิเศษ เช่น กรณีพื้นที่ 5 จังหวัด (สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยระบุว่า
แม้จะมีการเล่นลิ้นว่า "ไม่ใช่ล็อกดาวน์ แต่เป็นการทำให้เกิดความเข้มงวดขึ้นมา" รัฐบาลคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการจำกัดสิทธิ์ที่ใช้เป็นพิเศษในพื้นที่เหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อการทำมาหากิน รายได้ และปากท้องของประชาชนในพื้นที่เหล่านี้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อกลุ่มคนเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อยที่ต้องหาเช้ากินค่ำ
“รัฐบาลมีหน้าที่ต้องออกมาตรการเยียวยาให้ประชาชนแต่ละกลุ่ม ในแต่ละจังหวัดที่ถูกจำกัดสิทธิ์ ให้พวกเขาได้มีชีวิตรอดจากปัญหาปากท้อง เพราะสำหรับพวกเขาปัญหาปากท้องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการที่รัฐบาลกลัวว่าพวกเขาจะติดเชื้อหรือแพร่เชื้อให้คนอื่น
แต่ทุกวันนี้ ศบค. มุ่งแต่จะขู่ให้ประชาชนกลัว หวาดระแวงซึ่งกันและกัน รวมถึงสร้างความสับสน ประชาชนในแต่ละกลุ่มในแต่ละพื้นที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ เดินทางข้ามจังหวัดแล้วต้องทำตัวอย่างไร พรรคก้าวไกลจึงอยากเห็นการปรับบทบาทของ ศบค. และรัฐบาล ให้คิดใหม่ทำใหม่ เอาประชาชนเป็นที่ตั้งแล้วถามตัวเองบ่อยๆว่า หากคุณเป็นเขา คุณอยากรู้อะไร อยากได้อะไร”
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า มาตรการจำกัดสิทธิ์ต้องใช้ควบคู่ไปกับมาตรการเยียวยา เมื่อรัฐบาลให้อำนาจไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการจำกัดสิทธิ์แล้ว ก็ควรประกาศมาตรการเยียวยาควบคู่กันไปด้วย ประชาชนแต่ละกลุ่ม ในแต่ละจังหวัดควรได้รับรู้ว่าเขาจะต้องทำตัวอย่างไร ได้รับการเยียวยาจากที่ไหน อย่าปล่อยให้ประชาชนสับสน เคว้งคว้างและสิ้นหวังอีก