.
ไดอารี่ความคิดถึง ไดอารี่กลับมาแล้วค่า ลืมกันหรือยัง แหแหแห หยุดยาวไปหน่อย อิอิ😊
หลังเทศกาลปีใหม่คนในหมู่บ้านเข้าสู่สภาวะปกติ คนที่กลับมาจากทั่วทุกสารทิศต่างพากันกลับไปสู้งานต่อ เหลือเพียงคนแก่กับเด็ก ครอบครัวของเธอก็เช่นกัน บรรยากาศมันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน คิดถึงพ่อกับแม่ด้วย บางทีแทบจะร้องไห้
หลังจากที่พ่อกับแม่กลับไปกรุงเทพหลังปีใหม่ บอสกลับมาใช้ชีวิตปกติ เรียนเล่นและเที่ยวไปตามประสา บางวันก็ไปเล่นบ้านเพื่อนจนค่ำ บางวันก็อยู่ติดบ้านไม่ออกไปไหน บางวันก็ไปหาพี่สาวสองฝาแฝดบ้าง ส่วนวันนี้บอสไม่ได้ไปหาพี่สาวฝาแฝด เธอมาเล่นที่บ้านของนิน กะว่าจะไปนอนแช่บ้านนินทั้งวันกันเลย ไปฟังนินคุยโทรศัพท์กับแฟนรุ่นพี่ก็สนุกไปอีกแบบ
อากาศหลังปีใหม่เริ่มอุ่นขึ้นมาก ไม่หนาวเท่าที่ควร ออกไปทางร้อนด้วยซ้ำ วันเสาร์ตอนสาย ๆ บอสอาบน้ำแต่งตัว สวมกางเกงวอร์ม เสื้อยืดลายดิสนีย์สีชมพู เป็นชุดโปรดของเธอที่สุดสำหรับเสื้อยืดกางเกงวอร์มและรองเท้าแตะ
บอสยืนหมุนซ้ายหมุนขวาส่องกระจกดูความเรียบของตัวเอง ยิ้มให้กระจกอยู่อย่างนั้น ไม่พอยังเดินจากตู้กระจกตู้นี้ไปตู้นู้นส่องตัวเองจนกว่าจะพอใจ วันหยุดเธอไม่ต้องขอเงินยายอีกแล้ว เนื่องจากแม่โอนรายเดือนให้เธอ จึงสบายใจในการไปเล่นเพราะไม่ได้ขอเงินยาย ไม่ต้องโดนบ่นและลามไปเรื่องอื่น ๆ
“ยายบอสไปบ้านยายสวยนะ ไปหาไอ้นิน” เธอไม่รอฟังคำอนุมัติจากยาย สวมรองเท้าแตะรีบเดินไปทันที น้องบีมก็ไม่ได้ขอตามไปด้วย เพราะมัวแต่เล่นขายของอยู่กับเพื่อน วันนี้น้องบีมมีเพื่อนมาเล่นด้วยที่บ้านจึงไม่สนใจเธอ
“ไปก็รู้จักกลับด้วย ตกเย็นมาอย่าให้ต้องไปตาม และอย่าเที่ยวขับรถไปหมู่บ้านอื่นนะ” ยายบ่นตามหลัง บอสได้ยินทว่าไม่ได้หันไปตอบ รีบเดินไปหานินที่บ้านอย่างเร็ว ไม่สนใจยายที่บ่นตามหลังมา
ความจริงเธอแค่เพียงอยากมาเล่นกับนินเท่านั้น ไม่ได้คิดจะออกไปที่ไหนอยู่แล้ว แต่ถ้ามีที่ให้ไปก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน บอสเดินลัดเลาะผ่านบ้านสามสี่หลังก็มาถึงบ้านของนิน เสียงทีวีดังทะลุออกมาด้านนอกให้ได้ยิน ไม่ต้องตะโกนถามก็รู้ว่านินอยู่ในบ้านแน่นอน
หน้าต่างข้างบ้านเปิดเอาไว้ทุกบาน ส่องหน้าเข้าไปดูก็ไม่เสียหาย บางทีอาจไม่ใช่นินดูทีวีก็ได้ เธอเดินเลาะข้างบ้านนินมา ชะโงกหน้าเข้าไปดูทางหน้าต่างเป็นนินจริง ๆ ด้วย ทำให้ยิ้มออกมาได้ โล่งอกไปนิดหน่อย นึกว่าจะไม่ใช่เสียแล้ว
นินกำลังนอนดูทีวี หันหน้ามาประทะกับจังหวะที่เธอชะโงกหน้าดูพอดี จึงกล่าวทักทายกัน ส่วนตนเองก็รีบเดินเข้าบ้านไป นอนลงดูทีวีข้าง ๆ กัน มีพัดลมเพดานเปิดไล่ยุงอยู่ ทำให้พอไม่ร้อนอบอ้าว
“ไอ้แฝดไม่อยู่เหรอมืง” พอเข้ามานอนหน้าทีวีด้วย นินจึงถามขึ้น บอสทำตัวตามสบาย หาหมอนนอนดูทีวีเองเลย นินก็ไม่ว่าเพราะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“อยู่มั้ง กูขี้เกียจไปหามัน เอ่อยายสวยไปไหนอ่ะ”
“ไปนาแต่เช้าแล้ว ชวนกูไปอยู่ ไม่ไปขี้เกียจ”
จบการสนทนาพวกเธอสองคนก็นอนดูทีวี มีคุยกันบ้างถึงเพื่อนคนนู้นคนนี้ ถึงสองฝาแฝดบ้าง ถึงจ๋อมบ้าง ถึงผู้ชายคนอื่น ๆ บ้าง สลับกับดูทีวีและเล่นโทรศัพท์ สักพักแฟนนินก็โทรเข้า ก็ต้องขึ้นไปคุยชั้นสองของบ้านถึงจะมีสัญญาณ ปล่อยให้เธอนอนดูทีวีคนเดียว ที่ตู้โชว์มีรูปตาของนินที่เสียไปนานหลายปีตั้งอยู่ มองเลยทีวีไปก็เห็น ทำให้หลอนอยู่ไม่น้อย นินก็คุยโทรศัพท์นานเหลือเกิน
พวกเธอเล่นด้วยกันอยู่สองคน ไม่นานจอย ชมพู่ น้ำและแพทก็ขับรถมาหานินที่บ้านด้วยเช่นกัน ไม่แน่ใจว่านัดกับพวกจอยไว้หรือเปล่า แต่นินก็ไม่ได้พูดอะไรน่าจะบังเอิญมากกว่า
เมื่อมีมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้าน เธอจึงเดินออกไปดู “เอ้าบอสมืงไม่ได้ไปหาอี่แฝดเหรอวันนี้” จอยถาม ที่ถามแบบนี้เพราะส่วนใหญ่เธอไม่ค่อยมาเล่นกับเพื่อนคนอื่น ๆ สักเท่าไหร่ ส่วนมากจะอยู่กับสองฝาแฝดมากกว่า
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจไปหาพวกมัน แล้วพวกมืงกับอี่นินจะไปไหนกันหนิ” บอสถามด้วยความอยากรู้ พวกจอยมาแบบนี้คงต้องพากันไปที่ไหนสักที่แน่นอน
“ไปบ้านพลอยไปด้วยกันมั้ย” ชมพู่ตอบ พร้อมชวนเธอไปด้วย
บอสรู้ว่าเพื่อนไม่ได้แกล้งชวนเพราะเจอเธออยู่ที่นี่ หากแต่ชวนไปด้วยจริง ๆ ทว่าเธอไม่อยากไป ยิ้มที่มุมปากนิดหน่อยก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ “ยายกูจ้องอี่ห่า ขนาดกูมาหาอี่นินยังหาว่ากูจะไปที่อื่น อี่นินคุยโทรศัพท์กับพี่ตั้งอยู่บนบ้าน”
นินคงจะได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเธอ สักพักจึงเดินลงมา และออกมาด้านนอกหาพวกเธอ ทีวีก็เปิดทิ้งเอาไว้ในบ้าน “บอสไปหาอี่พลอยกะกูมั้ย ไปเล่นเฉย ๆ มืง” นินชวนเธออีกคน พลอยที่เพื่อน ๆ พูดถึงอยู่หมู่ห้าของตำบล ก็ถือว่าไกลพอสมควร
“ไม่อ่ะ ถ้าพวกมืงจะไปกูก็จะกลับ จะไปตอนนี้เหรอ”
“ไม่ ๆ อีกสักแป๊บ ๆ ก่อน กินตำป่ากันมั้ยพวกเรา” จอยเสนอ เพราะก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วยอีกไม่กี่นาทีเท่านั้น
“ก็ดี หิวข้าวแล้วด้วย”
“เดี๋ยวกูกะอี่พู่ไปซื้อเอง เอามาคนละยี่สิบ เดี๋ยวเอาอะไรเพิ่มกูจะออกก่อน ค่อยมาคิดพวกมืงทีหลัง”
“ได้ ๆ “ จอยเป็นคนจัดแจงทุกอย่าง และอาสาไปซื้อกับข้าวมื้อเที่ยงนี้กับชมพู่ ส่วนคนที่เหลือรออยู่ที่บ้าน นินเดินไปเตรียมชามกับช้อนมารอที่แคร่หน้าบ้าน ตลอดทั้งวันที่มาเล่นยายยังไม่ให้ใครมาตามสักครั้ง หรือจะไปหาพลอยกับเพื่อน ๆ ดี
ระหว่างรอเวลาเธอถามตอบตนเองในใจ ความไม่อยากไปมันมีมากกว่าความอยากไป สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าไม่ไป เธอจะไปหาสองฝาแฝดกับจ๋อมต่อก็ได้ หากพวกนินออกไปข้างนอก ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้
ไม่นานจอยกับชมพู่ก็กลับมาจากซื้อกับข้าวมื้อเที่ยง พวกเธอนั่งทานมื้อเที่ยงกันที่แคร่หน้าบ้าน คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ไม่สนสายตาเพื่อนบ้านนินสักคน แล้วแต่มองพวกเธอเลย
“ตกลงมืงไปมั้ยบอส ไปแป๊บเดียว” น้ำหันมาถามเธอ ถามจบก็กระดกน้ำในแก้วดื่มเพราะเพราะเผ็ด “ไปเล่นเฉย ๆ พาอี่จอยไปเอาการบ้าน”
“ไม่อ่ะ ถ้าพวกมืงไปกูจะไปหาพวกอี่แพรวกับอี่จ๋อม”
“ตามใจ เอ่อบอสคณิตศาสตร์มืงเรียนถึงบทที่มันเป็นจริงเท็จ เท็จจริงยัง” ชมพู่ถามเธอ น้ำและแพทก็อยู่ห้องเดียวกันกับเธอ ทว่าเธอค่อนข้างที่จะเรียนเข้าใจกว่าทั้งสองคน เพื่อนจึงเลือกที่จะพึ่งเธอมากกว่า
“ถึงแล้ว ง่ายนิดเดียว”
“กูโคตรงง”
“งงแบบไหน ง่ายสุดละตรรกกะน่ะ” ไป ๆ มาพูดคุยกันวนมาถึงเรื่องเรียนซะงั้น บอสก็ต้องสอนเพื่อน ๆ ไปในตัว ในวงกับข้าว พูดไปเฉย ๆ รู้ว่าชมพู่กับจอยไม่รู้เรื่องหรอก จนถึงเวลาที่พวกจอยจะออกไปข้างนอก บอสจึงขอตัวกลับ ทว่าไม่ได้กลับบ้านตัวเอง เดินเลยไปหาสองฝาแฝดที่บ้าน
แผนสองหากสองคนนั้นไม่อยู่ก็จะไปหาจ๋อม แผนสามสำรองไว้หากจ๋อมไม่อยู่ก็จะวนกลับมาบ้านย่าแทน ยังไม่อยากเข้าบ้านตนเอง
บอสเดินมาถึงบ้านสองฝาแฝดตะโกนเรียกชื่อพิมพ์ มีคนตอบรับ นั่นก็คือพิมพ์เอง โชคดีมากที่พี่สาวสองคนอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน เธอเดินมานั่งไกวเปลหน้าบ้านแทนที่จะเลือกเข้าไปในบ้าน เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของพี่เจ พี่เจน่าจะออกมาจากมหาลัย เงินน่าจะหมดถึงมาได้ และลุงวิทย์ไม่โอนให้ถึงได้หอบสังขารมาบ้านได้
“มืงไปไหนมาบอส” ทันทีที่นั่งลงบนเปลหน้าบ้าน พิมพ์ที่เดินออกมาต้อนรับเธอก็ถามขึ้น
“มาจากบ้านแหละ เบื่อ ๆ เอ้อ! ไปหาอี่จ๋อมกันปะ ไปชวนอี่แพรวดิมันจะไปมั้ย” บอสเสนอแนะ ไปเล่นกับจ๋อมดีกว่า
“เค เดี๋ยวโทรถามมันก่อนว่ามันอยู่บ้านมั้ย” พูดจบพิมพ์ก็กดเบอร์โทรหาจ๋อมทันที สีหน้าและแววตาของพิมพ์ยิ้มแปลว่าจ๋อมต้องอยู่บ้านแน่นอน แล้วพิมพ์ก็เดินไปเรียกแพรว พวกเธอสามคนพี่น้องจึงซ้อนมอเตอร์ไซค์สามคนขับไปบ้านจ๋อม ไม่สนสายตาเพื่อนบ้านเช่นกัน ย่ามองตามเธอจึงตะโกนบอกว่าไปบ้านจ๋อม
“จ๋อมไปเล่นสะพานน้ำปะมืง” มาถึงพิมพ์ก็ชวนจ๋อมไปเที่ยวเลย เธอไม่รู้ล่วงหน้าด้วยซ้ำว่าพิมพ์ชวนไปเล่นสะพานน้ำ และสะพานน้ำที่ว่ามันอยู่ตรงไหน ผันน้ำอยู่ที่เขื่อนแล้วสะพานน้ำมันอยู่ที่ไหน คลองฮีโร่เธอก็รู้จัก หรือจะเป็นที่เดียวกันแต่เรียกคนละชื่อเฉย ๆ เธอสงสัยแต่ก็ยังไม่ถามเพื่อนทันที ไปถึงก็คงรู้เอง
“ไปสี่คนเราเนี่ยนะ” จ๋อมถาม สี่คนจะไปเล่นน้ำมันคงไม่สนุกสีหน้าและแววตาของจ๋อมบ่งบอกได้ชัดเจน แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
“เดี๋ยวไปชวนเมธาวีด้วย พวกเพื่อนกูที่อยู่ในเมืองมาเล่นด้วย” แพรวพูดเสริม “ไปมั้ย ไปเลาะอี่ห่าไปเหอะนะจ๋อม” แพรวทำหน้าอ้อนเพื่อนซี้อีกคน ในที่สุดจ๋อมก็ยอมตกลงไปด้วยรวมทั้งเธอ แพรวโทรหาเพื่อนของตนก่อนจะออกเดินทาง
เธอนั่งซ้อนไปกับจ๋อม สองฝาแฝดซ้อนด้วยกันปกติ จ๋อมเป็นขับเธอเป็นคนซ้อน ทั้งสี่คนขับรถมุ่งหน้าเข้าในตัวเมือง แต่ยังไม่ทันถึงตัวเมืองก็ถึงสะพานน้ำก่อน แถว ๆ ห้วยสีทน เห็นป้ายเขียนบอกว่าห้วยสีทนแถวนั้น สะพานน้ำที่ว่าคือคลองส่งน้ำ ที่ทำเป็นที่ให้คนมาเล่นน้ำได้ มีร้านส้มต้ำปลาเผาให้นั่งรับประทาน
พวกเธอสี่คนมาถึงเพื่อน ๆ ของแพรวยังไม่มา แพรวโทรตามอีกรอบ ไม่นานก็เห็นผู้หญิงผู้ชายห้าคนขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดใกล้ ๆ พวกเธอ ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อน ๆ ของแพรวนั่นเอง มาถึงยังไม่ได้ทำอะไร แต่ละคนนั่งกันบนเบาะรถคุยกันไปเรื่อย หัวเราะเสียงดังคุยเสียงดังกลบความเงียบ ไม่นานก็มีกลุ่มหมู่บ้านอื่นขับเข้ามาเล่นน้ำด้วย เล่นคนละที่ไม่เข้ามามั่วกัน
“เล่นน้ำกันมั้ย ไม่ลึก!” หนึ่งในเพื่อนของแพรวชวนพวกเธอเล่นน้ำ ไม่พูดเฉยกระโดดลงไปในน้ำก่อนใครเลย ในคลองส่งน้ำ น้ำไหลแต่ไม่เชี่ยวมาก มีเชือกผูกไว้ให้เกาะเล่นน้ำ จากนั้นก็เกาะเชือกเงยหน้ามองพวกเธอ ใช้สายตาอ้อนวอนพวกเธอให้กระโดดตามลงมาเดี๋ยวนี้
“เอาไงมืงเล่นน้ำมั้ย” แพรวหันมามองเธอเป็นเชิงคำถาม เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามาเปลี่ยนด้วย ไม่คิดว่าจะมาเล่นน้ำเสียด้วยซ้ำในตอนแรก
“ไม่ลึกตัวเอง ลงมาเลย” เพื่อนของแพรวหันมามองเธอพร้อมพูดด้วย แล้วก็หันไปคุยกับเพื่อนตัวเองที่มาด้วยกัน ไม่นานก็มีคนโดดลงตามกันไป
“บอสเอาไงเล่นน้ำมั้ยมืง” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบ จ๋อมก็โดดลงในคลองแล้วมีแพรวยืนรับ ทุกคนต่างสนุกกับการเล่นน้ำในช่วงบ่ายโมง
“เอาก็เอาวะ” บอสกระโดดลงคลองมีแพรวยืนรับอีกคน เธอใช้มือจับเชือกที่มัดขึงเอาไว้ ปล่อยตัวลอยไปตามกระแสน้ำ เพื่อน ๆ ของแพรวว่ายน้ำเป็นก็พากันปล่อยมือลอยไปตามน้ำแล้วปีนขึ้นฝั่งกระโดดลงมาใหม่อยู่อย่างนั้น ถัดไปไม่ไกลเป็นกลุ่มหมู่บ้านอื่นที่เข้ามาเล่นด้วย
กลุ่มหมู่บ้านอื่นเป็นชายล้วน ร้องโหวกเหวกโวยวายเรียกความสนใจ บอสคิดแบบนั้น เล่นน้ำเสียงดัง คุยกันเสียงดัง คนอื่นเขาก็สนุกไม่ได้มีเพียงพวกตนสนุก ทำไมต้องทำเสียงดังขนาดนั้น บอสมองแล้วก็เงียบเล่นน้ำไปเรื่อย ๆ มีบ้างที่กลุ่มนั่นว่ายน้ำมาทางพวกเธอบ้างแล้วก็ว่ายกลับไป
พวกเธอปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามกระแสน้ำ พอถึงเชือกอีกเส้นที่อยู่ห่างกันไม่ไกล คว้าเอาไว้แล้วปีนขึ้นฝั่ง เดินมากระโดดลงน้ำที่จุดเดิมอยู่อย่างนั้นด้วยความสนุก จนลืมนึกไปถึงยายว่ายายจะตามหา กลับบ้านไปจะโดนด่าหรือไม่ วินาทีนี้สนุกอย่างเดียว
พวกเธอเล่นน้ำที่สะพานน้ำจนถึงบ่ายสาม เห็นว่าบ่ายแก่มากแล้วจึงพากันเลิกเล่น ทว่ายังไม่กลับทันที นั่งคุยกันบนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ต่อสักหน่อย กลุ่มอื่นที่มาเล่นก็ยังไม่เลิก และมีมาเพิ่มอีกกลุ่ม เนื่องจากที่นี่เป็นอีกจุดเล่นน้ำของคนระแวกนี้
คิดถึง 2 บทที่ 26
.
ไดอารี่ความคิดถึง ไดอารี่กลับมาแล้วค่า ลืมกันหรือยัง แหแหแห หยุดยาวไปหน่อย อิอิ😊
หลังเทศกาลปีใหม่คนในหมู่บ้านเข้าสู่สภาวะปกติ คนที่กลับมาจากทั่วทุกสารทิศต่างพากันกลับไปสู้งานต่อ เหลือเพียงคนแก่กับเด็ก ครอบครัวของเธอก็เช่นกัน บรรยากาศมันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน คิดถึงพ่อกับแม่ด้วย บางทีแทบจะร้องไห้
หลังจากที่พ่อกับแม่กลับไปกรุงเทพหลังปีใหม่ บอสกลับมาใช้ชีวิตปกติ เรียนเล่นและเที่ยวไปตามประสา บางวันก็ไปเล่นบ้านเพื่อนจนค่ำ บางวันก็อยู่ติดบ้านไม่ออกไปไหน บางวันก็ไปหาพี่สาวสองฝาแฝดบ้าง ส่วนวันนี้บอสไม่ได้ไปหาพี่สาวฝาแฝด เธอมาเล่นที่บ้านของนิน กะว่าจะไปนอนแช่บ้านนินทั้งวันกันเลย ไปฟังนินคุยโทรศัพท์กับแฟนรุ่นพี่ก็สนุกไปอีกแบบ
อากาศหลังปีใหม่เริ่มอุ่นขึ้นมาก ไม่หนาวเท่าที่ควร ออกไปทางร้อนด้วยซ้ำ วันเสาร์ตอนสาย ๆ บอสอาบน้ำแต่งตัว สวมกางเกงวอร์ม เสื้อยืดลายดิสนีย์สีชมพู เป็นชุดโปรดของเธอที่สุดสำหรับเสื้อยืดกางเกงวอร์มและรองเท้าแตะ
บอสยืนหมุนซ้ายหมุนขวาส่องกระจกดูความเรียบของตัวเอง ยิ้มให้กระจกอยู่อย่างนั้น ไม่พอยังเดินจากตู้กระจกตู้นี้ไปตู้นู้นส่องตัวเองจนกว่าจะพอใจ วันหยุดเธอไม่ต้องขอเงินยายอีกแล้ว เนื่องจากแม่โอนรายเดือนให้เธอ จึงสบายใจในการไปเล่นเพราะไม่ได้ขอเงินยาย ไม่ต้องโดนบ่นและลามไปเรื่องอื่น ๆ
“ยายบอสไปบ้านยายสวยนะ ไปหาไอ้นิน” เธอไม่รอฟังคำอนุมัติจากยาย สวมรองเท้าแตะรีบเดินไปทันที น้องบีมก็ไม่ได้ขอตามไปด้วย เพราะมัวแต่เล่นขายของอยู่กับเพื่อน วันนี้น้องบีมมีเพื่อนมาเล่นด้วยที่บ้านจึงไม่สนใจเธอ
“ไปก็รู้จักกลับด้วย ตกเย็นมาอย่าให้ต้องไปตาม และอย่าเที่ยวขับรถไปหมู่บ้านอื่นนะ” ยายบ่นตามหลัง บอสได้ยินทว่าไม่ได้หันไปตอบ รีบเดินไปหานินที่บ้านอย่างเร็ว ไม่สนใจยายที่บ่นตามหลังมา
ความจริงเธอแค่เพียงอยากมาเล่นกับนินเท่านั้น ไม่ได้คิดจะออกไปที่ไหนอยู่แล้ว แต่ถ้ามีที่ให้ไปก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน บอสเดินลัดเลาะผ่านบ้านสามสี่หลังก็มาถึงบ้านของนิน เสียงทีวีดังทะลุออกมาด้านนอกให้ได้ยิน ไม่ต้องตะโกนถามก็รู้ว่านินอยู่ในบ้านแน่นอน
หน้าต่างข้างบ้านเปิดเอาไว้ทุกบาน ส่องหน้าเข้าไปดูก็ไม่เสียหาย บางทีอาจไม่ใช่นินดูทีวีก็ได้ เธอเดินเลาะข้างบ้านนินมา ชะโงกหน้าเข้าไปดูทางหน้าต่างเป็นนินจริง ๆ ด้วย ทำให้ยิ้มออกมาได้ โล่งอกไปนิดหน่อย นึกว่าจะไม่ใช่เสียแล้ว
นินกำลังนอนดูทีวี หันหน้ามาประทะกับจังหวะที่เธอชะโงกหน้าดูพอดี จึงกล่าวทักทายกัน ส่วนตนเองก็รีบเดินเข้าบ้านไป นอนลงดูทีวีข้าง ๆ กัน มีพัดลมเพดานเปิดไล่ยุงอยู่ ทำให้พอไม่ร้อนอบอ้าว
“ไอ้แฝดไม่อยู่เหรอมืง” พอเข้ามานอนหน้าทีวีด้วย นินจึงถามขึ้น บอสทำตัวตามสบาย หาหมอนนอนดูทีวีเองเลย นินก็ไม่ว่าเพราะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“อยู่มั้ง กูขี้เกียจไปหามัน เอ่อยายสวยไปไหนอ่ะ”
“ไปนาแต่เช้าแล้ว ชวนกูไปอยู่ ไม่ไปขี้เกียจ”
จบการสนทนาพวกเธอสองคนก็นอนดูทีวี มีคุยกันบ้างถึงเพื่อนคนนู้นคนนี้ ถึงสองฝาแฝดบ้าง ถึงจ๋อมบ้าง ถึงผู้ชายคนอื่น ๆ บ้าง สลับกับดูทีวีและเล่นโทรศัพท์ สักพักแฟนนินก็โทรเข้า ก็ต้องขึ้นไปคุยชั้นสองของบ้านถึงจะมีสัญญาณ ปล่อยให้เธอนอนดูทีวีคนเดียว ที่ตู้โชว์มีรูปตาของนินที่เสียไปนานหลายปีตั้งอยู่ มองเลยทีวีไปก็เห็น ทำให้หลอนอยู่ไม่น้อย นินก็คุยโทรศัพท์นานเหลือเกิน
พวกเธอเล่นด้วยกันอยู่สองคน ไม่นานจอย ชมพู่ น้ำและแพทก็ขับรถมาหานินที่บ้านด้วยเช่นกัน ไม่แน่ใจว่านัดกับพวกจอยไว้หรือเปล่า แต่นินก็ไม่ได้พูดอะไรน่าจะบังเอิญมากกว่า
เมื่อมีมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้าน เธอจึงเดินออกไปดู “เอ้าบอสมืงไม่ได้ไปหาอี่แฝดเหรอวันนี้” จอยถาม ที่ถามแบบนี้เพราะส่วนใหญ่เธอไม่ค่อยมาเล่นกับเพื่อนคนอื่น ๆ สักเท่าไหร่ ส่วนมากจะอยู่กับสองฝาแฝดมากกว่า
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจไปหาพวกมัน แล้วพวกมืงกับอี่นินจะไปไหนกันหนิ” บอสถามด้วยความอยากรู้ พวกจอยมาแบบนี้คงต้องพากันไปที่ไหนสักที่แน่นอน
“ไปบ้านพลอยไปด้วยกันมั้ย” ชมพู่ตอบ พร้อมชวนเธอไปด้วย
บอสรู้ว่าเพื่อนไม่ได้แกล้งชวนเพราะเจอเธออยู่ที่นี่ หากแต่ชวนไปด้วยจริง ๆ ทว่าเธอไม่อยากไป ยิ้มที่มุมปากนิดหน่อยก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ “ยายกูจ้องอี่ห่า ขนาดกูมาหาอี่นินยังหาว่ากูจะไปที่อื่น อี่นินคุยโทรศัพท์กับพี่ตั้งอยู่บนบ้าน”
นินคงจะได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเธอ สักพักจึงเดินลงมา และออกมาด้านนอกหาพวกเธอ ทีวีก็เปิดทิ้งเอาไว้ในบ้าน “บอสไปหาอี่พลอยกะกูมั้ย ไปเล่นเฉย ๆ มืง” นินชวนเธออีกคน พลอยที่เพื่อน ๆ พูดถึงอยู่หมู่ห้าของตำบล ก็ถือว่าไกลพอสมควร
“ไม่อ่ะ ถ้าพวกมืงจะไปกูก็จะกลับ จะไปตอนนี้เหรอ”
“ไม่ ๆ อีกสักแป๊บ ๆ ก่อน กินตำป่ากันมั้ยพวกเรา” จอยเสนอ เพราะก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วยอีกไม่กี่นาทีเท่านั้น
“ก็ดี หิวข้าวแล้วด้วย”
“เดี๋ยวกูกะอี่พู่ไปซื้อเอง เอามาคนละยี่สิบ เดี๋ยวเอาอะไรเพิ่มกูจะออกก่อน ค่อยมาคิดพวกมืงทีหลัง”
“ได้ ๆ “ จอยเป็นคนจัดแจงทุกอย่าง และอาสาไปซื้อกับข้าวมื้อเที่ยงนี้กับชมพู่ ส่วนคนที่เหลือรออยู่ที่บ้าน นินเดินไปเตรียมชามกับช้อนมารอที่แคร่หน้าบ้าน ตลอดทั้งวันที่มาเล่นยายยังไม่ให้ใครมาตามสักครั้ง หรือจะไปหาพลอยกับเพื่อน ๆ ดี
ระหว่างรอเวลาเธอถามตอบตนเองในใจ ความไม่อยากไปมันมีมากกว่าความอยากไป สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าไม่ไป เธอจะไปหาสองฝาแฝดกับจ๋อมต่อก็ได้ หากพวกนินออกไปข้างนอก ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้
ไม่นานจอยกับชมพู่ก็กลับมาจากซื้อกับข้าวมื้อเที่ยง พวกเธอนั่งทานมื้อเที่ยงกันที่แคร่หน้าบ้าน คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ไม่สนสายตาเพื่อนบ้านนินสักคน แล้วแต่มองพวกเธอเลย
“ตกลงมืงไปมั้ยบอส ไปแป๊บเดียว” น้ำหันมาถามเธอ ถามจบก็กระดกน้ำในแก้วดื่มเพราะเพราะเผ็ด “ไปเล่นเฉย ๆ พาอี่จอยไปเอาการบ้าน”
“ไม่อ่ะ ถ้าพวกมืงไปกูจะไปหาพวกอี่แพรวกับอี่จ๋อม”
“ตามใจ เอ่อบอสคณิตศาสตร์มืงเรียนถึงบทที่มันเป็นจริงเท็จ เท็จจริงยัง” ชมพู่ถามเธอ น้ำและแพทก็อยู่ห้องเดียวกันกับเธอ ทว่าเธอค่อนข้างที่จะเรียนเข้าใจกว่าทั้งสองคน เพื่อนจึงเลือกที่จะพึ่งเธอมากกว่า
“ถึงแล้ว ง่ายนิดเดียว”
“กูโคตรงง”
“งงแบบไหน ง่ายสุดละตรรกกะน่ะ” ไป ๆ มาพูดคุยกันวนมาถึงเรื่องเรียนซะงั้น บอสก็ต้องสอนเพื่อน ๆ ไปในตัว ในวงกับข้าว พูดไปเฉย ๆ รู้ว่าชมพู่กับจอยไม่รู้เรื่องหรอก จนถึงเวลาที่พวกจอยจะออกไปข้างนอก บอสจึงขอตัวกลับ ทว่าไม่ได้กลับบ้านตัวเอง เดินเลยไปหาสองฝาแฝดที่บ้าน
แผนสองหากสองคนนั้นไม่อยู่ก็จะไปหาจ๋อม แผนสามสำรองไว้หากจ๋อมไม่อยู่ก็จะวนกลับมาบ้านย่าแทน ยังไม่อยากเข้าบ้านตนเอง
บอสเดินมาถึงบ้านสองฝาแฝดตะโกนเรียกชื่อพิมพ์ มีคนตอบรับ นั่นก็คือพิมพ์เอง โชคดีมากที่พี่สาวสองคนอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน เธอเดินมานั่งไกวเปลหน้าบ้านแทนที่จะเลือกเข้าไปในบ้าน เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของพี่เจ พี่เจน่าจะออกมาจากมหาลัย เงินน่าจะหมดถึงมาได้ และลุงวิทย์ไม่โอนให้ถึงได้หอบสังขารมาบ้านได้
“มืงไปไหนมาบอส” ทันทีที่นั่งลงบนเปลหน้าบ้าน พิมพ์ที่เดินออกมาต้อนรับเธอก็ถามขึ้น
“มาจากบ้านแหละ เบื่อ ๆ เอ้อ! ไปหาอี่จ๋อมกันปะ ไปชวนอี่แพรวดิมันจะไปมั้ย” บอสเสนอแนะ ไปเล่นกับจ๋อมดีกว่า
“เค เดี๋ยวโทรถามมันก่อนว่ามันอยู่บ้านมั้ย” พูดจบพิมพ์ก็กดเบอร์โทรหาจ๋อมทันที สีหน้าและแววตาของพิมพ์ยิ้มแปลว่าจ๋อมต้องอยู่บ้านแน่นอน แล้วพิมพ์ก็เดินไปเรียกแพรว พวกเธอสามคนพี่น้องจึงซ้อนมอเตอร์ไซค์สามคนขับไปบ้านจ๋อม ไม่สนสายตาเพื่อนบ้านเช่นกัน ย่ามองตามเธอจึงตะโกนบอกว่าไปบ้านจ๋อม
“จ๋อมไปเล่นสะพานน้ำปะมืง” มาถึงพิมพ์ก็ชวนจ๋อมไปเที่ยวเลย เธอไม่รู้ล่วงหน้าด้วยซ้ำว่าพิมพ์ชวนไปเล่นสะพานน้ำ และสะพานน้ำที่ว่ามันอยู่ตรงไหน ผันน้ำอยู่ที่เขื่อนแล้วสะพานน้ำมันอยู่ที่ไหน คลองฮีโร่เธอก็รู้จัก หรือจะเป็นที่เดียวกันแต่เรียกคนละชื่อเฉย ๆ เธอสงสัยแต่ก็ยังไม่ถามเพื่อนทันที ไปถึงก็คงรู้เอง
“ไปสี่คนเราเนี่ยนะ” จ๋อมถาม สี่คนจะไปเล่นน้ำมันคงไม่สนุกสีหน้าและแววตาของจ๋อมบ่งบอกได้ชัดเจน แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธ
“เดี๋ยวไปชวนเมธาวีด้วย พวกเพื่อนกูที่อยู่ในเมืองมาเล่นด้วย” แพรวพูดเสริม “ไปมั้ย ไปเลาะอี่ห่าไปเหอะนะจ๋อม” แพรวทำหน้าอ้อนเพื่อนซี้อีกคน ในที่สุดจ๋อมก็ยอมตกลงไปด้วยรวมทั้งเธอ แพรวโทรหาเพื่อนของตนก่อนจะออกเดินทาง
เธอนั่งซ้อนไปกับจ๋อม สองฝาแฝดซ้อนด้วยกันปกติ จ๋อมเป็นขับเธอเป็นคนซ้อน ทั้งสี่คนขับรถมุ่งหน้าเข้าในตัวเมือง แต่ยังไม่ทันถึงตัวเมืองก็ถึงสะพานน้ำก่อน แถว ๆ ห้วยสีทน เห็นป้ายเขียนบอกว่าห้วยสีทนแถวนั้น สะพานน้ำที่ว่าคือคลองส่งน้ำ ที่ทำเป็นที่ให้คนมาเล่นน้ำได้ มีร้านส้มต้ำปลาเผาให้นั่งรับประทาน
พวกเธอสี่คนมาถึงเพื่อน ๆ ของแพรวยังไม่มา แพรวโทรตามอีกรอบ ไม่นานก็เห็นผู้หญิงผู้ชายห้าคนขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดใกล้ ๆ พวกเธอ ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อน ๆ ของแพรวนั่นเอง มาถึงยังไม่ได้ทำอะไร แต่ละคนนั่งกันบนเบาะรถคุยกันไปเรื่อย หัวเราะเสียงดังคุยเสียงดังกลบความเงียบ ไม่นานก็มีกลุ่มหมู่บ้านอื่นขับเข้ามาเล่นน้ำด้วย เล่นคนละที่ไม่เข้ามามั่วกัน
“เล่นน้ำกันมั้ย ไม่ลึก!” หนึ่งในเพื่อนของแพรวชวนพวกเธอเล่นน้ำ ไม่พูดเฉยกระโดดลงไปในน้ำก่อนใครเลย ในคลองส่งน้ำ น้ำไหลแต่ไม่เชี่ยวมาก มีเชือกผูกไว้ให้เกาะเล่นน้ำ จากนั้นก็เกาะเชือกเงยหน้ามองพวกเธอ ใช้สายตาอ้อนวอนพวกเธอให้กระโดดตามลงมาเดี๋ยวนี้
“เอาไงมืงเล่นน้ำมั้ย” แพรวหันมามองเธอเป็นเชิงคำถาม เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามาเปลี่ยนด้วย ไม่คิดว่าจะมาเล่นน้ำเสียด้วยซ้ำในตอนแรก
“ไม่ลึกตัวเอง ลงมาเลย” เพื่อนของแพรวหันมามองเธอพร้อมพูดด้วย แล้วก็หันไปคุยกับเพื่อนตัวเองที่มาด้วยกัน ไม่นานก็มีคนโดดลงตามกันไป
“บอสเอาไงเล่นน้ำมั้ยมืง” ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบ จ๋อมก็โดดลงในคลองแล้วมีแพรวยืนรับ ทุกคนต่างสนุกกับการเล่นน้ำในช่วงบ่ายโมง
“เอาก็เอาวะ” บอสกระโดดลงคลองมีแพรวยืนรับอีกคน เธอใช้มือจับเชือกที่มัดขึงเอาไว้ ปล่อยตัวลอยไปตามกระแสน้ำ เพื่อน ๆ ของแพรวว่ายน้ำเป็นก็พากันปล่อยมือลอยไปตามน้ำแล้วปีนขึ้นฝั่งกระโดดลงมาใหม่อยู่อย่างนั้น ถัดไปไม่ไกลเป็นกลุ่มหมู่บ้านอื่นที่เข้ามาเล่นด้วย
กลุ่มหมู่บ้านอื่นเป็นชายล้วน ร้องโหวกเหวกโวยวายเรียกความสนใจ บอสคิดแบบนั้น เล่นน้ำเสียงดัง คุยกันเสียงดัง คนอื่นเขาก็สนุกไม่ได้มีเพียงพวกตนสนุก ทำไมต้องทำเสียงดังขนาดนั้น บอสมองแล้วก็เงียบเล่นน้ำไปเรื่อย ๆ มีบ้างที่กลุ่มนั่นว่ายน้ำมาทางพวกเธอบ้างแล้วก็ว่ายกลับไป
พวกเธอปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามกระแสน้ำ พอถึงเชือกอีกเส้นที่อยู่ห่างกันไม่ไกล คว้าเอาไว้แล้วปีนขึ้นฝั่ง เดินมากระโดดลงน้ำที่จุดเดิมอยู่อย่างนั้นด้วยความสนุก จนลืมนึกไปถึงยายว่ายายจะตามหา กลับบ้านไปจะโดนด่าหรือไม่ วินาทีนี้สนุกอย่างเดียว
พวกเธอเล่นน้ำที่สะพานน้ำจนถึงบ่ายสาม เห็นว่าบ่ายแก่มากแล้วจึงพากันเลิกเล่น ทว่ายังไม่กลับทันที นั่งคุยกันบนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ต่อสักหน่อย กลุ่มอื่นที่มาเล่นก็ยังไม่เลิก และมีมาเพิ่มอีกกลุ่ม เนื่องจากที่นี่เป็นอีกจุดเล่นน้ำของคนระแวกนี้