สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เดี๋ยวจะบอกวิธีย่างให้อร่อยแบบนิ่มๆหอมๆหวานๆให้ แต่..กุ้งต้องสดจริง
อวัยวะที่ทำให้อร่อยนอกจากมือที่ใช้ย่างแล้วยังมี ตา จมูก หู
คุณไม่ได้ตาฝาดและผมก็ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ หูครับ หูจริงๆ ใช้หูด้วย!!
ใช้ไฟกลางถึงแรง มือคีบกุ้งลง รอจังหวะด้วยเครื่องดื่มหรือเม้าส์มอยซอยหยวกกันไป
จากนั้นก็ใช้ตามอง ด้านล่างมันเหลืองแล้วหรือยัง ช่วงนั้นจมูกจะโดนใช้งานหากกลิ่นมันเตะจมูก
พลิกกุ้งกลับด้านซะ แล้วก็รอจังหวะเหมือนเดิม แล้วอยากรู้มั้ยว่าปรุงอาหารเขาใช้หูเพื่ออะไร
เสียงไงครับ หลายคนจะไม่รู้ว่าหูนั้นมีส่วนสำคัญในการปรุงอาหารไม่น้อย แค่ภาพที่เห็นเปลือกกุ้งเปลี่ยนสี กลิ่นหอมที่โชย
มันยังไม่พอครับ อยากให้จังหวะสุกแบบนิ่มๆและไม่แห้ง ให้สังเกตุเสียง ฉี่ๆฉ่าๆ ที่เป็นความชื้นของกุ้งสะดุ้งความร้อน
หากเสียงมันยัง ฉี่ๆฉ่าๆ ก็ให้รอต่อไปพร้อมกับน้ำในตัวกุ้งกระด็นออกมา ถ้าเสียงฉี่ฉ่ามันค่อยๆเงียบลงเมื่อไหร่
นั่นหมายถึงความร้อนขับน้ำออกจากตัวกุ้งจนจะหมดแล้ว ความร้อนจะเข้าไปทำให้ข้างในสุก เราจะรู้ได้ทั้งๆที่เปลือกมันหุ้มเนื้อไว้
ตาที่เห็นสีเขียวของกุ้งกลายเป็นสีส้ม กลิ่นหอมไหม้ของเปลือกกุ้งโชยขึ้น พร้อมกับเสียงฉ่าค่อยๆเงียบลง น้ำที่กระเด็นก็จะหมดไป
ตอนนี้แหละครับ มันคือความสุกแบบมีเดียมของกุ้ง หากเป็นเนื้อสัตว์ผัดทั่วไปรวมถึงกุ้งด้วย เขาจะลงเครื่องปรุงหรือซอสตอนนี้
ด้วยความร้อนที่เข้าข้างในเนื้อสัตว์จะดูดความเย็นของน้ำซอสต่างๆให้เข้าเนื้อ นี่แหละครับความละเอียดเล็กน้อยๆมันจะทำให้อร่อยได้
กุ้งของคุณก็เช่นกัน มันสุกได้ที่ในระดับหนึ่งแล้ว เหลือแต่ส่วนหัวซึ่งสุกยาก คุณอาจจะจี่ต่อสักนิดพอให้มันหัวกุ้งเป็นเหมือนไข่ยางมะตูม
ความหอมจะออกมาอย่างชัดเจนจนคนข้างๆอยากแย่งคุณกินล่ะครับ ซึ่งตรงนี้มันกะจังหวะได้ง่ายกว่าไข่ต้มยางมะตูมอีกนะ
ลองทำไปสังเกตุไปนะครับ เนื้อ หมู ไก่ ก็เช่นกันครับ จังหวะนั้นเอามาลงถ้วยน้ำจิ้มมันจะเข้าเนื้อไว อร่อยนุ่มลิ้นนุ่มปากแน่ครับ
ปล.เรื่องจังหวะการลงซอสหรือเครื่องปรุงแรกตอนเสียงฉ่าค่อยเบาลง ไม่ต้องไปถามเชฟที่ไหนไกล แค่คนในพันทิพก็ทำแบบนี้เยอะ ผมเห็น
*ขอตอบหัวกระทู้บรรทัดแรกบ้าง ตอบว่าได้ครับ ส่วนเหตุผลก็อยู่ที่ประโยคสุดท้ายในบรรทัดแรกของผมครับ
อวัยวะที่ทำให้อร่อยนอกจากมือที่ใช้ย่างแล้วยังมี ตา จมูก หู
คุณไม่ได้ตาฝาดและผมก็ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ หูครับ หูจริงๆ ใช้หูด้วย!!
ใช้ไฟกลางถึงแรง มือคีบกุ้งลง รอจังหวะด้วยเครื่องดื่มหรือเม้าส์มอยซอยหยวกกันไป
จากนั้นก็ใช้ตามอง ด้านล่างมันเหลืองแล้วหรือยัง ช่วงนั้นจมูกจะโดนใช้งานหากกลิ่นมันเตะจมูก
พลิกกุ้งกลับด้านซะ แล้วก็รอจังหวะเหมือนเดิม แล้วอยากรู้มั้ยว่าปรุงอาหารเขาใช้หูเพื่ออะไร
เสียงไงครับ หลายคนจะไม่รู้ว่าหูนั้นมีส่วนสำคัญในการปรุงอาหารไม่น้อย แค่ภาพที่เห็นเปลือกกุ้งเปลี่ยนสี กลิ่นหอมที่โชย
มันยังไม่พอครับ อยากให้จังหวะสุกแบบนิ่มๆและไม่แห้ง ให้สังเกตุเสียง ฉี่ๆฉ่าๆ ที่เป็นความชื้นของกุ้งสะดุ้งความร้อน
หากเสียงมันยัง ฉี่ๆฉ่าๆ ก็ให้รอต่อไปพร้อมกับน้ำในตัวกุ้งกระด็นออกมา ถ้าเสียงฉี่ฉ่ามันค่อยๆเงียบลงเมื่อไหร่
นั่นหมายถึงความร้อนขับน้ำออกจากตัวกุ้งจนจะหมดแล้ว ความร้อนจะเข้าไปทำให้ข้างในสุก เราจะรู้ได้ทั้งๆที่เปลือกมันหุ้มเนื้อไว้
ตาที่เห็นสีเขียวของกุ้งกลายเป็นสีส้ม กลิ่นหอมไหม้ของเปลือกกุ้งโชยขึ้น พร้อมกับเสียงฉ่าค่อยๆเงียบลง น้ำที่กระเด็นก็จะหมดไป
ตอนนี้แหละครับ มันคือความสุกแบบมีเดียมของกุ้ง หากเป็นเนื้อสัตว์ผัดทั่วไปรวมถึงกุ้งด้วย เขาจะลงเครื่องปรุงหรือซอสตอนนี้
ด้วยความร้อนที่เข้าข้างในเนื้อสัตว์จะดูดความเย็นของน้ำซอสต่างๆให้เข้าเนื้อ นี่แหละครับความละเอียดเล็กน้อยๆมันจะทำให้อร่อยได้
กุ้งของคุณก็เช่นกัน มันสุกได้ที่ในระดับหนึ่งแล้ว เหลือแต่ส่วนหัวซึ่งสุกยาก คุณอาจจะจี่ต่อสักนิดพอให้มันหัวกุ้งเป็นเหมือนไข่ยางมะตูม
ความหอมจะออกมาอย่างชัดเจนจนคนข้างๆอยากแย่งคุณกินล่ะครับ ซึ่งตรงนี้มันกะจังหวะได้ง่ายกว่าไข่ต้มยางมะตูมอีกนะ
ลองทำไปสังเกตุไปนะครับ เนื้อ หมู ไก่ ก็เช่นกันครับ จังหวะนั้นเอามาลงถ้วยน้ำจิ้มมันจะเข้าเนื้อไว อร่อยนุ่มลิ้นนุ่มปากแน่ครับ
ปล.เรื่องจังหวะการลงซอสหรือเครื่องปรุงแรกตอนเสียงฉ่าค่อยเบาลง ไม่ต้องไปถามเชฟที่ไหนไกล แค่คนในพันทิพก็ทำแบบนี้เยอะ ผมเห็น
*ขอตอบหัวกระทู้บรรทัดแรกบ้าง ตอบว่าได้ครับ ส่วนเหตุผลก็อยู่ที่ประโยคสุดท้ายในบรรทัดแรกของผมครับ
แสดงความคิดเห็น
ย่างกุ้งนี่ ย่างจนร้อน เนื้อเหมือนสุกแล้ว แต่มันยังเป็นน้ำอยู่ถือว่ากินได้มั้ยครับ?
คือย่างแห้งๆเนื้อก็แข็งไม่อร่อย
แต่ผมเคยกินกุ้งตัวเล็กแบบคนจีนนึ่ง ดูดหัวยังมีน้ำๆออกมาเลย
แต่กุ้งตัวใหญ่ มันมีมันเหลืองๆส้มๆไหล เป็นน้ำออกมาตรงหัวกุ้งอยู่ แต่เนื้อเหมือนจะสุกแล้ว แบบนี้กินได้ยังครับ หรือต้องให้มันแห้งก่อนครับ