คิดถึง 2 บทที่ 19



.

               เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าช่วงเวลานั้นมีค่ามากแค่ไหน จนกว่ามันจะกลายเป็นความทรงจำ

               “บอส ไปรับจ้างปลูกมันกับกูมั้ย วันละ 250 บาทเชียวนะ เสาร์อาทิตย์นี้อ่ะ” ใต้ร่มประดู่ ณ สนามตะกร้อของโรงเรียน ติดกับโรงยิมอีกฝั่ง เป็นที่สิงสถิตของพวกเธอในตอนนี้ พากันนั่งจับกลุ่มกันรอโรงเรียนเลิกเช่นทุกวัน จู่ ๆ จอยก็เอ่ยชวนไปรับจ้างในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ด้วยกัน

               “มันของใครจอย” บอสสนใจกับคำชักชวนของเพื่อน ทว่ายังไม่รับปาก กลัวยายไม่ให้ไป เธอปลูกมันสำปะหลังเป็น ครอบครัวของเธอก็ปลูก สมัยตอนเรียนประถมช่วยแม่ปลูกทุกปี ปัจจุบันแม่หันมาปลูกอ้อยแทน แต่ก็ยังจำขั้นตอนการปลูกได้ไม่เคยลืม

               “ของคนบ้านมอดินแดงน่ะ วันละ 250 บาท ถ้าไปก็ออกมาบ้านกูเจ็ดโมงเช้า “ หมู่บ้านมอดินแดงที่จอยพูดถึง อยู่ไกลกันกับหมู่บ้านของเธอมาก ไปทางเดียวกันกับถนนเส้นเข้าในเมือง เหลือแค่ไม่กี่กิโลก็ถึง

               “พวกกูก็ไป 2 วันได้ตั้ง 500 บาทนะมืง ไปมั้ย” ก้อยชักชวนเธออีกคน คนที่จะไปมี จอย นิด ชมพู่ ก้อย นิน และก็เตย

               “ไป ๆ แต่ถ้ายายกูไม่ให้ไปเดี๋ยวกูบอกนะ แต่ว่าลงชื่อไปไว้ก่อน” เธออยากไปมาก อยากได้ตังค์ อย่างน้อยก็มีเงินไปคลองถมในเมืองล่ะ มีของที่อยากได้พอดี ไม่อยากเจียดรายเดือนที่แม่ให้ซื้อ เพราะมันแพงมาก แม่ให้แค่เดือนละพันห้าเอง ของที่เธออยากได้ตั้งหกร้อยกว่าบาท “เค้าจะเอารถมารับเราเหรอ กูชวนอี่แฝดกับอี่จ๋อมไปด้วยได้มั้ย”

               “ได้! ไปกันหลาย ๆ คนยิ่งดี เขาต้องการคนงานหลายคนน่ะ แม่กูก็ไปด้วย ไม่ต้องกลัว” จอยตอบ “เอ้อ อย่าลืมห่อข้าวไปด้วยนะมืง แม่กุบอกว่าเขาไม่เลี้ยงข้าวเที่ยง”

               “เค เดี๋ยวกลับไปบ้านกูถามยายก่อน ให้คำตอบเย็นนี้แหละจะไปไม่ไป” บอสตื่นเต้นมาก เธอไม่กลัวเหนื่อย ถ้าได้เงินทำได้หมดแค่เป็นงานที่ดี และนึกวาดฝันไปถึงของที่อยากได้ รอก่อนนะเธอจะไปซื้อมาเป็นเจ้าของ

               ไม่นานเสียงออดเสียงสุดท้ายก็ดังขึ้น เป็นอันถึงเวลาเลิกเรียนกลับบ้านแล้ว

                เมื่อมาถึงบ้านบอสรีบทำงานบ้านในส่วนหน้าที่ของตนให้แล้วเสร็จ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย เวลาขออะไรยายจะได้ง่าย ๆ ยายกำลังยุ่งอยู่กับสวนผักเล็ก ๆ ที่ข้างบ้าน ผักสวนครัวมีตั้งหลายชนิดที่ยายปลูกเอาไว้ อย่างน้อยพริกขี้หนูก็ไม่ได้ซื้อ ผักที่ยายปลูกมีเยอะแยะ ผสมปนกันในสวนเล็ก ๆ

                บอสเดินมายืนดูยายกำลังพรวนดินแปลงผักอยู่ในสวนอยู่นาน รอจังหวะในการขอก่อน ยายใช้ตาข่ายสีน้ำเงินเก่า ๆ ล้อมรั้วสวนไว้ กันพวกเป็ดไก่หมาแมวเข้ามา “ยายวันเสาร์อาทิตย์บอสไปรับจ้างปลูกมันนะ กับเพื่อน ๆ “ เมื่อสบโอกาสเธอจึงไม่รีรอที่จะขอ

               ยายหยุดพรวนดินเงยหน้ามองเธอ ถึงจะสอนไม่ให้กลัวความลำบาก แต่ใช่ว่ายายจะให้ไปรับจ้างสุ่มสี่สุ่มห้า แค่สอนให้ทำงานของครอบครัวตัวเองเท่านั้น ไม่เคยให้ไปรับจ้างใครเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะออกไปรับจ้างข้างนอก จึงลุ้นมาก ๆ ว่ายายจะอนุญาตหรือเปล่า “รับจ้างใคร”

               “ทางบ้านมอดินแดงน่ะ แม่ปังก็ไปนะยาย” บอสรีบยกแม่ของจอยมาอ้างทันที กลัวยายไม่อนุญาต หาว่าไปที่ไหนก็ไม่รู้ บ้านมอดินแดงไม่ใช่ใกล้ ๆ แถว ๆ มหาลัยร้างนู้น สมัยก่อนชื่อมหาลัยอะไรก็ไม่รู้ ที่รู้ ๆ เธอเกิดมาก็พบว่ามันร้างเสียแล้ว

                “เขาจะมารับตอนเช้า แม่ปังกับแม่เพลินก็ไป เพื่อน ๆ บอสก็ไป ยายให้บอสไปนะ เสาร์อาทิตย์ 2 วันพอ” บอสกลั้นใจรอคำตอบ ยายจะให้ไปหรือเปล่า ลุ้นมาก ๆ ระหว่างยืนคุยกับยาย

               “แม่มืงจะให้ไปเหรอ มืงถามเขาหรือยัง”

               “ยายให้ไปแม่ก็ให้ไป” บอสรู้สึกมีความหวัง ขึ้นมานิด ๆ

               “ไปก็ไปถะแหมะ ถ้าไม่กลัวเหนื่อย รับจ้างคนอื่นไม่เหมือนทำงานตัวเองเด้อ อยากพักถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้พัก”

                 “หื่อบอสไม่กลัวเหนื่อย บอสไม่เหนื่อย ยายให้ไปแล้วใช่มั้ย เย้ ฮา ” เธอตื่นเต้นมาก ต้องเอาไปบอกจอยว่าเธอตกลงจะไปด้วยพรุ่งนี้ แต่ก่อนอื่นต้องหาแนวร่วมก่อน “ยายบอสไปชวนไอ้แฝดก่อนนะ” แล้วบอสก็เดินหนียายไปอย่างคนอารมณ์ดี

               “พี่ปาวพี่แป้งไปรับจ้างปลูกมันกับบอสมั้ยวันเสาร์อาทิตย์” ก่อนจะไปหาสองคนนั้น แวะถามพี่สาวสักหน่อย พี่ปาวกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว มีพี่แป้งเป็นลูกมือช่วยอีกคน ส่วนน้องบีมกับพี่ชายสองคนหายหัวไปไหนไม่รู้ ส่วนมากงานบ้านพี่ชายสองคนจะไม่ค่อยได้รับผิดชอบอะไร

               “ปลูกมันใครเหรอ” พี่ปาวหันมาถาม ในมือถือจานปลาช่อนที่ตัดเป็นท่อน ๆ เรียบร้อยแล้ว กำลังจะเทลงหม้อบนเตาแก๊ส

               “ไม่รู้ ของคนบ้านมอดินแดงอ่ะ อี่จอยชวนบอส วันละ 250 บาทเชียวนะ ยายให้ไปด้วย” บอสพูดหน้าชื่นตาบาน ยิ้มอย่างคนมีความสุข

               “บอสพี่ไปด้วย” พี่แป้งเอาด้วยอีกคน

               “พี่ไม่ไปหรอก ไปกันเลย” พี่ปาวปฏิเสธ อย่างว่านั่นแหละมีแต่เด็ก ๆ มีแต่เพื่อน ๆ ของเธอ พี่ปาวจึงไม่อยากไป ไม่เป็นไรมีแนวร่วมแล้วหนึ่งคน ขาดแค่พี่บอมกับพี่บอลไปไหนก็ไม่รู้ แต่ก็ช่าง เธอไม่ชวนหรอก แล้วเธอก็เดินไปหาสองฝาแฝดที่บ้าน และกะจะไปชวนจ๋อมมาด้วยอีกคน

               บอสถามพี่สาวฝาแฝดและจ๋อมแล้วได้คำตอบคือ แพรวกับจ๋อมไม่ไป มีแค่พิมพ์ไปคนเดียว ไม่เป็นไรได้มาเพิ่มแล้วหนึ่งคน รวมเธอกับพี่แป้งเป็นสามคน เท่านี้ก็เพียงพอ ที่จริงถ้าพี่ ๆ ไม่ไป เธอก็จะไปคนเดียวอยู่แล้ว 2 วันตั้ง 500 บาท เจียดเงินที่แม่ให้รวมกันนิดหน่อยก็ได้รองเท้าสกอร์แล้ว ช่วงนี้พิมพ์กับแพรวพาฮิตใส่รองเท้าแตะยี่ห้อสกอร์ มันก็สวยดีนะ

               เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนพอแล้ว บอสก็มุ่งหน้าไปบ้านจอย แต่ก่อนจะไปเธอกลับมาที่บ้านตนเองก่อน “พี่ปาวน้องบีมไปไหน” บอสถามหาน้องสาวของตน กะจะให้พาไปบ้านจอยสักหน่อย

               “เห็นบอกไปบ้านไอ้เวย์” พี่ปาวตอบ

              “อ่อ” แล้วบอสก็คว้าจักรยานของตาปั่นไปหาน้องบีมที่บ้านน้องเวย์ เวย์คือญาติคนหนึ่งของเธอ เวย์กับน้องบีมห่างกันปีเดียวจึงชอบเล่นด้วยกัน บ้านก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก อยู่ในคุ้มเดียวกันนี่แหละ

               “เวย์เห็นน้องบีมมั้ย” บอสจอดจักรยานถามหาน้องบีมข้าง ๆ กำแพงบ้าน ชะโงกหน้าเข้าไปดูในบ้านทำไมไม่เห็นมี ไหนพี่ปาวบอกว่าอยู่ที่นี่

               “ไอ้บีมอยู่บ้านน้องเก๋นู่น” น้องเวย์ตอบ “พี่บอสจะไปไหน เวย์พาไป”

               “ไปบ้านอี่จอย งั้นก็ได้ มาขึ้นมาซ้อนด้านหลัง!” บอสบอกให้น้องสาวลูกพี่ลูกน้องขึ้นมาซ้อนเบาะหลังของจักรยาน เธอเป็นคนปั่นเอง

               บอสกับน้องเวย์ปั่นจักรยานไปบ้านจอย บ้านน้องเก๋อยู่หน้าปากซอยพอดี เห็นน้องบีมอยู่ที่นี่จริงด้วย “พี่บอสไปไหนอ่ะ” น้องบีมลุกขึ้นยืนมองพวกเธอสองคน สีหน้าและแววตาท่าทางอยากไปด้วย แต่ทำไงได้ จักรยานมันซ้อนได้แค่สองคน ไม่เหมือนมอเตอร์ไซค์ซ้อนสามซ้อนสี่ก็ได้

               “ไปบ้านเพื่อนพี่” แล้วเธอก็ปั่นผ่านหน้าน้องสาวไป น้องบีมมองตามรถพวกเธอสองคน เสียใจด้วยนะน้องบีม อยากมาเล่นไกลเอง หึหึ บอสพูดในใจ และก็ปั่นจักรยานพาเวย์ไปบ้านจอยกันสองคน

               “จอยตกลงกูไปด้วย ทั้งสองวันเลย และก็พี่แป้งกับอี่พิมพ์ก็ไปด้วย” บอสจอดจักรยานไว้ใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน เดินเข้ามาในบ้านบอกกล่าวแก่เพื่อนสำหรับเรื่องพรุ่งนี้

               “ได้ อี่แพรวไม่ไปเหรอ แต่เป็นอี่สวยไปแทน” จอยถามอย่างนึกขันพร้อมหัวเราะ ก็แทนที่จะเป็นแพรวที่ไป น่าจะไม่ใช่พิมพ์ ถ้าดูจากภายนอกแล้ว บุคลิกของทั้งสองคนแล้วนั้น เป็นพิมพ์มากกว่าที่น่าจะไม่สู้งานหนัก สวยคือฉายาของพิมพ์นั่นเอง

               “อือ กี่โมงพรุ่งนี้”

               “เจ็ดโมงเช้ามารอที่บ้านกู พวกอี่ชมพู่ก็จะมาขึ้นรถที่นี่”

                 “ได้! พรุ่งนี้เจอกัน” แล้วบอสก็ปั่นจักรยานพาน้องเวย์กลับบ้านด้วยความสบายใจ ภายในใจก็นึกว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง รองเท้าถุงเท้ามีแล้ว ก็ถุงเท้านักเรียนนั่นแหละ  เสื้อแขนยาวกางเกงวอร์มก็กางเกงพละโรงเรียนอีกนั่นแหละ หมวกก็มีพร้อม

               07.10 น. บอสแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พกเงินติดตัวไปด้วย 100 บาท ข้าวก็ห่อไปด้วย ไปปลูกมันที่ทุ่งนาจะซื้ออะไรได้ แค่พกไปเพื่อความอุ่นใจเฉย ๆ สรุปคือมีพี่บอลไปเพิ่มอีกหนึ่งคน

               พวกเธอสามคนพี่น้องแต่งกายพร้อมเสร็จสรรพ เดินไปรับพิมพ์ที่บ้าน และพากันเดินไปรอรถที่จะมารับที่บ้านจอย มาถึงก็พบว่ามีเพื่อน ๆ มารอกันแล้ว และคนอื่น ๆ อีกหลายคน แม่ของจอยและผู้ใหญ่อีกสองสามคนก็ไปด้วย

               “แม่มืงคือให้มารับจ้างลังเทือนาง ฮา “ แม่ของจอยแซวเธอ สงสัยคงเห็นว่าลูกหลานบ้านยายกับตาไม่ไปรับจ้างที่ไหน แต่หารู้ไม่ว่างานบ้านตัวเอง ทำหมดทุกอย่าง

               “ฮา บอสขอยายแล้วยายให้มาน้อ บอสก็มาเลยแล้ว ยังไม่ได้ขอแม่เลย” บอสหัวเราะพูดคุยกับแม่ของเพื่อนอย่างเป็นกันเอง

              “ลูกใครบ้างเนี่ยปัง ลูกมันหมดทุกคนเลยเหรอ” ผู้ใหญ่อีกคนถามแม่ปังเกี่ยวกับเธอและพี่ ๆ หมายถึงพวกเธอทั้งสี่คน เป็นลูกของพ่อกับแม่หมดทุกคนเลย หรือเปล่า บอสได้แต่ยิ้มแหย ๆ ถึงจะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่อยู่คนละคุ้ม ผู้ใหญ่บางคนก็ไม่รู้จักเด็กบางคนอย่างพวกเธอนี่แหละ ส่วนมากจะรู้จักกันแค่คนในคุ้มตัวเองและใกล้เคียง

               “ไม่ ๆ คนละคนเลย ทั้งสามคนนี่คนละพ่อคนละแม่กันเลย ไอ้บอสเนี่ยรุ่นไอ้จอย ส่วนคนนี้เกิดก่อนใช่มั้ยนาง นี่ลูกเซียงปาน คนนี้ของพ่อใหญ่พลหนิ “แม่ปังหันไปหาพี่แป้งกับพี่บอล “ส่วนนี้ลูกพ่อใหญ่วิทย์ขายของตลาดนัด” แม่ปังหันมาหาพิมพ์ พิมพ์ยิ้มพยักหน้าเป็นคำตอบ “มีแฝดด้วยใช่มั้ยนาง แฝดไม่มาด้วยล่ะ คนนี้ก็เพื่อนไอ้จอย” แม่ปังแนะนำพวกเธอให้กับอีกคนรู้จัก พร้อมถามหาแพรวด้วย

               “แพรวไม่มาจ้า พิมพ์ชวนแล้ว “ พิมพ์ตอบ ไม่นานก็มีรถกระบะวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านจอย เป็นรถที่จะมารับพวกเธอไปปลูกมันสำปะหลังที่บ้านมอดินแดงนั่นเอง แม่ปังกับผู้ใหญ่สองสามคนเข้าไปนั่งด้านหน้ารถ ส่วนเด็ก ๆ แบบพวกเธอนั่งกระบะหลัง

                รถแล่นไปตามทาง มุ่งหน้าไปยังบ้านมอดินแดง ทำไมถึงเรียกแบบนี้เธอไม่แน่ใจเช่นกัน รถวิ่งไปทางในเมือง ผ่านโศกคุณนายจ่อย วิ่งไปทางโรงเรียนร้าง หรือมหาลัยล้างก็ไม่แน่ใจ

                เป็นตึกเก่า ๆ ผุพัง พวกเธอพูดคุยกันไปตามทาง ส่วนมากจะเป็นพวกจอยคุยกันเสียมากกว่า เธอกับพี่ ๆ นั่งฟังเพื่อน ๆ คุยกันปะทะลมก็เพลินดี และสุดท้ายก็มาถึงไร่ของนายจ้างที่จ้างพวกเธอ

               เมื่อมาถึงบอสเข้าใจแล้วทำไมถึงเรียกที่นี่ว่ามอดินแดง เพราะดินมันเป็นดินสีแดง ๆ เหมือนหินศิลาแลง ก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย ทำไมปลูกมันสำปะหลังได้ และเกิดด้วย ชื่อหมู่บ้านก็น่าจะมาจากดินที่มันเป็นสีแดง
*มอในที่นี้หมายถึงเนินไม่สูงมาก*

               มาถึงเจ้าของไร่ก็พาทานข้าวเช้าที่เถียงนาก่อนจะเริ่มงาน บอสมองไปรอบ ๆ มีไร่มันสำปะหลังกว้างสุดลูกหูลูกตา ทว่ายังไม่โตสักไร่ บางไร่ที่อยู่ติดกัน ยังเป็นตอมันเหมือนพึ่งปลูกเสร็จใหม่ ๆ ก็มี แตกหน่อแล้วก็มี แดดช่วงเช้าอ่อน ๆ พอไหว ได้มาแล้วเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องไหว

               ก่อนปฏิบัติงานทุกคนจับคู่กัน ตกลงกันเอาเองว่าใครจะเป็นคนเสียบหรือปลูก ใครจะเป็นคนวางท่อนมัน เหนื่อยแล้วก็สลับกันไป คนงานวันนี้เพียงพวกเธอก็สิบกว่าคนได้ รวมครอบครัวของเจ้าของไร่ด้วย ก็หลายคนอยู่ น่าจะไม่เหนื่อยมาก

               บอสจับคู่กันกับพิมพ์ พี่บอลกับพี่แป้งจับคู่กัน พี่บอลยกให้พี่แป้งเป็นคนวางคนเดียวไปเลย ส่วนตัวเองเป็นคนเสียบคนเดียวเอง สบายมาก เธอกับพิมพ์สลับกัน ให้พิมพ์เป็นคนวางก่อนในช่วงเช้า ช่วงเย็นเปลี่ยนให้เธอเป็นคนวาง

               ทุกคนทุกคู่พร้อมทำงาน พิมพ์เทท่อนมันจากกระสอบปุ๋ยใส่ตะกร้าไม้ไผ่ ใส่เท่าที่หาบไหวก็พอ ไม่ต้องเต็มมากเดี๋ยวหนัก แต่ก็ไม่น้อยจนดูเอาเปรียบคนอื่น ๆ พิมพ์เป็นคนวางท่อนมันไว้บนคูดิน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่