[CR] รีวิว Yuzawa Izakaya ร้านซูชิบาร์-อาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟโอโทโร่ไม่อั้นแค่คนละ 1,890 ฿ ภายในซอยพหลโยธิน 5

เลื่อนหน้าฟีดข่าวบนมือถือไปเรื่อยๆก็เจอกับโฆษณาร้านอาหารญี่ปุ่นน่าสนใจเพราะเขาเสิร์ฟซูชิโอโทโร่และเมนูอื่นๆให้ทานได้ไม่อั้นกว่า 80 รายการตลอด 2 ชั่วโมงเต็มแต่จ่ายแค่คนละ 1,890 บาท Net. นั่นก็คือร้าน Yuzawa Izakaya อยู่ภายในซอยพหลโยธิน 5 ใกล้ๆกับ BTS สถานีอารีย์ เห็นว่าจุดตั้งร้านตรงนี้เขาย้ายมากจากสถานที่เก่าภายในซอยอารีย์ 4 แต่ตอนนี้เปิด Google Maps เดินทางตามมาเขาปักหมุดไว้ที่ใหม่เรียบร้อยแล้ว วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวร้านอยู่ในซอยเล็กๆแต่ภายในก็มีที่ให้จอดมากมาย เมื่อมาถึงแล้วก็จะพบกับหน้าร้านสีดำตกแต่สไตล์ Loft ดูทันสมัยเข้ากับถิ่นอารีย์แต่เพิ่มความเป็นญี่ปุ่นด้วยโคมไฟและตัวอักษรสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมป้ายไฟที่กระพริบดวงสีส้มมองเห็นได้ชัดจากปากซอย มีป้ายอร่อยเลิศช่วยการันตีความอร่อยไว้อีกขั้นแบบนี้แสดงว่ามาถูกร้าน เนื่องจากเรามาวันหยุดไม่ได้จองล่วงหน้าแต่ที่บ้านอยากทานมากๆเลยมาตั้งแต่เปิดร้านรีบเข้าไปด้านในกันครับ

เข้ามาบรรยากาศภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือด้านนอกติดริมถนนมีห้องกระจกติดแอร์เพด้านห้อยด้วยไม้เลื้อยดูสบายตา ส่วนด้านในต้องเดินผ่านประตูบานไม้เข้าไปก็จะพบกับโซนญี่ปุ่นมองเห็นบาร์ซูชิและกำแพงที่วาดเป็นรูปปลามากุโร่สีขาว-ดำแสดงถึงวัตถุดิบที่เป็น Signature ของทางร้านได้เป็นอย่างดี บาร์ซูชิของร้านเป็นแบบเปิดโล่งสามารถมองเห็นการหั่นปลาและตกแต่งได้ทุกขั้นตอนส่วนครัวร้อนแยกต่างหากอยู่ด้านใน เนื่องจากเราไม้ได้จองมาก่อนทำให้พื้นที่ด้านในวันนี้เต็มหมดแล้ว (เห็นว่าลูกค้าจองผ่าน Hungry Hub 20 กว่าที่นั่ง) วันนี้พวกเราจึงต้องออกมานั่งโซนด้านนอกแทนและโชคดีอีกอย่างคือวันนี้แดดไม่ร้อนทำให้นั่งริมหน้าต่างได้รับแสงแดดเบาๆดีครับ

มาถึงพนักงานก็จัดการต่อโต๊ะยาวให้แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างแคบเลยต้องแบ่งเป็น 4 คน และ 2 คนต่อโต๊ะแทน ตามมาด้วยจานรอง-ตะเกียบ-ถ้วยใส่โชยุพร้อมวาซาบิและขิงดองถูกยกออกมาเตรียมทานคู่กับซาชิมิ/ซูชิต่างๆภายในร้าน ส่วนเครื่องดื่มมีบริการให้ฟรีไม่คิดเงินเพิ่มคือชาเขียวร้อนและชาเขียวเย็นใส่เหยือกและกาวางไว้ให้ข้างๆเตรียมเติมได้ตลอดเวลา ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วน้องพนักงานก็นำเล่มเมนูออกมาให้เราสั่งอาหารกันครับ

เมนูบุฟเฟ่ต์ของที่ร้านก็ใช้แบบเดียวกันกับใน Hungry Hub ไม่ได้แตกต่างกันราคาคนละ 1,890 บาทถ้วนไม่มีบวก Vat. หรือ Service Charge เพิ่มเติม เมนูลำดับที่ 1-5 สามารถสั่งได้เพียงแค่คนละ 1 รายการเท่านั้น 6-83 สั่งได้เรื่อยๆจนกว่าจะอิ่ม ให้เวลาในการทานทั้งหมด 2 ชิ่วโมงเต็ม (ถือว่าเยอะกว่าร้านคู่แข่งที่มักจะให้เวลาแค่ 1.30 ชม.) และซูชิปลามากุโร่ทั้ง 3 ส่วนยังสามารถสั่งคละกันได้ไม่ได้บังคับมาเป็นชุดอีกด้วย (แต่เสิร์ฟชุดละ 3 ชิ้น) รวมถึงซูชิหน้าอื่นๆที่ร้านเขาเสิร์ฟให้เป็นชุดละ 2 คำ นอกจากนี้ยังมีซูชิโรล/ซาชิมิ/อาหารทานเล่น/ข้าวหน้าไซส์มินิ/จานหลักและขนมหวานรวมในราคาบุฟเฟ่ต์หมดแล้วทุกอย่างที่เหลือก็แค่สั่งและทานให้หมดเพราะเขาปรับจริงตามราคาที่เขียวเอาไว้ในเมนู แนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยทานบุฟเฟ่ต์โอโทโร่มาก่อนแนะนำว่าค่อยๆสั่งมาทานทีละนิดดีกว่าครับ

เดินเข้ามาที่ซูชิบาร์ขอเชฟเขาดูโอโทโร่ของที่ร้านลายแทรกไขมันสวยงามราวกับเนื้อวัววากิวดูรู้เลยว่าเป็น Blue Fin จริงๆเพราะทานมาบ่อยมากๆเลยสั่งเมนูชุดแรกเป็น "Heaven Set" ปลาดิบรวมทั้งโอโทโร่/ชูโทโร่/อากามิ/ฮามาจิ/แซลมอนและทาโกะรวมมาในเรือเดียวกัน ทุกชิ้นคุณภาพสูงเสิร์ฟมาชิ้นหนาสมราคาแต่มีบางส่วนติดเอ็นมานิดหน่อยก็ถือว่ารับได้เพราะที่สั่งมาไม่ใช่แบบ A La Carte จานต่อไปเป็นเมนูพิเศษที่ราคาสูงรองลงมาจากจานแรกคือ "Wagyu Steak" หรือสเต็กเนื้อวากิวญี่ปุ่นย่างเสิร์ฟมาในกระทะร้อนสุกแบบ Medium Rare แทรกไขมันอมชมพูตรงจุดกลางทานคู่กับซอสโชยุเนยหวานผักต่างๆทานคู่กับกระเทียมเจียวสไลด์ก็อร่อยแล้ว จะจิ้มกับน้ำซอส 3 สูตรหรือไม่ยังไงก็ดีงามเพราะเนื้อวัวและซอสดีมากอยู่แล้ว เหมาะทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นอีกสักชามถ้าไม่ได้ทานบุฟเฟ่ต์

เมนูพิเศษอื่นๆทยอยมาเสิร์ฟอีกคือ "Kaki Nama Oyster" ปกติเขาเสิร์ฟให้แค่ 1 คนต่อ 1 ตัวแต่ไซส์ที่เข้ามาในวันนี้เล็กกว่าปกติที่ร้านเลยเสิร์ฟมาให้ 2 ตัว (จินตนาการไม่ออกเลยว่าหอยญี่ปุ่นไซส์ใหญ่กว่านี้หน้าตาเป็นยังไง) เป็นหอยนางรมสดนำเข้าจากแระเทศญี่ปุ่นราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ดสุดเปรี้ยวแซ่บโรยหอมเจียวทอดกรอบกับไข่แซลมอนได้รสชาติอร่อยสะใจสไตล์ไทยๆ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ผมกลัวอิ่มเร็วเลยสั่งเป็นซูชิคนละคำที่ใช้วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมให้เพียงคนละ 1 คำได้แก่ "Uni Sushi" เป็นซูชิหน้าไข่หอยเม่นญี่ปุ่นให้มาถึง 2 ชั้นพูนรสชาติหวานมันเหมือนพุดดิ้งละลายในปากผสมกับข้าวซูชิรสหวานอมเปรี้ยวหอมสาหร่ายสุดฟินห์ ถ้าอยากทานอีกที่ร้านคำละ 447 บาทนะครับ

ส่วนจานนี้เราลงมติกันแล้วว่าคุ้มที่สุดเพราะได้ทานวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมพร้อมกันหลายๆอย่างในชามเดียวคือ "ChiraChi Umami Don" เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวมที่ด้านล่างเป็นข้าวซูชิปรุงรสท๊อปปิ้งด้วยมากุโร่ทั้ง 3 ส่วน /ไข่หอยเม่น/ปลาแซลมอน/ไข่ปลาแซลมอน/ปลาฮามาจิ/ปลาไหลย่างญี่ปุ่น เพิ่มความกรุบกรอบด้วยแตงกวาญี่ปุ่นสดๆได้ทานปลาดิบพร้อมข้าวอย่างหลากหลายในชามเดียว เมนูต่อไปก็เป็นข้าวหน้าแบบ Mini Dorburi ที่ใส้ข้าวให้น้อยแต่ปลาเยอะคือ "ข้าวหน้าโทโร่แซลมอนสับซอสมันปู" เป็นแซลมอนสับกับปลามากุโร่รวมทุกส่วนสับปรุงรสกับต้นหอมให้ความหวานมันและเพิ้มกลิ่นหอมด้วยมิโสะมันปูกับไข่กุ้ง (ไข่ปลาบินปรุงรส) ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและกรุบกรอบให้กับข้าวที่มีแต่เนื้อปลาสับชิ้นเล็กๆ คลุกให้เข้ากันทีละส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ทานได้หลายแบบในชามเดียว

หมดจากเมนูหลักแล้วก็สั่งเมนูที่เราอยากทานมาก่อนส่วนมากุโร่ค่อยปิดท้ายอีกครั้ง เพราะเดี๋ยวเลี่ยนเกินไปจนทำให้ทานเมนูอื่นได้น้อย เริ่มจากเมนูที่มีปริมาณไขมันรองลงมาอย่าง "ซูชิหน้าตับห่าน" ชิ้นบางๆมาพร้อมกับข้าวคำเล็กพันด้วยสาหร่ายราดซอสมิโสะหวานหอมกลิ่นน้ำผึ้ง มาต่อกันด้วย "ชูชิเอนกาวะท๊อบตับห่าน" เป็นส่วนครีบของปลาตาเดียวย่างลนไฟไปพร้อมกับตัวห่านได้ความมันแบบ X2 ตามมาด้วย "ซูชิกุ้งหวานตัวใหญ่พิเศษ" เนื้อกรอบๆเคี้ยวเต็มคำหวานเด้งเพิ่มความมันของฟัวกราส์ผสมกับซอสสูตรพิเศษทำให้อร่อยลงตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากรู้สึกว่ามีไขมันเยอะเกินไปก็สามารถสั่งให้แบบไม่ใส่ฟัวกราส์หรือราดซอสมาอย่างเดียวก็ได้ เนื่องจากทานแต่ที่ใส่ฟัวกราส์ไปหลายคำแล้วก็ต้องตัดเลี่ยนด้วยเมนูไทยๆอย่าง "แซลมอนยำไทย" รสชาติเปรี้ยว/หวาน/เผ็ดร้อนฉุนกระเทียม/พริกสดช่วยลดความเลี่ยนจากเนื้อแซลมอนมันๆได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ชอบแซลมอนก็มีปูอัดกับปลาดิบรวมให้ทำยำได้ด้วย

เมนูท๊อบฟัวกราส์ยังไม่หมดยังมีปลาไหลกับเนื้อวากิวมาเสิร์ฟอีก แต่ในฐานะสาวก "ปลาไหลญี่ปุ่น" ร้านนี้ทำให้ไม่ค่อยถูกใจเพราะให้มาชิ้นเล็กและบางจนเกินไปไม่เหมือนกับหลายร้านที่ขายราคาบุฟเฟ่ต์ถูกกว่าแต่ให้ชิ้นหนาใหญ่มากกว่า ส่วนเนื้อวากิวที่ร้านอื่นมักจะมาชิ้นบางแบบผ้าห่มแต่ที่นี่ห่อมาเป็นชั้นทานง่ายเคี้ยวเต็มคำมากกว่าถือว่าก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันครับ เมนูหลังๆเริ่มออเดอร์เป็นแบบลนไฟรัวๆเพราะกลัวทานไม่ได้เยอะเริมจากเมนู "โรลแซลมอนเอนกาวะและโรลแซลมอนสไปซี่" ในเล่มเมนูเขียนว่าเสิร์ฟอย่างละ 4 คำ แต่ของจริงที่ร้านเสิร์ฟให้แค่อย่างละ 3 คำเท่านั้น (ซึ่งถือว่าดีงาม) ไส้ด้านในทั้ง 2 เมนูเหมือนกันเพราะทำมาจากซูชิโรลชิ้นเดียวกันคือปูอัด/ไข่หวาน/แตงกวาญี่ปุ่น ท๊อบปิ้งด้วยแซลมอนสดทั้งคู่แต่ 3 ชิ้นแรกนำไปราดซอสสไปซี่รสหวาน-เผ็ด ส่วนอีก 3 ชิ้นนำไปท๊อบด้วยเอนกาวะลนไฟทานคู่กับซอสโคชูจังตกแต่งด้วยไข่ปลา ให้ข้าวด้านในมาบางไส้กับเครื่องเยอะทานได้สะใจดีครับ

เรามากัน 6 คนพอดีและโรลขนาดใหญ่ชิ้นนึงก็เสิร์ฟ 6 ชิ้นเลยอยากลองดีกับเมนูที่รวมเอาแต่วัตถุดิบสุดยอดที่รวมเอาไขมันสุดเลี่ยนไว้ในเมนูเดียวกันอย่าง "โรลโอโทโร่สเปเชียลท๊อบเอนกาวะฟัวกราส์ไข่กุ้ง" แค่ได้ยินชื่อก็ชวนไขมันจุกอกแล้วแต่ไหนๆมากันเยอะก็ลองดูคนละชิ้น เป็นโรลซูชิด้านในสอดไส้โอโทโร่กับไข่หวานม้วนแล้ววางเอนกาวะก่อนจะตามด้วยกัวกราส์ชิ้นเล็กๆลนไฟจนสุกหอมก่อนจะราดด้วยซอสซีอิ๊วหวานสูตรของที่ร้านตามด้วยไข่กุ้งส้มประดับพอสวยงาม รสชาติทั้งมันทั้งหวานหอมกลิ่นเบิร์นไฟอ่อนๆทานคนละชิ้นรู้สึกว่ากำลังดีแต่ถ้าคุณเป็นสายแข็งจะลองทานทั้งชิ้นดูก็ได้นะครับ ตัดความเลี่ยนด้วยเมนูสุดคลาสสิคอย่างซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอนของร้านนี้ใช้แบบลูกเล็กดองโชยุมาเค็มอ่อนๆทานได้เพลินๆ ซูชิหน้าไข่กุ้งอร่อยกลมกล่อมไข่กุ้งแต่กในปลากเข้ากับสาหร่ายกรอบได้เป็นอย่างดีส่วนซูชิยำสาหร่ายก็ใส่ไข่กุ้งเพื่อเพิ่มสัมผัสพิเศษทานง่ายๆ เพิ่มความกรุบกรอบกลังจากการทานเนื้อปลาดิบมาอย่างยาวนานด้วย "กุ้งเทมปุระทอดเสิร์ฟครั้งละ 3 ตัว" ที่นี่ใช้กุ้งตัวใหญ่เนื้อหวานแน่นชุบแป้งทอดมากรุบกรอบดี ทานคู่กับซอสของทอดใส่ขิงและไชเท้าขูดรสเค็มหอมน้ำมันงาแต่จืดไปหน่อยต้องซดน้ำจิ้มตามถึงจะได้รสชาติครับ

****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:   Yuzawa Izakaya
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่