วันนี้เพื่อนที่ทำงานผมชวนกันจับกลุ่มมาทานบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติคุณภาพระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมอีกร้านที่ไม่ต้องโทรจองข้ามเดือนหรือต่อคิวเป็นเวลานานๆตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า The Paseo Park กาญจนาภิเษกนั่นก็คือร้าน "Signature" (ซิกเนเจอร์) ส่วนตัวเคยแวะมาทานและสั่งอาหารเป็นชุดเดลิเวอรี่ช่วง Lock Down บอกได้เลยว่ารสชาติดี-วัตถุดิบคุณภาพสูงแถมให้ปริมาณเยอะประทับใจสุดๆ ปัจจุบันได้ย้ายร้านมาตั้งที่จุดใหม่ภายในห้างเดิมแต่ขยับขยายให้ใหญ่โตดูสวยงามอลังการรวมถึงมีการปรับปรุงเมนูกับวัตถุดิบต่างๆให้หลากหลายดูพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้นรวมกว่า 300 เมนู นั่งทานได้ตลอด 2 ชั่วโมงราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 499 บ.+ วิธีการเดินทางถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาตามแผนที่บนมือถือภายในห้างมีที่จอดรถกว้างขวางให้บริการฟรี ถ้าหากเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้เรียกแท็กซี่โดยมีจุดตั้งต้นจาก MRT สถานีแยกไฟฉายใช้ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ร้านตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางออกที่จะทะลุไปเส้นพุทธมณฑลสาย 2 เป็นอาคารก่อด้วยอิฐแดงโบราณสไตล์ยุโรปหลังคาสีดำสนิทด้านบนมีป้ายไฟชื่อร้านตัวอักษรภาษาอังกฤษสีขาวดูโดดเด่นกว่าร้านอื่นๆในบริเวณโดยรอบ พร้อมกับรายการบุฟเฟ่ต์ขนาดใหญ่บ่งบอกถึงความหลากหลายอันเป็นจุดเด่นของทางร้านได้เป็นอย่างดีแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วครับ

บรรยากาศภายในร้านใหม่ดูมีความเป็นโมเดิร์นทันสมัยมากขึ้นโดยใช้พื้นกับโต๊ะลายไม้โทนสีอ่อนกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสีดำ เก้าอี้กับโซฟาทั้งหมดหุ้มด้วยหนังบุนุ่มนั่งสบายส่วนหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยรับแสงธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น กั้นผนังให้เป็นสัดส่วนสวยงามด้วยระแนงเหล็กลายพิเศษทำให้ด้านในสว่างนั่งนานแล้วไม่รู้สึกอึดอัดแบบร้านจุดเก่า อีกทั้งยังไม่รู้สึกถึงความร้อนถึงแม้จะมีแสงเข้ามามากเพราะใช้ม่านกัน UV เป็นอย่างดี พื้นที่ภายในกว้างขวางสามารถรองรับลูกค้าได้ตั้งแต่กลุ่มเล็กๆ 2-4 คน ไปจนถึงใหญ่พิเศษโดยสามารถลากโต๊ะเอามาชิดเองได้ตามจำนวนที่ต้องการ เรามาทานกันในช่วงบ่ายซึ่งมีลูกค้าท่านอื่นอยู่ภายในร้านไม่มากเดินเลือกที่นั่งกันได้ตามใจเลยครับ

มานั่งโต๊ะน้องพนักงานก็จะนำเล่มเมนูบุฟเฟ่ต์ออกมาให้เราเลือกกันก่อนว่าจะทานราคาไหน เริ่มต้นที่ 499 บ.+ โดยพื้นฐานเป็นชาบูเลือกน้ำซุปได้ 3 อย่างพร้อมอาหารนาชาชาติและขนมหวานสั่งได้ทั้งหมด 100 เมนู ขยับเพิ่มมาที่ราคา 799 บ.+ สามารถสั่งอาหารต่างๆได้เกือบ 200 เมนู สำหรับบุฟเฟ่ต์ราคา 999 บ.+ ขึ้นไป สามารถเลือกน้ำซุปชาบูได้ถึง 4 อย่างพร้อมวัตถุดิบพรีเมี่ยมและอาหารต่างๆเพิ่มขึ้นมามากกว่า 250 เมนู และราคาแพงสุดของทางร้าน 1,499 บ.+ มีอาหารให้เลือกสั่งกว่า 300 เมนู ทั้งชาบู/อาหารญี่ปุ่น/อาหารฝรั่งและอาหารไทย พิเศษด้วยไอศครีมยี่ห้อ Häagen-Dazs สั่งได้ไม่อั้น บุฟเฟ่ต์ทุกราคามีเวลานั่งทาน 2 ชั่วโมงเต็ม สำหรับเด็กที่มีส่วนสูงเกิน 120 ซม. คิดราคาผู้ใหญ่ หากต่ำกว่า 120 ซม. ลดราคา 50% ต่ำกว่า 100 ซม. ลด 70% และสูงไม่เกิน 90 ซม. ทานฟรี ส่วนวัตถุดิบที่พรีเมี่ยมมากๆบางรายการต้องแลกซื้อในราคาพิเศษเช่นไข่หอยเม่น(อูนิ)เสิร์ฟเป็นคำๆหรือยกถาดและชุดซูชิหน้าพิเศษ ดูเมนูทั้งหมดเป็นไฟล์ E-Book ได้ในลิงค์นี้ https://bit.ly/2ZwlRbg ส่วนวันนี้เรามากัน 4 ท่านตัดสินใจแล้วว่าทานเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาคนละ 999 บ.+ ก็พอ หากขยับขึ้นไปเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาสูงสุดจะจัดเต็มได้ทั้งโอโทโร่/อูนิและเนื้อไทยวากิวคุณภาพสูงสั่งได้ไม่อั้น แต่มีเพื่อนร่วมโต๊ะที่กินไม่เป็นเลยเลือกราคารองลงมาแทนครับผม

เมื่อเลือกราคาบุฟเฟ่ต์ที่จะทานได้แล้วน้องพนักงานก็จะเอาใบสั่งอาหารที่เป็น QR Code มาให้สแกน พร้อมกับบอกเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดเอาไว้เสร็จสรรพซึ่งไม่ได้เข้มงวดมากนัก เพราะถ้ายังทานไม่หมดทางร้านก็ปล่อยให้นั่งต่อแต่ไม่สามารถสั่งอาหารเพิ่มได้ (เฉพาะในกรณีที่ลูกค้าไม่เยอะ) สักพักหม้อชาบูออกมาก่อนเป็นแบบ 4 ช่องน้ำซุป 4 สูตรคือ 1. น้ำซุปต้มยำสีแดงรสเข้มข้นเปรี้ยวอมหวานหอมเครื่องสมุนไพรสไตล์ไทย 2. น้ำซุปดำญี่ปุ่นรสชาติหวานเค็มกลมกล่อม 3. น้ำซุปแจ่วฮ้อนรสชาติถึงใจสไตล์อีสาน 4. น้ำซุปมันปูญี่ปุ่นรสชาติบางเบาสัมผัสน้ำข้นนิดๆหอมกลิ่นมันปูอ่อนๆ มาพร้อมน้ำจิ้ม 4 สูตรคือ 1. จิ้มแจ่วอีสานแท้รสชาติเค็มเผ็ดจี๊ดจ๊าดอมหวานนิดๆ 2. น้ำจิ้มสุกี้เป็นสูตรกวางตุ้งหวานกลมกล่อมหอมซอสพริกผสมน้ำมันงา 3. น้ำจิ้มพอนสึรสเปรี้ยว-เค็มอมหวานนิดๆหอมกลิ่นปลาคัตสึโอะแห้ง 4. น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเปรี้ยวตัดหวานลงตัวใส่กระเทียมพริกแบบจัดเต็มไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว และโชยุวาซาบิไว้ทานกับเมนูซูชิและปลาดิบ วางน้ำจิ้มเอาไว้ให้เป็นขวดที่โต๊ะไม่ต้องเดินไปตักเองที่ไลน์อาหารสะดวกดีมากครับผม

สำหรับผักสดกับเห็ด/เส้นชนิดต่างๆ/ชีสและพริกสด-กระเทียมสับเดินมาตักได้เองที่ไลน์อาหาร ส่วนเครื่องดื่มที่บุฟเฟ่ต์ทุกราคาสามารถมากดได้ก็คือน้ำอัดลมและน้ำเปล่าบรรจุขวด (มีโค้ก/โค้กซีโร่/สไปรท์/แฟนต้าน้ำส้ม) ขนมหวานเป็นไอศครีมยี่ห้อ ETE ทั้งหมด 9 รสชาติคือ นมฮอกไกโด/สตรอเบอรี่/ช็อกโกแลต/ชาเขียว/เลมอน/ชาไทย/ช็อกโกแลตชิฟ/แคนดี้(สายไหม)และวนิลา ความพิเศษอีกอย่างของร้านนี้ก็คือ "ไข่ไก่" ใช้เป็นเกรดแบบสามารถทานได้สดๆรับประกันคุณภาพโดยแบรนด์ชื่อดังเรียงเอาไว้เต็มตะกร้าให้หยิบทานไม่อั้น ถือเป็นร้านแรกที่เคยเจอเลยครับ

อาหารที่สั่งไปเริ่มทยอยมาเสิร์ฟบนโต๊ะเริ่มด้วยเหล่าเนื้อวัวส่วนต่างๆสำหรับทานเป็นชาบูทั้ง เนื้อวากิวออสเตรเลียส่วน Outside Flat/เนื้อ U.S. Shot Plate/เนื้อออสเตรเลียแบล็คเองกัสส่วน Chuck Roll/เนื้อวากิวออสเตรเลียส่วน Topside/เนื้อแองกัสบริสเกตและเนื้อแองกัสห่อชีส ทุกส่วนแทรกไขมันละเอียดสวยงาม-รสชาติของเนื้อเข้มข้นกลิ่นหอมจุ่มลงในน้ำซุปชาบูทั้ง 4 ช่องเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆ โดยรวมถือว่าเนื้อวัวคุณภาพดีมากเลยครับ

ชุดต่อมาเป็นหมูต่างๆสั่งมาทั้งคุโรบูตะเบคอนหรือหมูสามชั้นมีเนื้อสีชมพูแทรกละเอียด/เบคอนรมควันคุณภาพดีหั่นมาชิ้นหนาไขมันน้อย/หมูนุ่มหมักมาเนื้อเด้งๆหอมกลิ่นน้ำมันงา/หมูคุโรบูตะห่อมอสซาเรลล่าชีสเคี้ยวหนึบๆ และเหล่าซีฟู๊ดคุณภาพสูงเริ่มจาก กุ้งลายเสือราคาแพงตัวโตๆเนื้อเด้งสู้ฟันเคี้ยวกรุบกรอบ/กุ้งแม่น้ำไซส์ขนาดกลางเนื้อแน่นๆ/แซลมอนชั้นไขมันน้อยต้มแล้วไม่เละละลายหายไปในน้ำซุปและหอยเชลล์ถึงตัวเล็กแต่สดเด้งดี ลวกให้พอสุกแกะเปลือกทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรของทางร้านรสชาติเปรี้ยวอมหวานหนักพริกกระเทียมยิ่งอร่อยแซ่บสะใจมากครับ

ถึงแม้ว่าเมนูพื้นฐานของทางร้านจะเป็นชาบูแต่ถ้าทานบุฟเฟ่ต์ราคาค่อนข้างแพงแนะนำว่าให้เผื่อกระเพาะมาลงที่อาหารนานาชาติดีกว่า เริ่มจากประเทศญี่ปุ่นสั่งมาแบบจัดหนักๆทั้ง "Hotate Delight" หอยเชลล์ญี่ปุ่นและเนื้อวากิวย่างไฟซอสทรัฟเฟิลมาโยพร้อมไข่กุ้งกับแซลมอนราดเทริยากิ อร่อยสุดพรีเมี่ยมกับหอยเชลล์เนื้อแน่นกับวากิวละลายในปากผสานกับซอสได้อย่างลงตัว "ซูชิเนื้อวากิวลนไฟ" ให้ข้าวน้อยวางใต้เนื้อชิ้นใหญ่ลนไฟมาหอมราดซอสเทริยากิ/ไข่ปลาบินเม็ดใหญ่และต้นหอมเนื้อนุ่มละมุนเคี้ยวละลายในปาก "ซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอน" ข้าวน้อยใส่ไข่มาให้ล้นหน้าอีกทั้งเป็นแบบไม่ได้ดองเค็มมาจึงหอมกลิ่นไขมันแซลมอนทานง่ายสุดๆ และซูชิแซลมอน-ทูน่า-โฮตาเตะ-ฟัวกราส์สั่งมาอย่างละ 1 คำ โดยรวมถือว่าใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง-สดเนื้อแน่นไม่มีกลิ่นเหม็นคาวทานง่ายทุกคำครับ

จานต่อมาเป็นซูชิรวมแบบลนไฟทั้ง ไข่หวานสอดไส้ปูอัดมาโย/ซูชิหน้าหอยเชลล์ลนไฟ/ซูชิหน้าฮามาจิลนไฟ/ซูชิหน้าเอนกาวะลนไฟซอสพอนสึ/ซูชิหน้าปลาไหลญี่ปุ่นลนไฟเนื้อแน่นไม่รวดซอสเยิ้มแบบร้านอื่น และซูชิโรลต่างๆทั้ง ซูชิโรลเอนกาวะซอสสไปซี่มาโยรสเผ็ดตัดความเลี่ยนของครีบปลาตาเดียว/ซูชิโรลไวท์ฮามาจิสอดไส้ไข่หวาน-ปูอัดกับแตงกวาญี่ปุ่นราดซอสมายองเนสท๊อบปิ้งด้วยไข่ปลาปรุงรสทานง่ายๆ/ซูชิเอนกาวะฟัวกราส์โรลลนไฟหอมๆด้านในสอดไส้ปูอัด-แตงกวาและแซลมอนราดซอสเทริยากิมาโยรสหวานมันผสานกับไข่ปลาบินเคี้ยวกรุบละลายในปาก โดยรวมถือว่าทางร้านปั้นซูชิมาคำไม่ใหญ่มากและจับคู่กับวัตถุดิบต่างๆมาได้เป็นอย่างดี อร่อยถูกใจทุกเมนูเลยครับ

ซูชิจานสุดท้ายสั่งมาแบบรวมๆทั้งหอยปีกนกเนื้อหวานกรุบกรอบ/ซูชิหอยเชลล์ลนไฟ/ซูชิหน้าปลาซาบะดองลนไฟไขมันเข้มข้นตัดด้วยรสเปรี้ยวอย่างลงตัว/ซูชิหน้าเอนกาวะลนไฟราดซอสพอนสึอมเปรี้ยวนิดๆช่วยตัดเลี่ยนไขมันของปลาได้เป็นอย่างดี ตามมาด้วยดงบุริต่างๆเริ่มจาก "ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่าง" เป็นข้าวซูชิวางด้วยปลาไหลชิ้นใหญ่ลนไฟราดซอสเทริยากิและไข่หวานสับ ข้อดีของชามนี้ก็คือไม่ราดซอสเยิ้มๆแบบหลายร้านและเนื้อปลาหอมควันมีความนุ่มฟูมากกว่า ใครเป็นสาวกอูนางิแนะนำให้สั่งครับ "ข้าวหน้าฟัวกราส์ด้ง" ข้าวซูชิท๊อบปิ้งด้วยฟัวกราส์ลนไฟกรอบนอกนุ่มในราดซอสเทอริยากิและไข่ปลาบินผสมไข่แซลมอนอร่อยได้รสฟัวกราส์เต็มๆคำ สุดท้ายคือ "ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอน" ไข่ปลาแซลมอนของร้านนี้ไม่เค็มเม็ดใหญ่เคี้ยวแล้วไขมันแตกในปากสะใจ วางบนข้าวซูชิผสมด้วยสาหร่ายเส้นช่วยเพิ่มกลิ่นหอมทานง่ายยิ่งขึ้น ใครกำลังตามหาไข่ปลาแซลมอนไม่เค็มทานได้ไม่อั้นที่นี่ตอบโจทย์ครับ