ช่วงหลังๆมา ผมเสนอกระทู้ในพันธ์ุทิพย์ 2-3 กระทู้ล่าสุด โดนลบกระทู้ตลอด แต่ก็ด้วยความเข้าใจว่าความเห็นที่อาจหมิ่นเหม่พอสมควร แต่กระทู้นี้มีเจตนาดีต่อประเทศ พยายามไม่ใช้อคติเอนเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ด้วยปกติผมเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และ อยู่ข้างม๊อบร้อยเปอร์เซนต์ แต่กระทู้นี้ผมได้พยายามถอยห่างมาอยู่ตรงกลางเพื่อเสนอความคิดเห็นที่อาจเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายได้ และ ด้วยความห่วงใยชีวิตของประชาชนทุกฝ่ายไม่ใช้เกิดการสูญเสีย จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลฯ ดังนี้
1. ให้ปรับปรุงทัศนคติให้ถูกต้อง อย่าเห็นว่าม๊อบเป็นศัตรู แต่ม๊อบก็คือลูกหลานของเรา เป็นคนไทยที่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เมื่อไหร่ก็ตามที่ยังมีอคติต่อกันว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรู จ้องล้างทำลายกัน ย่อมไม่มีทางสมานฉันท์ได้ ขณะเดียวกันฝ่ายม๊อบก็ต้องปรับทัศนคติตนเองเช่นกัน ว่าทุกคนต่างเป็นคนไทย ที่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อาจเห็นต่างกัน แต่ไม่ใช้ศัตรูกัน
2. ให้ทุกฝ่ายมองประชาชนเป็นหลัก อย่าไปมองที่อำนาจ ผลประโยชน์ อย่าไปมองว่าตนเองจะสูญเสียอะไร แต่ให้มองว่าประชาชนได้อะไร ทุกฝ่ายนี้คือทุกระดับ ให้ลดทิฐิ ให้มองคนเท่าๆกัน อย่ามองว่าคนต่างกัน ลดอัตราตนเองลง เป้าหมายอยู่ที่ประชาชนอยู่ดีกินดี มีเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นตามระบบประชาธิปไดยได้ไหม อย่าเอากฎหมายเป็นตัวตั้งแต่เอาหลักรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเป็นตัวหลัก ส่วนปลีกย่อยนั้นเขียนจนมั่วไปซะส่วนใหญ่
3.ให้รัฐบาลแสดงเจตจำนงให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการแสดงความคิดเห็นอย่าแกล้ง อย่าจับกุม อย่าคุมขัง ยกเลิกคดีความผู้เห็นต่างด้านการเมือง
4. ให้รัฐบาลเชิญตัวแทนม๊อบมาพบพูดคุยรับฟังกับนายกฯ จัดตั้งองค์กรสมานฉันท์ที่คู่กรณีทุกฝ่ายที่เห็นต่างๆมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นจนจบ
5. ให้สมาชิกวุฒิสภาลาออกทั้งหมด หรือ ไม่ก็รณรงค์ให้วุฒิสภาไม่ต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งนายกฯ ครั้งต่อไป และ ต้องไม่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้อำนาจเป็นของ สส ที่มาจากการเลือกตั้ง วุฒิให้แค่ความเห็นไม่ต้องยกมือใช้สิทธิต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากที่มาไม่เหมาะสมแต่แรก
6. ให้มีคณะ สสร. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
6. ให้นายกฯ ยุบสภา และ จัดการเลือกตั้งใหม่
ข้อเสนอแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองไทยขณะนี้ ทางสองแพร่งของผู้มีอำนาจ จะเลือกเป็นวีรบุรุษ หรือ ทรราชย์
1. ให้ปรับปรุงทัศนคติให้ถูกต้อง อย่าเห็นว่าม๊อบเป็นศัตรู แต่ม๊อบก็คือลูกหลานของเรา เป็นคนไทยที่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เมื่อไหร่ก็ตามที่ยังมีอคติต่อกันว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรู จ้องล้างทำลายกัน ย่อมไม่มีทางสมานฉันท์ได้ ขณะเดียวกันฝ่ายม๊อบก็ต้องปรับทัศนคติตนเองเช่นกัน ว่าทุกคนต่างเป็นคนไทย ที่มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อาจเห็นต่างกัน แต่ไม่ใช้ศัตรูกัน
2. ให้ทุกฝ่ายมองประชาชนเป็นหลัก อย่าไปมองที่อำนาจ ผลประโยชน์ อย่าไปมองว่าตนเองจะสูญเสียอะไร แต่ให้มองว่าประชาชนได้อะไร ทุกฝ่ายนี้คือทุกระดับ ให้ลดทิฐิ ให้มองคนเท่าๆกัน อย่ามองว่าคนต่างกัน ลดอัตราตนเองลง เป้าหมายอยู่ที่ประชาชนอยู่ดีกินดี มีเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นตามระบบประชาธิปไดยได้ไหม อย่าเอากฎหมายเป็นตัวตั้งแต่เอาหลักรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเป็นตัวหลัก ส่วนปลีกย่อยนั้นเขียนจนมั่วไปซะส่วนใหญ่
3.ให้รัฐบาลแสดงเจตจำนงให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการแสดงความคิดเห็นอย่าแกล้ง อย่าจับกุม อย่าคุมขัง ยกเลิกคดีความผู้เห็นต่างด้านการเมือง
4. ให้รัฐบาลเชิญตัวแทนม๊อบมาพบพูดคุยรับฟังกับนายกฯ จัดตั้งองค์กรสมานฉันท์ที่คู่กรณีทุกฝ่ายที่เห็นต่างๆมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นจนจบ
5. ให้สมาชิกวุฒิสภาลาออกทั้งหมด หรือ ไม่ก็รณรงค์ให้วุฒิสภาไม่ต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งนายกฯ ครั้งต่อไป และ ต้องไม่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้อำนาจเป็นของ สส ที่มาจากการเลือกตั้ง วุฒิให้แค่ความเห็นไม่ต้องยกมือใช้สิทธิต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากที่มาไม่เหมาะสมแต่แรก
6. ให้มีคณะ สสร. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
6. ให้นายกฯ ยุบสภา และ จัดการเลือกตั้งใหม่