ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ส่งสารยินดี 'ไบเดน' อวยพรประสบความสำเร็จ-นำภูมิภาคเข้มแข็ง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5286443
ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ส่งสารยินดี 'ไบเดน' อวยพรประสบความสำเร็จ-นำภูมิภาคเข้มแข็ง
ไบเดน - วันที่ 9 พ.ย. นาย
ทักษิณ ชินวัตร และ นางสาว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ นาย
โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากพรรคเดโมแครต หลังชนะการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา โดย นาย
ทักษิณ โพสต์ข้อความว่า
เรียน ท่านโจเซฟ ไบเดน
พวกเราขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อชัยชนะของท่านและรองประธานาธิบดี คามาลา แฮริส ในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์นี้
พวกเราในประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นทั้งหุ้นส่วนและพันธมิตรที่สำคัญของเรา พวกเราก็เหมือนประชาชนชาวเอเชียอื่นๆ ทั้งหลายที่มุ่งหวังด้วยความหวังอันสำคัญที่จะได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลของท่านในการก้าวข้ามอุปสรรคที่พวกเราประสบอยู่ในปัจจุบัน พวกเรามั่นใจว่าภายใต้การเป็นผู้นำของท่าน พวกเราจะสามารถนำภูมิภาคทั้งสองไปสู่ความสัมพันธ์ที่มีพลังและเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้นต่อไป
ด้วยความปรารถนาดีและขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการดำเนินการของท่านในอนาคต
ดร.ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีไทย ลำดับที่ 23
https://www.facebook.com/thaksinofficial/posts/1571002996417579
ด้าน นางสาว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความว่า
เรียน ท่านโจเซฟ ไบเดน
ข้าพเจ้าในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าขอส่งสารนี้เพื่อแสดงความยินดีจากใจจริงถึงท่านประธานาธิบดี ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
ในห้วงเวลาของความยากลำบากขณะนี้ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลภายใต้การนำของท่านจะร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ภูมิภาคของเราทั้งสองก้าวข้ามความท้าทายทั้งหลายที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นสูงสุดตามศักยภาพที่มีอยู่
ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการดำเนินการต่อไปในอนาคต
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีไทย ลำดับที่ 28
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/3829787570399003
ฝ่ายค้านเห็นพ้องยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เสนอสภาฯ พิจารณาคู่ร่างของรัฐบาล
https://www.thairath.co.th/news/politic/1973312
พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลง เห็นพ้องยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เสนอสภาฯ พิจารณาคู่กับร่างของรัฐบาล ชี้ ร่างฝั่งรัฐมีปัญหามาก จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน
วันที่ 9 พ.ย. 2563 นาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นำแถลงร่วมกับฝ่ายค้านถึงร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่รัฐบาลเสนอไปยังรัฐสภา ว่า เป็นร่างที่มีปัญหามาก เพราะมีการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน คล้ายกับการรณรงค์ประชามติเมื่อปี 2559 ประเด็นคำถามในการทำประชามติไม่มีความชัดเจน และเป็นไปในแนวทางที่รัฐบาลต้องการ รวมทั้งขอบเขตอำนาจของ กกต. ที่ยังมีปัญหาอยู่ แต่สุดท้ายพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำร่าง พ.ร.บ.ประชามติด้วย เพื่อประกบกับร่างของรัฐบาล โดยจะหารือกับประธานรัฐสภาว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เกี่ยวกับการปฏิรูปหรือไม่ และเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงส่งหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพราะควรส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น หากรัฐบาลต้องการยืมมือ ส.ว. เพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านไปในแนวทางที่รัฐบาลต้องการ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ทางด้าน นาย
ชูศักด์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าควรสอบถามประธานรัฐสภาให้ชัดเจน เนื่องจาก พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอร่าง พ.ร.บ.ประชามติ โดยอ้างว่าเสนอตามหมวด 16 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ จึงต้องให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ใช่กฎหมายปฏิรูปประเทศ แต่ต้องเป็นกฎหมายปกติ คือ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วค่อยเสนอวุฒิสภาพิจารณาต่อไป เมื่อดูในรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.ประชามติแล้ว กฎหมายต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ แต่ที่รัฐบาลเสนอมานั้นไม่มีใครได้แสดงความคิดเห็นเลยสักมาตราเดียว พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายสำคัญขนาดนี้ มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนจริงหรือไม่อย่างไร
ส่วนประเด็นการทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ กฎหมายมีกรอบว่าหากเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อทำประชามติเท่านั้น ไม่ได้เขียนว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเรื่องอะไร แล้วจะถามประชาชนอย่างไร ซึ่งน่าจะเป็นปัญหา
"
เราเห็นว่าร่าง พ.ร.บ. ที่รัฐบาลเสนอมาไม่ได้มีบทบัญญัติที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ หรือให้ความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก หากมีการทำประชามติ รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ประชาชนในการมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เพราะมีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีมากมายจากการรณรงค์ทำประชามติรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นร่วมกันว่าควรยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อนำเสนอให้สภาพิจารณาควบคู่ไปกับร่างของรัฐบาลด้วย".
JJNY : 4in1 ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ยินดี'ไบเดน'/ยกร่างพ.ร.บ.ประชามติคู่ร่างรบ./เสียงจากคณบดี/สื่อออสซี่คว้ารางวัลข่าวธรรมนัส
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5286443
ไบเดน - วันที่ 9 พ.ย. นายทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากพรรคเดโมแครต หลังชนะการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา โดย นายทักษิณ โพสต์ข้อความว่า
เรียน ท่านโจเซฟ ไบเดน
พวกเราขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อชัยชนะของท่านและรองประธานาธิบดี คามาลา แฮริส ในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์นี้
พวกเราในประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นทั้งหุ้นส่วนและพันธมิตรที่สำคัญของเรา พวกเราก็เหมือนประชาชนชาวเอเชียอื่นๆ ทั้งหลายที่มุ่งหวังด้วยความหวังอันสำคัญที่จะได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลของท่านในการก้าวข้ามอุปสรรคที่พวกเราประสบอยู่ในปัจจุบัน พวกเรามั่นใจว่าภายใต้การเป็นผู้นำของท่าน พวกเราจะสามารถนำภูมิภาคทั้งสองไปสู่ความสัมพันธ์ที่มีพลังและเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้นต่อไป
ด้วยความปรารถนาดีและขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการดำเนินการของท่านในอนาคต
ดร.ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีไทย ลำดับที่ 23
https://www.facebook.com/thaksinofficial/posts/1571002996417579
ด้าน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความว่า
เรียน ท่านโจเซฟ ไบเดน
ข้าพเจ้าในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าขอส่งสารนี้เพื่อแสดงความยินดีจากใจจริงถึงท่านประธานาธิบดี ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
ในห้วงเวลาของความยากลำบากขณะนี้ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลภายใต้การนำของท่านจะร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ภูมิภาคของเราทั้งสองก้าวข้ามความท้าทายทั้งหลายที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นสูงสุดตามศักยภาพที่มีอยู่
ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการดำเนินการต่อไปในอนาคต
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีไทย ลำดับที่ 28
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/3829787570399003
ฝ่ายค้านเห็นพ้องยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เสนอสภาฯ พิจารณาคู่ร่างของรัฐบาล
https://www.thairath.co.th/news/politic/1973312
พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลง เห็นพ้องยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เสนอสภาฯ พิจารณาคู่กับร่างของรัฐบาล ชี้ ร่างฝั่งรัฐมีปัญหามาก จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน
วันที่ 9 พ.ย. 2563 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นำแถลงร่วมกับฝ่ายค้านถึงร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่รัฐบาลเสนอไปยังรัฐสภา ว่า เป็นร่างที่มีปัญหามาก เพราะมีการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน คล้ายกับการรณรงค์ประชามติเมื่อปี 2559 ประเด็นคำถามในการทำประชามติไม่มีความชัดเจน และเป็นไปในแนวทางที่รัฐบาลต้องการ รวมทั้งขอบเขตอำนาจของ กกต. ที่ยังมีปัญหาอยู่ แต่สุดท้ายพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำร่าง พ.ร.บ.ประชามติด้วย เพื่อประกบกับร่างของรัฐบาล โดยจะหารือกับประธานรัฐสภาว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เกี่ยวกับการปฏิรูปหรือไม่ และเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงส่งหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพราะควรส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น หากรัฐบาลต้องการยืมมือ ส.ว. เพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านไปในแนวทางที่รัฐบาลต้องการ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ทางด้าน นายชูศักด์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าควรสอบถามประธานรัฐสภาให้ชัดเจน เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอร่าง พ.ร.บ.ประชามติ โดยอ้างว่าเสนอตามหมวด 16 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ จึงต้องให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ใช่กฎหมายปฏิรูปประเทศ แต่ต้องเป็นกฎหมายปกติ คือ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วค่อยเสนอวุฒิสภาพิจารณาต่อไป เมื่อดูในรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.ประชามติแล้ว กฎหมายต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ แต่ที่รัฐบาลเสนอมานั้นไม่มีใครได้แสดงความคิดเห็นเลยสักมาตราเดียว พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายสำคัญขนาดนี้ มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนจริงหรือไม่อย่างไร
ส่วนประเด็นการทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ กฎหมายมีกรอบว่าหากเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อทำประชามติเท่านั้น ไม่ได้เขียนว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเรื่องอะไร แล้วจะถามประชาชนอย่างไร ซึ่งน่าจะเป็นปัญหา
"เราเห็นว่าร่าง พ.ร.บ. ที่รัฐบาลเสนอมาไม่ได้มีบทบัญญัติที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ หรือให้ความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก หากมีการทำประชามติ รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ประชาชนในการมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เพราะมีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีมากมายจากการรณรงค์ทำประชามติรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นร่วมกันว่าควรยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อนำเสนอให้สภาพิจารณาควบคู่ไปกับร่างของรัฐบาลด้วย".