สวัสดีค่า เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนน วันนี้พบกับข้าวเหมือนเดิมนะค้า แต่ว่าวันนี้ข้าวไม่ได้มารีวิว บิวตี้ ความสวย ความงามใดๆ เพราะวันนี้จะไปแชร์ประสบการณ์ เป็น office syndrome และรักษายังไง เดี๋ยววันนี้ข้าวจะมาแชร์แบบหมดเปลือก!!

ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะว่าตั้งแต่โควิด19 มาเนี่ย มหาลัยของข้าวก็จัดให้เรียนออนไลน์ที่บ้านทุกวิชาเลยค่ะ ซึ่งพอเรียนออนไลน์เนี่ย เราก็ต้องอยู่ที่โต้ะทำงานนานมากก บางครั้งเช้ายันเย็นเลยก็มีค่ะ สิ่งที่ตามมาก็คือ ปวดหลัง ปวดไหล่มากก นั่งท่าเดิมนานๆ  ตอนแรกนะคะข้าวไปนวดมาหลายที่มากๆ แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ลองนวดมาหมดแล้วคอบ่าไหล่ นวดไทย ก็ไม่หาย จนข้าวมาเจอที่นี่คะ The move club clinic ค่ะ เป็นคลินิกกายภาพบำบัด สาขาที่ข้าวมาใช้บริการคือสาขา บางขุนนนท์ค่า 🥰

** รีวิวนี้เป็น honest review นะคะ ไม่ได้รับการจ้างใดๆ แต่อยากจะทำคอนเท้นแชร์ประสบการณ์ ให้เพื่อนๆ เผื่อใครกำลังศึกษา หาข้อมูลอยู่ค่า รูปทั้งหมดนี่ถ่ายโดยเดอะเบ๊แฟนข้าวเองค้า 😋 การถ่ายรูปทั้งหมดได้ขออนุญาตทางคลินิกแล้วน้า**

ตอนมานะคะ ข้าวเลือกเดินทางมาด้วย MRT แล้วลงสถานีบางขุนนนท์ค่ะ เลือกลงทางออกที่ 1 นะคะฝั่งถนนสุทธาวาส

เดินต่ออีกนิดนึงข้ามแยกบางขุนนท์มาแปปเดียวก็จะเจอป้ายคลินิกแล้วค่ะ ใกล้มากก เดินทางสะดวกมากจริงๆ 

นี่ค่า บรรยากาศภายในคลินิกน่ารักมาก สำหรับใครที่มีใครมาเป็นเพื่อนก็มีที่นั่งรอค่า มีเจลแอลกอฮอลให้ด้วยเลิฟฟ
มาถึงขั้นตอนแรกกันเลย🌟

ขั้นตอนแรกนะคะ จะเป็นการกรอกข้อมูลต่างๆ พี่นักกายภาพจะถามว่าเราแพ้ยาตัวไหนมั้ย อาการเป็นยังไง

เสร็จแล้วเนี่ย ก่อนจะข้ามไปขั้นตอนที่สอง เราก็ต้องเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ เราก็จะเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องที่เราจะทำการรักษาเลย จะบอกว่าห้องเนี่ยเป็น ไพรเวทมาก หนึ่งคนต่อหนีงห้อง ไม่ต้องกลัวเขินใดๆเลยย

เปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย พี่นักกายภาพก็จะมาตรวจประเมินอาการอย่างละเอียดค่ะ มีให้ลองยกแขน ลองหันหน้าด้านต่างๆ พี่เค้านะคะจะลองกดจุดต่างๆว่าเราเจ็บตรงไหนไหม บางจุดเนี่ยถ้าไม่กดลงไปก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะปวดขนาดนี้เลย 😢

    เมื่อพี่นักกายภาพประเมินเสร็จแล้วนะคะ ก็ได้ผลประเมินมาว่า อาการเบื้องต้นของข้าวในวันนี้ มีภาวะไหล่งุ้มไปข้างหน้า แถมยังคางยื่นนิดนึงอีก ข้อนี้เนี่ยข้าวไม่เคยรู้มาก่อนเลย คิดว่าตัวเองหลังตรงตลอด พอเป็นแบบนี้ทำให้กล้ามเนื้อด้านหน้ากับด้านหลังทำงานไม่สมดุลกันค่ะ เลยทำให้ปวดมากๆ  พี่เค้าอธิบายละเอียดมากๆทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของปัญหานี้ วันนี้ข้าวก็เลยทำการรักษาโปรแกรม Pain Relief ค่ะ ที่จะมีการใช้เครื่องมือทางกายภาพด้วย 
😣 ตอนแรกแอบกลัวน้า 

เริ่มกันที่ขั้นตอนแรกเลย พี่นักกายภาพเลือกเป็นเครื่อง Ultrasound ค่ะ ตอนแรกพี่เค้าจะทาร่วมกันเจลเย็นๆให้ ขั้นตอนนี้ไม่เจ็บเลยค่า เหมือนจะเป็นการคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งก่อน ลดการยึดของข้อต่อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อเรา แล้วก็เพิ่มการไหลเวียนเลือดของเราด้วยค่ะ ขั้นตอนนี้เนี่ยข้าวมีชาบ้าง เห็นจากการจับไหล่ในรูปนะคะ 555555 เพราะว่ากล้ามเนื้อข้าวเกร็งบางจุดค่า แต่รวมๆคือไม่เจ็บเลยย 

ขั้นตอนที่2 นะคะ พี่นักกายภาพเลือก เครื่อง shockwave ค่า เป็นการรักษาด้วยคลื่นกระแทก ที่จะช่วยลดอาการปวดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อ คือตัวนี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายเราเกิดกระบวนการซ่อมแซม หรือสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่นั่นเองค่ะ ผู้ป่วยเรื้อรังก็ใช้ได้น้า 
: ขั้นตอนนี้เนี่ยตื่นเต้นมากกค่ะ เพราะพี่นักกายภาพบอกว่าเสียงดังนิดนึงนะคะ อะเราก็เตรีมใจไว้ พอยิงไปปึ้กแรกความรู้สึกเหมือนมีคนมาเคาะกระดูกดังปึก 55555 พอพี่เค้ายิงไปเรื่อยๆเนี่ย มันก็ไม่ตกใจ แล้วไม่รู้สึกว่าแรงเหมือนครั้งแรกแล้วค่ะ ถ้าใครรู้สึกแรงไปเนี่ยแจ้งพี่เค้าได้เลยน้า พี่นักกายภาพใจดีมากเลยค่ะ จะปรับให้เหมาะสมกับเราด้วยค่า

ส่วนขั้นตอนที่สามเนี่ยข้าว เลิฟฟ ที่สุด ><  คือขั้นตอน electrical stimulation  ค่ะ คือพี่นักกายภาพเนี่ยจะแปะแผ่น electrode ที่ตำแหน่งที่เราปวด และแผ่นนี้จะปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อลดอาการปวดเกร็งค่า แล้วพี่เค้าก็จะเอาเครื่องอัลตราซาวตัวเดิมเนี่ยมาใช้ด้วยค่ะ สบายมากๆเลยขั้นตอนนี้ เกือบหลับ 😴

ขั้นตอนที่สี่นะค้า ขั้นตอนนี้เรานอนสบายๆ ได้เลย จะเป็นการประคบร้อน ความรู้สึกจะอุ่นๆ ที่ช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด กับลดอาการปวดค่า ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงคลายตัวด้วยน้า

Last but not least ค่า ขั้นตอนเกือบสุดท้ายนี้ พี่นักกายภาพจะช่วยยืดบริเวรกล้ามเนื้อนะคะ หลังจากทำการรักษาด้วยเครื่องมือของทางคลินิกทั้งหมดเนี่ย รู้สึกได้เลยว่าเบาลงมากๆ อาการปวดต่างๆก็หายไปเลยค่า 

ขั้นตอนสุดท้ายนะคะ พี่นักกายภาพจะแนะนำการออกกำลังกายกล้ามเนื้อต่างๆ เพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถนำกลับไปบริหารที่บ้านได้ด้วยค่ะ ของข้าวเนี่ยจะเป็นการออกกำลังกายเน้นที่กล้ามเนื้อสะบัก โดยการบีบสะบักเข้าหากัน เพื่อช่วยไม่ให้ไหล่งุ้มไปข้างหน้าค่ะ แล้วก็มีท่ายืดกล้ามเนื้อตรงหน้าอก ให้ไหล่งุ้มได้เปิดออกด้วยค่ะ และพี่นักกายภาพแนะนำให้เปลี่ยนท่านั่งเวลาเรียนกับเวลาเล่นโทรศัพท์ด้วยค่ะ 😖 ข้อนี้ยากสุด555555

                   จบไปแล้วนะคะ สำหรับการแชร์ประสบการณ์รักษา office syndrome ของข้าวค่า 😋
ตอนนี้หลังเบาสบายขึ้นมาก โดยรวมแล้วให้ 5 เต็ม 5 เลย เพราะเซอไพรส์มาก บางอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองมีปัญหาเช่นไหล่งุ้มเนี่ย พอมาตรวจที่เดอะมูฟเลยพบว่าตัวเองเป็น ตอนแรกกลัวเจ็บมากๆ แต่พอเข้ามาทำจริงๆ ไม่มีความรู้สึกนั้นเลยค่ะ พี่ๆนักกายภาพแนะนำดี ใจดีมาก ทำให้เราเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากอะไรต้องแก้ยังไงชัดเจนมากค่ะ ส่วนเรื่องสถานที่เนี่ยก็ผ่านมากให้เกิน5 เลย เพราะสะอาดมาก แบ่งสัดส่วนชัดเจนค่ะ มีความเป็นส่วนตัว เครื่องมือที่ใช้เป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานค่ะ แอบถามมาว่าหลักล้านเลยน้า 🤫
การเดินทางก็สะดวกมากเลยค่าใกล้รถไฟฟ้า เหมือนจะมีที่จอดรถด้วยนะ

เพื่อนๆคนไหนหรือพี่พี่คนไหน กำลังอยู่ในสภาวะเดียวกับข้าว ข้าวแนะนำมากๆเลยนะคะ หรือใครไปแล้วเป็นยังไงมาบอกข้าวกันได้นะคะแนะนำที่นี่มากๆ และทาง คลินิกกายภาพบำบัดเดอะมูฟคลับ สาขาบางขุนนนท์ เนี่ยมี facebook page ด้วยนะคะ เพื่อนๆเข้าไปดูได้เล้ยยย