[CR] รีวิวเขาหลวง สุโขทัย 2020 ฉบับ 2 วัน 1 คืน


เรื่องมันมีอยู่ว่าอยากไปเขาหลวง สุโขทัย แต่ไม่ได้ออกกำลังกายมาแรมปี คนอื่นยังไปได้ เราก็ต้องไปได้สิ คำพูดปลอบใจตัวเอง 555+
อย่างที่รู้กัน เขาหลวงขึ้นชื่นเรื่องของความโหด ระยะทางแค่ 3.7 กม. แต่ทางขึ้นชัน45-90องศาตลอดทาง บอกก่อนเลย เราไม่ใช่สายขึ้นเขา 
เคยไปมาที่เดียวคือภูกระดึงปีที่แล้ว ร่างกายไม่ต้องพูดถึงไม่ได้เตรียมพร้อม แต่อยากไปใจๆไว้ก่อน 555

เชื่อว่าหลายคนอยากไปพิชิตเขาหลวงสักครั้ง แต่กลัวขึ้นไม่ถึง แต่จากประสบการณ์ที่เราไปมา เขาหลวงเหนื่อยจริง เจ็บจริง แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก เราขึ้นแบบเรื่อยๆไม่รีบ เหนื่อยก็พัก ฟังเสียงร่างกายตัวเอง คนไม่ออกกำลังกายมานานแบบเราใช้เวลาขึ้น 4 ชั่วโมง ขาลง 3.5 ชั่วโมง ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าขาลงทรมานกว่า พร้อมอุทานไปว่า นี่ตูขึ้นมาได้ยังไง !!!ชันขนาดนี้ 5555 วิวด้านบนไม่ต้องพูดถึง สุดบรรยาย สมกับที่แบกร่างกาย เดินขาลากไปจนถึงยอดเขา

เขาหลวงตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย สูงจากระดับน้ำทะเล 1200 เมตร
อุทยานเปิด 05.30 น. เริ่มเดินขึ้นเขา 07.00น.- 14.00น.
 จุดเช็คอินบนเขาหลวง (ระยะทางจากจุดกางเต็นท์)
เขาพระเจดีย์ 750 เมตร / เขาภูกา 2200 เมตร
เขาพระแม่ย่า 980 เมตร <ชมพระอาทิตย์ตก>
ผานารายณ์ 400 เมตร <ชมพระอาทิตย์ขึ้น>
ผาชมปรง 400 เมตร
ทั้งหมดนี้ สามารถเดินเป็นวงกลมได้และเที่ยวครบทุกจุดภายใน 2 วัน 1 คืน  
**สิ่งอำนวยความสะดวก**      
- มีเต็นท์และเครื่องนอนให้เช่ายกเว้นหมอน
- มีเตาแก๊ส หม้อ จาน ช้อน ให้เช่า
- มีข้าวไข่เจียวขาย
- มีร้านค้าสวัสดิการบนเขาหลวง หลักๆจะมี เครื่องดื่ม น้ำดื่มขวดเล็ก เป๊บซี่ มาม่า ไข่ ขนม เปิด 07.30 น.-20.30 น.
- ไฟปั่นเป็นเวลา ช่วงเย็นถึง 4 ทุ่ม
- มีห้องน้ำแยกชายหญิง มีหลายห้อง (น้ำมีพอใช้)
- มีน้ำร้อนฟรี บริการช่วงเช้ากับเย็น
  ข้อแนะนำ/สิ่งที่ควรเตรียมไป 
1.ต้องจองผ่านแอพ Q ล่วงหน้าได้ 15 วัน(จำกัดวันละ200)
2.เตรียมน้ำไปให้พอ ระหว่างทางไม่มีน้ำให้เติม ไม่มีของขาย
3.ระหว่างทางเดินขึ้นยุงเยอะ เตรียมยาทาหรือสเปรย์ไปด้วย
4.ลูกอม หมากฝรั่ง หรือช็อกโกแลต เยลลี่ กินระหว่างเดินขึ้นช่วยได้ /แล้วก็ห่อข้าวไปกินมื้อกลางวัน
5.มือใหม่ ไม่ควรแบกของขึ้นเอง แนะนำจ้างลูกหาบ(ควรไปแต่เช้าลูกหาบมีน้อย)
6.ถ้าจะให้ดีฟิตร่างกายไปสักหน่อย จะได้ไม่เจ็บ
7.ใครติดโทรศัพท์พก Power Bank ไปสะดวกกว่า
8.ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ สเปรย์หรือยากินก็ได้
9.ไฟฉาย/เสื้อกันฝน/ ผ้าเช็ดตัว
10.สัญญาณโทรศัพท์ทุกค่าย ขาดๆหายๆ
11.เต็นท์และเครื่องนอนไม่ต้องจองออนไลน์ มาจองที่อุทยานได้เลย
13.รองเท้าควรเป็นรองเท้าดอกลึก ถ้าฝนตกจะลื่น
  ค่าบริการ
- ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40
- ค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 30/คน/คืน
- ค่ามัดจำขยะ 200 บาท คืนตอนลง
- ค่าจ้างลูกหาบ กก.ละ 25
- เต็นท์ 2 คน 150/ เต็นท์ 3 คน 225/ เต็นท์ 6 คน 600 /ถุงนอน30/ผ้าห่ม 30 /แผ่นรองนอน20/เสื่อ 20/
เตาแก็สปิ๊กนิก 150/ น้ำดื่มขวดเล็ก โค้ก น้ำอัดลม มาม่า 35/ ไข่ 10

 ทริปนี้เราเดินทางไปวันที่ 12 - 13 กันยายน 2563
สำหรับการเดินทาง
1.คนที่มีรถส่วนตัว สามารถขับรถไปจอดที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหงได้เลยครับ ด้านในมีที่จอดรถ หรือใครอยากจะไปนอนก่อนขึ้นสัก 1 คืน ที่อุทยานก็มีบ้านพักไว้รับลอง จองได้ที่เว็บไซด์อุทยานแห่งชาติ หรือใครสะดวกนอนเต็นท์ ก็ไปกางเต็นท์นอนรอก็ได้ มีห้องน้ำ มีร้านค้าไว้บริการ
2. คนที่ไม่มีรถส่วนตัว จากที่หาข้อมูลมา ให้นั่งรถทัวร์จากหมอชิต รอบประมาณ 22.00 น. ให้ลงที่เซเว่นคีรีมาศ แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์วินไปที่อุทยาน เที่ยวละ ประมาณ 160 บาท อย่าลืมขอเบอร์ไว้ด้วยนะเผื่อขากลับโทรให้วินมารับ หรือถ้าใครไปเป็นกลุ่มให้ไปลงที่บขส.แล้วเหมารถไปจะคุ้มกว่า

ทริปนี้เราขับรถไปเองจากพิจิตร ไปนอนในเมืองก่อน 1 คืน แล้วตอนเช้ามืด ขับรถมาที่อุทยาน เราไปถึงประมาณ 6 โมงเช้าได้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนประมาณ 05.30 น.
มาถึงที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง เราจะเจอด่านเก็บค่าบริการก่อน จะมีการตรวจวัดไข้ ลงทะเบียนเช็คจากแอฟ QueQ ที่เราจองมา(จำกัดวันละ 200คน จองล่วงหน้าได้ 15 วัน) ซึ่งที่เราจองเจ้าหน้าที่ปริ๊นชื่อไว้แล้ว เราเพียงแค่บอกชื่อ ก็เป็นอันเรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท รถมอเตอร์ไซด์ 20 บาท 
ขับรถเข้าไปด้านใน ไปทำการลงทะเบียน จองเต็นท์ จ่ายค่าพื้นที่กางเต็นท์สำหรับคนที่มีเต็นท์มาเอง แล้วก็จ่ายค่ามัดจำขยะ 200 บาท จะได้คืนตอนเรานำขยะกลับลงมา พอลงทะเบียน เลือกอุปกรณ์เครื่องนอนเสร็จจ่ายตัง จะได้ใบจองมา 1 ใบ ใบคิวเล็วๆ 1 ใบ แล้วนำจองใบ ไปยื่นด้านบนเพื่อรับอุปกรณ์เครื่องนอน ส่วนใครมีพาสสปอร์ตอุทยานก็สามารถปั้มตราตรงนี้ได้เลย
ลงทะเบียนเสร็จปุ๊บ ให้มารอตรงศาลาลูกหาบ เค้าจะเรียกตามคิว ใบคิวเล็กๆที่เราได้ตอนลงทะเบียนมายื่น จากนั้นก็ทำการชั่งน้ำหนัก อาจจะมีการถ่ายรูปไว้ก็ได้ว่าคนไหนแบกของเรา จากนั้นเราก็เดินขึ้นได้เลย
วันที่เราไปเราได้คิวที่ 4 ลงทะเบียนเสร็จสับ เราเดินขึ้นประมาณ 7 โมงนิดๆ ของเราประมาณ 13 กิโล ถามว่าแบกขึ้นเองไหม สบายๆครับ
จ้างลูกหาบแบกสิครับ รออะไร 5555
ไปละครับ กระเป๋าเรา หนุ่มน้อยเป็นผู้แบกไป ใช้แรงงานเด็ก 555 
ส่วนเราพร้อมครับ ถ่ายรูปกับป้ายก่อนขึ้นซะหน่อย เดี๋ยวดูว่าสภาพก่อนขึ้น กับขึ้นถึงแล้วจะเป็นยังไง 555
ก่อนขึ้น ต้องพึ่งสิ่งศักสิทธิ์ก่อนหน่อย ขอพรพระแม่ย่ากันก่อน ให้เดินขึ้นเขาราบรื่นปลอดภัย 
ก่อนจะเริ่มเราไปดูแผนที่ให้หนักใจเอ้ยชื่นใจกันก่อนดีกว่า 555 เผื่อจะได้วางแผน
จุดแรกคือประดู่ใหญ่ > ไปมออีหก> จุดชมวิว > ตะเคียนคู่ > น้ำดิบผามะหาด > ชานเบิกไพร > ไทรงาม > ถ้ำพระนารายณ์ > ถ้ำพระ > ถ้ำค้างคาว > ปล่องนางนาค > พระยาแล่นเรือ > ค่ายพักแรม  จากจุดเริ่มต้นระยะทาง 3.7 กม.เองเนาะ 
ทางเดินช่วงแรก ชิวๆไปครับ เป็นทางราบเรียบ ไม่เห็นชันอย่างที่เค้าบอกกันเลย โถ่วววว
ทางแบบนี้ สวนหลังบ้านชัดๆ ใครว่าชัน
สักพัก โอโห การเดินทางของจริงได้เริ่มขึ้นแล้ว 555 แรกๆชั้นนิดๆ สักพัก 45 องศาไปเลยจ้า
เดินมาได้ 15 นาที ขอพักก่อน 5555
มาถึงจุดแรก จุดพักสมพง เดินมาเกือบชั่วโมง ระยะสะสมอยู่ที่ 825 เมตร 5555 โอ้โห นึกว่าเดินมาเป็นกิโล2กิโล 
ที่เห็นในรูปคือต้นสมพงครับ ต้นใหญ่มาก ข้างๆเป็นต้นมะค่าโมง 
ไปครับ เดินขึ้นกันต่อ น้ำดิบที่ให้เติมระหว่างทางช่วงนี้ไม่มีนะครับ เตรียมน้ำขึ้นไปกันให้พอน้า 
แหงนหน้ามองขึ้นไป โอ้โห ชันไรขนาดนั้นนนน บ่นไปงั้น เดินก้มหน้าแล้วไปต่อ
ในที่สุดก็เดินขึ้นมาถึง.... ประดู่ใหญ่ 1 กม. เดินมาตั้งไกล สภาพก็เป็นอย่างที่เห็น อยากจะนอนหลับไหลอยู่ตรงนี้ TT
สักพักก็เริ่มมีคนเดินตามหลังขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆแซงไปทีละคน 2 คน ไปก่อนเลยครับพี่ๆ ผมไม่รีบ 5555
โชคดีหน่อยวันที่เราไป อากาศไม่ร้อน มีหมอกฟุ้งกระจายตลอด เลยทำให้การเดินขึ้นไม่ท้อเท่าไหร่ 
สภาพคนอยากมาครับ พักทุกจุด ตรงไหนนั่งได้ พักได้ พักก่อน 5555 
มออีหก ระยะ 1400 เมตร พึ่งผ่านมาแค่ 2 จุด ระยะทางอีกยาวไกลเอ้าไปต่อครับ
ไม่เห็นทางเดินข้างหน้าแล้ว แต่ที่เห็นถึงความชัดเจนที่สุดนั่นก็คือ ความชันของระยะทาง 555 จะบอกว่า น้องทาก ไม่มีนะ 
วันที่เราไปไม่เจอสักตัว ขนาดบรรยากาศชื้นมากๆ
จากมออีหก 300 เมตร เราก็มาถึงจุดพักชมวิว ระยะสะสมที่ 1600 เมตร ยังไม่ถึงครึ่งทางนะจ๊ะ 5555
จุดชมวิวแต่ไหนละวิว มองไม่เห็นอะไรเลย หมอกขาวไปหมด 
ดอกอะไรไม่รู้ สวยดีนะ 
ไปต่อครับ จากจุดชมวิว 300 เมตร เราก็จะมาถึง ตะเคียนคู่ ระยะสะสมที่ 1900 เมตร ตรงนี้แหละฮะ ครึ่งทาง บริเวณนี้ก็จะมีแคร่ให้นั่งพักผ่อน 
น้องมากับแม่ น้องเดินเก่งมาก แล้วน้องก็แซงเราไป 555 
ไปครับ เราก็ไปต่อ
แล้วเราก็มาถึง น้ำดิบผามะหาด จุดเติมน้ำ ที่ไม่มีน้ำให้เติม แต่ว่ามีแคร่ให้นั่งพัก ระยะสะสมอยู่ที่ 2300 เมตร เวลาประมาณ 10 โมงเช้า
เดินมาประมาณ 3 ชั่วโมง ได้ประมาณ 2.3 กม. 5555
ชานเบิกไพร ระยะสะสมที่ 2700 เมตร อีกแค่ 1 กม. เท่านั้น ทา
ชื่อสินค้า:   เขาหลวง จ.สุโขทัย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่