สวัสดีค่ะ เนื่องจากเป็นกระทู้แรก ขอแนะนำตัวก่อนเลย
ชื่อ กะตังค์ ค่ะ ชอบการท่องเที่ยวมาก ๆ
แล้วตอนนี้ตังกับแฟนก็ได้เริ่มต้นการท่องเที่ยวแบบการเดินป่ากันมาได้สักพัก
และทริปนี้เราจะเริ่มกันด้วยที่ เ ข า ห ล ว ง สุ โ ข ทั ย กันค่าาา
ไปกันเลยยย ~
------------------------------
เ ข า ห ล ว ง สุ โ ข ทั ย
------------------------------
เนื่องจาก ช่วงที่เราไปคือวันที่ 4 - 6 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนก้รู้กันดีกว่าเป็นช่วงหลังโควิด-19 ที่พึ่งจะเปิดให้ท่องเที่ยวกันได้มากขึ้น แต่การท่องเที่ยวอุทยานนั้น ต้องมีการจองผ่าน App QueQ เพราะการเปิดอุทยานให้ท่องเที่ยวแต่ละอุทยานมีการจำกัดคนเข้าไม่เท่ากันในแต่ละที่ ' ทุกคนอย่าลืมลงทะเบียนกันก่อนท่องเที่ยวด้วยนะคะ '
พวกเราสองคนออกเดินทาง คืนวันที่ 3 กรกฎาคม เพื่อที่จะไปให้ถึง ' อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ' ในตอนเช้า ของวันที่ 4
พวกเรามาถึงอุทยานเแห่งชาติรามคำแหงช่วงประมาณ ตี 4 กว่าๆ ซึ่งคนที่ลงชื่อไว้สามารถเข้ามาด้านในได้เลย
* ส่วนคนที่ลงทะเบียนไม่ทันหรือไม่ได้ลงทะเบียน เราไม่แน่ใจเขาให้เข้ามาช่วงฟ้าเปิดหรือว่ายังไงนะคะ *
อัตราค่าเช่าของนะคะ ( ไม่รวมลูกหาบนะคะ ค่าลูกหาบเหมือนจะต้องคุยแยกค่ะ )
_______________
จะเห็นได้ว่ามีการลงทะเบียนที่เป็นระบบระเบียบ รวมถึงการจำกัดขยะของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
พอใจมาก ๆ ค่ะในจุดนี้ แค่ตอนลงทะเบียนอาจจะช้าไปบ้าง เนื่องจากใช้เป็นระบบ อัตโนมือค่ะ (พี่เจ้าหน้าที่นั่นเอง)
พอลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย หลายท่านสามารถเลือกใช้บริการลูกหาบ หรือว่าท่านใดที่แบกของเอง สามารถเดินขึ้นได้เลยนะคะ
ส่วนทางเรา ขอไปหาอะไรรองท้อง + แพ็คข้าวเที่ยงไปไว้กิน เผื่อเดินไม่ถึงจุดกางเต๊นท์ก่อนเที่ยง แหะ ๆ
ซึ่งระยะทางรวมโดยประมาณการบวกของเราน่าจะอยู่ประมาณเกือบ ๆ 4 กิโลเมตร
ภายในอุทยานแห่งชาติรามคำแหงนั้นก็มี นี่จ้าา โรงอาหารและร้านชำ *** ควรพกน้ำดื่มไปในบริมาณที่เพียงพอนะคะ ***
ข้างบนราคาโหดมากกว่าข้างล่างเยอะค่ะ แต่ด้านบนมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เช่าเยอะมาก เราแนะนำให้พกไปเท่าที่จำเป็น แต่น้ำดื่มระหว่างทางสำคัญมากค่ะ
ตรงจุดนี้จะมีอาหารราดข้าวหรือกับข้าวให้เราเลือกทานเป็นข้าวเช้า และ สามารถห่อขึ้นไปกินด้านบนได้นะคะ
และแน่นอน เราเลือกจะแพ็คขึ้นไปแน่ ๆ จ้า สำหรับมื้อเที่ยงวันนี้ค่า
ไปเดินขึ้นเขาหลวงสุโขทัยกันเล้ยย ~~
----------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มเดิน ! 8:30 น. โดยประมาณของ วันที่ 4 ก.ค. 63
อันนี้ก็จะมีป้าย กับ ซุ้มประตูเก๋ ๆ ให้ถ่าย
ทางเราก็ตั้งใจว่าไว้มาถ่ายตอนขากลับ เพราะกลัวช้า เดี่ยวอากาศจะร้อนน
อันนี้คือ จุดแลนด์มาร์คสำคัญระหว่างทางเดิน จะมีประวัติความเป็นมา และสถานที่นั่งพักพอกรุบกริบ
ระยะทางรวมจากป้าย 3720 เมตร หรือ 3.7 โลนั่นเองง ไปไปไป ลุ้ยยย
- - - - - - - - - - - - - -
การเดินขึ้นในช่วงแรกก็จะมีศาลเล็ก ๆ แวะให้ไหว้พระให้ฉ่ำใจกันนิดหน่อย และมีไม้ไผ่หรือกิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ ให้เลือกตามความถนัดมือของแต่ละคน
เส้นทางช่วงเริ่มต้นก็จะประมาณในรูปเลยค่ะ ส่วนมากจะเป็นเดินขึ้น ทางชัด มีหินให้เหยียบไปเป็นขั้น ๆ ยังถือว่าสบายตัวอยู่ค่ะ
ตอนแรกก็นำอยู่ดี ๆ
โดนแซงไปแล้วค่าาาาา นั่นทางเดินหรืออะไรค๊าาคุณพี่
ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ที่ว่าทางเดินพอเดินไหวทั้งหมดค่ะ !
และเป็นปกติของการเดินทางพร้อมความลำบาก เราจะได้เพื่อนร่วมทางใหม่ๆ
ที่เดิน (ช้า) ไปพร้อมกับเราค่ะทุกคน
ส่วนคำว่าถึงด้านบนก่อนเที่ยง สำหรับเราสองคนนั้นไม่มีจริงค่ะ ทางที่เห็นตอนแรกเป็นเพียงภาพชวนวาดฝันเท่านั้น
หลังจากนั้น อย่าว่าแต่ทางเดินเลยค่ะ ขอทางบันไดเลื่อนมีมั้ยคะ! เป็นการเดินเขาครั้งที่ 2 ของพวกเรา แบบ ไม่ มี ทาง ราบ เลย สะเทือนใจมากค่ะ
เหนื่อยแบบ อยากจะดิ้น 5555555555
อันนี้คือพี่ผู้ร่วมเดินเรื่อย ๆ ไปกับเราสองคนค่ะ
พอถึงจุดถัดไป หลังจากใช้เวลาการเดินมาประมาณ 3 ชั่วโมง จนตอนนี้เกือบเที่ยงพบว่า นั่นแหละค่ะ ยังไม่ถึงครึ่งทาง ! ! ! ! !
และแล้วเราก็เสียแฟนให้กับพี่คนนั้นค่ะ หยอกกก ให้เขาเดินนำไปก่อนเลยค่ะ เราก็จะค่อย ๆ เดินตามขึ้นไป
ความสวยงามของการท่องเที่ยวธรรมชาติ นอกจากวิวทิวทัศน์ ก็นี่เลยค่ะ มิตรภาพ และการช่วยเหลือกันของคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ทำให้เราหลงรักการเดินป่า ปีนเขา ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ มาก ๆ
สถานนีต่อไป : จุดชมวิว
เป็นวิวแบบ 180 องศาจริง ๆ ค่ะ อากาศดีมาก ขนาดยังเดินไม่ถึงจุดพักแรม หลาย ๆคนจะเลือกนั่งพักกันที่จุดนี้ค่ะ
ทำให้เราได้มิตรภาพเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย บางกลุ่มก็ไม่ได้มาด้วยกันแต่มาเดินด้วยกันกลายเป็นกลุ่มใหญ่ก็มีค่ะ
ปะ เดินต่อ
จุดตะเคียนคู่ : เป็นจุดที่เราทำการนั่งกินข้าวกันค่ะ เพราะตอนนี้ก็เที่ยงกว่าแล้ว
ยังเหลือระยะทางอีกเยอะในการเดินเพื่อถึงจุดหมายค่ะ
และแล้วความพีคก็ได้มาเยือน ...
ฝนตก หนักมากกกก ในช่วงที่เราเดินถึงประมาณป่าไผ่ แต่บรรยากาศดีมากกก
พวกเราเห็นละอองฝน โปรยผ่านใบไม้เป็นฝอยเล็ก ๆ นี่ทำให้รู้สึกสดชื่น และสะอาด
พวกเราตัดสินใจใส่ชุดกันฝนแล้วเดินต่อไป
" ลองเดินป่าท่ามกลางฝน คุณจะได้รับความสดชื่นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน "
! ! ! ! ป้ายที่รอคอย
จุดนี้สวยมากทุกคน การที่ฝนตกทำให้เราถ่ายมาเต็ม ๆ ไม่ได้ แต่คิดภาพตามนะคะ
เราต้องเดินวนโค้งขึ้นไป ตรงกลางจะเป็นเหมือนดงหญ้า ที่พริ้วไปตามลม สวยและสดชื่นมากจ้าาา
เห็นแสงแล้ว เห็นแสงแล้ววววววว
ถึง แล้วจ้าาาาาาาาา โอ้ยยย น้ำตาจะไหลลล
ถึงแล้วจ้า เขาหลวงสุโขทัย จุดพักแรม เวลาประมาณ 15:00 น. ใช้เวลาเกือบจะ 8 ชั่วโมงเต็ม ตื้นตันสุด ๆ
ซึ่งเราจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ 3 วัน 2 คืนกันไปเลยจ้าาา
พอมาถึงแล้วก็จับจองพื้นที่กางเต๊นท์กันได้เลยค่ะ ส่วนทางเราก็เลือกกางด้านหน้าฝั่งใกล้ห้องน้ำใกล้ ๆเต๊นท์แบรนด์เดียวกันค่ะ
( อยากมีพวกกับเขาบ้าง 555555555 )
แฟน : /พยายามสอดส่องสถานที่รอบ ๆ
เรา: /ขอลาสักพัก 55555555555555555555555
-----------------------------------------------
❤ Dinner ❤
มื้อเย็น วันแรก
อันนี้คือมื้อเย็นที่พวกเราทำเอง
1. ข้าวหุง
2. ยำปลากระป๋อง พกง่าย เครื่องยำไม่เสียง่าย
3. ไข่พะโล้ ของอาหารพร้อมทานปุ้มปุ้ย เอาซองแช่ในน้ำร้อน ออกมากินได้เลย
อันนี้คือมื้อค่ำ ที่ได้รับเชิญจากพี่ที่รู้จักระหว่างทาง
มารู้ตอนที่ไปนั่งร่วมวงว่าพี่เขาพาลูกทริปมาเที่ยว เป็นเพจ ๆ นึง กับข้าวก็คือทำสด หลากหลายมากก
แล้วพี่ ๆ ในวงมาจากต่างคนต่างอาชีพ บ้างมาคนเดียว บ้างมากับเพื่อน
พี่ ๆน่ารักกันมากค่ะ รวมถึงใจดีกับพวกเรามาก และยังมีการขอแลกกับข้าวกับอีกกลุ่มนึง
สนุกและรู้สึกดีกับมิตรภาพครั้งนี้สุด ๆ ไปเลยค่า
21:00 น. และแล้วก็ถึงเวลานอน
แล้วเจอกันใหม่ พรุ่งนี้นะคะ
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
[CR] พาเที่ยว เขาหลวงสุโขทัย แบบฉ่ำ ๆ ไปครบทุกสถานที่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น