สวัสดีค่ะ  
 
กระทู้นี้จะพาไปเดินเขาที่ว่ากันว่า พิชิตยากที่สุดในประเทศไทย ยอดเขาโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์กันค่ะ 
ที่ว่าพิชิตยาก ก็คือเดินว่ายากแล้ว แต่จองยากกว่ามากกกกกกกกกกกกก
ก่อนจะเป็นผู้ถูกโมโกจูเลือก เราก็เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้ผิดหวังมาหลายปีแล้วค่ะ
 
ทริปนี้เราไปมาเมื่อช่วงวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นทริปปิดป่า กรุ๊ปสุดท้ายของปี
เป็นทริปเดิน 5 วัน 4 คืน ไม่รวมวันเดินทาง
 
5 วัน 4 คืน  ระยะทางรวม 64 กม.  แผนการนั่งรถ + เดิน แต่ละวันประมาณนี้
 
วันที่ 1  ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์  - แคมป์แม่กระสา   
วันที่ 2  แคมป์แม่กระสา  - แคมป์แม่เรวา   - น้ำตกแม่เรวา
วันที่ 3  แคมป์แม่เรวา  - แคมป์ตีนดอย  - ยอดเขาโมโกจู 
วันที่ 4  แคมป์ตีนดอย   - แคมป์แม่กระสา  
วันที่ 5 แคมป์แม่กระสา   - ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 
 
จากที่อุทยานประกาศว่า ระยะทางรวมทั้ง 64 กม. แต่เดินจริงๆ ไม่ถึงนะคะ
โดยวันแรกจะนั่งรถออกจากที่ทำการอุทยานฯ  ประมาณ  8 กม. ไปส่งตรงจุดเริ่มเดิน ใช้เวลาเดินอีก 2  ชั่วโมงถึงแคมป์แม่กระสา
และวันสุดท้ายจะนั่งรถยาว 16 กม. จากแคมป์แม่กระสา ถึงที่ทำการอุทยานเลย  
คิดว่ารวมๆ น่าจะเดินประมาณ 40 กม. ได้
 
การติดต่อ
สำหรับการจองไปเดินโมโกจู  ก็จะการปรับเปลี่ยนจากปีก่อนๆ นู้น
จากเดิมที่ต้องฟอร์มทีม 8 -12 คน และส่งอีเมลจองให้ตรงเวลาเป๊ะ  วัดกันที่พื้นดวงและความเร็วเน็ตสุดๆ
 
ปีนี้ส่งเมลเหมือนเดิม เพิ่มเติมต้องแนบรีซูมเม่ ประวัติการเดินเส้นทางต่างๆ  พร้อมแนบรูปถ่าย
ถามว่าพื้นดวงยังจำเป็นอยู่มั้ย ก็ยังจำเป็นมากๆ อยู่ค่ะ 55
 
โดยอ้างอิงจากปี 2565 อุทยานจะประกาศตอนช่วง 24-25 เดือนตุลาคม  2565
ให้เวลาทำรีซูมเม่  ฟอร์มทีม  3-4  วัน ก่อนให้ส่งอีเมลช่วง 28-28 ตุลาคม วันที่ 30 ประกาศผลกลุ่มละ 24 คน
เและเริ่มเดินกลุ่มแรก 1 พฤศจิกายน อาทิตย์ละกลุ่มยาวไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เลย
รวดเร็วมากๆ ถ้าใครจะไปปีนี้ เตรียมประวัติ รูปถ่าย ฟอร์มทีมให้พร้อมเลยค่ะ
 
หลังจากประกาศผู้ผ่านการคัดเลือกผ่านเพจอุทยานแล้วแล้ว ถ้ายังไม่มีชื่อเราในรอบแรก  อย่าเพิ่งถอดใจนะคะ
รอคนคอนเฟิร์มจ่ายเงิน อาจมีคนไม่สะดวกไป อุทยานเขาจะประกาศรายชื่อสำรองอีกที  อย่างเราก็ได้ในรอบสำรองเช่นกันค่ะ
 
โดยเกณฑ์ใหม่เราไม่ต้องฟอร์มทีม 8 -12 เหมือนปีก่อนๆ แล้ว
เราสามารถส่งชื่อไปคนเดียวก็ได้ค่ะ ทางอุทยานจะจับกลุ่มให้ครบ กลุ่มละ 24  คน
 
ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้ทางอุทยานหลังจากวันที่ประกาศรายชื่อ
เป็นราคารวมค่าอาหาร 13 มื้อ และค่าดำเนินการต่างๆ ของอุทยาน ราคา 2,500  บาท โดยยังไม่รวมค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน
 
ใครเตรียมจะไปเกาะติดเพจอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไว้ได้เลยค่ะ 
https://www.facebook.com/maewong.np/?locale=th_TH

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
การจะไปเดินโมโกจู เราต้องพาตัวเองไปถึงที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ให้ได้ก่อน
จะขับรถไปเอง หรือไปรถทัวร์ รถตู้ก็ได้  
แต่ต้องพาตัวเองถึงอุทยานในวันที่เดินวันแรกก่อน 08.00 น. เพื่อให้ลงทะเบียนและอบรม ไปช้าอาจโดนตัดสิทธิ์
 
อย่างเราเดินทางไปกลับโดยรถทัวร์กรุงเทพ - คลองลาน ไปลงที่ตลาดคลองลาน และหารถเหมาเข้าไปส่งในอุทยาน
และกางเต็นท์นอนรอที่อุทยาน 1 คืน

เราไปรถทัวร์ของขนส่ง 999 จะมีแค่บริษัทเดียวที่ไปลงตลาดคลองลาน 
เท่าที่เดินถามส่วนใหญ่จะไปลงในเมืองแล้วต้องต่อรถไปตลาดคลองลาน 
หากใครจะไปรถทัวร์แนะนำว่าจองล่วงหน้าหน่อยก็ดีค่ะ เพราะรถมีไป-กลับแค่วันละ 1 เที่ยว
 
หลังจากกรอกฟอร์ม ชำระเงินยืนยันการไปเดินแล้ว ก็เตรียมตัวรอวันเดินทางเลย
 
ทางอุทยานจะจัดเจ้าหน้าที่เดินไปพร้อมกับเรา  4  คน และทริปนี้ไม่มีลูกหาบ 
ทางเจ้าหน้าที่นอกจากนำทาง ดูแลตรวจตราความปลอดภัยระหว่างเดินแล้ว ก็จะทำอาหารอร่อยๆ ให้พวกเราทุกมื้อ  
พี่ๆ เจ้าหน้าที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีมากๆๆ ค่ะ 
 
อุปกรณ์ที่เตรียมไป
 
อุปกรณ์ส่วนตัว เราต้องเตรียมไปเองนะคะ และทุกอย่างเบาได้เบา เพราะต้องแบกเองค่ะ 
โดยเราต้องเหลือที่ในกระเป๋าไว้แบกอาหารแห้งส่วนกลาง คนละ 1-2 โล
 
อุปกรณ์ที่เตรียมไป
1.  เต็นท์หรือเปล ฟลายชีทสำหรับเปล  ทุกแคมป์มีต้นไม้ให้ผูกเปลได้หลายอันอยู่ค่ะ 
2.  แผ่นรองนอน ถุงนอน  
3.  กราวด์ชีท เก้าอี้ ที่นี่คุ่น เห็บหมาเยอะมาก นั่งเก้าอี้จะปลอดภัยว่า
4.  ไฟฉายคาดหัว ถ่าน พาวเวอร์แบงค์ให้พร้อม ไม่มีไฟฟ้าให้ชาร์จจนถึงวันสุดท้าย
5.  รองเท้า Trekking ผ้าใบ  ร้องเท้าเทรล สตั๊ดดอยแล้วแต่สะดวก รองเท้าเตะไว่ใส่ที่แคมป์
6.  ไม้ Trekking Pole   
7.  ยาแก้ปวด น่องระเบิด ยากันแมลงสัตว์กัดต่อย แป้งโรยกันแมลง ที่นี่ไม่มีเจอทาก แต่คุ่นเยอะมากๆๆ เห็บอีก  โดนกัดกันเป็นจ้ำๆ เลย พาสเตอร์  ยาธาตุ ยาแก้ไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาหม่อง ยาดม 
8.  ถุงขยะ อุปกรณ์ขุดห้องน้ำ 
9.  เครื่องกรองน้ำ ถุงกรองน้ำหรือเม็ดกรองน้ำ ทางอุทยานจะมีให้ 1 ชุด แต่คนเยอะอาจะต้องรอหน่อย เอาไปเองก็สะดวกดีค่ะ เอาไว้กรองระหว่างทางเองได้ 
10. เสื้อผ้า 5 วัน ชุดไว้เล่นน้ำ เสื้อกันหนาว ช่วงเราไปด้านบนยอดเย็นหน่อยๆ  เสื้อกันฝนเผื่อไว้ อุปกรณ์กันแดด  หมวก ปลอกแขน 
11.  ขวดน้ำไว้กรอกน้ำ อุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ หม้อ ไห กะละมัง หัวแก๊ส แก๊สซาลาเปา เผื่อต้มน้ำ ต้มมาม่าเอง
แต่ทางอุทยานเขามีหม้อไหกะลังมังต้มให้หมดที่แคมป์นะคะ
 
*** ช้อนกับชามส่วนตัวสำคัญมาก ต้องพกไปเอง  ห้ามลืมเด็ดขาด  มีให้ยืมแค่ที่แคมป์แม่กระสา ที่แคมป์อื่นไม่มี  ****
 

อาหารและน้ำดื่ม
ทางเจ้าหน้าที่จะทำอาหารให้เราเกือบทุกมื้อ  เริ่มตั้งแต่มื้อกลางวันวันแรกที่จะมีข้าวแจก จนถึงมื้อเช้าของวันที่ 5
มีกับข้าวมื้อละ 2-3 อย่าง อาหารอร่อยทุกมื้อ  
มื้อเย็นบางวันมีขนมหวานเช่น ถั่วเขียวต้ม กล้วยบวชชี อิ่มหนำสำราญสบายตัวเบากระเป๋าค่ะ 

เราเตรียมขนมไปกินระหว่างทาง กับมาม่าไปเล็กน้อย 
 
น้ำดื่มที่แคมป์แม่กระสามี ทางอุทยานมีเครื่องกรองน้ำให้อย่างดี
แคมป์แม่เรวา กับแคมป์ตีนดอยมีน้ำตกไหลผ่านให้กรองได้
 
มีแค่วันที่ 3  ต้องบริหารน้ำดีๆ หน่อย กว่าจะถึงที่กรอกน้ำระหว่างทางไกลพอสมควร
 
ห้องน้ำ
แคมป์แม่กระสา มีห้องน้ำห้องอาบน้ำให้
แคมป์อื่นก็ใช้ช่องทางธรรมชาติ คนเยอะต้องบริการจัดการกันหน่อย
ทุกแคมป์ที่ลำธารไว้อาบน้ำ แปลงฟันล้างหน้าได้ 
 
ค่าใช้จ่ายต่อคนของเรา
ค่ารถทัวร์ไปกลับ กทม. - คลองลาน  คนละ 600 บาท
ค่ารถจาก บขส. เข้าไปอุทยาน คนละ 100  บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน คนละ  60  บาท
ค่าเดินโมโกจูคนละ 2,500 บาท
 
ในส่วนของสัญญาณมือถือ
ตรงที่ทำการอุทยานฯ ค่ายเขียวสัญญาณแรง เพราะมีเสาค่ายเขาตั้งอยู่ 
ค่ายอื่นมีสัญญาณอ่อนๆ  ค่อนไปทางไม่มี
แต่พอพ้นตรงที่ทำการอุทยานก็ไม่มีทุกเครือข่าย โซเช่ลดีท็อกกันไปเลย 4 วันกว่าๆ
 
ออกกำลังกาย วอร์มขา ยืดหน่อง ยืดหลังกันก่อนไป
 
พร้อมแล้ว ก็ไปกันเลยค่าาาาา