สวัสดีฮะ ทุกคน
ทำไมหัวข้อถึงดึงไปดราม่าแบบนั้น ลองอ่านจนจบดูนะคะ ว่าทำไมถึงดราม่า
ปูเรื่องมาขนาดนี้ ทนไม่อ่านได้หรอคะ
เนื่องด้วยช่วงที่ท่องเที่ยวมีการระบาดของโรคจึงได้รับข้อจำกัดด้านต่างๆ
อย่างที่รู้กัน ( หรือไม่รู้ ) คือเราต้องลงชื่อจองเพื่อขึ้นเขาหลวงสุโขทัย หรือ อุทยานแห่งชาติรามคำแหงนั่นเอง
ซึ่งการแย่งชิงนี้ จขกท. ได้รับเกียรติจากคณะไปด้วยกัน บางคนรู้จัก บางคนไม่รู้จัก
ให้เป็นผู้เข้าชิงครั้งนี้
จองได้ที่นี่ค่ะ ที่รูปด้านล่างนะคะ ไม่ใช่กับ จขกท.
นี่ค่ะ คุณลุงหัวสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหนวดคนนี้ค่ะ เลือก อุทยานแห่งชาติ
เลือกอุทยานแห่งชาติรามคำแหงค่ะ ระบุตามภาพหน้าจอได้เลยค่ะ
ตอนที่ จขกท. แย่งชิงคือตอนเที่ยงคืนพอดีค่ะ ได้มาเป็นคณะแรกของวันนั้น ถ้าใครอยากลุ้นดวงไม่ต้องจองก็ได้นะคะ ไปที่อุทยานได้เลย
ตื่นเต้นต่อไปค่ะ ยังไม่ถึงง่ายๆ วันที่จะเดินทาง......
และแล้ววันนี้ก็มาถึงผู้หญิงที่บอบบางแบบ จขกท. ก็ต้องเลือกใช้บริการรถพร้อมคนขับ แถมเป็นคนมีเหา เอ้ย เหงาๆ
อยากเดินทางแบบเพื่อนเยอะๆ เลยใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ของบ.สุโขทัยวินทัวร์
ขาไปกรุงเทพ - คีรีมาศ วีไอพี คนล่ะ 395.- เวลา 22.00 น.
จขกท.เลือกลงที่ คีรีมาศ ซึ่งมีเซเว่นช่วงนั้นเราจะได้ซื้อของเพื่อเตรียมตัวขึ้นเขา ส่วนเรื่องรถที่จะไปอุทยาน
จขกท. ได้ทำการจองกับพี่จ่าเอ๋ เบอร์ติดต่อ 083-5998826 ค่าใช้จ่ายขาไป คนล่ะ 100.-
ได้สอบถามพี่จ่าเพิ่มเติมมาคือ
จักรยานยนต์ คนล่ะ 160.-
รถ คนล่ะ 200.-
ส่วนมา 6 คนคนล่ะ 100.- ถ้าจะไปซื้อของไปตลาดหรือจะสอบถามพี่จ่าเพิ่มเติม สอบถามได้ที่เบอร์ข้างต้นเลยค่ะ
เมื่อถึงคีรีมาศแล้วพี่จ่ามารอแล้วช่วยจัดกระเป๋าของเราชาวคณะ
จะบอกว่าข้างทางที่เราผ่านมาคือ เงียบบรรยากาศชวนให้ หึ้ยยยยขนลุก
และแล้วเราก็ถึงอุทยานแห่งชาติรามคำแหง
นี่คือภาพประกอบของรถพี่จ่าค่ะ
มาถึงจุดลงทะเบียนยังไม่เปิด ก็ยืนคุยเตรียมตัว และรอเจ้าหน้าที่ หลังจากที่รอเจ้าหน้าที่มาแล้วค่ะ เตรียมชำระค่าเข้าอุทยาน
คณะไปด้วยกัน บางคนรู้จัก บางคนไม่รู้จัก เป็นชาวไทย คนล่ะ 40.- ณ เวลานั้นประมาณ 04.21 น.
พอเริ่มสว่างก็ถ่ายเก็บภาพรอบๆ
ส่วนเรื่องลูกหาบที่นี่ก็มีนะคะ กิโลล่ะ 25.-
หลังจากนั้นมาจัดการลงทะเบียน จ่ายค่าขยะ เจ้าหน้าที่จะให้ถุงขยะ ( ดำ ) มากลุ่มล่ะ 1 ใบ แต่ คณะของ จขกท. ขอมา 2 ใบค่ะ
เนื่องจากมา 7 คน มีค่ามัดจำขยะ 200.- นะคะ นำขยะลงมารับคืน 200.-
นี่ค่ะ แจ้งเรื่องเต็นท์ เครื่องนอนชำระเงินให้เรียบร้อย
เส้นทางที่เราต้องเดินวันนี้ค่ะ
เริ่มได้ ลุย
ยิ้มแบบนี้ทุกคน เดี๋ยวดูตอนขึ้นไปจะเป็นแบบไหนนะ
อ่อ ลืมบอกไปเรื่องนึงค่ะ เมื่อก่อนเขาหลวงจะมีน้ำระหว่างทางให้เรากรอกใส่ขวด แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วนะคะ ( ตอนช่วงที่ไป )
เตรียมน้ำไปให้พร้อมนะคะ
เดินมาเรื่อยๆ ยังชิวอยู่ อย่าลืมเอาไม้ที่ใช้พยุงตัวมาด้วยนะคะ
เดินเรื่อยๆ คุยบ้างถ่ายรูปบ้าง จากภาพจะเห็นถึงดินแดงๆ เห็นแบบนี้ลื่นมากนะคะ ระวังด้วย
ในที่สุด จขกท. และ คณะเดินทางมาถึงจุดชมวิว
เห็นแบบนี้แล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ ( มโนจิตหลอกตัวเอง 5555 )
พี่ๆยังยิ้มได้อยู่ชิวๆไป
พักจนหายเหนื่อยก็ออกเดินทางต่อได้เลยค่ะ
นึกถึงตอนนั้นแล้วสดชื่น
มาถึงต้นตะเคียนคู่แล้วค่ะ ใกล้แล้ว ใกล้ก็บ้าล่ะ ยังไม่จบไปไปอีก
เริ่มเหนื่อยและสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นค่ะ จขกท. ปวดเข่าซ้าย เนื่องด้วยเวลาเดินสายตาสั้นต้องกะแล้วลงน้ำหนักมากเกินไป กับแบก
กระเป่า 10-12 โล ได้ค่ะ ใครไม่เคยมาแนะนำจ้างลูกหาบเถอะค่ะ ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ ส่วนตัวไปภูกระดึงมาแบกกระเป๋าขึ้นเองสบายๆ
แต่เขาหลวงคือคนล่ะเรื่องเลยค่ะ เชื่อ จขกท.นะคะ จ้างเถอะค่ะ ( เชื่อฉันอย่าหลงไปเชื่อใคร ฉันนี้ล่ะหวงใย เจ็บเข่าและเจ็บจริง )
นอกจากจะชันแล้วยังปวดเข่าและลื่นด้วย
คิดว่าลื่นไหมคะ ถ้าไม่ต้องลองไปเองเดี๋ยวรู้เลย
เดินมาเรื่อยๆ คณะของเราก็แตกแยกเป็นคู่ เป็น คี่ ไป ส่วน จขกท. ที่ปวดเข่าซ้ายนั้น ตอนนี้ปวดข้างขวาแล้ว
ไม่ไหวแล้วค่ะ ใจก็อยากลงเขามากตอนนั้น
แต่ เพื่อนอีกคนรอไปพร้อม จขกท. จะทิ้งนางแล้วให้นางเดินขึ้นคนเดียวก็ใช่ที่
บอกเลยว่า ณ ตอนนั้นถ้าอยู่คนเดียวคือ เดินลงดีกว่าค่ะ ร่างกายไม่พร้อมก็คงไม่สนุก
ต่อจากนี้ภาพปลากรอบ ( อยากปลากรอบแหละดูออก อย่าพึ่งเบื่อนะคะ จขกท. เป็นคนตลกมากแต่ไม่ตลอดนะขอนอนบ้าง )
ที่ถ่ายบ้าง ไม่ถ่ายบ้าง
ยัง ยังมีอารมณ์ถ่ายรูป มีมาแค่นี้ค่ะ ณ ตอนนั้นคือ ปวดมากเดิน 5 ก้าวพัก เดิน 10 ก้าวพัก คือสงสารเพื่อนมากกว่าตัวเองค่ะ
ไทรงามแล้วค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือ ไม่ไหวแล้ว แต่ไงก็ต้องไหว
ระหว่างทางต่อจากนี้ไม่มีภาพแล้วค่ะ เพราะไม่ไหวที่จะถ่าย ส่วนเพื่อนและคนในคณะ ก็คงไม่ไหวเช่นกัน
ระหว่างทางที่เดินอยู่นั้น ได้ยินเสียงลิง กระโดดไปตามกิ่งไม้ ตลอดทาง และยิ่งใกล้จะถึง ยิ่งจะหมดแรง
และในที่สุดดดดด ถึงแล้วค่ะ
เมื่อถึงแล้วชาวคณะต่างถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง หายาให้
ขอบคุณนะคะทุกคน
ส่วนนี้คือที่เราสั่งข้าวไข่เจียวกับมีน้ำเย็นๆให้บริการและขนมอีกนิดหน่อยค่ะ ( แอบบอกว่าเพื่อนสาว จขกท. สั่งขอข้าวเยอะๆนะคะพี่ )
เจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีมากเลยค่ะ
ระเบียบการค้างแรมก็ตามนี้เลยนะคะ เคารพสถานที่ด้วยนะคะ
หลังจากนั้น.......คณะก็ไปต่อที่ผานารายณ์ แต่ จขกท. ขอตัวนอนพัก Zzzzzz
อย่าพึ่งหลับที่นี่มีน้องหมานะ เจ้าแพนเค้กและเจ้าหรั่ง หวานมากค่ะ หวานไม่ไหวขอตัวนอนดีกว่าค่ะ
เช้ามุ่งหน้าไปผานารายณ์
ระหว่างทางไปค่ะ หมอกหนานิดหน่อย แต่ทางลื่นเหมือนเดิม
ถึงแล้วค่ะ แต่หมอกหนาจนปิดฟ้าไปหมดเลย แง
ระหว่างรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แบบไม่มีหวังก็มีเจ้าหมาเดินตามมาด้วย ( เจ้าหรั่ง )
ชาวคณะถ่ายรูปอย่างสนุกสนานแต่ จขกท. ไม่คิดแบบนั้น ทั้งมึนหัวเวียนหัวเพราะอัดยาไปเยอะเลยขอตัวลงมานอนต่อก่อน
อ้อน 2 สาว ( เพื่อน ) ให้พาไปอีก 1 รอบไปถ่ายภาพ ในใจคิดว่าท้องฟ้าอาจจะเปิด
แต่ไม่ค่ะ ไม่ได้พกดวงมาด้วยกระเป๋าน่าจะเต็ม
3 สาวเลยรอถ่ายรูปแต่มีช่วงจังหว่ะนึงท้องฟ้าเปิดนิดเดียวค่ะ นิดเดียวจริงๆ หันมาอีกทีเมฆบังหมดอีกแล้ว
ไปต่อไม่รอแล้วนะ ต่อด้วย ( ชมปรง ) และอีกเช่นเคย หมอกหนาๆฟ้าปิดอีก
อ่านรีวิวของท่านอื่น คือ ฟ้าเปิดสวยมาก มาเองไงล่ะหมอกจางๆหรือควัน
หิวแล้วไปทานข้าวกันค่ะ
ข้าวไข่เจียวของเพื่อนค่ะ มีปักพริกนิดหน่อย ( ข้าวไข่เจียวที่อร่อยที่สุด )
เตรียมเดินทางต่อค่ะ
จุดหมายของเราในวันนี้คือ ถ้ำมเห-รก , เจดีย์ , เขาพระแม่ย่า และ ภูกาค่ะ
ก่อนเดินทางก็ถ่ายรูปนิดนึง ที่สำคัญอย่าลืมพกน้ำ และขนมหวานลูกอมไปด้วยนะคะ
ทางก็ลื่นเช่นเดิม
เจอเห็ดก็ถ่าย แถมทำมือเป็นรูปดาว ตอนนั้นพวกชาวคณะคิดไรอยู่ฮะ
เราก็แวะถ่ายรูปกันเป็นจุดๆ
โดย จขกท. เป็นช่างภาพ ( ไม่ ) จำเป็น ถ่ายสวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่ส่วนมากจะไม่
ระหว่างทางนั้น เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ( อีกแล้วครับท่าน ) เจ้าหรั่งตามมา ลิ้นห้อยมาเลยครับท่านผู้ชม
เพื่อนสาวของ จขกท. นั้นคือผู้ใจดี แบ่งน้ำให้เจ้าหรั่ง
รูปอาจจะไม่ตรงตามที่เดินทางกันนะคะ เพราะไปมาเมื่อปีที่แล้ว 2563 รีวิวปีนี้ 2564 ปังมาก
เขาหลวงสุโขทัย ความเจ็บปวดจากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน
สวัสดีฮะ ทุกคน ทำไมหัวข้อถึงดึงไปดราม่าแบบนั้น ลองอ่านจนจบดูนะคะ ว่าทำไมถึงดราม่า
ปูเรื่องมาขนาดนี้ ทนไม่อ่านได้หรอคะ เนื่องด้วยช่วงที่ท่องเที่ยวมีการระบาดของโรคจึงได้รับข้อจำกัดด้านต่างๆ
อย่างที่รู้กัน ( หรือไม่รู้ ) คือเราต้องลงชื่อจองเพื่อขึ้นเขาหลวงสุโขทัย หรือ อุทยานแห่งชาติรามคำแหงนั่นเอง
ซึ่งการแย่งชิงนี้ จขกท. ได้รับเกียรติจากคณะไปด้วยกัน บางคนรู้จัก บางคนไม่รู้จักให้เป็นผู้เข้าชิงครั้งนี้
จองได้ที่นี่ค่ะ ที่รูปด้านล่างนะคะ ไม่ใช่กับ จขกท.
นี่ค่ะ คุณลุงหัวสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหนวดคนนี้ค่ะ เลือก อุทยานแห่งชาติ
เลือกอุทยานแห่งชาติรามคำแหงค่ะ ระบุตามภาพหน้าจอได้เลยค่ะ
ตอนที่ จขกท. แย่งชิงคือตอนเที่ยงคืนพอดีค่ะ ได้มาเป็นคณะแรกของวันนั้น ถ้าใครอยากลุ้นดวงไม่ต้องจองก็ได้นะคะ ไปที่อุทยานได้เลย
ตื่นเต้นต่อไปค่ะ ยังไม่ถึงง่ายๆ วันที่จะเดินทาง......
และแล้ววันนี้ก็มาถึงผู้หญิงที่บอบบางแบบ จขกท. ก็ต้องเลือกใช้บริการรถพร้อมคนขับ แถมเป็นคนมีเหา เอ้ย เหงาๆ
อยากเดินทางแบบเพื่อนเยอะๆ เลยใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ของบ.สุโขทัยวินทัวร์
ขาไปกรุงเทพ - คีรีมาศ วีไอพี คนล่ะ 395.- เวลา 22.00 น.
จขกท.เลือกลงที่ คีรีมาศ ซึ่งมีเซเว่นช่วงนั้นเราจะได้ซื้อของเพื่อเตรียมตัวขึ้นเขา ส่วนเรื่องรถที่จะไปอุทยาน
จขกท. ได้ทำการจองกับพี่จ่าเอ๋ เบอร์ติดต่อ 083-5998826 ค่าใช้จ่ายขาไป คนล่ะ 100.-
ได้สอบถามพี่จ่าเพิ่มเติมมาคือ
จักรยานยนต์ คนล่ะ 160.-
รถ คนล่ะ 200.-
ส่วนมา 6 คนคนล่ะ 100.- ถ้าจะไปซื้อของไปตลาดหรือจะสอบถามพี่จ่าเพิ่มเติม สอบถามได้ที่เบอร์ข้างต้นเลยค่ะ
เมื่อถึงคีรีมาศแล้วพี่จ่ามารอแล้วช่วยจัดกระเป๋าของเราชาวคณะ
จะบอกว่าข้างทางที่เราผ่านมาคือ เงียบบรรยากาศชวนให้ หึ้ยยยยขนลุก และแล้วเราก็ถึงอุทยานแห่งชาติรามคำแหง
นี่คือภาพประกอบของรถพี่จ่าค่ะ
มาถึงจุดลงทะเบียนยังไม่เปิด ก็ยืนคุยเตรียมตัว และรอเจ้าหน้าที่ หลังจากที่รอเจ้าหน้าที่มาแล้วค่ะ เตรียมชำระค่าเข้าอุทยาน
คณะไปด้วยกัน บางคนรู้จัก บางคนไม่รู้จัก เป็นชาวไทย คนล่ะ 40.- ณ เวลานั้นประมาณ 04.21 น.
พอเริ่มสว่างก็ถ่ายเก็บภาพรอบๆ
ส่วนเรื่องลูกหาบที่นี่ก็มีนะคะ กิโลล่ะ 25.-
หลังจากนั้นมาจัดการลงทะเบียน จ่ายค่าขยะ เจ้าหน้าที่จะให้ถุงขยะ ( ดำ ) มากลุ่มล่ะ 1 ใบ แต่ คณะของ จขกท. ขอมา 2 ใบค่ะ
เนื่องจากมา 7 คน มีค่ามัดจำขยะ 200.- นะคะ นำขยะลงมารับคืน 200.-
นี่ค่ะ แจ้งเรื่องเต็นท์ เครื่องนอนชำระเงินให้เรียบร้อย
เส้นทางที่เราต้องเดินวันนี้ค่ะ
เริ่มได้ ลุย
ยิ้มแบบนี้ทุกคน เดี๋ยวดูตอนขึ้นไปจะเป็นแบบไหนนะ
อ่อ ลืมบอกไปเรื่องนึงค่ะ เมื่อก่อนเขาหลวงจะมีน้ำระหว่างทางให้เรากรอกใส่ขวด แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วนะคะ ( ตอนช่วงที่ไป )
เตรียมน้ำไปให้พร้อมนะคะ
เดินมาเรื่อยๆ ยังชิวอยู่ อย่าลืมเอาไม้ที่ใช้พยุงตัวมาด้วยนะคะ
เดินเรื่อยๆ คุยบ้างถ่ายรูปบ้าง จากภาพจะเห็นถึงดินแดงๆ เห็นแบบนี้ลื่นมากนะคะ ระวังด้วย
ในที่สุด จขกท. และ คณะเดินทางมาถึงจุดชมวิว
เห็นแบบนี้แล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ ( มโนจิตหลอกตัวเอง 5555 )
พี่ๆยังยิ้มได้อยู่ชิวๆไป
พักจนหายเหนื่อยก็ออกเดินทางต่อได้เลยค่ะ นึกถึงตอนนั้นแล้วสดชื่น
มาถึงต้นตะเคียนคู่แล้วค่ะ ใกล้แล้ว ใกล้ก็บ้าล่ะ ยังไม่จบไปไปอีก
เริ่มเหนื่อยและสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นค่ะ จขกท. ปวดเข่าซ้าย เนื่องด้วยเวลาเดินสายตาสั้นต้องกะแล้วลงน้ำหนักมากเกินไป กับแบก
กระเป่า 10-12 โล ได้ค่ะ ใครไม่เคยมาแนะนำจ้างลูกหาบเถอะค่ะ ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ ส่วนตัวไปภูกระดึงมาแบกกระเป๋าขึ้นเองสบายๆ
แต่เขาหลวงคือคนล่ะเรื่องเลยค่ะ เชื่อ จขกท.นะคะ จ้างเถอะค่ะ ( เชื่อฉันอย่าหลงไปเชื่อใคร ฉันนี้ล่ะหวงใย เจ็บเข่าและเจ็บจริง )
นอกจากจะชันแล้วยังปวดเข่าและลื่นด้วย
คิดว่าลื่นไหมคะ ถ้าไม่ต้องลองไปเองเดี๋ยวรู้เลย
เดินมาเรื่อยๆ คณะของเราก็แตกแยกเป็นคู่ เป็น คี่ ไป ส่วน จขกท. ที่ปวดเข่าซ้ายนั้น ตอนนี้ปวดข้างขวาแล้ว
ไม่ไหวแล้วค่ะ ใจก็อยากลงเขามากตอนนั้น แต่ เพื่อนอีกคนรอไปพร้อม จขกท. จะทิ้งนางแล้วให้นางเดินขึ้นคนเดียวก็ใช่ที่
บอกเลยว่า ณ ตอนนั้นถ้าอยู่คนเดียวคือ เดินลงดีกว่าค่ะ ร่างกายไม่พร้อมก็คงไม่สนุก
ต่อจากนี้ภาพปลากรอบ ( อยากปลากรอบแหละดูออก อย่าพึ่งเบื่อนะคะ จขกท. เป็นคนตลกมากแต่ไม่ตลอดนะขอนอนบ้าง )
ที่ถ่ายบ้าง ไม่ถ่ายบ้าง
ยัง ยังมีอารมณ์ถ่ายรูป มีมาแค่นี้ค่ะ ณ ตอนนั้นคือ ปวดมากเดิน 5 ก้าวพัก เดิน 10 ก้าวพัก คือสงสารเพื่อนมากกว่าตัวเองค่ะ
ไทรงามแล้วค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือ ไม่ไหวแล้ว แต่ไงก็ต้องไหว
ระหว่างทางต่อจากนี้ไม่มีภาพแล้วค่ะ เพราะไม่ไหวที่จะถ่าย ส่วนเพื่อนและคนในคณะ ก็คงไม่ไหวเช่นกัน
ระหว่างทางที่เดินอยู่นั้น ได้ยินเสียงลิง กระโดดไปตามกิ่งไม้ ตลอดทาง และยิ่งใกล้จะถึง ยิ่งจะหมดแรง
และในที่สุดดดดด ถึงแล้วค่ะ
เมื่อถึงแล้วชาวคณะต่างถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง หายาให้ ขอบคุณนะคะทุกคน
ส่วนนี้คือที่เราสั่งข้าวไข่เจียวกับมีน้ำเย็นๆให้บริการและขนมอีกนิดหน่อยค่ะ ( แอบบอกว่าเพื่อนสาว จขกท. สั่งขอข้าวเยอะๆนะคะพี่ )
เจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีมากเลยค่ะ
ระเบียบการค้างแรมก็ตามนี้เลยนะคะ เคารพสถานที่ด้วยนะคะ
หลังจากนั้น.......คณะก็ไปต่อที่ผานารายณ์ แต่ จขกท. ขอตัวนอนพัก Zzzzzz
อย่าพึ่งหลับที่นี่มีน้องหมานะ เจ้าแพนเค้กและเจ้าหรั่ง หวานมากค่ะ หวานไม่ไหวขอตัวนอนดีกว่าค่ะ
เช้ามุ่งหน้าไปผานารายณ์
ระหว่างทางไปค่ะ หมอกหนานิดหน่อย แต่ทางลื่นเหมือนเดิม
ถึงแล้วค่ะ แต่หมอกหนาจนปิดฟ้าไปหมดเลย แง
ระหว่างรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แบบไม่มีหวังก็มีเจ้าหมาเดินตามมาด้วย ( เจ้าหรั่ง )
ชาวคณะถ่ายรูปอย่างสนุกสนานแต่ จขกท. ไม่คิดแบบนั้น ทั้งมึนหัวเวียนหัวเพราะอัดยาไปเยอะเลยขอตัวลงมานอนต่อก่อน
อ้อน 2 สาว ( เพื่อน ) ให้พาไปอีก 1 รอบไปถ่ายภาพ ในใจคิดว่าท้องฟ้าอาจจะเปิด
แต่ไม่ค่ะ ไม่ได้พกดวงมาด้วยกระเป๋าน่าจะเต็ม
3 สาวเลยรอถ่ายรูปแต่มีช่วงจังหว่ะนึงท้องฟ้าเปิดนิดเดียวค่ะ นิดเดียวจริงๆ หันมาอีกทีเมฆบังหมดอีกแล้ว
ไปต่อไม่รอแล้วนะ ต่อด้วย ( ชมปรง ) และอีกเช่นเคย หมอกหนาๆฟ้าปิดอีก
อ่านรีวิวของท่านอื่น คือ ฟ้าเปิดสวยมาก มาเองไงล่ะหมอกจางๆหรือควัน
หิวแล้วไปทานข้าวกันค่ะ
ข้าวไข่เจียวของเพื่อนค่ะ มีปักพริกนิดหน่อย ( ข้าวไข่เจียวที่อร่อยที่สุด )
เตรียมเดินทางต่อค่ะ
จุดหมายของเราในวันนี้คือ ถ้ำมเห-รก , เจดีย์ , เขาพระแม่ย่า และ ภูกาค่ะ
ก่อนเดินทางก็ถ่ายรูปนิดนึง ที่สำคัญอย่าลืมพกน้ำ และขนมหวานลูกอมไปด้วยนะคะ
ทางก็ลื่นเช่นเดิม
เจอเห็ดก็ถ่าย แถมทำมือเป็นรูปดาว ตอนนั้นพวกชาวคณะคิดไรอยู่ฮะ
เราก็แวะถ่ายรูปกันเป็นจุดๆ
โดย จขกท. เป็นช่างภาพ ( ไม่ ) จำเป็น ถ่ายสวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่ส่วนมากจะไม่
ระหว่างทางนั้น เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ( อีกแล้วครับท่าน ) เจ้าหรั่งตามมา ลิ้นห้อยมาเลยครับท่านผู้ชม
เพื่อนสาวของ จขกท. นั้นคือผู้ใจดี แบ่งน้ำให้เจ้าหรั่ง
รูปอาจจะไม่ตรงตามที่เดินทางกันนะคะ เพราะไปมาเมื่อปีที่แล้ว 2563 รีวิวปีนี้ 2564 ปังมาก