สวัสดีค่ะ เราอยากจะแชร์ประสบการณ์การซื้อบ้านหลังแรกของเรา เผื่อจะได้เป็นอุทาหรณ์ ข้อคิดข้อควรระวังของคนที่กำลังมองหาบ้าน/โครงการบ้านอยู่ค่ะ
เราตามหาบ้านมานาน โดยเน้นที่เดินทางสะดวก และมาตกลงปลงใจที่บ้านโครงการเล็กๆโครงการหนึ่ง แถวลำลูกกาคลอง 2 ซึ่งไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก ตอนแรกเราก็คิดอยู่นานว่าเป็นโครงการเล็กๆ จะเชื่อใจได้ไหม หารีวิวในอินเตอร์เน็ตก็มีไม่มาก แอบเห็นรีวิวของโครงการนี้ที่ไม่คอ่ดีอยู่บ้างแต่ก็คิดว่าเราคงไม่ซวย - -"
จนสุดท้ายเราตกลงเอาที่นี่ เซลล์แจ้งว่าหลังนี้เป็นหลังสุดท้าย คนที่จะเอาก่อนหน้า เค้ากู้ไม่ผ่านแล้ว ไม่เอาแล้ว และเคสเราแบงค์ตรวจเครดิตแล้ว กู้ผ่านชัวร์ๆเซลล์จึงเร่งรัดให้รีบโอนเงินจอง ทำสัญญา วางเงิน 6 หลัก และอยากรีบโอนเร็วๆ แต่เราขอตรวจบ้านให้เรียบร้อย 2 รอบก่อนโอน ซึ่งเซลก็โอเค โดยตอนแรก
ภายในสองอาทิตที่ทำสัญญา เราเข้าตรวจบ้านครั้งแรก มึนตึบไปเลยค่ะ บ้านไม่เรียบร้อยมากๆ กระเบื้องร้าว น้ำรั่ว เดินไฟผิด ... แต่เซลก็ยังคงเร่งโอนต่อไป
ลูกบ้านโครงการนี้ย้ำกับเรานักหนาว่าอย่าโอนก่อนเด็ดขาด ถ้าบ้านไม่เรียบร้อย ไม่งั้นน้องจะเจ็บเหมือนพี้.... เราจึงย้ำให้เค้าแก้จุดสำคัญให้เสร็จ ก่อนตรวจรอบ 2 แล้วจึงโอน
ระหว่างนั้นเราก็วางแผน การต่อเติม หาช่างทำหลังคา บลา บลา และวาดฝันว่าจะย้ายเข้าบ้านใหม่เร็วๆนี้ เราเข้าไปดูบ้านเรื่อยๆ ซึ่งก้พบว่าแก้ไขไปมากแล้ว และผู้กู้ก็อนุมัติเรียบร้อย เราถึงถามว่าจะนัดให้ตรวจรอบ 2 เมื่อไหร่ แต่เซลล์กลับนัดวันเราแล้วก็เลื่อน พอเราตามก็บ่ายเบี่ยง ขอเลื่อยไปเรื่อยๆ อ้างฝนตก บลา บลา ตอบไลน์ช้าลง จนผิดสังเกตุ เพราะเมื่อก่อนเค้าเป็นคนเร่งเรา และตอบไลน์เร็วมาก
วันนึงเราเข้าไปดูบ้านตามปกติ เจอว่ามีสติ๊กเกอร์แปะอยู่เต็มบ้าน เหมือนที่เวลาคนมาตรวจบ้าน เราถามโฟแมน เค้าบอกเค้าแปะเอง ซึ่งเราก็งง ว่าแปะทำไม ....จนเราไปเจอรายงานตรวจบ้านของคนอื่นวางอยู่ เป็นบ้านหลังเดียวกับที่เราจะซื้อ.....ช็อคไปเลยค่ะ
เราทั้งโทร และไลน์หาเซลล์แต่เค้าไม่รับ จนเราโทรไปหาบริษัทตรวจบ้าน ที่มีเบอร์อยู่บนรายงานที่เจอ และเค้าก็ตกใจว่ามีคนทำสัญญาซื้อหลังเดียวกันได้ยังงัย เซลล์ก็คนเดียวกัน เค้าจึงติดต่อผู้ที่จะซื้อีกรายให้ และแจ้งเรื่อง ผู้ที่จะซื้ออีกรายเลยไปคุยกับเซลล์ อีกวันนึงเซลล์จึงยอมโทรหาเรา และสารภาพว่าจะขายให้อีกคนโดยอ้างว่าเค้ามาก่อน ?!? และยังมีหน้ามาเสนอบ้านอีกโครงการที่ไกลออกไปให้เรา what the *uck!!!!
เราอึ้งมากกก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ทำสัญญา วางเงินเรียบร้อย สุดท้ายจะขายให้คนอื่น ซึ่งเท่าที่เรารู้มาคือไม่ใช่คนก่อนหน้าที่กู้ไม่ผ่านด้วยซ้ำ
เราพยายามติดค่อสำนักงานใหญ่ เพื่อจะแจ้งว่าพนักงานมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่กลับหาเบอร์ติดต่อส่วนกลางไม่ได้เลย ไม่มีเว็บไซต์ ไม่มี facebook ไม่มีอีเมลล์ มีแต่เบอร์เซลล์คนนี้ แม้กระทั่งรับสมัครงานก็เป็นเบอร์เซลล์คนนี้ .... จุดนี้คนจะซื้อบ้านโครงการเล็กๆ ต้องระวังไว้ให้มากนะคะ เรื่องการติดต่อบริษัท เพราะถ้ามีปัญหาอะไร จะไม่ติดต่อใครได้เลย
ตอนนั้นเราเครียดมาก และอยากจบเรื่องให้เร็วที่ที่สุด เราเลยบอกให้เซลล์คืนเงินมัดจำ และค่าตรวจบ้านเรามา ซึ่งเซลล์ก็ตอบตกลง
ระหว่างนั้นเราปรึกษาทนายและผู้มีประสบการณ์อีกหลายๆคน พบว่ากรณีแบบนี้สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้มากกว่าแค่เงินมัดจำ เพราะทางโครงการผิดเต็มๆ และเราเสียทั้งเวลาและความรู้สึก หรือแม้กระทั่งระงับการโอนก็ยังได้ แต่เราใจร้อนขอเงินคืนกับเซลล์ไปก่อนแล้ว
วันที่ไปรับเช็คคืน เซลล์ยังคงท็อปฟรอมเรื่องตุกติก....เค้าให้เราเซ็นรับเช็ค ซึ่งใบที่เซนเป็นใบแปะหน้า เอกสารปึกนึง บนใบนั้นไม่มีรายละเอียดอะไร แต่เราเปิดดู กลับเจอเอกสารที่ระบุว่าเรากู้ไม่ผ่าน และเป็นคนขอยกเลิกสัญญา ขอเงินคืนเอง......what!!!!!!M><M!)@(#*)!@#@!
เราจึงแย้งว่ามันไม่ใช่ ทำแบบนี้ได้ไง เค้าแก้ตัวว่าแนบเอกสารมาผิด ไม่ต้องไปสนใจ เซ็นใบแรกพอ และไม่ยอมให้ถ่ายรูปเอกสาร (รีบดึงออกจากมือทั้งๆที่เราเปิดอยู่) ซึ่งมันไม่มีทางใส่ผิดแน่ๆ เพราะนั่นคือชื่อและยอดเงินของเรา
เราไม่ยอมเซ็นจนพนักงานยอมฉีกใบนั้นทิ้ง เราจึงเซ็นและรับเช็คกลับ แต่ยังแอบข้องใจอยู่ว่า ผู้บริหารเค้าจะรู้ไหมว่าพนักงานเค้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งผู้จัดการ และเซลล์ ล้วนรู้กัน อีกทั้งเซลล์คนนี้อ้างตัวด้วยว่าเป็นเซลล์เก่าแก่ของโคงการ
บริษัทนี้มีโครงการใหม่ขึ้นอีกแถวลำลูกกา และหทัยราษฎร์(เซลล์ที่ติดต่อเราย้ายไปที่โครงหารนี้) ถ้าใครจะซื้อโซนนั้นก็เช็คข้อมูลและความน่าเชื่อถือให้ดีหน่อยนะคะ จะได้ไม่พลาดแบบเรา
สุดท้ายนี้ใครมีโครงการบ้าน/โซนที่อยู่ ที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ รถไฟฟ้าสะดวก แนะนำได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
แชร์ประสบการณ์อันเลวร้าย กับการซื้อบ้านหลังแรก
เราตามหาบ้านมานาน โดยเน้นที่เดินทางสะดวก และมาตกลงปลงใจที่บ้านโครงการเล็กๆโครงการหนึ่ง แถวลำลูกกาคลอง 2 ซึ่งไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก ตอนแรกเราก็คิดอยู่นานว่าเป็นโครงการเล็กๆ จะเชื่อใจได้ไหม หารีวิวในอินเตอร์เน็ตก็มีไม่มาก แอบเห็นรีวิวของโครงการนี้ที่ไม่คอ่ดีอยู่บ้างแต่ก็คิดว่าเราคงไม่ซวย - -"
จนสุดท้ายเราตกลงเอาที่นี่ เซลล์แจ้งว่าหลังนี้เป็นหลังสุดท้าย คนที่จะเอาก่อนหน้า เค้ากู้ไม่ผ่านแล้ว ไม่เอาแล้ว และเคสเราแบงค์ตรวจเครดิตแล้ว กู้ผ่านชัวร์ๆเซลล์จึงเร่งรัดให้รีบโอนเงินจอง ทำสัญญา วางเงิน 6 หลัก และอยากรีบโอนเร็วๆ แต่เราขอตรวจบ้านให้เรียบร้อย 2 รอบก่อนโอน ซึ่งเซลก็โอเค โดยตอนแรก
ภายในสองอาทิตที่ทำสัญญา เราเข้าตรวจบ้านครั้งแรก มึนตึบไปเลยค่ะ บ้านไม่เรียบร้อยมากๆ กระเบื้องร้าว น้ำรั่ว เดินไฟผิด ... แต่เซลก็ยังคงเร่งโอนต่อไป
ลูกบ้านโครงการนี้ย้ำกับเรานักหนาว่าอย่าโอนก่อนเด็ดขาด ถ้าบ้านไม่เรียบร้อย ไม่งั้นน้องจะเจ็บเหมือนพี้.... เราจึงย้ำให้เค้าแก้จุดสำคัญให้เสร็จ ก่อนตรวจรอบ 2 แล้วจึงโอน
ระหว่างนั้นเราก็วางแผน การต่อเติม หาช่างทำหลังคา บลา บลา และวาดฝันว่าจะย้ายเข้าบ้านใหม่เร็วๆนี้ เราเข้าไปดูบ้านเรื่อยๆ ซึ่งก้พบว่าแก้ไขไปมากแล้ว และผู้กู้ก็อนุมัติเรียบร้อย เราถึงถามว่าจะนัดให้ตรวจรอบ 2 เมื่อไหร่ แต่เซลล์กลับนัดวันเราแล้วก็เลื่อน พอเราตามก็บ่ายเบี่ยง ขอเลื่อยไปเรื่อยๆ อ้างฝนตก บลา บลา ตอบไลน์ช้าลง จนผิดสังเกตุ เพราะเมื่อก่อนเค้าเป็นคนเร่งเรา และตอบไลน์เร็วมาก
วันนึงเราเข้าไปดูบ้านตามปกติ เจอว่ามีสติ๊กเกอร์แปะอยู่เต็มบ้าน เหมือนที่เวลาคนมาตรวจบ้าน เราถามโฟแมน เค้าบอกเค้าแปะเอง ซึ่งเราก็งง ว่าแปะทำไม ....จนเราไปเจอรายงานตรวจบ้านของคนอื่นวางอยู่ เป็นบ้านหลังเดียวกับที่เราจะซื้อ.....ช็อคไปเลยค่ะ
เราทั้งโทร และไลน์หาเซลล์แต่เค้าไม่รับ จนเราโทรไปหาบริษัทตรวจบ้าน ที่มีเบอร์อยู่บนรายงานที่เจอ และเค้าก็ตกใจว่ามีคนทำสัญญาซื้อหลังเดียวกันได้ยังงัย เซลล์ก็คนเดียวกัน เค้าจึงติดต่อผู้ที่จะซื้อีกรายให้ และแจ้งเรื่อง ผู้ที่จะซื้ออีกรายเลยไปคุยกับเซลล์ อีกวันนึงเซลล์จึงยอมโทรหาเรา และสารภาพว่าจะขายให้อีกคนโดยอ้างว่าเค้ามาก่อน ?!? และยังมีหน้ามาเสนอบ้านอีกโครงการที่ไกลออกไปให้เรา what the *uck!!!!
เราอึ้งมากกก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ทำสัญญา วางเงินเรียบร้อย สุดท้ายจะขายให้คนอื่น ซึ่งเท่าที่เรารู้มาคือไม่ใช่คนก่อนหน้าที่กู้ไม่ผ่านด้วยซ้ำ
เราพยายามติดค่อสำนักงานใหญ่ เพื่อจะแจ้งว่าพนักงานมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่กลับหาเบอร์ติดต่อส่วนกลางไม่ได้เลย ไม่มีเว็บไซต์ ไม่มี facebook ไม่มีอีเมลล์ มีแต่เบอร์เซลล์คนนี้ แม้กระทั่งรับสมัครงานก็เป็นเบอร์เซลล์คนนี้ .... จุดนี้คนจะซื้อบ้านโครงการเล็กๆ ต้องระวังไว้ให้มากนะคะ เรื่องการติดต่อบริษัท เพราะถ้ามีปัญหาอะไร จะไม่ติดต่อใครได้เลย
ตอนนั้นเราเครียดมาก และอยากจบเรื่องให้เร็วที่ที่สุด เราเลยบอกให้เซลล์คืนเงินมัดจำ และค่าตรวจบ้านเรามา ซึ่งเซลล์ก็ตอบตกลง
ระหว่างนั้นเราปรึกษาทนายและผู้มีประสบการณ์อีกหลายๆคน พบว่ากรณีแบบนี้สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้มากกว่าแค่เงินมัดจำ เพราะทางโครงการผิดเต็มๆ และเราเสียทั้งเวลาและความรู้สึก หรือแม้กระทั่งระงับการโอนก็ยังได้ แต่เราใจร้อนขอเงินคืนกับเซลล์ไปก่อนแล้ว
วันที่ไปรับเช็คคืน เซลล์ยังคงท็อปฟรอมเรื่องตุกติก....เค้าให้เราเซ็นรับเช็ค ซึ่งใบที่เซนเป็นใบแปะหน้า เอกสารปึกนึง บนใบนั้นไม่มีรายละเอียดอะไร แต่เราเปิดดู กลับเจอเอกสารที่ระบุว่าเรากู้ไม่ผ่าน และเป็นคนขอยกเลิกสัญญา ขอเงินคืนเอง......what!!!!!!M><M!)@(#*)!@#@!
เราจึงแย้งว่ามันไม่ใช่ ทำแบบนี้ได้ไง เค้าแก้ตัวว่าแนบเอกสารมาผิด ไม่ต้องไปสนใจ เซ็นใบแรกพอ และไม่ยอมให้ถ่ายรูปเอกสาร (รีบดึงออกจากมือทั้งๆที่เราเปิดอยู่) ซึ่งมันไม่มีทางใส่ผิดแน่ๆ เพราะนั่นคือชื่อและยอดเงินของเรา
เราไม่ยอมเซ็นจนพนักงานยอมฉีกใบนั้นทิ้ง เราจึงเซ็นและรับเช็คกลับ แต่ยังแอบข้องใจอยู่ว่า ผู้บริหารเค้าจะรู้ไหมว่าพนักงานเค้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งผู้จัดการ และเซลล์ ล้วนรู้กัน อีกทั้งเซลล์คนนี้อ้างตัวด้วยว่าเป็นเซลล์เก่าแก่ของโคงการ
บริษัทนี้มีโครงการใหม่ขึ้นอีกแถวลำลูกกา และหทัยราษฎร์(เซลล์ที่ติดต่อเราย้ายไปที่โครงหารนี้) ถ้าใครจะซื้อโซนนั้นก็เช็คข้อมูลและความน่าเชื่อถือให้ดีหน่อยนะคะ จะได้ไม่พลาดแบบเรา
สุดท้ายนี้ใครมีโครงการบ้าน/โซนที่อยู่ ที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ รถไฟฟ้าสะดวก แนะนำได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ