สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ยังมีคนแฉอีกว่า
เจ้าของร้านที่ปิดเพจไป
ไปขอเรียนสูตรฟรีจากร้านต้นตำรับ
เพื่อมาเปิดร้านแข่งกับร้านต้นตำรับ
โดยเปิดร้านถัดไปอีกสองซอย
แล้วแย่งฐานลูกค้าของร้านต้นตำรับ
ต้องอำมหิตขนาดไหนคิดดู
ตอนนี้ร้านชาบูที่ใช้แบรนด์เดียวกัน
ต้องรีบชี้แจงเรื่องบุฟฟเฟต์ไม่อั้น
เพราะกลัวโดนหางเลขไปด้วย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง
อย่าขัดขาตัวเองให้ล้ม
เจ้าของร้านที่ปิดเพจไป
ไปขอเรียนสูตรฟรีจากร้านต้นตำรับ
เพื่อมาเปิดร้านแข่งกับร้านต้นตำรับ
โดยเปิดร้านถัดไปอีกสองซอย
แล้วแย่งฐานลูกค้าของร้านต้นตำรับ
ต้องอำมหิตขนาดไหนคิดดู
ตอนนี้ร้านชาบูที่ใช้แบรนด์เดียวกัน
ต้องรีบชี้แจงเรื่องบุฟฟเฟต์ไม่อั้น
เพราะกลัวโดนหางเลขไปด้วย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง
อย่าขัดขาตัวเองให้ล้ม
Natsu Hanabi ถูกใจ, พริกน้ำส้ม ถูกใจ, อิฐมอญ ถูกใจ, The chosen one ถูกใจ, samith_k ถูกใจ, สยึมกึ๋ย ถูกใจ, lollilily ถูกใจ, ec ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4768321 ถูกใจ, ขอหวานน้อยนะคะ ถูกใจรวมถึงอีก 43 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ลูกค้าชาบู เปิดใจนาทีต่อนาทีโดนว่ากินเยอะ คิดเงินเพิ่ม สาขาปัญหาปิดร้านเงียบ!
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ย. นายณัฏฐ์เมธี ธนกิตต์วุฒิกุล ลูกค้าที่ไปทานร้านชาบูนางใน สาขา พระรามเก้า 43 เปิดใจกับ สื่อมวลชน ถึงเรื่องราวดังกล่าว
นายณัฏฐ์เมธี กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนไปทานบุฟเฟ่ต์ร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 43 เมื่อไปถึง ก็สั่ง เนื้อ 6 ถาด ซึ่งน่าจะเป็นส่วนของเนื้อน่องลาย กุ้ง 2 ถาด วุ้นเส้น เห็ดเข็มทอง และไข่ไก่ จากนั้น ตนก็นั่งกินไปตามปกติ จนกระทั่งเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาใกล้ๆ โต๊ะ ตนเลยสั่งเห็ดเข็มทองเพิ่มหน่อย
แต่ว่า เจ้าของร้านบอกว่า ลูกค้าจะต้องสั่งผัก สั่งอย่างอื่นด้วยนะคะ ไม่ใช่สั่งแต่เนื้อกับกุ้งอย่างเดียว ตนเลยถามไปว่า มันหมายความว่ายังไง แล้วจากนั้น เจ้าของร้านก็ขึ้นเสียงดังใส่ บอกว่า ถ้าเกิดจะสั่งเนื้อกับกุ้งอย่างเดียว แบบนี้ร้านขาดทุน สิ่งที่เรากินไป ทางร้านไม่ได้กำไรจากเราเลย แล้วค่าจ้างพนักงานก็ไม่ได้ ถ้าหากมาครั้งหน้า จะขอเก็บเงินเพิ่ม แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่ ตนก็เลยงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรา แล้วเจ้าของร้านก็สะบัดแล้วเดินออกไปเลย
นายณัฏฐ์เมธี กล่าวต่อว่า พอตนออกจากร้านมา ตนก็ไปกดอันไลค์ออก แต่ทางร้านก็ส่งมาให้กลับไปไลค์เพจอีกรอบ ตนก็เลยไปรีวิวเพิ่ม ไม่แนะนำร้านนี้ เพราะอะไร เสียความรู้สึก ทานร้านนี้ทานบ่อยแล้ว จากนั้นเจ้าของร้านมาตอบในคอมเม้น บอกว่า ลูกค้าควรจะกินหลากหลาย ไม่ได้สั่งแต่เนื้อ แต่กุ้งอย่างเดียว แล้วมากขู่เราว่า จะดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งตลอด 3 ปีที่ไปทาน ก็ทานแบบนี้เป็นประจำ ก็เพิ่งจะมีปัญหาครั้งนี้
"เรื่องนี้ผมงงมาก เราเป็นลูกค้าประจำที่มาทานร้านนี้ได้ 3 ปีแล้ว ทุกครั้งที่ไปทาน พนักงานร้านจะรู้เลยว่า ผมกินอะไรบ้าง แล้วเราไม่เคยกินเหลือเลย ถ้าเจ้าของร้านทำแบบนี้ ตนก็จะแจ้ง สคบ. เลย ซึ่งตอนนี้ แจ้งเรียบร้อยแล้ว ทาง สคบ. ก็บอกว่า ให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไป" นอกจากนี้ ตนก็ปรึกษาทนายความส่วนตัวแล้วด้วย เบื้องต้น ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สน.หัวหมาก
โดยหลังจากที่เป็นข่าว ทางร้านก็ไม่ได้ติดต่อเลย และหลังจากนี้ ตนก็คงจะไม่มาใช้บริการร้านนี้อีกแล้ว เพราะตนมองว่า การเปิดบุฟเฟ่ต์ คือการหากำไรจากค่าเฉลี่ย ถ้าหากตนกินเยอะ แล้วจะมาคิดเงินเพิ่ม นั่นก็หมายความว่า ถ้าหากมีคนกินน้อย ก็จะต้องคืนเงินให้ และแน่นอนว่า มันน่าจะไม่มีกรณีนี้เกิดขึ้น ตนมองว่า ทางร้านมีทัศนคติดต่อธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง เรามีสิทธิ์ตามที่เราจ่ายเงิน ไม่ได้ผิดจากเงื่อนไข แต่ในมุมของผู้ประกอบการ จริง ๆเรื่องกำไร ขาดทุน ไม่ควรมาพูดกับลูกค้า ร้านควรหาวิธีการตอบคอมเม้นต์ หรือ เจรจาให้ดีกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอโทษทางร้านชาบู สาขาอื่นด้วย ที่ทำให้ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงอยากชี้แจงว่า ร้านไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกร้าน
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปยัง ร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 43 ซึ่งเป็นสาขาต้นเรื่อง พบว่า ร้านปิดให้บริการ ไม่มีพนักงานอยู่ภายในร้านเลย
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4879489