กรณีร้านชาบูนางใน สาขาพระราม 9 ซอย 43 ที่ลูกค้าไปรีวิวในเพจว่า ถูกแจ้งขอคิดเงินเพิ่ม 200 บาท หากยังรับประทานแต่เนื้อ และกุ้ง จากนั้นเจ้าของร้านได้ชี้แจงว่า บุฟเฟ่ต์คือการกินหลากหลาย ไม่ใช่กินแค่ 2 ประเภท จนสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ต่อมาทางเจ้าของแฟรนไชส์ได้ชี้แจงว่า ไม่มีนโยบายให้คิดเงินลูกค้าเพิ่มหากเลือกกินแต่ของแพง
นายณัฏฐ์เมธี ธนกิตต์วุฒิกุล ลูกค้าชาบูนางในสาขาพระราม9 ซอย 43 กล่าวว่า ตนเดินทางไปรับประทานชาบูร้านนี้ตามปกติ ซึ่งเป็นร้านประจำ เดือนนึงก็ไปหลายครั้ง ไปบ่อยจนพนักงานรู้ว่าจะสั่งอะไร วันเกิดเหตุ ตนได้สั่ง มีกุ้ง 2 จาน เนื้อ 6 จาน วุ้นเส้น ไข่ไก่ ซึ่งกินไปตามปกติ ขณะนั้นเจ้าของเดินเข้ามา บอกว่าจะสั่งแต่เนื้อและกุ้งไม่ได้ ต้องสั่งผัก และของอย่างอื่นบ้าง ตนจึงตอบไปว่า หมายความว่าอย่างไร จากนั้นเจ้าของร้านก็ขึ้นเสียง ว่า ลูกค้าสั่งแบบนี้ ทำให้ไม่คุ้มกับร้าน พร้อมบอกว่าต่อไปขอเก็บเงินเพิ่ม จากนั้นตนก็ไปรีวิวในเพจของร้าน และ ร้านก็มาตอบโพสต์ ตามที่เป็นประเด็นเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากเป็นข่าว ร้านยังไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย
นายณัฏฐ์เมธี เล่าต่อว่าคนเป็นลูกค้าชาบูนางในสาขานี้ มา 3 ปีแล้วปกติไปทุกครั้งก็สั่งแบบนี้ตลอด ซึ่งพนักงานก็บริการดี และเต็มใจบริการทุกครั้ง ส่วนจะกลับไปรับประทานอีกหรือไม่ ตนคงไม่กลับไปที่สาขานี้อีกแล้ว เมื่อถามถึงความรู้สึก ตนของมองในสองมุมทั้งที่เป็นลูก ว่าตนเป็นลูกค้าประจำมีสิทธิสั่งอาหารตามที่จ่าย และตนก็ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขอะไรของร้าน ส่วนในมุมของผู้ประกอบการนั้น ตนในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ้หมือนกัน มองว่าร้านควรจะมีวิธีจัดการเรื่องการคุ้มทุนหรือไม่คุ้มกันเอง ไม่ควรมาบอกลูกค้า และมาตอบคอมเมนต์แบบนี้
นาย ณัฏฐ์เมธี กล่าวต่อว่าส่วนเรื่องคดีความที่ร้านมาบอกว่าจะเอาผิดนั้น ตนได้ไปแจ้งสคบ.แล้ว โดย สคบ.ให้ส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติม และได้ไปคุยกับทนายพร้อมลงบันทึกประจำวัน สน.หัวหมากไว้แล้ว ถ้าทางร้านจะดำเนินการอย่างไรตนก็พร้อมสู้คดี
ข่าวจาก
https://www.one31.net/news/detail/24457
ร้านชาบูอยากใช้กฎหมาย? ลูกค้าจัดให้! ร้อง สคบ. + แจ้งตำรวจ + ตั้งทนาย เรียบร้อย
กรณีร้านชาบูนางใน สาขาพระราม 9 ซอย 43 ที่ลูกค้าไปรีวิวในเพจว่า ถูกแจ้งขอคิดเงินเพิ่ม 200 บาท หากยังรับประทานแต่เนื้อ และกุ้ง จากนั้นเจ้าของร้านได้ชี้แจงว่า บุฟเฟ่ต์คือการกินหลากหลาย ไม่ใช่กินแค่ 2 ประเภท จนสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ต่อมาทางเจ้าของแฟรนไชส์ได้ชี้แจงว่า ไม่มีนโยบายให้คิดเงินลูกค้าเพิ่มหากเลือกกินแต่ของแพง
นายณัฏฐ์เมธี ธนกิตต์วุฒิกุล ลูกค้าชาบูนางในสาขาพระราม9 ซอย 43 กล่าวว่า ตนเดินทางไปรับประทานชาบูร้านนี้ตามปกติ ซึ่งเป็นร้านประจำ เดือนนึงก็ไปหลายครั้ง ไปบ่อยจนพนักงานรู้ว่าจะสั่งอะไร วันเกิดเหตุ ตนได้สั่ง มีกุ้ง 2 จาน เนื้อ 6 จาน วุ้นเส้น ไข่ไก่ ซึ่งกินไปตามปกติ ขณะนั้นเจ้าของเดินเข้ามา บอกว่าจะสั่งแต่เนื้อและกุ้งไม่ได้ ต้องสั่งผัก และของอย่างอื่นบ้าง ตนจึงตอบไปว่า หมายความว่าอย่างไร จากนั้นเจ้าของร้านก็ขึ้นเสียง ว่า ลูกค้าสั่งแบบนี้ ทำให้ไม่คุ้มกับร้าน พร้อมบอกว่าต่อไปขอเก็บเงินเพิ่ม จากนั้นตนก็ไปรีวิวในเพจของร้าน และ ร้านก็มาตอบโพสต์ ตามที่เป็นประเด็นเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากเป็นข่าว ร้านยังไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย
นายณัฏฐ์เมธี เล่าต่อว่าคนเป็นลูกค้าชาบูนางในสาขานี้ มา 3 ปีแล้วปกติไปทุกครั้งก็สั่งแบบนี้ตลอด ซึ่งพนักงานก็บริการดี และเต็มใจบริการทุกครั้ง ส่วนจะกลับไปรับประทานอีกหรือไม่ ตนคงไม่กลับไปที่สาขานี้อีกแล้ว เมื่อถามถึงความรู้สึก ตนของมองในสองมุมทั้งที่เป็นลูก ว่าตนเป็นลูกค้าประจำมีสิทธิสั่งอาหารตามที่จ่าย และตนก็ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขอะไรของร้าน ส่วนในมุมของผู้ประกอบการนั้น ตนในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ้หมือนกัน มองว่าร้านควรจะมีวิธีจัดการเรื่องการคุ้มทุนหรือไม่คุ้มกันเอง ไม่ควรมาบอกลูกค้า และมาตอบคอมเมนต์แบบนี้
นาย ณัฏฐ์เมธี กล่าวต่อว่าส่วนเรื่องคดีความที่ร้านมาบอกว่าจะเอาผิดนั้น ตนได้ไปแจ้งสคบ.แล้ว โดย สคบ.ให้ส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติม และได้ไปคุยกับทนายพร้อมลงบันทึกประจำวัน สน.หัวหมากไว้แล้ว ถ้าทางร้านจะดำเนินการอย่างไรตนก็พร้อมสู้คดี
ข่าวจาก https://www.one31.net/news/detail/24457