บ้านเราอยู่โซนปริมณฑล ได้เข้าทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ตอนที่เรามาทำแรกๆตอนนั้นแผนกเรายังไม่มี ผจก. เราถูกเจ้านายเรียกคุยบ่อยมาก ในเรื่องของสร้างระบบพัฒนาในแผนก ปรับปรุงห้องทำงาน KPI เพิ่มกำลังคน ฯ แล้วให้เราทำแผนงาน หาข้อมูลมาเสนอเขา เขาบอกสนับสนุนเต็มที่(เขาว่างี้นะ) พอเราทำเสร็จเสนอไปก็เงียบ พอเราติดตามก็ตอบกลับมาเดี๋ยวดูให้แล้วก็หายไป เราตามประมาณ 2 ครั้งเราก็ไม่ตามต่อคือเกรงว่าจะดูไม่ดี เพราะเรื่องทั้งหมดรอแค่เจ้านายอนุมัติถึงจะดำเนินการได้ ต่อมาเราได้ ผจก.แผนกคนใหม่มาเจ้านายก็เอารูปแบบที่คุยกับเราไปคุยกับ ผจก. แล้ว ผจก.ก็มาขอให้เราทำแผนงานต่างๆแบบที่เราไปข้างต้นให้เขาดู เดี๋ยวเขาจะช่วยดูและตามให้ ระหว่างนี้ก็มีตามนะเจ้านายก็บอกผมติดโครงการ A อยู่จบโครงการนี้ต่องานคุณเลย จนโครงการ B C D จบไปแล้วแผนงานเราก็ยังไม่ได้เริ่ม จนล่วงเลยมา 1 ปีเต็มอะไรๆก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีท่าทีใดๆ
เราเลยกลับมาทบทวนกับตัวเองนะว่าเราไม่มีประสิทธิภาพมากพอหรือแค่เจ้านายต้องการขายฝันให้เรา เราก็ยังทำงานให้เขาเต็มที่นะแต่แรงจูงใจมันหายไป ตอนที่เขารับเข้าทำงานด้วยเหตุผลเพราะว่าเห็นเราเป็นคนชอบพัฒนาตัวเอง ไม่หยุดอยู่กับที่ มีไอเดียใหม่ๆกล้าคิดกล้าทำ ตอนนี้เราก็ยังทนและเป็นอย่างนั้นอยู่แต่ไปได้ไม่สุด บ่นมามาซะยืดยาวเลยขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้นะครับ ใครเจอสถานการ์ณคล้ายๆเราบ้าง มีวิธีจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง มาแชร์กันครับ
ปล.ขอวิธีลาออกให้เป็นทางเลือกสุดท้ายนะครับ
ด้วยสถานการณ์แบบนี้งานหายาก แต่ตัวเราก็พยายามหาอยู่เหมือนกันครับ
เคยเจอเรื่องแบบนี้ในที่ทำงานกันบ้างไหม? มาแชร์กัน
เราเลยกลับมาทบทวนกับตัวเองนะว่าเราไม่มีประสิทธิภาพมากพอหรือแค่เจ้านายต้องการขายฝันให้เรา เราก็ยังทำงานให้เขาเต็มที่นะแต่แรงจูงใจมันหายไป ตอนที่เขารับเข้าทำงานด้วยเหตุผลเพราะว่าเห็นเราเป็นคนชอบพัฒนาตัวเอง ไม่หยุดอยู่กับที่ มีไอเดียใหม่ๆกล้าคิดกล้าทำ ตอนนี้เราก็ยังทนและเป็นอย่างนั้นอยู่แต่ไปได้ไม่สุด บ่นมามาซะยืดยาวเลยขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้นะครับ ใครเจอสถานการ์ณคล้ายๆเราบ้าง มีวิธีจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง มาแชร์กันครับ
ปล.ขอวิธีลาออกให้เป็นทางเลือกสุดท้ายนะครับ ด้วยสถานการณ์แบบนี้งานหายาก แต่ตัวเราก็พยายามหาอยู่เหมือนกันครับ