วันอาทิตย์ที่ 2-8-20 ยังค้างคาใจกับภาพความอลังการ 
ของชุดน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea) ของร้านเรือนนพเก้า ที่เน้นความเป็นไทย
หลังการมากินที่เรือนนพเก้าครั้งแรก ที่ประทับใจกับอาหารและเรื่องราวของอาหาร
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เรือนนพเก้า" https://ppantip.com/topic/40056957 
จึงชวนแฟนกลับไปร้านเรือนนพเก้า สาทรซอย 6 อีกครั้ง
โดยจะกินมื้อเที่ยง แล้วจึงต่อด้วยชุดน้ำชายามบ่าย และตอนเย็นอาจไปกินมื้อค่ำ ที่ร้านหัวปลา ส.วังใหม่
"เที่ยวไปกินไป by laser @ หัวปลาหม้อไฟ ส. วังใหม่" https://ppantip.com/topic/39711910



ยังคงเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสไปลงที่สถานีช่องนนทรี 
ออกทางด้านทางออกที่ 3 และ 4 ต่อด้วยทางออกที่ 5 ไปที่สะพานงวงช้างคร่อมถนนสาทร
ลงถนนสาทรฝั่งเหนือ เลี้ยวซ้ายเข้าสาทรซอย 6 หรือซอยพิพัฒน์ (สีลมซอย 3) ไปที่ร้านเรือนนพเก้า
มาร้านนี้สองครั้งเมฆครึ้ม เจอฝนปรอยทั้งสองครั้ง นั่งไปสักพักตกหนัก







วัดอุณหภูมิและเช็คอินก่อนเข้าร้าน



10.49 น. เป็นลูกค้าคู่แรก ชอบมาช่วงร้านเพิ่งเปิด เพื่อเลือกโต๊ะนั่งได้





วันนี้โต๊ะเบาะยาวมีคนจองเต็ม เปลี่ยนมานั่งโต๊ะกลมมุมสวนสงบดีเป็นส่วนตัว



อยู่ในช่วงงดเหล้าเข้าพรรษา เพราะฉะนั้น แก้วเหล้าองุ่นเก็บไปได้เลย



ครั้งที่แล้วลองชุดนพเก้า



วันนี้ตั้งใจจะลองกินอาหารอย่างอื่น ที่ครั้งก่อนยังไม่ได้ลอง โดยเฉพาะข้าวซอยและปลากะพง
แต่เชฟปิ๊กแจ้งว่า เนื่องจากเดือนสิงหาคม เป็นเดือนแห่งวันแม่แห่งชาติของไทย
ทางร้านจึงจัดชุดอาหารไทยสำหรับวันแม่ โดยมีทั้งหมด 15 อย่างในราคาเพียง 1,500 บาท++
เหมาะสำหรับ 1-2 คน ความจริงจะให้บริการชุดนี้ระหว่าง 7-12 สิงหาคม 2563 เพียง 6 วันเท่านั้น
แต่ยินดีทำให้ลองก่อนใคร แม้ว่าคุณแม่จะจากไปหลายปีแล้ว แต่ยังมีแม่อีกคนที่บ้าน คือ "แม่คุณ"
อีกทั้งรายการอาหารที่เชฟปิ๊กนำเสนอน่าสนใจ ไม่เคยลองมาก่อน แต่ก็กลัวว่ากินชุดวันแม่แล้ว
จะกินชุดน้ำชายามบ่ายต่อไม่ไหว ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของวันนี้ ที่โทรฯ มาจองชุดน้ำชายามบ่ายไว้แล้ว
เพราะมีส่วนลด 10% แต่เชฟปิ๊กบอกว่าแต่ละจานไม่มาก รับรองว่ากินต่อไหว จึงสั่งตามที่เชฟปิ๊กเสนอ



ใช้เวลาไม่นานสำหรับทั้ง 15 อย่าง โดยเชฟปิ๊กลงมือทำอาหารเองทุกอย่าง



เป็นเหมือนการย่อส่วนจากขนาดปกติ เพื่อให้สามารถกินได้หลายอย่าง









เริ่มด้วยเครื่องดื่มต้อนรับ "มะลิซ่อนกลิ่น" เครื่องดื่มเน้นดอกมะลิตัวแทนความเป็นแม่
เดิมเป็นเหล้าค็อกเทล แต่วันนี้ทำเป็นม็อกเทล โดยตัดเหล้าจินออก ส่วนผสมอื่นยังคงเดิม 
ทั้งน้ำมะนาว ใบสะระแหน่ ฟองไข่ขาว แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่และกรวยดอกมะลิ 
ประดับถาดด้วยดอกพุดซ้อนและจำปีส่งกลิ่นหอม ก่อนดื่มฉีดน้ำเชื่อมลอยดอกมะลิใส่ในแก้วโลหะสีนาก หรือทองชมพู



และสำหรับชุดพิเศษวันแม่ เชฟปิ๊กได้เตรียมน้ำปรุงตำรับแม่ยี่สุน
ทำจากใบเนียมแช่ในเอทิลแอลกอฮอล หมักไว้เจ็ดวันนำมากรอง
ได้สารสกัดใบเนียมสีเขียว ผสมกับน้ำกุหลาบมอญจากเชียงราย ที่แข่ในเอทิลแอลกอฮอลสองเดือน
ผสมกับน้ำลอยดอกไม้สี่อย่าง คือ มะลิ กุหลาบมอญ ชมนาดและกระดังงา อบควันเทียนอีกหนึ่งคืน
ตรึงกลิ่นให้มีความหอมทนนาน ด้วยขี้ชะมดเช็ด น้ำมะกรูดและผิวมะกรูด หอมติดนานสามวันสามคืน
เชฟปิ๊กไปเรียนออนไลน์ช่วงปิดร้านเพราะโควิด 19 เริ่มระบาด เพื่อมาเตรียมทำน้ำปรุงแจกสำหรับวันแม่โดยเฉพาะ
สั่งอาหารชุดวันแม่หนึ่งชุดแจกให้หนึ่งหลอด พร้อมบัตรอวยพรวันแม่ แต่วันนี้ยังพิมพ์ไม่เสร็จแม่คุณอด



ของกินเล่นเรียกน้ำย่อยจากเชฟ "ช่อมะลิไส้ปู"
ดัดแปลงจากช่อม่วงไส้ปู แต่แป้งไม่ผสมสีม่วงจากดอกอัญชัน แหนบจับกลีบเป็นดอกมะลิซ้อน
ไส้เนื้อปูผัดกับสามเกลอ หอมแดง ไม่ใส่ขิง ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทย
โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว กินแนมกับผักกาด หอม ผักชี และพริกชี้ฟ้าแดงซอยเส้นบาง



ของกินเล่นหลักมาในกล่องไม้ปิดฝาใส่ควันเทียนหอม
ในชื่อ "กล่องของขวัญสำหรับคุณแม่"
ในกล่องอบอวลด้วยควันเทียนหอมลอยไปมา



เปิดฝากล่องให้ควันเทียนหอมลอยออกมา



สิ่งที่วางอยู่บนข้าวสารกล้อง รายล้อมด้วยดอกมะลิ และกลีบกุหลาบมอญ 
คือ "ขนมเบื้องแย้มพระโอษฐ์" เหมือนรอยยิ้มจากแม่
เป็นขนมเบื้องสุโขทัยขนาดย่อส่วน แต่โรยหน้าเพิ่มด้วยเนื้อปูก้อน







สิ่งที่ต่างจากขนมเบื้องสุโขทัย คือ ไม่ร่อนน้ำแป้งในกระทะ
แต่เทลงพิมพ์ทำขนมทองม้วน เปลือกแป้งหนากรอบ มีลวดลายบนแผ่นแป้ง
คำนี้ยกให้ "แม่คุณ" กินคนเดียว



"ยำใหญ่" สลัดแบบไทย เป็นหนึ่งในอาหารไทยโบราณ จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน 
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ที่บรรยายว่า
"มัสมั่นแกงแก้วตา    หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง   แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
ยำใหญ่ใส่สารพัด    วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา     ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ"



เป็นอาหารที่นิยมทำกินกันในวาระพิเศษ 
เชพปิ๊กจึงเลือกมาไว้ในรายการอาหารชุดวันแม่







ยำใหญ่ของเชฟปิ๊กเลือกใส่เนื้อกุ้งแม่น้ำเนื้อเด้ง และหมึกแห้งทอด ใส่หัวผักกาดซอยและขิงซอย
คลุกเคล้ากับน้ำยำ เค็มนำ ตามด้วยเผ็ดและเปรี้ยว ปิดท้ายด้วยรสหวานเล็กน้อย 
กินแนมกับไข่ต้มหั่นเสี้ยว ปัจจุบันไทยทำน้ำปลาเอง จึงปรุงรสเค็มด้วยน้ำปลาไทย