JJNY : 5in1 ม็อบ-น.ศ.บุกทบ./พิราบขาวฯ หนุนข้อเรียกร้อง/กมธ.ถกงบ64ล่ม!/โจชัว หว่องสนับสนุนปชต.ไทย/นักลงทุนกังวลการเมือง

ม็อบ-นักศึกษา บุกทบ. ปราศรัยโต้‘ผู้พันเจี๊ยบ’ ยันกลุ่มปลดแอกไม่มุ้งมิ้ง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4543883
 

 
ม็อบ-นักศึกษา บุกทบ. ปราศรัยโต้‘ผู้พันเจี๊ยบ’ ยันกลุ่มปลดแอกไม่มุ้งมิ้ง ปิดแยกคอกวัวให้เห็นมาแล้ว ตร.อ่านประกาศระวังผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
 
เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 20 ก.ค. ที่บก.ทบ. กลุ่มผู้ชุมนุม นำโดยนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำนักเคลื่อนไหวทางสังคมเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย คนที่ชูป้ายขณะนายกฯเดินทางไประยอง รวมตัวกันแสดงออกในฐานะประชาชน เนื่องจากไม่พอใจกับการกล่าวหาของ พ.อ.หญิง นุสรา วรภัทราทร หรือผู้พันเจี๊ยบ นายทหารประจำ กรมยุทธการ ทบ. และอดีตรองโฆษกกองทัพบก ต่อการชุมนุมโดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก เพื่อต่อต้าน [เผล่ะจัง]  และสนท. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
 
นายพริษฐ์ กล่าวว่า โลกนี้ทหารต้องเป็นเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตย ช่วยสนับสนุนเสรรีภาพตามาตรฐาน ขอให้ทหารไทยอย่าดูถูกเหยียดหยามประชาชน อย่าลืมตัว คิดไปเองว่าเป็นเจ้าของประเทศ ตนขอถามว่าวันนี้ไปถามชาวบ้านดู ใครบ้างที่ชอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนคำที่ผู้พันเจี๊ยบระบุว่าว่า ม็อบมุ้งมิ้ง นั้นก็ปิดแยกคอกวัวให้เห็นมาแล้ว
 
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมนำเครื่องขยายเสียงมาปราศรัย พร้อมตั้งเวทีหน้าบก.ทบ. ทำให้ต้องปิดการจราจรช่องทางคู่ขนาน 2 ช่อง เนื่องจากมีประชาชนลงมาบนถนน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น มีตำรวจควบคุมฝูงชนนครบาล 1 จำนวน 1 หมวด ตำรวจสน.นางเลิ้ง ตำรวจสายตรวจ ตำรวจจราจร ประมาณ 20 นาย พร้อมรถเครื่องขยายเสียงและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวประมาณ 20 นาย คอยทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ส่วนสารวัตรทหารบกได้ปิดประตูทางเข้าด้านหน้าในเวลา 17.00 น.
 
ก่อนที่แกนนำจะเริ่มทำกิจกรรม ตำรวจ สน.นางเลิ้งได้อ่านประกาศและข้อกำหนดโทษที่ออกตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 พ.ร.บ.ควบคุมโรค และพ.ร.บ.การจราจร ผ่านรถเครื่องขยายเสียงโดยจอดรถหันลำโพงไปที่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้สนใจ
 
จากนั้นนายภาณุพงษ์ ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ม็อบเราไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง เวลาเราทำกิจกรรมจะมีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารไปหาที่บ้าน ถ่ายรูปครอบครัวและขอเบอร์โทรคนที่บ้าน สิ่งเหล่านี้คือการคุกคามประชาชนหรือไม่ ขอให้ช่วยแยกแยะอำนาจกับสิทธิเสรีภาพประชาชนด้วย
 

 
กลุ่มพิราบขาวฯ มธ.ลำปาง ชูป้ายหนุนข้อเรียกร้อง 'ยุบสภา-ร่าง รธน.ใหม่-หยุดคุกคาม ปชช.'
https://prachatai.com/journal/2020/07/88672
 
20 ก.ค. 2563 เมื่อวานนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง นักศึกษากลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน ได้ทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อร่วมสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย โดยมีการระบุถึงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล คือ ต้องประกาศยุบสภา, หยุดคุกคามประชาชน, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมถึงข้อเสนอของกลุ่มในการเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ได้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่กำลังก่อความเดือดร้อนต่อประชาชนโดยเร็วที่สุด หากรัฐบาลมิได้ทำการข้อเรียกร้อง จะดำเนินการยกระดับการแสดงออกต่อไป
  

 
กมธ.ถกงบ64ล่ม!พรรคร่วมไม่พอใจพปชร. ไร้กรอบการทำงาน
https://www.dailynews.co.th/politics/785834
  
 เมื่อวันที่ 20 ก.ค.  ที่รัฐสภา  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2564  มีวาระพิจารณาการจัดสรรงบประมาณในส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
 
จากนั้นได้เกิดปัญหาองค์ประชุมล่ม ไม่สามารถประชุมต่อได้ จนนายวราเทพ รัตนากร  รองประธานกรรมาธิการ คนที่ 3 ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดยระหว่างนั้นได้ปรากฎว่า กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งส.ส.ซีกฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล  พรรคเสรีรวมไทย พากันยืนอยู่หน้าห้องไม่เข้าร่วมประชุม
 
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า  สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมล่ม เนื่องจากนายชาดา ไทยเศรษฐ์  ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ คนที่12 ได้เสนอนับองค์ประชุม เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจแนวทางการทำงานของกรรมาธิการซีกพลังประชารัฐเพราะไม่วางกรอบชัดเจนในการทำงาน
 
ด้านนายวรวัจน์  เอื้ออภิญญกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯจากสัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาเหตุที่องค์ประชุมล่ม เนื่องจากกรรมาธิการฯไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย ทำให้ไม่มีใครที่จะตัดสินใจในการทำงานของกรรมาธิการฯ โดยเฉพาะนายวราเทพ ที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย ต้องฟังเสียงจากคนข้างนอก ดังนั้นหากสุดท้ายยังไม่มีใครตัดสินเรื่องต่างๆในการทำหน้าที่ในกมธ.ได้ ก็จะส่งผลให้กรรมาธิการฯชุดนี้เดินหน้าทำงานต่อไปไม่ได้
 
“ในที่ประชุมมีความพยายามจะอะลุ่มอะหล่วย โดยฝ่ายค้านเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่นายวราเทพก็ประชุมลากไปเรื่อยๆ วงเล็กก็ไม่มีการคุย วงใหญ่ก็ไม่มีการคุย จึงส่งผลให้ไม่มีใครทราบเลยว่า ทิศทางของการทำหน้าที่กมธ.จะเป็นอย่างไร ซึ่งผมเคยเป็นกมธ.งบมาหลายคณะ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงให้เห็นว่าทุกพรรคเห็นด้วยกับการวางกรอบที่ชัดเจน ยกเว้นพรรค พลังประชารัฐพรรคเดียว” นายวรวัจน์  กล่าว
 
ต่อมา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ ได้แถลงว่า ในระหว่างที่มีการซักถามอธิบดี 2 กรม. ได้เกิดสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือ กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล โดยนายชาดา ได้เดินเข้ามาเสนอให้นับองค์ประชุม โดยที่พรรคฝ่ายค้านไม่ทราบเหตุผลมาก่อน ทำให้นายวราเทพ รัตนากร  ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม 10 นาที เพื่อเปิดโอกาสให้พูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้น
 
จากนั้นได้เปิดประชุมอีกครั้ง นายชาดายังยืนยันที่จะเสนอให้นับองค์ประชุมเหมือนเดิม โดยมีผู้รับรอง 5 คน ปรากฏว่า กรรมาธิการซีกรัฐบาลทั้งพรรคประชาธิปัตย์  พรรคภูมิใจไทย และพรรคฝ่ายค้านได้เดินออกจากห้องประชุมไป  เหลือเพียงพรรคพลังประชารัฐ สุดท้ายทำให้องค์ประชุมมีเพียง 19 คน ไม่ครบองค์ประชุม ประธานจึงได้สั่งปิดประชุมเวลา 16.00 น และนัดประชุมใหม่ในวันที่ 21 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
 
“คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากภายในของรัฐบาลเองเพราะกรรมาธิการในซีกฝ่ายค้านพรรคทั้งหมดอยู่ครบ ซึ่งนายวราเทพ บอกว่าเคยเป็นประธาน และรองประธานในการพิจารณางบมาหลายสมัยไม่เคยมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่อยู่กรรมาธิการในซีกรัฐบาลเสนอนับองค์ประชุม  และซีกรัฐบาลพากันเดินออกหมด เรียกได้ว่าโดดเดี่ยวพลังประชารัฐ แสดงว่ารัฐบาลมีปัญหากันเองหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านก็อยากให้การทำงานของกรรมาธิการฯเดินหน้าไปได้เพราะเรามีเวลาจำกัด ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 11 ก.ย. ซึ่งอาจจะเป็นผลการปรับครม.หรือไม่”  นายยุทธพงศ์ กล่าว
 
เมื่อถามว่า สถานการณ์เช่นนี้จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ นายยุทธพงศ์  กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี  แต่ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน เพราะเราพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะกรรมาธิการฯพิจารณางบถือว่า มีความสำคัญมาก มีถึง 72 คน องค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 24 คน แค่นี้ก็ยังไม่ครบ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญและน่าวิตก ซึ่งไม่ทราบว่าพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) เช้าจะเริ่มประชุมได้หรือไม่.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่