ร้านกาแฟยามบ่าย

เป็นเรื่องสั้นที่ได้แรงบันดาลใจในการแต่งมาจากเรื่องจริงนิดนึงนะครับ

++++++++++++++++++


ผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟร้านโปรดเพียงลำพัง เวลานี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นมาใช้บริการเลยแม้แต่คนเดียว แอร์เย็นฉ่ำผสมผสานกับกลิ่นกาแฟจางๆ และเพลงบอสซ่านุ่มนวล บรรยากาศเช่นนี้คงยากที่จะหาความเพลิดเพลินใดมาทดแทน

บนโต๊ะทรงกลมตรงหน้าของผมมีแก้วกาแฟร้อนๆ วางอยู่สองแก้วตรงข้ามกัน แน่นอนแก้วหนึ่งเป็นของผม ส่วนอีกแก้วเป็นของคนที่ผมกำลังรออยู่

เสียงกระดิ่งดังกริ๊งๆ เมื่อประตูหน้าร้านถูกเปิดออก แสงอาทิตย์ร้อนแรงในยามบ่ายสาดเข้ามาพร้อมกับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เธอคือคนรักของผมเอง

"รอนานมั้ย? ขอโทษนะ พอดีงานยุ่ง" เธอทักทายผมด้วยเสียงหวานๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์อันตราตรึงอยู่ในโสตประสาทตั้งแต่วันแรกที่ได้ยิน

"ไม่นานเลย กาแฟเพิ่งมาเสิร์ฟเมื่อกี้นี้เอง" ผมตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้นวมเบาๆ ส่วนเธอนั้นรีบยกกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าทีประหม่า

"เธอโดนเจ้านายบ่นมั้ยวันนี้?" ผมยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบบ้าง ทว่าสายตานั้นไม่ได้ละไปจากใบหน้าของคนฝั่งตรงข้ามเลย

"ไม่นะ แต่เมื่อสามวันก่อน เขาวางจดหมายเตือนไว้ที่โต๊ะไง เราเลยทำตัวดี" เธอหัวเราะเบาๆ จนตาหยี "แล้ววันนี้เธอโอเคมั้ย?"

"ก็คงจะโอเคแหละมั้ง" ผมเกาหัวตัวเองดังแกรกๆ อย่างครุ่นคิด ผมควรจะตอบคำถามอย่างไรดีล่ะ ในเมื่อความรู้สึกของผมมันก็ไม่ได้สุขขนาดนั้น แต่ก็ไม่ถึงกับเศร้าอะไร

"ช่วงนี้เราต่างคนต่างงานเยอะ แทบไม่ได้มาเจอกันเลยเนอะ"

"ใช่.. วัยทำงานนี่มันไม่สนุกเหมือนมหาลัยเลย"

"จริง" เธอขำแห้งๆ "เออ.. วันนี้เว่ยเธอ ฮามาก เพื่อนผู้ชายที่แผนกเราคนนึงลืมรูดซิปกางเกง แล้วพี่พีชอะ มาไล่กระซิบบอกทุกคนว่าอย่าไปทัก สรุปมันเดินอย่างนั้นจนถึงพักเที่ยง"

ผมกับเธอหลุดขำเสียงดังจนพนักงานพลอยตลกไปด้วย พวกเราหัวเราะกันเกือบนาที ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆ

"เออเธอ เราอยากไปเที่ยวทะเลแล้วนะ" เธอเริ่มชวนคุยเรื่องใหม่ ในขณะที่ผมยังซับน้ำตาที่เล็ดออกมาจากการขำเมื่อกี้ไม่เสร็จ

"อืม.. เหมือนกันเลย" ผมตอบไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงอนาคตของเรา

ทำไมกันนะ?

"หยุดปีใหม่เราไปด้วยกันมั้ย?" เธอถามด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มพร้อมกับหลบสายตา

ผมยิ้มให้กับคำถามนั้นอย่างปราศจากความหมาย สายตาที่เคยจับอยู่กับใบหน้าของคนรักก็ค่อยๆ เบนต่ำลงมายังแก้วกาแฟของตัวเอง

"เธอ" คอของผมแห้งผาก ความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมาจุกอยู่กลางอกจนเริ่มที่จะอึดอัด ส่วนแฟนสาวของผมนั้นนิ่งเงียบไม่ปริปากพูดสิ่งใดออกมาสักคำ

ราวกับโลกหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ เสียงรอบข้างพลันเงียบสงัดลงจนน่าใจหาย..

"เราว่า.. เราอย่าฝืนกันอีกเลยนะ" ผมถอนหายใจดังเฮือก หลังจากพูดประโยคที่แสนยากลำบากนั้นออกไป

"มันไม่มีทางอื่นแล้วสินะ" ดูเหมือนแฟนสาวของผมเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเช่นเดียวกัน

"เธอเองก็รู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย?"

"อืม.. อะไรๆ มันเปลี่ยนไปมากเลย" เธอฝืนยิ้มออกมา ทั้งที่แววตาคู่นั้นเศร้าหมองเหลือจะกล่าว

"เราทะเลาะกันบ่อยครั้งมาก ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นพิษไปแล้ว" ผมพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำอย่างคนขี้แพ้ จิตใจของผมที่เคยกระฉับกระเฉงมันกลับอ่อนล้าเหลือเกินในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

"ก็เธอไม่สนใจเรา"

"เธอต่างหากที่หลบหน้าเรา มีอะไรคุยกันตรงๆ ไม่ได้เหรอ?"

"ผู้ชายกับผู้หญิงมันไม่เหมือนกันปะ!?" เธอเริ่มขึ้นเสียง

"เห้อ" ผมพ่นลมออกทางจมูกพร้อมกับเบือนหน้าหนีเพื่อหวังระงับสติอารมณ์ลง "คุยกันดีๆ ได้แปปเดียวจริงๆ"

"พวกเราพอแค่นี้ดีกว่ามั้ย เราว่าเราไม่ไหวแล้วว่ะ" เสียงแฟนของผมเริ่มสั่น ผมสังเกตได้ว่าเบ้าตาทั้งสองของเธอนั้นเริ่มมีน้ำใสๆ คลออยู่

"เราก็เหนื่อยมากเหมือนกัน ทำอะไรก็ผิดไปหมดเลย"

"เธอไม่พยายามเข้าใจเราเลย"

"โทษทีนะ เราน่ะพยายามที่สุดแล้ว เธอนั่นแหละ เอาแต่ใจ นึกจะดีก็ดี นึกจะห่างก็ห่าง แถมยังเอาแต่แชทคุยกะรุ่นพี่คนนั้นอยู่ได้ บอกกี่ครั้งแล้วว่าเราไม่ชอบ"

"แค่เรื่องงานปะ? และเราก็บอกเธอแล้วว่าเราต้องการพื้นที่ส่วนตัว ไหนเธอว่าโอเคไง"

"เราต้องใจกว้างระดับไหนวะ เธอถึงจะพอใจอะ!?" ผมเริ่มเสียงดังขึ้นบ้าง

"พอ! หยุด!" เธอทุบโต๊ะดังลั่นจนพนักงานในร้านสะดุ้งตัวโยน ส่วนผมนั้นได้แต่มองหน้าเธอเฉยๆ ด้วยท่าทีที่ไม่อ่อนลงเช่นกัน

เรามองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ กาแฟร้อนของเราทั้งสองเริ่มเย็นชืด ซึ่งสวนทางกับบรรยากาศที่กำลังตึงเครียดถึงขีดสุด

"ง.." ผมจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องกลืนกลับเข้าไป เพราะรู้ตัวดีว่าไม่อาจควบคุมเสียงตัวเองให้ไม่สั่นได้

"งั้นเราไม่ต้องรู้จักกันอีกแล้วดีกว่านะ" เธอพูดประโยคนั้นออกมาราวกับอ่านใจผมได้ กระเป๋าแบรนด์เนมสีน้ำตาลแก่ถูกหยิบขึ้นมาถือไว้ พร้อมกับเจ้าของคนสวยของมันที่ยืนขึ้นอย่างฉุนเฉียว

"ไปเถอะ" ผมฝืนยกกาแฟที่ไม่เหลือความร้อนแล้วขึ้นดื่ม เพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีต่อเหตุการณ์นี้

แฟนสาวที่ผมรักสุดหัวใจค่อยๆ เดินออกจากร้านไป เธอทิ้งความเงียบและเจ็บปวดเอาไว้เบื้องหลัง มันปกคลุมทับถมร่างกายของผมจนเริ่มหายใจลำบาก


ทำไมกันนะ.. ความรักที่ลงตัวราวกับพรหมลิขิตถึงกลายมาเป็นพิษในวันนี้ได้

ผมยังคงนั่งมองแก้วกาแฟของเธอโดยปราศจากความหมายใดๆ อยู่อย่างนั้น ความรู้สึกนึกคิดของผมปั่นป่วนไปหมด บางขณะก็นึกย้อนไปยังอดีตซึ่งแก้ไขไม่ได้ บางขณะก็โลดแล่นไปยังอนาคตที่ไม่มีอยู่จริง

ในเมื่อไปต่อไม่ไหว จบแบบนี้คงดีที่สุดแล้วสินะ..

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่