คือเรื่องราวมีอยู่ว่า ผมใช้โทรศัพท์ Samsung Galaxy Note 8 แต่ถือว่าใช้มาก็นานหลายปีแล้วเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้แบตมันเริ่มจะหมดเร็ว
ซึ่งเมื่อวันที่ 14/06/2020 ที่ผ่านมาผมก็ได้โทรไปเช็คกับทางศูนย์ซัมซุงฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ว่ามีแบตเตอรี่รุ่นนี้หรือเปล่าเพราะจะเอาเครื่องเข้าไปเปลี่ยนแบต
เพราะก่อนหน้าเลยเคยเข้าไปแล้วพนักงานแจ้งว่าต้องโทรมาจองอะไหล่ล่วงหน้า โอเค ก็โทรไปเช็ค พนักงานแจ้งมีของ ประมาณเที่ยงของวันเดียวกันผมก็
เข้าไปติดต่อที่ศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนแบตตอนนั้นแจ้งพนักงานว่าลำโพงช่องหูฟังเวลาคุยสายมันไม่ค่อยได้ยินเสียงตอนเปลี่ยนแบตรบกวนช่างทำความสะอาดให้ด้วย ราคาอยู่ประมาณเท่าไหร่ พนักงานบอกไม่คิดค่าใช้จ่ายเดี๋ยวให้ช่างทำความสะอาดให้ เสร็จเรียบร้อยพนักงานก็ให้จ่ายเงินเลย เพราะบอกว่าตอนมารับจะได้ไม่ต้องรอนาน ก็จ่ายเรียบร้อย 1840 บาท แต่ใบเสร็จจะได้ตอนมารับเครื่องก็โอเค หลังจากนั้นก็รอประมาณสองชั่วโมงมีข้อความแจ้งมาว่างานซ่อมเสร็จเรียบร้อย สามารถติดต่อรับเครื่องได้ในอีก 15 นาที ผมก็เข้าไปรับเครื่อง พนักงานให้เช็คเครื่อง
ผม : ผมก็ถามพนักงาน ไม่ได้ให้ช่างทำความสะอาช่องลำโพงให้หรือครับ
พนักงาน : ทำความสะอาดให้ไม่ได้คะ ลำโพงมันติดกับจอ
ผม : เอ้าหรอ?? งงครับ แล้วทำไม ไม่บอกแต่แรก แล้วก็บอกมาอีก
พนักงาน : มันเป็นกาว UV คะทำความสะอาดไม่ได้
ผม : อืม... คิดในใจ " มันจะกาวยูวีได้ไงว่ะกุติดฟิล์มเองไม่ใช้มีกาวเข้าไปเลย" ก็อืมๆๆ ช่างมัน มันคงเก่าแล้วไม่เป็นไรหรอก แล้วก็ส่งเครื่องคืนให้พนักงานรับใบเสร็จ กับเครื่องมาแล้วก็เดินทางกลับ
มาถึงบ้านผมก็ชาร์จแบตไว้จนเต็ม แต่ก็แปลกใจอยู่นะเพราะปกติเปลี่ยนแบตใหม่แบตจะเหลือประมาณ 40 - 50 แต่นี่เหลืออยู่แค่ 10 %
หลังจากที่แบตเต็มผมก็เอาเครื่องมาทดลองใช้
ผม : แปลกใจแระ ทำไมแบตมันหมดเร็วจังไม่ได้ต่างกับแบตก้อนที่แล้วเลย จากนั้นก็ทักไปหาพนักงาน Sansumg ผ่านช่องทางเฟสบุคโดยบอกพนักงาน
ว่าผมเอาเครื่องไปเปลียนแบตมา แต่เหมือนมันไม่ได้ต่างจากแบตก้อนเดิมที่อยู่ในเครื่องเลย (อันนี้คือผมไม่ได้ว่าอะไรพนักงานว่าเข้าไม่เปลี่ยนนะ เพราะมันมีรอยแกะฝาหลัง) ก็บอกพนักงานถึงอาการต่างๆนาๆ แล้วก็แคปรูปส่งไปให้ดู ว่ามันลดเร็วจริงๆ
พนักงาน : รบกวนนำเครื่องติดต่อศูนย์บริการสาขาเดิมเพื่อให้ช่างตรวจสอบให้ดูก่อนนะครับ
วันถัดมา 15/06/2020 ผมไปส่งแฟนทำงานเสร็จก็วนรถกลับมาที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตอีกรอบ นั่งรอห้างเปิดอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงเพราะมาเร็วไป 555
10.30 ห้างเปิดผมก็เข้าไปติดต่อที่ศูนย์บริการอีกรอบ
ผม : เอาเครื่องมาเช็คครับ พอดีเมื่อวานเอาเครื่องมาเปลี่ยนแบต แล้วแบตมันหมดเร็วไม่ต่างจากแบตอันเดิมเลย
พนักงาน : เชิญที่เคาน์เตอร์เลยครับไม่ต้องกดบัตรคิว
ผม : ต้องใช้เอกสารใบเสร็จเมื่อวานหรือป่าวครับ
พนักงาน : ไม่ต้องคะ
ผม : ส่งเครื่องให้พนักงานไป
พนักงาน : ส่งกระดาษมาให้ผม รบกวนลูกค้าเขียนรหัสเข้าเครื่องให้ด้วยค่ะ
ผม : ผมก็เขียนรหัสใส่กระดาษ แล้วก็ส่งคือให้พนักงาน
หลังจากนั้นพนักงานก็เอาสายต่อเข้ากับเครื่องแล้วก็เช็คอะไรอยู่พักนึง
พนักงาน : มันมีโปรแกรมที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาค่ะลูกค้า
ผม : คิดในใจ "เฟส ไลน์ IG พวกนี้มันก็ต้องทำงานที่พื้นหลังป่ะว่ะ" ครับ...
พนักงาน : หันหน้าจอคอมมาทางที่ผมนั่ง แล้วก็นี่ค่ะพวก เฟสบุค ไลน์ อินสตราแกรม มันทำงานอยู่
ผม : ครับอันนี้เข้าใจ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ไม่ทำงานมันก็ไม่สามารถแจ้งเตือนได้
พนักงาน : แอพพวกนี้มันจะทำให้กินแบตค่ะ ยิ่งมีคนติดตามเยอะ มียอดกด Like เยอะๆมันยิ่งจะกินแบต
ผม : เอิ่ม... คิดในใจ "เกี่ยวปะว่ะ ยอดติดตาม ยอดคนกด Like เกี่ยวไรกะแบตกูเนี๊ย" อันนี้เข้าใจครับว่ามันทำงานมันต้องกินแบต (ไม่ได้ตอบอะไรเยอะเพราะเดี๋ยวหาว่ารู้เยอะแล้ว เอามาเช็คทำไม แต่มันเกี่ยวไรกับยอดคนติดตามว่ะ คนติดตาม คนกดไลน์มันเก็บที่เซิฟเวอร์มัน เกี่ยวไรกะเครื่องกูหว่า)
พนักงาน : เดี๋ยวจะให้ช่างเช็คให้อีกรอบว่าแบตปกติไหม เมนบอร์ดกินไฟปกติหรือป่าว แต่ข้อมูลลูกค้าอาจจะหาย
ผม : ได้ครับแต่ผมขอ เก็บรูปลงในการ์ดก่อน
พนักงาน : "แล้วนางก็ถามพนักงานอีกเคาน์เตอร์ พี่ๆๆ (ชื่ออะไรจำไม่ได้) ลูกค้ามาเปลี่ยนแบตเมื่อวาน วันนี้เอาเครื่องมาเช็คแบตหมดเร็วต้องคิดตังไหม
ผม : คิดอยู่ในใจ "คือกูเอามาเปลี่ยนยังไม่ได้ของดีเลยจะคิดตังกูอีกแล้วหรอ"
พนักงาน : พนักงานอีกคนบอกไม่ต้องคิดให้เปิดบิลเป็นอะไรสักอย่างจำไม่ได้ แล้วก็ออกเอกสารให้ใบนึง บอกเครื่องจะเสร็จประมาณเที่ยงครึ่ง
ผม : ผมก็รับเอกสารมา แต่ที่ติดใจคือไม่ได้พูดอะไร คือสายตาที่มองผม (เหมือนประมาณจะอะไรมากมาย แบบว่าเครื่องก็ตั้งนานแล้ว) อันนี้ผมอาจจะคิดมากไปเองแต่จากสายตาที่มองผม มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แล้วผมก็เดินออกจากศูนย์บริการออกมา
ประมาณ 12.15 มีข้อความว่างานซ่อมเสร็จแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่ศูนย์บริการ
พนักงาน : ติดต่อเรื่องอะไรครับ
ผม : มารับโทรศัพท์ที่เอามาเช็คครับ
พนักงาน : กดบัตรคิวแล้วก็ส่งมาให้
ผม : เดิมเข้าไปแล้วก็นั่งรอที่โซฟา ... เหลือบไปเห็นสายตาของนางที่มองมาแบบหมิ่นๆ ผมก็ทำเป็นเมิน แบบไม่ได้มอง
นั่งรอประมาณ 25 นาที ก็มีเรียกคิวที่ผมถือ แต่เป็นพนักงานอีกคนที่ช่องรับเครื่องงานซ่อม
พนักงาน : ขอเอกสารด้วยค่ะ
ผม : ส่งเอกสาร กับซองซิมแล้วก็เมมการ์ดให้พนักงาน เพราะเขาเย็บติดด้วยกัน
พนักงาน : เมนบอร์ดปกติ แบตก็ปกติ ช่างลงรอมให้ใหม่
ผม : คิดอยู่ในใจ "วันนี้กูก็คงมาเสียเวลาทิ้งแน่นอน แถมข้อมูลหายอีก" ครับ... ตอบพนักงานไป แล้วที่แบตมันหมดเร็วมันเกิดจากอะไรครับ
พนักงาน : นางตอบอะไรไม่รู้ผมฟังไม่ชัดเพราะใส่หน้ากาก แล้วเสียงค่อนข้างเบา "ที่ได้ยินคือมันเกิดจากแอพที่ลูกค้าใช้งาน"
ผม : โอเคครับ แต่ในใจ "คือกูซื้อเครื่องมานี่ไม่ต้องติดตั้งห่าเหวอะไรเลยไงว่ะ" เด่วลองเอากลับไปใช้งานดูถ้ามีปัญหาเดี๋ยวผมติดต่อมาอีกที
หลังจากได้รับเครื่องผมก็ขับรถกลับมาที่ชลบุรี ถึงบ้านสี่โมงกว่าเพราะ รถชนกันตลอดทาง อีกอย่างฝนตก
มาถึงบ้านทำธุระส่วนเสร็จเรียบร้อยผมก็เอาเครื่องมาชาร์จแบตให้เต็มโดยที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอพอะไรลงไปเลย คือรับเครื่องมายังไงก็ยังอยู่แบบนั้น
จดบันทึกเวลาถอดสายด้วยจร้าาาา 5555
## 5:33 PM 15/Jun/20 ##
100%
มีจดใส่โน๊ตเพจ
คือจะทดสอบให้เห็นชัดๆไปเลยว่ามันแตกต่างจากตอนมีแอพอยู่ในเครื่องไหม โดยปล่อยทิ้งไว้จนถึงเช้าไม่ใช้งานเลย
ผลที่ออกมามันไม่แตกต่างจากของเดิมที่ตอนเครื่องผมมีแอพอยู่ ตอนนี้เริ่มจะมีความรู้สึกไม่ค่อยดีแระ คือกูเสียเงินไปทำไมตั้งเกือบ 2000 ข้อมูลหายเกลี้ยงอีก ประมาณ 10 โมงครึ่ง ของวันที่ 16/06/2020 ติดต่อซัมซุงผ่านช่องทางเฟสบุคอีกรอบ
ผมส่งข้อมูลให้ทางเจ้าหน้าที่ประมาณ 17.40 เพราะช่วงเที่ยงติดงานออกมาไม่ได้
วันนี้ 17/06/2020 เวลา 15.40 น. มีสายเข้าหมายเลข 02-118-1605 ผมก็รับ
พนักงาน : ติดต่อจากซัมซุงค่ะ เรียนสายคุณ ..... หรือเปล่าค่ะ
ผม : ใช่ครับ
พนักงาน : เราได้รับเรื่องที่แจ้งเข้ามาและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ตัวเครื่องทำงานปกติ แบตทำงานปกติ
ผม : ปกติ แล้วแบตเปลี่ยนใหม่ทำไมมันหมดเร็วครับ
พนักงาน : ทางเรายืนยันมีการเบิกแบตใหม่มาเปลี่ยนให้ลูกค้าแน่นอนค่ะ
ผม : คิดในใจ "อันนี้คือไม่ได้อยากรู้ป่ะว่าเบิกมา ที่อยากรู้คือเปลี่ยนแบตใหม่ให้ทำไมมันไม่ได้ต่างจากแบตเดิม" ครับ แล้วทำไมมันมันหมดเร็วเหมือนแบตก้อนเดิมเลย
พนักงาน : แบตปกติ เครื่องก็ปกติน่ะค่ะทางเราตรวจสอบแล้ว ยังใจรบกวนลูกค้าลองใช้ไปก่อน ถ้ามีปัญหายังไงค่อยมาติดต่อที่ศูนย์บริการอีกที
ผม : จะให้ผมทดลองใช้ แล้วจะมันจะมีอะไรดีขึ้นมาครับ (อันนี้เริ่มโมโหแระ แต่ยังเก็บอาการ) ในเมื่อใช้ไปแล้วมันไม่ได้ทำให้แบตที่เปลี่ยนมามันอึดขึ้นมาเลย
พนักงาน : อันนี้ทางเราไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้แล้วค่ะ
ผม : คิดในใจ " ถ้าจะโทรมาบอกแค่นี้ไม่ต้องโทรมาก็ได้มั้ง" งั้นไม่เป็นไรครับ ยังไง ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วผมก็คงต้องทนใช้ไปแบบนี้ งั้นแค่นี้แระขอบคุณมาครับ แล้วผมก็กดวางสายไป 5555
คือทำ
ไรไม่ได้เลยแล้วจะให้แจ้งโน้น แจ้งนี่ ติดต่อตรงนั้นตรงนี้ไปเผื่ออะไรไม่เข้าใจจริงๆ คือสรุปให้ง่ายๆของที่เอามาเปลี่ยนมันไม่มีคุณภาพแล้วกัน
ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลาอ่านและอาจจะเจอประสบการณ์แย่ๆแบบผม
แต่บอกไว้เลยผมใช้ซัมซุงมานาน ตั้งแต่ Galaxy S3 เท่าที่นับได้เกือบ 10 กว่าเครื่องทั้งที่ซื้อให้เองและซื้อให้คนในครอบครัว ตอนแรกกะว่าจะเปลี่ยนตอนเปิดตัวโน๊ตตัวใหม่ช่วงสิงหา กันยา ปีนี้ แต่คงต้องบอกลาแล้วแระในเมื่อของใหม่แท้ๆ ที่เปลี่ยนกับศูนย์บริการยังมีคุณภาพแค่นี้ จะเอาอะไรมายึนยันได้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพดีพอ พนักงานก็มองด้วยสายตายดูถูก เอาเป็นว่าพอกันทีกับโทรศัพท์ยี่ห้อนี้ นี่คือคำพูดที่ผมอยากจะบอกพนักงานที่โทรมาในวันนี้แต่ ผมไม่อยากพูดใส่หน้าพนักงาน เพราะยังรักษาน้ำใจคุณอยู่
ไม่ได้มีอะไรมากมายแค่อยากจะมาแบ่งปันประสบการ กับการใช้บริการจาก Samsung Thailand
ซึ่งเมื่อวันที่ 14/06/2020 ที่ผ่านมาผมก็ได้โทรไปเช็คกับทางศูนย์ซัมซุงฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ว่ามีแบตเตอรี่รุ่นนี้หรือเปล่าเพราะจะเอาเครื่องเข้าไปเปลี่ยนแบต
เพราะก่อนหน้าเลยเคยเข้าไปแล้วพนักงานแจ้งว่าต้องโทรมาจองอะไหล่ล่วงหน้า โอเค ก็โทรไปเช็ค พนักงานแจ้งมีของ ประมาณเที่ยงของวันเดียวกันผมก็
เข้าไปติดต่อที่ศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนแบตตอนนั้นแจ้งพนักงานว่าลำโพงช่องหูฟังเวลาคุยสายมันไม่ค่อยได้ยินเสียงตอนเปลี่ยนแบตรบกวนช่างทำความสะอาดให้ด้วย ราคาอยู่ประมาณเท่าไหร่ พนักงานบอกไม่คิดค่าใช้จ่ายเดี๋ยวให้ช่างทำความสะอาดให้ เสร็จเรียบร้อยพนักงานก็ให้จ่ายเงินเลย เพราะบอกว่าตอนมารับจะได้ไม่ต้องรอนาน ก็จ่ายเรียบร้อย 1840 บาท แต่ใบเสร็จจะได้ตอนมารับเครื่องก็โอเค หลังจากนั้นก็รอประมาณสองชั่วโมงมีข้อความแจ้งมาว่างานซ่อมเสร็จเรียบร้อย สามารถติดต่อรับเครื่องได้ในอีก 15 นาที ผมก็เข้าไปรับเครื่อง พนักงานให้เช็คเครื่อง
ผม : ผมก็ถามพนักงาน ไม่ได้ให้ช่างทำความสะอาช่องลำโพงให้หรือครับ
พนักงาน : ทำความสะอาดให้ไม่ได้คะ ลำโพงมันติดกับจอ
ผม : เอ้าหรอ?? งงครับ แล้วทำไม ไม่บอกแต่แรก แล้วก็บอกมาอีก
พนักงาน : มันเป็นกาว UV คะทำความสะอาดไม่ได้
ผม : อืม... คิดในใจ " มันจะกาวยูวีได้ไงว่ะกุติดฟิล์มเองไม่ใช้มีกาวเข้าไปเลย" ก็อืมๆๆ ช่างมัน มันคงเก่าแล้วไม่เป็นไรหรอก แล้วก็ส่งเครื่องคืนให้พนักงานรับใบเสร็จ กับเครื่องมาแล้วก็เดินทางกลับ
มาถึงบ้านผมก็ชาร์จแบตไว้จนเต็ม แต่ก็แปลกใจอยู่นะเพราะปกติเปลี่ยนแบตใหม่แบตจะเหลือประมาณ 40 - 50 แต่นี่เหลืออยู่แค่ 10 %
หลังจากที่แบตเต็มผมก็เอาเครื่องมาทดลองใช้
ผม : แปลกใจแระ ทำไมแบตมันหมดเร็วจังไม่ได้ต่างกับแบตก้อนที่แล้วเลย จากนั้นก็ทักไปหาพนักงาน Sansumg ผ่านช่องทางเฟสบุคโดยบอกพนักงาน
ว่าผมเอาเครื่องไปเปลียนแบตมา แต่เหมือนมันไม่ได้ต่างจากแบตก้อนเดิมที่อยู่ในเครื่องเลย (อันนี้คือผมไม่ได้ว่าอะไรพนักงานว่าเข้าไม่เปลี่ยนนะ เพราะมันมีรอยแกะฝาหลัง) ก็บอกพนักงานถึงอาการต่างๆนาๆ แล้วก็แคปรูปส่งไปให้ดู ว่ามันลดเร็วจริงๆ
พนักงาน : รบกวนนำเครื่องติดต่อศูนย์บริการสาขาเดิมเพื่อให้ช่างตรวจสอบให้ดูก่อนนะครับ
วันถัดมา 15/06/2020 ผมไปส่งแฟนทำงานเสร็จก็วนรถกลับมาที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตอีกรอบ นั่งรอห้างเปิดอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงเพราะมาเร็วไป 555
10.30 ห้างเปิดผมก็เข้าไปติดต่อที่ศูนย์บริการอีกรอบ
ผม : เอาเครื่องมาเช็คครับ พอดีเมื่อวานเอาเครื่องมาเปลี่ยนแบต แล้วแบตมันหมดเร็วไม่ต่างจากแบตอันเดิมเลย
พนักงาน : เชิญที่เคาน์เตอร์เลยครับไม่ต้องกดบัตรคิว
ผม : ต้องใช้เอกสารใบเสร็จเมื่อวานหรือป่าวครับ
พนักงาน : ไม่ต้องคะ
ผม : ส่งเครื่องให้พนักงานไป
พนักงาน : ส่งกระดาษมาให้ผม รบกวนลูกค้าเขียนรหัสเข้าเครื่องให้ด้วยค่ะ
ผม : ผมก็เขียนรหัสใส่กระดาษ แล้วก็ส่งคือให้พนักงาน
หลังจากนั้นพนักงานก็เอาสายต่อเข้ากับเครื่องแล้วก็เช็คอะไรอยู่พักนึง
พนักงาน : มันมีโปรแกรมที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาค่ะลูกค้า
ผม : คิดในใจ "เฟส ไลน์ IG พวกนี้มันก็ต้องทำงานที่พื้นหลังป่ะว่ะ" ครับ...
พนักงาน : หันหน้าจอคอมมาทางที่ผมนั่ง แล้วก็นี่ค่ะพวก เฟสบุค ไลน์ อินสตราแกรม มันทำงานอยู่
ผม : ครับอันนี้เข้าใจ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ไม่ทำงานมันก็ไม่สามารถแจ้งเตือนได้
พนักงาน : แอพพวกนี้มันจะทำให้กินแบตค่ะ ยิ่งมีคนติดตามเยอะ มียอดกด Like เยอะๆมันยิ่งจะกินแบต
ผม : เอิ่ม... คิดในใจ "เกี่ยวปะว่ะ ยอดติดตาม ยอดคนกด Like เกี่ยวไรกะแบตกูเนี๊ย" อันนี้เข้าใจครับว่ามันทำงานมันต้องกินแบต (ไม่ได้ตอบอะไรเยอะเพราะเดี๋ยวหาว่ารู้เยอะแล้ว เอามาเช็คทำไม แต่มันเกี่ยวไรกับยอดคนติดตามว่ะ คนติดตาม คนกดไลน์มันเก็บที่เซิฟเวอร์มัน เกี่ยวไรกะเครื่องกูหว่า)
พนักงาน : เดี๋ยวจะให้ช่างเช็คให้อีกรอบว่าแบตปกติไหม เมนบอร์ดกินไฟปกติหรือป่าว แต่ข้อมูลลูกค้าอาจจะหาย
ผม : ได้ครับแต่ผมขอ เก็บรูปลงในการ์ดก่อน
พนักงาน : "แล้วนางก็ถามพนักงานอีกเคาน์เตอร์ พี่ๆๆ (ชื่ออะไรจำไม่ได้) ลูกค้ามาเปลี่ยนแบตเมื่อวาน วันนี้เอาเครื่องมาเช็คแบตหมดเร็วต้องคิดตังไหม
ผม : คิดอยู่ในใจ "คือกูเอามาเปลี่ยนยังไม่ได้ของดีเลยจะคิดตังกูอีกแล้วหรอ"
พนักงาน : พนักงานอีกคนบอกไม่ต้องคิดให้เปิดบิลเป็นอะไรสักอย่างจำไม่ได้ แล้วก็ออกเอกสารให้ใบนึง บอกเครื่องจะเสร็จประมาณเที่ยงครึ่ง
ผม : ผมก็รับเอกสารมา แต่ที่ติดใจคือไม่ได้พูดอะไร คือสายตาที่มองผม (เหมือนประมาณจะอะไรมากมาย แบบว่าเครื่องก็ตั้งนานแล้ว) อันนี้ผมอาจจะคิดมากไปเองแต่จากสายตาที่มองผม มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แล้วผมก็เดินออกจากศูนย์บริการออกมา
ประมาณ 12.15 มีข้อความว่างานซ่อมเสร็จแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่ศูนย์บริการ
พนักงาน : ติดต่อเรื่องอะไรครับ
ผม : มารับโทรศัพท์ที่เอามาเช็คครับ
พนักงาน : กดบัตรคิวแล้วก็ส่งมาให้
ผม : เดิมเข้าไปแล้วก็นั่งรอที่โซฟา ... เหลือบไปเห็นสายตาของนางที่มองมาแบบหมิ่นๆ ผมก็ทำเป็นเมิน แบบไม่ได้มอง
นั่งรอประมาณ 25 นาที ก็มีเรียกคิวที่ผมถือ แต่เป็นพนักงานอีกคนที่ช่องรับเครื่องงานซ่อม
พนักงาน : ขอเอกสารด้วยค่ะ
ผม : ส่งเอกสาร กับซองซิมแล้วก็เมมการ์ดให้พนักงาน เพราะเขาเย็บติดด้วยกัน
พนักงาน : เมนบอร์ดปกติ แบตก็ปกติ ช่างลงรอมให้ใหม่
ผม : คิดอยู่ในใจ "วันนี้กูก็คงมาเสียเวลาทิ้งแน่นอน แถมข้อมูลหายอีก" ครับ... ตอบพนักงานไป แล้วที่แบตมันหมดเร็วมันเกิดจากอะไรครับ
พนักงาน : นางตอบอะไรไม่รู้ผมฟังไม่ชัดเพราะใส่หน้ากาก แล้วเสียงค่อนข้างเบา "ที่ได้ยินคือมันเกิดจากแอพที่ลูกค้าใช้งาน"
ผม : โอเคครับ แต่ในใจ "คือกูซื้อเครื่องมานี่ไม่ต้องติดตั้งห่าเหวอะไรเลยไงว่ะ" เด่วลองเอากลับไปใช้งานดูถ้ามีปัญหาเดี๋ยวผมติดต่อมาอีกที
หลังจากได้รับเครื่องผมก็ขับรถกลับมาที่ชลบุรี ถึงบ้านสี่โมงกว่าเพราะ รถชนกันตลอดทาง อีกอย่างฝนตก
มาถึงบ้านทำธุระส่วนเสร็จเรียบร้อยผมก็เอาเครื่องมาชาร์จแบตให้เต็มโดยที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอพอะไรลงไปเลย คือรับเครื่องมายังไงก็ยังอยู่แบบนั้น
จดบันทึกเวลาถอดสายด้วยจร้าาาา 5555
## 5:33 PM 15/Jun/20 ##
100%
มีจดใส่โน๊ตเพจ
คือจะทดสอบให้เห็นชัดๆไปเลยว่ามันแตกต่างจากตอนมีแอพอยู่ในเครื่องไหม โดยปล่อยทิ้งไว้จนถึงเช้าไม่ใช้งานเลย
ผลที่ออกมามันไม่แตกต่างจากของเดิมที่ตอนเครื่องผมมีแอพอยู่ ตอนนี้เริ่มจะมีความรู้สึกไม่ค่อยดีแระ คือกูเสียเงินไปทำไมตั้งเกือบ 2000 ข้อมูลหายเกลี้ยงอีก ประมาณ 10 โมงครึ่ง ของวันที่ 16/06/2020 ติดต่อซัมซุงผ่านช่องทางเฟสบุคอีกรอบ
ผมส่งข้อมูลให้ทางเจ้าหน้าที่ประมาณ 17.40 เพราะช่วงเที่ยงติดงานออกมาไม่ได้
วันนี้ 17/06/2020 เวลา 15.40 น. มีสายเข้าหมายเลข 02-118-1605 ผมก็รับ
พนักงาน : ติดต่อจากซัมซุงค่ะ เรียนสายคุณ ..... หรือเปล่าค่ะ
ผม : ใช่ครับ
พนักงาน : เราได้รับเรื่องที่แจ้งเข้ามาและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ตัวเครื่องทำงานปกติ แบตทำงานปกติ
ผม : ปกติ แล้วแบตเปลี่ยนใหม่ทำไมมันหมดเร็วครับ
พนักงาน : ทางเรายืนยันมีการเบิกแบตใหม่มาเปลี่ยนให้ลูกค้าแน่นอนค่ะ
ผม : คิดในใจ "อันนี้คือไม่ได้อยากรู้ป่ะว่าเบิกมา ที่อยากรู้คือเปลี่ยนแบตใหม่ให้ทำไมมันไม่ได้ต่างจากแบตเดิม" ครับ แล้วทำไมมันมันหมดเร็วเหมือนแบตก้อนเดิมเลย
พนักงาน : แบตปกติ เครื่องก็ปกติน่ะค่ะทางเราตรวจสอบแล้ว ยังใจรบกวนลูกค้าลองใช้ไปก่อน ถ้ามีปัญหายังไงค่อยมาติดต่อที่ศูนย์บริการอีกที
ผม : จะให้ผมทดลองใช้ แล้วจะมันจะมีอะไรดีขึ้นมาครับ (อันนี้เริ่มโมโหแระ แต่ยังเก็บอาการ) ในเมื่อใช้ไปแล้วมันไม่ได้ทำให้แบตที่เปลี่ยนมามันอึดขึ้นมาเลย
พนักงาน : อันนี้ทางเราไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้แล้วค่ะ
ผม : คิดในใจ " ถ้าจะโทรมาบอกแค่นี้ไม่ต้องโทรมาก็ได้มั้ง" งั้นไม่เป็นไรครับ ยังไง ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วผมก็คงต้องทนใช้ไปแบบนี้ งั้นแค่นี้แระขอบคุณมาครับ แล้วผมก็กดวางสายไป 5555
คือทำไรไม่ได้เลยแล้วจะให้แจ้งโน้น แจ้งนี่ ติดต่อตรงนั้นตรงนี้ไปเผื่ออะไรไม่เข้าใจจริงๆ คือสรุปให้ง่ายๆของที่เอามาเปลี่ยนมันไม่มีคุณภาพแล้วกัน
ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลาอ่านและอาจจะเจอประสบการณ์แย่ๆแบบผม
แต่บอกไว้เลยผมใช้ซัมซุงมานาน ตั้งแต่ Galaxy S3 เท่าที่นับได้เกือบ 10 กว่าเครื่องทั้งที่ซื้อให้เองและซื้อให้คนในครอบครัว ตอนแรกกะว่าจะเปลี่ยนตอนเปิดตัวโน๊ตตัวใหม่ช่วงสิงหา กันยา ปีนี้ แต่คงต้องบอกลาแล้วแระในเมื่อของใหม่แท้ๆ ที่เปลี่ยนกับศูนย์บริการยังมีคุณภาพแค่นี้ จะเอาอะไรมายึนยันได้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพดีพอ พนักงานก็มองด้วยสายตายดูถูก เอาเป็นว่าพอกันทีกับโทรศัพท์ยี่ห้อนี้ นี่คือคำพูดที่ผมอยากจะบอกพนักงานที่โทรมาในวันนี้แต่ ผมไม่อยากพูดใส่หน้าพนักงาน เพราะยังรักษาน้ำใจคุณอยู่