นี่คือสภาพเครื่องซัมซุง S4 ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 56 ระยะเวลาใช้เครื่องก็เพิ่งประมาณ 6 เดือนกว่าเท่านั้นเอง เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเช้าของวันที่ 20 มิ.ย. ก่อนที่จะลุกไปส่งลูกไปโรงเรียน ก็เอาโทรศัพท์มาชาร์จแบต ซึ่งสายชาร์จก็เป็นของแท้จากศูนย์ เอามาชาร์จก่อนออกซึ่งทำเป็นกิจวัตรประจำวันปกติ แต่ที่แปลกไปนั้นก็คือ พอชาร์จไปประมาณแค่ 10 นาทีเรามาสังเกตุว่าทำไมถึงชาร์จไม่เข้า แล้วตัวเครื่องก็ร้อนมาก จนถือแทบไม่ได้ ไม่ทันไรมันก็ไหม้เลยครับท่าน (ก็ยังคิดนะว่าโชคดีที่เราไม่ได้เป็นคนที่เอาโทรศัพท์พวกนี้ไปชาร์จเวลานอน ไม่หยั่งนั้นนึกไม่ออกจิงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ทีแรกก็ตกใจเพราะเคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าจะเกิดกะตัวเอง แต่ก็เอาน่ะในเมื่อเครื่องมันไหม้ไปแล้วก็ให้ทำยังไง ก็ในเมื่อเครื่องยังมีประกันก็ไม่ได้เครียดอะไรมาก
พอเช้าวันรุ่งขึ้นวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. 56 เราก็ไปที่ศูนย์ซัมซุงตรงเซียร์รังสิต ถ้าใครเคยไปศูนย์ซัมซุงก็คงจำกันได้ แต่สำหรับถ้าใครไม่เคยไปล่ะก็เราจะบอกให้ว่ามันเป็นศูนย์รับซ่อมที่เล็กว่าร้านขายมือถือโซนแถวๆ นั้นซะอีก 555 ขนาดเท่าห้องล็อกเดียว มีเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งรออยู่ประมาณ 3 แถว แถวละ 3 ตัว(อย่างเยอะเร้ย) ก็อดแอบคิดไม่ได้ว่าทีเวลาศูนย์ที่ขายกลับทำซะโอ่อ่าดูดี แต่พอคุณขายของเราได้แล้วศูนย์ซ่อมที่จะดูแลลูกค้าหลังการขายกลับมีสภาพที่แย่ คับแคบ อยู่ในมุมมืดๆ นี่ก็คืออีกเรื่องที่ซัมซุงควรจะปรับปรุงโดยด่วน หัดดูค่ายอื่นเค้าซะบ้าง ว่าเค้าบริการลูกค้าหลังการขายได้ดีมากขนาดไหน โอเครบ่นเรื่องสถานที่จบไปล่ะมาเข้าเรื่องโทรศัพท์กันต่อ เราก็กดบัตรคิวแล้วก็ รอ ร๊อ รอ กว่าจะเรียกคิวเห้อ!!!! พอถึงคิวเรา ที่เคาร์เตอร์ที่ 2 น้องพนักงานเป็น ผญ เราก็เอาโทรศัพท์พร้อมที่ชาร์จที่ไหม้คู่กันส่งให้ แล้วเค้าก็ให้เรากรอกเอกสารเพื่อใช้ส่งซ่อม ส่งซ่อม!!!!!! โอ้ววว แม่เจ้า
จะเอาเครื่องกูไปซ่อม ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นแค่เปิดไม่ติดเค้าก็เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว (ขอโทดที่ต้องหลุดคำหยาบเพราะของขึ้นจิงๆ) แต่ก็นะถ้าช่างเก่งกูก็ไม่ว่าซ่อมให้กูใช้ได้เหมือนเดิมเป็นพอ เราก็นั่งกรอกข้อมูลให้ยังไม่ทันเขียนเสร็จ น้องพนักงานเค้าก็พูดขึ้นมาว่าถ้ามีค่าใช้จ่ายในการซ่อมทางศูนย์จะโทรแจ้ง เราถึงกลับงงเลยทีเดียวก็ต้องถามไปว่าเครื่องเรายังอยู่ในประกัน แล้วสาเหตุที่นำมาซ่อมก็เกิดจากการที่เครื่องของคุณชาร์จไม่เข้าจนร้อนมากแล้วก็ไหม้เอง "พี่พนักงานที่นั่งข้างๆ ก็รีบพูดตัดบททันทีว่า ถ้ามีค่ะ ถ้ามี ถ้าไม่มีก็ไม่โท" อืมมม -_-" เราก็กลับมาบ้านพร้อมกับใบแจ้งซ่อมเครื่อง
พอเวลาประมาณ 6 โมงเย็นก็มีเบอร์ เป็นเบอร์มือถือโทรเข้ามาบอกโทรมาจากศูนย์ซัมซุง จะโทมาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมเครื่อง เราก็ถามกลับทันทีว่าทำไมถึงมีค่าใช้จ่ายในเมื่อเครื่องเราก็ยังมีประกัน น้องพนักงานก็แจ้งกับเราจนทำให้เรายิ่งงงเป็นไก่ตาแตกไปอีกว่า "เครื่องเรามีความชื้น" ห๊ะอะไรนะ ความชื้น!!!! เราก็ถามกลับไปว่าความชื้นอะไร น้องพนักงานก็บอกว่า ความชื้นอ่ะค่ะ ช่างแจ้งมาว่าเกิดจากความชื้น ก็เลยหมดประกันทำให้ต้องมีค่าใช้จ่าย อืมมม.... คือชั้นรู้ไงว่าคำว่าความชื้นคืออะไร คือถ้าเครื่องพี่โดนน้ำ จนทำให้เกิดความชื้น พี่จะไม่โวยวายอะไรเลยถ้าจะหลุดจากประกัน แต่นี่เครื่องพี่ไม่ได้โดนน้ำแม้แต่เพียงนิดเดียว วางชาร์จไว้บนเคาน์เตอร์ที่วางเป็นประจำทุกวัน แต่ทางศูนย์มาแจ้งว่าที่เครื่องพี่ไหม้เพราะความชื้น เราก็แจ้งกลับน้องพนักงานไปว่าเราไม่ยอมนะถ้าซัมซุงดูแลหลังการขายกับลูกค้าแบบนี้ เค้าก็บอกว่าจะรีบไปดำเนินการให้ใหม่
พอซักพักนึงเราก็จัดสินใจโทรไปที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ กดไปตรงที่บอกว่าแจ้งสถานะการซ่อม คนรับสายเป็นเสียง ผช พอเราก็บอกเลขที่ซ่อมเสร็จ พนักงานคนนั้นก็ถามเราว่าช่างได้แจ้งเราไปว่ายังไง เราก็บอกไปว่าช่างแจ้งว่าเกิดจากความชื้น ซึ่งทางเราสงสัยว่าจะเกิดจากความชื้นได้ยังไง (เราก็อธิบายเหมือนข้างบนให้พนักงานเค้าฟัง) แต่พนักงานก็พูดกลับมาว่า ถ้าช่างแจ้งว่ามาจากความชื้นก็คือความชื้น จะหมดประกันทันที พอถึงตรงนี้เรารู้สึกเหนื่อยมากที่อุตส่าห์นั่งอธิบายไป แล้วฟังกูรึป่าว กูบอกว่าเครื่องกูไม่ได้โดนน้ำ เสียบชาร์จเหมือนปกติทุกวัน แล้วมาบอกว่าเครื่องกูมีความชื้น เราก็ถามกลับไปว่าความชื้นของซัมซุงคืออะไร เกิดจากอะไรในเมื่อเครื่องชั้นไม่ได้โดนน้ำ ตอบได้มั้ย ถ้าตอบไม่ได้ไปหาคนที่ตอบได้มาตอบ พนักงานก็ได้แต่คร้าบ คร้าบ ไม่ได้มีคำตอบอะไรให้เลย ก็ได้แต่บอกว่าจะรีบดำเนินการจนตอนนี้จะบ่ายสามยังไม่ได้รับการติดต่อกลับเลย ทีแจ้งเรื่องเงินน่ะอย่างไว
ถ้าซัมซุงจะผลิตเครื่องที่ไวต่อความชื้นขนาดนี้ ขนาดที่ว่าใช้งานปกติเหมือนทุกวันก็เกิดความชื้นจนทำให้เครื่องไหมัได้เราว่าพอเหอะ แล้วยิ่งมีบริการหลังการขายแบบนี้ซะด้วย
เราเป็นคนที่ใช้มือถือซัมซุงมาตลอดไม่คิดว่าซัมซุงจะดูแลลูกค้าแบบนี้ เราใช้เครื่องนี้เป็นเครื่องที่สอง เครื่องแรกที่เราใช้ก็เป็นเครื่องซัมซุง น่าจะรุ่น D510 ใช้มา 10 กว่าปีขึ้นอ่ะ ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เราก็ไม่เคยไปรบกวน ร้องแลกแหกกะเชออะไรเลย จนมาที่จะซื้อเครื่องที่ 2 เราก็ยังคงมั่นคงที่จะใช้ซัมซุงอีกครั้ง แต่พอเรามีปัญหาเรากลับทำกลับลูกค้าแบบนี้ พอกันทีบอกจริงๆ ว่าเสียความรู้สึกมากๆๆๆๆๆๆ
กูงงว่าทำไมกูต้องจ่ายด้วย!!!!!!
ตอนนี้จะรอดูว่าทางซัมซุงจะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง
ซัมซุงทำกับลูกค้าแบบนี้หรอ!!!!!!
นี่คือสภาพเครื่องซัมซุง S4 ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 56 ระยะเวลาใช้เครื่องก็เพิ่งประมาณ 6 เดือนกว่าเท่านั้นเอง เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเช้าของวันที่ 20 มิ.ย. ก่อนที่จะลุกไปส่งลูกไปโรงเรียน ก็เอาโทรศัพท์มาชาร์จแบต ซึ่งสายชาร์จก็เป็นของแท้จากศูนย์ เอามาชาร์จก่อนออกซึ่งทำเป็นกิจวัตรประจำวันปกติ แต่ที่แปลกไปนั้นก็คือ พอชาร์จไปประมาณแค่ 10 นาทีเรามาสังเกตุว่าทำไมถึงชาร์จไม่เข้า แล้วตัวเครื่องก็ร้อนมาก จนถือแทบไม่ได้ ไม่ทันไรมันก็ไหม้เลยครับท่าน (ก็ยังคิดนะว่าโชคดีที่เราไม่ได้เป็นคนที่เอาโทรศัพท์พวกนี้ไปชาร์จเวลานอน ไม่หยั่งนั้นนึกไม่ออกจิงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ทีแรกก็ตกใจเพราะเคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าจะเกิดกะตัวเอง แต่ก็เอาน่ะในเมื่อเครื่องมันไหม้ไปแล้วก็ให้ทำยังไง ก็ในเมื่อเครื่องยังมีประกันก็ไม่ได้เครียดอะไรมาก
พอเช้าวันรุ่งขึ้นวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. 56 เราก็ไปที่ศูนย์ซัมซุงตรงเซียร์รังสิต ถ้าใครเคยไปศูนย์ซัมซุงก็คงจำกันได้ แต่สำหรับถ้าใครไม่เคยไปล่ะก็เราจะบอกให้ว่ามันเป็นศูนย์รับซ่อมที่เล็กว่าร้านขายมือถือโซนแถวๆ นั้นซะอีก 555 ขนาดเท่าห้องล็อกเดียว มีเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งรออยู่ประมาณ 3 แถว แถวละ 3 ตัว(อย่างเยอะเร้ย) ก็อดแอบคิดไม่ได้ว่าทีเวลาศูนย์ที่ขายกลับทำซะโอ่อ่าดูดี แต่พอคุณขายของเราได้แล้วศูนย์ซ่อมที่จะดูแลลูกค้าหลังการขายกลับมีสภาพที่แย่ คับแคบ อยู่ในมุมมืดๆ นี่ก็คืออีกเรื่องที่ซัมซุงควรจะปรับปรุงโดยด่วน หัดดูค่ายอื่นเค้าซะบ้าง ว่าเค้าบริการลูกค้าหลังการขายได้ดีมากขนาดไหน โอเครบ่นเรื่องสถานที่จบไปล่ะมาเข้าเรื่องโทรศัพท์กันต่อ เราก็กดบัตรคิวแล้วก็ รอ ร๊อ รอ กว่าจะเรียกคิวเห้อ!!!! พอถึงคิวเรา ที่เคาร์เตอร์ที่ 2 น้องพนักงานเป็น ผญ เราก็เอาโทรศัพท์พร้อมที่ชาร์จที่ไหม้คู่กันส่งให้ แล้วเค้าก็ให้เรากรอกเอกสารเพื่อใช้ส่งซ่อม ส่งซ่อม!!!!!! โอ้ววว แม่เจ้าจะเอาเครื่องกูไปซ่อม ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นแค่เปิดไม่ติดเค้าก็เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว (ขอโทดที่ต้องหลุดคำหยาบเพราะของขึ้นจิงๆ) แต่ก็นะถ้าช่างเก่งกูก็ไม่ว่าซ่อมให้กูใช้ได้เหมือนเดิมเป็นพอ เราก็นั่งกรอกข้อมูลให้ยังไม่ทันเขียนเสร็จ น้องพนักงานเค้าก็พูดขึ้นมาว่าถ้ามีค่าใช้จ่ายในการซ่อมทางศูนย์จะโทรแจ้ง เราถึงกลับงงเลยทีเดียวก็ต้องถามไปว่าเครื่องเรายังอยู่ในประกัน แล้วสาเหตุที่นำมาซ่อมก็เกิดจากการที่เครื่องของคุณชาร์จไม่เข้าจนร้อนมากแล้วก็ไหม้เอง "พี่พนักงานที่นั่งข้างๆ ก็รีบพูดตัดบททันทีว่า ถ้ามีค่ะ ถ้ามี ถ้าไม่มีก็ไม่โท" อืมมม -_-" เราก็กลับมาบ้านพร้อมกับใบแจ้งซ่อมเครื่อง
พอเวลาประมาณ 6 โมงเย็นก็มีเบอร์ เป็นเบอร์มือถือโทรเข้ามาบอกโทรมาจากศูนย์ซัมซุง จะโทมาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมเครื่อง เราก็ถามกลับทันทีว่าทำไมถึงมีค่าใช้จ่ายในเมื่อเครื่องเราก็ยังมีประกัน น้องพนักงานก็แจ้งกับเราจนทำให้เรายิ่งงงเป็นไก่ตาแตกไปอีกว่า "เครื่องเรามีความชื้น" ห๊ะอะไรนะ ความชื้น!!!! เราก็ถามกลับไปว่าความชื้นอะไร น้องพนักงานก็บอกว่า ความชื้นอ่ะค่ะ ช่างแจ้งมาว่าเกิดจากความชื้น ก็เลยหมดประกันทำให้ต้องมีค่าใช้จ่าย อืมมม.... คือชั้นรู้ไงว่าคำว่าความชื้นคืออะไร คือถ้าเครื่องพี่โดนน้ำ จนทำให้เกิดความชื้น พี่จะไม่โวยวายอะไรเลยถ้าจะหลุดจากประกัน แต่นี่เครื่องพี่ไม่ได้โดนน้ำแม้แต่เพียงนิดเดียว วางชาร์จไว้บนเคาน์เตอร์ที่วางเป็นประจำทุกวัน แต่ทางศูนย์มาแจ้งว่าที่เครื่องพี่ไหม้เพราะความชื้น เราก็แจ้งกลับน้องพนักงานไปว่าเราไม่ยอมนะถ้าซัมซุงดูแลหลังการขายกับลูกค้าแบบนี้ เค้าก็บอกว่าจะรีบไปดำเนินการให้ใหม่
พอซักพักนึงเราก็จัดสินใจโทรไปที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ กดไปตรงที่บอกว่าแจ้งสถานะการซ่อม คนรับสายเป็นเสียง ผช พอเราก็บอกเลขที่ซ่อมเสร็จ พนักงานคนนั้นก็ถามเราว่าช่างได้แจ้งเราไปว่ายังไง เราก็บอกไปว่าช่างแจ้งว่าเกิดจากความชื้น ซึ่งทางเราสงสัยว่าจะเกิดจากความชื้นได้ยังไง (เราก็อธิบายเหมือนข้างบนให้พนักงานเค้าฟัง) แต่พนักงานก็พูดกลับมาว่า ถ้าช่างแจ้งว่ามาจากความชื้นก็คือความชื้น จะหมดประกันทันที พอถึงตรงนี้เรารู้สึกเหนื่อยมากที่อุตส่าห์นั่งอธิบายไป แล้วฟังกูรึป่าว กูบอกว่าเครื่องกูไม่ได้โดนน้ำ เสียบชาร์จเหมือนปกติทุกวัน แล้วมาบอกว่าเครื่องกูมีความชื้น เราก็ถามกลับไปว่าความชื้นของซัมซุงคืออะไร เกิดจากอะไรในเมื่อเครื่องชั้นไม่ได้โดนน้ำ ตอบได้มั้ย ถ้าตอบไม่ได้ไปหาคนที่ตอบได้มาตอบ พนักงานก็ได้แต่คร้าบ คร้าบ ไม่ได้มีคำตอบอะไรให้เลย ก็ได้แต่บอกว่าจะรีบดำเนินการจนตอนนี้จะบ่ายสามยังไม่ได้รับการติดต่อกลับเลย ทีแจ้งเรื่องเงินน่ะอย่างไว
ถ้าซัมซุงจะผลิตเครื่องที่ไวต่อความชื้นขนาดนี้ ขนาดที่ว่าใช้งานปกติเหมือนทุกวันก็เกิดความชื้นจนทำให้เครื่องไหมัได้เราว่าพอเหอะ แล้วยิ่งมีบริการหลังการขายแบบนี้ซะด้วย
เราเป็นคนที่ใช้มือถือซัมซุงมาตลอดไม่คิดว่าซัมซุงจะดูแลลูกค้าแบบนี้ เราใช้เครื่องนี้เป็นเครื่องที่สอง เครื่องแรกที่เราใช้ก็เป็นเครื่องซัมซุง น่าจะรุ่น D510 ใช้มา 10 กว่าปีขึ้นอ่ะ ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เราก็ไม่เคยไปรบกวน ร้องแลกแหกกะเชออะไรเลย จนมาที่จะซื้อเครื่องที่ 2 เราก็ยังคงมั่นคงที่จะใช้ซัมซุงอีกครั้ง แต่พอเรามีปัญหาเรากลับทำกลับลูกค้าแบบนี้ พอกันทีบอกจริงๆ ว่าเสียความรู้สึกมากๆๆๆๆๆๆ
กูงงว่าทำไมกูต้องจ่ายด้วย!!!!!!
ตอนนี้จะรอดูว่าทางซัมซุงจะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง