..วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 0 กันฮะ ว่าเรื่องราวมันเป็นอะไรยังไง ซึ่งบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินก็นึกว่า..เอ๊ะ!! สงครามโลกครั้งที่ 0 มันมีด้วยหรอ เเล้วชื่อที่เเท้จริงมันชื่อว่าอะไร ตั้งแต่เรียนมาก็ไม่เคยเจอหนิ ครูก็ไม่สอนด้วย เคยได้ยินเเต่ สงครามโลกครั้งที่ 1,2 ครั้งที่ 0 ไม่เคยได้ยินเลยหนิ คงคิดประมาณนี้ใช่มั้ยล่ะฮะ เเต่ความจริงคือ นักประวัติศาสตร์ของยุโรป ก็ได้บอกว่ามันคือสงคราม 7 ปี หรืออีกชื่อว่า"สงครามไซลีเซียครั้งที่ 3" สงครามนี้กินระยะเวลา 9 ปี หรือบางคนก็บอกว่า 7 ปีตามชื่อ โดยเริ่มในปี 1756-1763 หรือถ้านับเเบบ 9 ปี ก็เริ่มปี 1754 โดยในอังกฤษสงครามนี้ยาวนานถึง 2 รัชสมัย คือ ยุคพระเจ้าจอร์จที่ 2 (เเห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่)
พระเจ้าจอร์จที่ 2 เเห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพ
เเละพระเจ้าจอร์จที่ 3 (เเห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่)
พระเจ้าจอร์จที่ 3
เเต่ในฝรั่งเศสกินเวลาเเค่รัชสมัยเดียว
คือยุค พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ผู้เป็นที่รัก???
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15
(ใช้เงินฟุ่มเฟือย จนราษฎรรัก ทำให้เกิดการปฏิวัติยุค หลุยส์ที่ 16....พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เป็นรัชสมัยถัดจาก พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 หลุยส์ที่ 15 เองเเกเล่นครองราชย์ซะยาวถึง 59 ปี) [เเต่ขอเสริมนิดนึงเอาจริงๆ เเล้วสงคราม 7ปี กินระยะเวลา 9 ปีนะฮะ]
สงครามนี้ต้องบอกว่าใหญ่จริง เล่นซะกินเนื้อที่ถึง 5 ทวีป ซึ่ง 5 ทวีปนี้ก็คือ ทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป เเอฟริกา เเละชมพูทวีป เเต่อยุธยาเราไม่เข้าร่วมนะฮะ ถ้าอยุธยาเข้าร่วมด้วย มันก็เหมือนจะเป็นภาระฮะ สมัยนั้นการล่าอาณานิคมยังไม่รุนเเรงในเเถบบ้านเราเท่าไหร่ มีเเค่ต่างมีคนจับจองทวีปในอเมริกา กับเเย่งกันกินอินเดียเท่านั้นเอง เราก็ไม่ได้สัมพันธ์ไรมากกับเค้า(ยกเว้นทางการค้า) ถ้าเราไปช่วยเค้าทะเลาะกัน มันจะไม่ดีต่อเราเลย(ถึงงั้นก็มีเพื่อนบ้านเราอย่าง "ฟิลิปปินส์(ของสเปน)"...การทะเลาะเเรงถึง 5 ทวีปนี่ ทำให้วินสตัน เชอร์ชิลกล่าวว่า "สงครามโลก" เพราะเป็นความขัดแย้งที่นำมาซึ่งสงครามไปทั่วทุกหนทุกแห่งในโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
วินสตันเค้ายืนอยู่ทางขวาของภาพนะฮะ
ซึ่งมันเกิดจากบริเตนใหญ่กับฝรั่งเศสเเละสเปนซึ่งเป็นรัฐอภิมหาอำนาจในยุคนั้นต่อสู้กันพร้อมทั้งประเทศเล็กๆ เช่นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปรัสเซียในยุคพระเจ้าฟรีเดอริคเองก็ต้องการขยายดินเเดน เช่นยึดครองไซลีเซียของออสเตรีย ทำให้เกิดความโกรธขึ้นมาเเล้วฮะ
(เคยได้ยินมาฮะว่า ฟรีเดอริคเเกประหยัดตังค์มาก คืองดการนำเข้า เเต่ส่งออกเยอะๆ เเล้วไซลีเซียเป็นเมืองที่ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะเเก่การนำทรัพยากรมา เเล้วเเปรรูปขายให้ได้กำไร) นอกจากสนธิสัญญยังมีสนธิสัญญาปารีสอีก ซึ่งคือข้อตกลงระหว่างฝรั่งเศสกับสเปนและบริเตนใหญ่โดยมีผลข้อบังคับใช้ให้ราชอาณาจักรฝรั่งเศสเสียอาณานิคมในอเมริกาทั้งหมดเเก่ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ส่วนจักรวรรดิสเปน(น้องฝรั่งเศส)ต้องเสียพื้นที่บางส่วน(น้อยมาก)ในทวีปอเมริกาให้กับบริเตน ซึ่งสงครามครั้งนี้เป็นสงครามที่ทำให้ฝรั่งเศสถึงขนาดล้มละลาย เงินหมดพระคลัง รัฐบาลเเทบล่มสลาย ประชาชนตายไปนับเเสน เสียอาณานิคมโพ้นทะเลบนโลกใหม่ไปหมดเลย(ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสก็ได้คืนมาอีกครั้งในยุคจักรพรรดินโปเลียนในช่วงเวลาไม่กี่ปี เเต่ก็ต้องขายให้กับอเมริกาไป) นอกจากนี้กษัตริย์ก็ใช้เงินฟุ่มเฟือยอีก(ถึงขนาดที่ 1 วันของกษัตริย์ สามารถเลี้ยงคนจนได้พันๆ คน) เเทบสิ้นเนื้อประดาตัว ทำให้มหาอำนาจที่เเท้จริงของโลกคือ "บริเตนใหญ่" เเต่บริเตนใหญ่ก็ไม่เหลือไรเหมือนกันฮะ เศรษฐกิจเเทบล้มละลาย โดยอังกฤษหมดเงินไปตั้ง 60 ล้านปอนด์!! สมัยนั้นมันไม่ใช่น้อยๆ นะฮะ เเต่มันคือเงินทั้งปีของชาติเลย ทำให้เมื่อพวกผู้ดีเจอราคาของชัยชนะเเล้ว เเทบจะล้มลงเพราะเสียศูนย์เลยฮะ(เเต่ต่อมาบริเตนก็ฟื้นฟูตัวทัน) ส่วนสเปนเสียอาณานิคมไม่เยอะ ทำให้ยังดูยิ่งใหญ่อยู่ ซึ่งเหมือนจะใหญ่เเต่ข้างในเริ่มกลวงเเล้ว (เสียกับเค้าไปเยอะเหมือนกัน)
[[[เเต่เรามาดูที่บริเตนฮะ บริเตนถังเเตก เลยขูดรีดภาษีจากชาวอาณานิคม โดยเฉพาะชาวบริทิชอเมริกา ส่วนรูเพิร์ตเเลนด์อังกฤษขูดรีดรึป่าวไม่รู้ ที่รู้ๆ คือ อังกฤษขูดรีดภาษีจากชาวบริทิชอเมริกาเยอะมาก ทำให้ชาวอาณานิคมต่างพากันเกลียดพระเจ้าจอร์จที่ 3 ผู้สติฟั่นเฟือน โดยเเสดงการต่อต้านอังกฤษ เช่น เอารูปหล่อกษัตริย์จอร์จมาหลอมเป็นอาวุธ ฆ่าชาวบริเตน ฆ่าทหารบริเตน ประมาณนี้ฮะ ที่ชาวอเมริกันทำเเบบนี้ เพราะว่าบริเตนขูดรีดภาษีเยอะมาก โดยภาษีที่โจษจันกันมากที่สุดคือ "พระราชบัญญัติสเเตมป์" ฮะ คือประมาณว่า ถ้าเราปั๊มเอกสารลงไป(ซึ่งการปั๊มหนึ่งครั้ง เปลืองน้ำหมึกไปไม่เท่าไหร่เอง) ก็คิดตังค์ละ ประมาณนี้ นอกจากนี้ก็มีภาษีมากมาย เช่น ชา(คนอเมริกันผิวขาว บรรพบุรุษคือคนอังกฤษใช่มั้ยฮะ เเล้วนิสัยคนอังกฤษคือชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้นิสัยพวกนี้ติดกับชาวอเมริกันผิวขาวด้วย) ก็เก็บภาษี กระดาษก็เก็บภาษี คือทุกอย่างมีภาษีหมด ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด ทุกอย่างก็เเพงมาก เเต่คนรายได้กลับน้อยลง จนในที่สุดจึงเกิดการปฏิวัติอเมริกา!!!ทำให้ฝรั่งเศส(คิดว่าพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 น่าจะลาโลกไปเเล้ว มันคงเป็นยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16) กับสเปนซึ่งเป็นผู้เเพ้ในสงคราม 7 ปี เเค้นบริเตนอย่างสุดขีด เห็นเป็นโอกาสดีที่จะให้อาณานิคมบริทิชอเมริกา(ยกเว้นรูเพิร์ตเเลนด์ซึ่งต่อมาคือ "เเคนาดา") เเละอาณานิคมหลุยส์เซียน่าของบริเตน(เดิมทีเป็นของฝรั่งเศส) เป็นเอกราช ไม่ขึ้นกับบริเตน [เเต่ผมจะไม่เล่าต่อนะฮะ เรื่องเยอะ เอาไว้เเตกในกระทู้ใหม่ดีกว่า(ลองเเยกเอาเองนะฮะ ผมไม่ทำ😁😁)] เราคงรู้ดีว่าในที่สุดอังกฤษก็เเพ้อเมริกา(โดยการหนุนหลังของฝรั่งเศสและสเปน) โดยบริเตนเสียไปในยุคของพระเจ้าจอร์จที่ 3 (ความจริงพระเจ้าจอร์จน่าจะไปทวงบุญคุณจากอเมริกา) ซึ่งสาเหตุที่อังกฤษเเพ้มาจากการที่อังกฤษเป็นอภิมหาอำนาจทางทะเล(เพราะอยู่บนเกาะ) การที่ใครจะบุกมหาอำนาจทางทะเลเเละตั้งอยู่บนเกาะ(เวลาบุกต้องมาทางเรือเท่านั้น ซึ่งทำให้ชาติที่บุกมาเสียเปรียบอังกฤษ) พออังกฤษเก่งทางด้านการเรือเเล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีทหารบกจำนวนมาก เเละศักยภาพก็ไม่จำเป็นต้องสูงมากอย่างปรัสเซีย เพราะเเค่ผ่านน่านน้ำมาก็ยากเเล้ว ด้วยเหตุนี้เองทำให้อังกฤษชะล่าใจที่จะมีทหารบกเป็นจำนวนมาก เลยสู้ไม่ได้(เเต่ถ้าเอาจริงๆ อังกฤษก็สู้เมกาได้นั่นเเหละฮะ ถ้าไม่มีศัตรูอย่าง ฝรั่งเศส,สเปนมาหนุนหลังซะก่อน)]]]
ภาพสงครามการปฏิวัติอเมริกา
(เดี๋ยวผมขอเเก้อะไรก่อนเเป๊บนึง รู้สึกว่าผมขาดอะไรข้างบนกระทู้ไป)
ในช่วงปี 1750 ราชอาณาจักรฝรั่งเศสเเละนาวาร์อ้างสิทธิในรูเพิร์ตเเลนด์(หรือเเคนาดาในปัจจุบัน เเต่ว่าตอนนั้นชาติในยุโรป ยังไม่อ้างสิทธิในเเคนาดาทั้งหมดนะฮะ อ้างเฉพาะตรงอ่าวฮัดสัน)และเกรตเลกส์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบริเตนก็อ้างสิทธิว่าเป็นของชั้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้บริเตนยังอ้างสิทธิใน13 อาณานิคม(เดี๋ยวนี้รัฐพวกนี้เป็นเจ้าโลกไปซะเเล้ว) ของเป็นของบริเตนมาเเต่เดิม โดยตั้งอยู่ริมชายทะเลตะวันออกของอเมริกา นอกจากนี้บริเตนยังอ้างสิทธิ์บริเวณชายแดนรอบหุบเขาแม่น้ำโอไฮโอตอนบน ซึ่งดินเเดนบางส่วนบริเตนก็อ้างสิทธิ เเละฝรั่งเศสก็อ้างสิทธิว่าตรงนี้ของประเทศตนเอง(เริ่มเป็นชนวนละ)...อยู่มาวันนึงฝรั่งเศสจะสร้างป้อมปราการในอาณานิคมที่ตนอ้างสิทธิ เเต่อังกฤษบอกว่ามันเป็นของเรา บอกยังไงฝรั่งเศสก็ไม่ฟังเพราะต่างคนต่างคิดว่าดินเเดนส่วนนี้เป็นของตน ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสก็สร้างป้อมจริงๆ ด้วย ทำให้อังกฤษโกรธมากที่อยู่ดีๆ ก็มีคนรุกล้ำอาณาเขตที่ตนอ้างสิทธิ์ ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างกองทัพอังกฤษกับฝรั่งเศสและชนพื้นเมืองอเมริกันพร้อมกับประเทศในยุโรปที่กระตือรือร้นที่จะตั้งถิ่นอาณานิคมเหนือคู่แข่ง โดยการสู้รบครั้งแรกไม่เป็นผลดีเเละเหมือนว่าบริเตนจะเเพ้ฝรั่งเศส
อ่าวฮัดสัน
เกรตเล็กส์
...............................................................................
George Washington ในวัย 22 ปี
โดยสงครามดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อจอร์จวอชิงตันวัย 22 ปี(ต่อมาก็ปฏิวัติอังกฤษเเละเป็นปธน.คนเเรกของเมกาด้วย) ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งได้เเต่งตั้งให้จอร์จ วอชิงตันเป็นพันโท พร้อมกับให้มาเป็นผู้แทนกล่าวตักเตือนฝรั่งเศสที่สร้างป้อมฟอร์ตดูเควสน์ เเละกล่าวเตือนให้พวกชาวเเคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสอยู่ห่างจากบริเวณโดยรอบของเพนซิลเวเนียตรงบริเวณพิตต์สเบิร์กในปัจจุบัน เเต่ราชอาณาจักรฝรั่งเศสกลับปฏิเสธซะอย่างงั้น ซึ่งทำให้จอร์จ วอชิงตันเองก็ได้ต่อสู้กันอย่างชุลมุนกับฝรั่งเศส
โดยทานาชาริสัน วอชิงตันได้ทำการสลายทหาร 30 นายของ โจเซฟ โคโลน เดอ จูมอนวิลล์ ที่ฟอร์ตฟอเนสซิตี้ วอชิงตันและกองกำลังต้องพ่ายแพ้ต่อทัพผสมระหว่างแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสกับอินเดียน ที่มีกำลังเหนือกว่าและอยู่ในชัยภูมิที่ดีกว่า ในแถลงการยอมจำนนครั้งนี้ได้รวมเอาเนื้อหาว่า วอชิงตันลอบสังหารจูมอนวิลล์ผู้นำทัพฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากการซุ่มโจมตี วอชิงตันอ่านภาษาฝรั่งเศสในสนธิสัญญาไม่ออก จึงไม่ทราบว่าเนื้อหาเขียนว่าอะไรและยอมลงนามไปซะงั้น วอชิงตันได้รับการปล่อยตัวจากพวกแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส และได้กลับสู่เวอร์จิเนีย โดยลาออกเพราะปฏิบัติหน้าที่ในการเตือนฝรั่งเศสล้มเหลว
ในปี ค.ศ. 1755 จอร์จ วอชิงตันเป็นนายทหารผู้ช่วยของนายพลเอ็ดวาร์ด แบร็ดด็อกแห่งบริเตนใหญ่ โดยแบร็ดด็อกได้รับคำสั่งจากบริเตนใหญ่ให้ยึดเเม่น้ำโอไฮโอ เคาท์ตี้คืนมากลับคืนมา เเต่ต่อมาแบร็ดด็อกนั้นกลับถูกลอบสังหารทำให้คณะเดินทางต้องยุติลง ขณะที่บทบาทของวอชิงตันในระหว่างสงครามมีข้อถกเถียงขึ้นมาในหมู่นักประวัติศาสตร์ฮะ โดยมีการโต้เถียงกันในเหล่านักวิชาการ เเต่บางคนเดาว่าวอชิงตันได้ขี่ได้ไปรบมาตลอดทั่วสมรภูมิ เเละเค้าได้รวบรวมกำลังพลที่เหลือของอังกฤษและอาณานิคมเวอร์จิเนียเพื่อถอยทัพหลังจากเหตุการณ์นี้ วอชิงตันได้รับมอบหมายให้ควบคุมชายแดนแถบเทือกเขาเวอร์จิเนียฮะ และได้รับรางวัลโดยเลื่อนขั้นให้เป็นพันเอกผู้บัญชาการแห่งกองกำลังเวอร์จิเนียทั้งหมด
สงครามโลกครั้งที่ 0
..วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 0 กันฮะ ว่าเรื่องราวมันเป็นอะไรยังไง ซึ่งบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินก็นึกว่า..เอ๊ะ!! สงครามโลกครั้งที่ 0 มันมีด้วยหรอ เเล้วชื่อที่เเท้จริงมันชื่อว่าอะไร ตั้งแต่เรียนมาก็ไม่เคยเจอหนิ ครูก็ไม่สอนด้วย เคยได้ยินเเต่ สงครามโลกครั้งที่ 1,2 ครั้งที่ 0 ไม่เคยได้ยินเลยหนิ คงคิดประมาณนี้ใช่มั้ยล่ะฮะ เเต่ความจริงคือ นักประวัติศาสตร์ของยุโรป ก็ได้บอกว่ามันคือสงคราม 7 ปี หรืออีกชื่อว่า"สงครามไซลีเซียครั้งที่ 3" สงครามนี้กินระยะเวลา 9 ปี หรือบางคนก็บอกว่า 7 ปีตามชื่อ โดยเริ่มในปี 1756-1763 หรือถ้านับเเบบ 9 ปี ก็เริ่มปี 1754 โดยในอังกฤษสงครามนี้ยาวนานถึง 2 รัชสมัย คือ ยุคพระเจ้าจอร์จที่ 2 (เเห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่)
พระเจ้าจอร์จที่ 2 เเห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพ
เเละพระเจ้าจอร์จที่ 3 (เเห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่)
พระเจ้าจอร์จที่ 3
เเต่ในฝรั่งเศสกินเวลาเเค่รัชสมัยเดียว
คือยุค พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ผู้เป็นที่รัก???
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15
(ใช้เงินฟุ่มเฟือย จนราษฎรรัก ทำให้เกิดการปฏิวัติยุค หลุยส์ที่ 16....พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เป็นรัชสมัยถัดจาก พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 หลุยส์ที่ 15 เองเเกเล่นครองราชย์ซะยาวถึง 59 ปี) [เเต่ขอเสริมนิดนึงเอาจริงๆ เเล้วสงคราม 7ปี กินระยะเวลา 9 ปีนะฮะ]
สงครามนี้ต้องบอกว่าใหญ่จริง เล่นซะกินเนื้อที่ถึง 5 ทวีป ซึ่ง 5 ทวีปนี้ก็คือ ทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป เเอฟริกา เเละชมพูทวีป เเต่อยุธยาเราไม่เข้าร่วมนะฮะ ถ้าอยุธยาเข้าร่วมด้วย มันก็เหมือนจะเป็นภาระฮะ สมัยนั้นการล่าอาณานิคมยังไม่รุนเเรงในเเถบบ้านเราเท่าไหร่ มีเเค่ต่างมีคนจับจองทวีปในอเมริกา กับเเย่งกันกินอินเดียเท่านั้นเอง เราก็ไม่ได้สัมพันธ์ไรมากกับเค้า(ยกเว้นทางการค้า) ถ้าเราไปช่วยเค้าทะเลาะกัน มันจะไม่ดีต่อเราเลย(ถึงงั้นก็มีเพื่อนบ้านเราอย่าง "ฟิลิปปินส์(ของสเปน)"...การทะเลาะเเรงถึง 5 ทวีปนี่ ทำให้วินสตัน เชอร์ชิลกล่าวว่า "สงครามโลก" เพราะเป็นความขัดแย้งที่นำมาซึ่งสงครามไปทั่วทุกหนทุกแห่งในโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
วินสตันเค้ายืนอยู่ทางขวาของภาพนะฮะ
ซึ่งมันเกิดจากบริเตนใหญ่กับฝรั่งเศสเเละสเปนซึ่งเป็นรัฐอภิมหาอำนาจในยุคนั้นต่อสู้กันพร้อมทั้งประเทศเล็กๆ เช่นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปรัสเซียในยุคพระเจ้าฟรีเดอริคเองก็ต้องการขยายดินเเดน เช่นยึดครองไซลีเซียของออสเตรีย ทำให้เกิดความโกรธขึ้นมาเเล้วฮะ
(เคยได้ยินมาฮะว่า ฟรีเดอริคเเกประหยัดตังค์มาก คืองดการนำเข้า เเต่ส่งออกเยอะๆ เเล้วไซลีเซียเป็นเมืองที่ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะเเก่การนำทรัพยากรมา เเล้วเเปรรูปขายให้ได้กำไร) นอกจากสนธิสัญญยังมีสนธิสัญญาปารีสอีก ซึ่งคือข้อตกลงระหว่างฝรั่งเศสกับสเปนและบริเตนใหญ่โดยมีผลข้อบังคับใช้ให้ราชอาณาจักรฝรั่งเศสเสียอาณานิคมในอเมริกาทั้งหมดเเก่ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ส่วนจักรวรรดิสเปน(น้องฝรั่งเศส)ต้องเสียพื้นที่บางส่วน(น้อยมาก)ในทวีปอเมริกาให้กับบริเตน ซึ่งสงครามครั้งนี้เป็นสงครามที่ทำให้ฝรั่งเศสถึงขนาดล้มละลาย เงินหมดพระคลัง รัฐบาลเเทบล่มสลาย ประชาชนตายไปนับเเสน เสียอาณานิคมโพ้นทะเลบนโลกใหม่ไปหมดเลย(ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสก็ได้คืนมาอีกครั้งในยุคจักรพรรดินโปเลียนในช่วงเวลาไม่กี่ปี เเต่ก็ต้องขายให้กับอเมริกาไป) นอกจากนี้กษัตริย์ก็ใช้เงินฟุ่มเฟือยอีก(ถึงขนาดที่ 1 วันของกษัตริย์ สามารถเลี้ยงคนจนได้พันๆ คน) เเทบสิ้นเนื้อประดาตัว ทำให้มหาอำนาจที่เเท้จริงของโลกคือ "บริเตนใหญ่" เเต่บริเตนใหญ่ก็ไม่เหลือไรเหมือนกันฮะ เศรษฐกิจเเทบล้มละลาย โดยอังกฤษหมดเงินไปตั้ง 60 ล้านปอนด์!! สมัยนั้นมันไม่ใช่น้อยๆ นะฮะ เเต่มันคือเงินทั้งปีของชาติเลย ทำให้เมื่อพวกผู้ดีเจอราคาของชัยชนะเเล้ว เเทบจะล้มลงเพราะเสียศูนย์เลยฮะ(เเต่ต่อมาบริเตนก็ฟื้นฟูตัวทัน) ส่วนสเปนเสียอาณานิคมไม่เยอะ ทำให้ยังดูยิ่งใหญ่อยู่ ซึ่งเหมือนจะใหญ่เเต่ข้างในเริ่มกลวงเเล้ว (เสียกับเค้าไปเยอะเหมือนกัน)
[[[เเต่เรามาดูที่บริเตนฮะ บริเตนถังเเตก เลยขูดรีดภาษีจากชาวอาณานิคม โดยเฉพาะชาวบริทิชอเมริกา ส่วนรูเพิร์ตเเลนด์อังกฤษขูดรีดรึป่าวไม่รู้ ที่รู้ๆ คือ อังกฤษขูดรีดภาษีจากชาวบริทิชอเมริกาเยอะมาก ทำให้ชาวอาณานิคมต่างพากันเกลียดพระเจ้าจอร์จที่ 3 ผู้สติฟั่นเฟือน โดยเเสดงการต่อต้านอังกฤษ เช่น เอารูปหล่อกษัตริย์จอร์จมาหลอมเป็นอาวุธ ฆ่าชาวบริเตน ฆ่าทหารบริเตน ประมาณนี้ฮะ ที่ชาวอเมริกันทำเเบบนี้ เพราะว่าบริเตนขูดรีดภาษีเยอะมาก โดยภาษีที่โจษจันกันมากที่สุดคือ "พระราชบัญญัติสเเตมป์" ฮะ คือประมาณว่า ถ้าเราปั๊มเอกสารลงไป(ซึ่งการปั๊มหนึ่งครั้ง เปลืองน้ำหมึกไปไม่เท่าไหร่เอง) ก็คิดตังค์ละ ประมาณนี้ นอกจากนี้ก็มีภาษีมากมาย เช่น ชา(คนอเมริกันผิวขาว บรรพบุรุษคือคนอังกฤษใช่มั้ยฮะ เเล้วนิสัยคนอังกฤษคือชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้นิสัยพวกนี้ติดกับชาวอเมริกันผิวขาวด้วย) ก็เก็บภาษี กระดาษก็เก็บภาษี คือทุกอย่างมีภาษีหมด ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด ทุกอย่างก็เเพงมาก เเต่คนรายได้กลับน้อยลง จนในที่สุดจึงเกิดการปฏิวัติอเมริกา!!!ทำให้ฝรั่งเศส(คิดว่าพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 น่าจะลาโลกไปเเล้ว มันคงเป็นยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16) กับสเปนซึ่งเป็นผู้เเพ้ในสงคราม 7 ปี เเค้นบริเตนอย่างสุดขีด เห็นเป็นโอกาสดีที่จะให้อาณานิคมบริทิชอเมริกา(ยกเว้นรูเพิร์ตเเลนด์ซึ่งต่อมาคือ "เเคนาดา") เเละอาณานิคมหลุยส์เซียน่าของบริเตน(เดิมทีเป็นของฝรั่งเศส) เป็นเอกราช ไม่ขึ้นกับบริเตน [เเต่ผมจะไม่เล่าต่อนะฮะ เรื่องเยอะ เอาไว้เเตกในกระทู้ใหม่ดีกว่า(ลองเเยกเอาเองนะฮะ ผมไม่ทำ😁😁)] เราคงรู้ดีว่าในที่สุดอังกฤษก็เเพ้อเมริกา(โดยการหนุนหลังของฝรั่งเศสและสเปน) โดยบริเตนเสียไปในยุคของพระเจ้าจอร์จที่ 3 (ความจริงพระเจ้าจอร์จน่าจะไปทวงบุญคุณจากอเมริกา) ซึ่งสาเหตุที่อังกฤษเเพ้มาจากการที่อังกฤษเป็นอภิมหาอำนาจทางทะเล(เพราะอยู่บนเกาะ) การที่ใครจะบุกมหาอำนาจทางทะเลเเละตั้งอยู่บนเกาะ(เวลาบุกต้องมาทางเรือเท่านั้น ซึ่งทำให้ชาติที่บุกมาเสียเปรียบอังกฤษ) พออังกฤษเก่งทางด้านการเรือเเล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีทหารบกจำนวนมาก เเละศักยภาพก็ไม่จำเป็นต้องสูงมากอย่างปรัสเซีย เพราะเเค่ผ่านน่านน้ำมาก็ยากเเล้ว ด้วยเหตุนี้เองทำให้อังกฤษชะล่าใจที่จะมีทหารบกเป็นจำนวนมาก เลยสู้ไม่ได้(เเต่ถ้าเอาจริงๆ อังกฤษก็สู้เมกาได้นั่นเเหละฮะ ถ้าไม่มีศัตรูอย่าง ฝรั่งเศส,สเปนมาหนุนหลังซะก่อน)]]]
ภาพสงครามการปฏิวัติอเมริกา
(เดี๋ยวผมขอเเก้อะไรก่อนเเป๊บนึง รู้สึกว่าผมขาดอะไรข้างบนกระทู้ไป)
ในช่วงปี 1750 ราชอาณาจักรฝรั่งเศสเเละนาวาร์อ้างสิทธิในรูเพิร์ตเเลนด์(หรือเเคนาดาในปัจจุบัน เเต่ว่าตอนนั้นชาติในยุโรป ยังไม่อ้างสิทธิในเเคนาดาทั้งหมดนะฮะ อ้างเฉพาะตรงอ่าวฮัดสัน)และเกรตเลกส์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบริเตนก็อ้างสิทธิว่าเป็นของชั้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้บริเตนยังอ้างสิทธิใน13 อาณานิคม(เดี๋ยวนี้รัฐพวกนี้เป็นเจ้าโลกไปซะเเล้ว) ของเป็นของบริเตนมาเเต่เดิม โดยตั้งอยู่ริมชายทะเลตะวันออกของอเมริกา นอกจากนี้บริเตนยังอ้างสิทธิ์บริเวณชายแดนรอบหุบเขาแม่น้ำโอไฮโอตอนบน ซึ่งดินเเดนบางส่วนบริเตนก็อ้างสิทธิ เเละฝรั่งเศสก็อ้างสิทธิว่าตรงนี้ของประเทศตนเอง(เริ่มเป็นชนวนละ)...อยู่มาวันนึงฝรั่งเศสจะสร้างป้อมปราการในอาณานิคมที่ตนอ้างสิทธิ เเต่อังกฤษบอกว่ามันเป็นของเรา บอกยังไงฝรั่งเศสก็ไม่ฟังเพราะต่างคนต่างคิดว่าดินเเดนส่วนนี้เป็นของตน ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสก็สร้างป้อมจริงๆ ด้วย ทำให้อังกฤษโกรธมากที่อยู่ดีๆ ก็มีคนรุกล้ำอาณาเขตที่ตนอ้างสิทธิ์ ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างกองทัพอังกฤษกับฝรั่งเศสและชนพื้นเมืองอเมริกันพร้อมกับประเทศในยุโรปที่กระตือรือร้นที่จะตั้งถิ่นอาณานิคมเหนือคู่แข่ง โดยการสู้รบครั้งแรกไม่เป็นผลดีเเละเหมือนว่าบริเตนจะเเพ้ฝรั่งเศส
อ่าวฮัดสัน
เกรตเล็กส์
...............................................................................
George Washington ในวัย 22 ปี
โดยสงครามดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อจอร์จวอชิงตันวัย 22 ปี(ต่อมาก็ปฏิวัติอังกฤษเเละเป็นปธน.คนเเรกของเมกาด้วย) ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งได้เเต่งตั้งให้จอร์จ วอชิงตันเป็นพันโท พร้อมกับให้มาเป็นผู้แทนกล่าวตักเตือนฝรั่งเศสที่สร้างป้อมฟอร์ตดูเควสน์ เเละกล่าวเตือนให้พวกชาวเเคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสอยู่ห่างจากบริเวณโดยรอบของเพนซิลเวเนียตรงบริเวณพิตต์สเบิร์กในปัจจุบัน เเต่ราชอาณาจักรฝรั่งเศสกลับปฏิเสธซะอย่างงั้น ซึ่งทำให้จอร์จ วอชิงตันเองก็ได้ต่อสู้กันอย่างชุลมุนกับฝรั่งเศส
โดยทานาชาริสัน วอชิงตันได้ทำการสลายทหาร 30 นายของ โจเซฟ โคโลน เดอ จูมอนวิลล์ ที่ฟอร์ตฟอเนสซิตี้ วอชิงตันและกองกำลังต้องพ่ายแพ้ต่อทัพผสมระหว่างแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสกับอินเดียน ที่มีกำลังเหนือกว่าและอยู่ในชัยภูมิที่ดีกว่า ในแถลงการยอมจำนนครั้งนี้ได้รวมเอาเนื้อหาว่า วอชิงตันลอบสังหารจูมอนวิลล์ผู้นำทัพฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากการซุ่มโจมตี วอชิงตันอ่านภาษาฝรั่งเศสในสนธิสัญญาไม่ออก จึงไม่ทราบว่าเนื้อหาเขียนว่าอะไรและยอมลงนามไปซะงั้น วอชิงตันได้รับการปล่อยตัวจากพวกแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส และได้กลับสู่เวอร์จิเนีย โดยลาออกเพราะปฏิบัติหน้าที่ในการเตือนฝรั่งเศสล้มเหลว
ในปี ค.ศ. 1755 จอร์จ วอชิงตันเป็นนายทหารผู้ช่วยของนายพลเอ็ดวาร์ด แบร็ดด็อกแห่งบริเตนใหญ่ โดยแบร็ดด็อกได้รับคำสั่งจากบริเตนใหญ่ให้ยึดเเม่น้ำโอไฮโอ เคาท์ตี้คืนมากลับคืนมา เเต่ต่อมาแบร็ดด็อกนั้นกลับถูกลอบสังหารทำให้คณะเดินทางต้องยุติลง ขณะที่บทบาทของวอชิงตันในระหว่างสงครามมีข้อถกเถียงขึ้นมาในหมู่นักประวัติศาสตร์ฮะ โดยมีการโต้เถียงกันในเหล่านักวิชาการ เเต่บางคนเดาว่าวอชิงตันได้ขี่ได้ไปรบมาตลอดทั่วสมรภูมิ เเละเค้าได้รวบรวมกำลังพลที่เหลือของอังกฤษและอาณานิคมเวอร์จิเนียเพื่อถอยทัพหลังจากเหตุการณ์นี้ วอชิงตันได้รับมอบหมายให้ควบคุมชายแดนแถบเทือกเขาเวอร์จิเนียฮะ และได้รับรางวัลโดยเลื่อนขั้นให้เป็นพันเอกผู้บัญชาการแห่งกองกำลังเวอร์จิเนียทั้งหมด