🍊/มาลาริน/น่ากลัวค่ะ...พบผู้ป่วย‘โควิด’ใหม่ 17 ราย มาจากต่างประเทศทั้งหมด..ศบค.เร่งหารือ 12 กิจการ วางแผนคลายล็อก เฟส 4

ศบค.แถลงพบผู้ป่วย‘โควิด’ใหม่ 17 ราย มาจากต่างประเทศทั้งหมด

วันพฤหัสบดี ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.43 น.



4 มิถุนายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 17 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,101 ราย หายป่วยสะสม 2,968 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 ราย อยู่ระหว่างรักษา 75 ราย

ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 17 ราย แบ่งเป็นดังนี้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 
 
ประเทศคูเวต 13 ราย เป็นชายไทย 12 ราย อายุ 31-56 ปี และหญิงไทย 1 ราย อายุ 44 ปี กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 24 9ราย และ 26 4 ราย พฤษภาคม และเข้าพัก  State Quarantine  ที่กรุงเทพมหานคร 5 ราย และ จังหวัดสมุทรปราการ 8 ราย ทุกรายตรวจพบเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน โดย 1 ราย มีอาการไอ หายใขขัด และที่เหลือไม่มีอาการ
ประเทศกาตาร์ 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 24 ปี และหญิงไทย อายุ 29 ปี กลังถึงไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และเข้าพัก State Quarantine ที่ สมุทรปราการ โดยผู้ป่วยหญิงมีอาการไอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ (ผู้ป่วยชายไม่มีอาการ) และทั้ง 2 ราย พบเชื้อในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน
ประเทศซาอุดิอาระเบีย 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 28 และ 29 ปี กลับถึงไทยผ่านด่านปะดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 21 และ 25 พฤษภาคม และเข้าพัก  State Quarantine ที่จ.สงขลา ทั้ง2รายตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ไม่มีอาการ

https://www.naewna.com/local/497005

ศบค.เร่งหารือ 12 กิจการ วางแผนป้องกัน “โควิด” รับคลายล็อกเฟส 4 ทั้ง ร.ร.-ท่องเที่ยว-คอนเสิร์ต-อีเวนต์-ผับบาร์-อาบอบนวด



ศบค.ห่วงคนแห่เที่ยวชายหาดบางแสนจนแน่น ชี้ไปเที่ยวได้ แต่ขอช่วยกันคง 5 มาตรการ อยู่ห่างไว้ ใส่มาสก์ ล้างมือ ทำความสะอาด อย่าให้แออัด ย้ำหากพื้นที่เต็มต้องปิด พร้อมแจ้งตั้งแต่ต้นทาง เชื่อพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นเห็นปัญหา ต้องกลับมาเตรียมตัวให้พร้อม ยันไม่ออก กม.บังคับ หลังคนเริ่มไม่ใส่หน้ากาก

วันนี้ (4 มิ.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีวันหยุดคนแห่เที่ยวชายหาดบางแสนจำนวนมาก ว่า จากข่าวจะเห็นภาพว่า รถติดกันเป็นทางยาวมาก คนไปเที่ยวบางแสนจำนวนมาก แต่ร้านค้ายังไม่เปิด ก็เป็นการนำอาหารมานั่งปูเสื่อ ตรงนี้มีความสำคัญ คือ 5 มาตรการหลักที่ต้องคงไว้ หากต้องการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ผ่อนคลายจิตใจ ร่างกาย ได้เที่ยวสนุกกับครอบครัว ก็ยังมีความเสี่ยง จึงขอให้นำ 5 เรื่องนี้กลับไปอยู่กับตัว คือ อยู่ห่างไว้ ใส่มาสก์กัน หมั่นล้างมือ ต้องทำให้ดี ส่วนผู้ประกอบการก็ต้องเน้นเรื่องการทำความสะอาดพื้นผิว ที่อาบน้ำต่างๆ และอย่าให้แออัด หากเห็นว่าคนแน่นก็ให้กระจายออกไป ประเทศไทยเรามีชายหาดกว้างมาก ก็กระจายกันไป ส่วนประชาชนเองหากเห็นว่าคนเยอะ ก็อย่าไปอยู่ใกล้ตรงนั้น

เมื่อถามว่า ศบค.ต้องประสานจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อเตรียมความพร้อมในวันหยุดต่างๆ อีกหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะเกิดจากความร่วมมือ 3 ส่วน คือ...📍

1. ผู้ประกอบกิจการ/กิจกรรม ต้องทำให้ดี
2. ประชาชน ถ้าร้านค้าจัดได้ดี แต่ประชาชนแห่ไปที่เดียวกันก็เกิดความแออัด และ
3. ภาครัฐที่ต้องเข้าไปกำกับดูแลให้เกิดมาตรการ 5 ข้อ
อย่างไรก็ตาม การไปบอกให้ทุกคนทำก็ไม่สู้ทุกคนทำเอง คือ อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ เหลือให้ภาครัฐทำ 2 อย่าง คือ กำกับการทำความสะอาดพื้นผิวบ่อยแค่ไหน กระจายความแออัดออกไปบ้างหรือไม่ ถ้าช่วยกัน 5 ข้อแค่นี้เราห่างไกลโรคได้

“การเปิดหาดบางแสนเราได้เรียนรู้กัน อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นอีก เชื่อว่า ผู้บริหารท้องถิ่นตอนนี้รับทราบถึงปัญหาแล้วก็ต้องร่วมด้วยช่วยกัน พอเต็มพื้นที่แล้วก็ต้องปิด ก็ต้องมาบอกตั้งแต่ต้นทาง ไม่ต้องไปแออัดตรงนั้น เข้าไปก็ไม่มีที่กินอาหารเพียงพอ ไปมากเกินไปก็ไม่ดี ตรงนี้สำคัญต้องรับความร่วมมือจากประชาชนทุกท่าน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

เมื่อถามว่าหลังคลายล็อกเฟส 3 คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังอยากให้ทุกคนทำกันเคยชิน ไม่ใส่หน้ากากแล้วรู้สึกว่าไม่ครบ คงไม่ต้องเพิ่มมาตรการอะไร แค่เราทำเต็มที่ 5 มาตรการด้วยความพร้อมใจกัน คนไม่ทำก็ถูกเตือน ให้อยู่ในเรื่องของความสมัครใจแค่นี้ก็เพียงพอ ไม่ต้องมีกฎหมาย เป็นความสมัครใจ พร้อมใจ สามัคคีกัน ถ้าไปชายหาดก็ใส่หน้ากาก จะเล่นน้ำก็ไม่ว่า ถ้าหน้ากากเปียกก็เหมือนเสื้อผ้าเปียกก็เปลี่ยนใหม่ ไปในที่ชุมชน ไม่ว่าในห้างอากาศปิด หรือชายหาดอากาศเปิด ถ้าทุกคนทำเป็นเรื่องธรรมดา แม้อาจไม่คุ้นชิน ถึงต้องพูดว่าชีวิตวิถีใหม่ต้องทำให้เคยชิน เริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะเรายังไม่มีทางรักษา ได้แค่บรรเทา และยังไม่มีทางป้องกันเพราะยังไม่มีวัคซีน ทางเดียวคือทุกท่านที่เป็นฮีโร่ตอนนี้ไม่ให้โรคกระจายเพิ่ม ไม่ต้องการให้ใครมาทำเรื่องกฎหมายใหม่มาบังคับ ให้ทำด้วยใจ เราก็รอดพ้นจากโรคภัยได้

https://mgronline.com/qol/detail/9630000057931

แม้จะไม่ใช่การติดเชื้อกันเองในประเทศ

แต่การรีบเชื้อมาจากต่างประเทศก็น่ากังวลนะคะ  

ไทยเราปลอดเชื้อแล้ว แต่ประเทศทั่วโลกยังระบาดไม่หยุด

ดังนั้นคนไทยจึงต้องคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันทั้ง 5 ข้อให้เคร่งครัดเหมือนครั้งแรกที่เริ่มมีเชื้อโควิดระบาด

คือ...📍อยู่ห่างไว้ ใส่มาสก์ ล้างมือ ทำความสะอาด อย่าให้แออัด

เตรียมพร้อมคลายล็อค เฟส 4

ลุงตู่ท่านห่วงใยประชาชนมากนะคะ ท่านยืนยันจะดูแลทุกๆคน

ทุกคนสู้ๆนะคะ.....👊👊👊👊👊

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 4 มิ.ย. 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 4 มิถุนายน 2563




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,101 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 17 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 10)
   -มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 17 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,968 ราย (95.71%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านในวันนี้)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 17 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และอยู่ใน State quarantine โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- มาจากประเทศคูเวต 13 ราย อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร (5 ราย) และจังหวัดสมุทรปราการ (8 ราย)
- มาจากประเทศกาตาร์ 2 ราย อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร (1 ราย) และจังหวัดสมุทรปราการ (1 ราย)
- มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 2 ราย อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดสงขลา (2 ราย)

ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2828946010564286

แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 4 มิถุนายน​ 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ​ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 4 มิถุนายน​ 2563


หนุนเกษตรกรไทยปรับตัวสู่ New Normal เพิ่มยอดขายตลาดออนไลน์
#ไทยคู่ฟ้า โครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ “เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็นผู้ค้าออนไลน์มืออาชีพ” หนึ่งในโครงการสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือกับ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด มาช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดในการขายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรง มาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563  
.
ต้องบอกว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ และได้รับความสนใจจากเกษตรกรจำนวนมาก ทั้งจากกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และกลุ่ม Young Smart Farmer ที่มีศักยภาพเข้าร่วมอบรม และเปิดร้านค้าออนไลน์รวม 113 ร้านค้า โดย พบว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เกษตรกรส่วนใหญ่สามารถสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์ม ลาซาด้าได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น 30% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในระยะเวลา 6 เดือน
.
ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน เกิดปรากฏการณ์ New Normal หรือความปกติในรูปแบบใหม่ของพฤติกรรม ทำให้ประชาชนเลือกจับจ่ายใช้สอยผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
.
🔎ล่าสุด กระทรวงเกษตรฯ เตรียมขยายความร่วมมือกับ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสร้างและพัฒนาเกษตรกรไทย ให้เป็นผู้ขายออนไลน์อย่างมืออาชีพ โดยเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าดี มีคุณภาพ ในราคายุติธรรม
.
นอกจากนี้ ยังได้หารือเพิ่มเติมกับ บริษัท ช้อปปี้ และ ลาซาด้า เพื่อพัฒนาแคมเปญพิเศษ ถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร เจ้าหน้าที่และเครือข่ายของกระทรวงเกษตรฯ ทั้งด้านการตลาด การนำสินค้าเกษตรขึ้นขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านการอบรมในรูปแบบออนไลน์ หรือ อบรมผ่าน Live เพื่อความสะดวก รวดเร็ว อีกด้วย
.
เกษตรกรผู้สนใจ ที่ต้องการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าสู่ตลาดออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น สามารถขอรับคำปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0 2579 0121 - 27
Cr. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/928365570962583


จัดหลักสูตรเพิ่มทักษะ..รองรับงานหลังวิกฤต
โควิด-19
#ไทยคู่ฟ้า แม้ประเทศกำลังอยู่ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 แต่การพัฒนาการศึกษาต้องเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. ได้ร่วม MOU กับ 19 มหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรเพิ่มทักษะรองรับงานหลังวิกฤตโรคโควิด-19 ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ (Re-skill, Up-skill, New-skill)
.
โดยเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิต (Life Long Learning) เพื่อให้สามารถรองรับงานใหม่ ๆ ในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะเริ่มจัดอบรมตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป ครอบคลุม 9 ทักษะใน 12 สาขาอุตสาหกรรม 8 กลุ่มสาขาวิชาชีพ ได้แก่
1. Smart Innovative Entrepreneur
2. Smart Farming
3. Care Giver
4. Smart Tourism
5. Data Science
6. Creative content
7. Food for the future
8. Robotic/AI
.
ปัจจุบัน มีหลักสูตรที่ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 30 หลักสูตรจาก 19 สถาบันอุดมศึกษา หลักสูตรโดยส่วนมากเป็นรูปแบบเรียนฟรี ซึ่งสถาบันอุดมศึกษานำร่องที่ผ่านการคัดเลือก ได้แก่
1. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2. มหาวิทยาลัยมหิดล
3. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
4. มหาวิทยาลัยศิลปากร
5. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
6. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
7. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
8. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
9. มหาวิทยาลัยบูรพา
10. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
11. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
12. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
13. มหาวิทยาลัยแม่โจ้
14. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
15. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตนครราชสีมา
16. มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
17. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
18. มหาวิทยาลัยศรีปทุม
19. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
.
โครงการฝึกอบรมที่จะจัดของแต่ละสถานบันการศึกษานั้น ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากกรรมการฯ ของ อว. แล้วในหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non degree) ซึ่งจะเน้นหลักสูตรที่ช่วยเพิ่มทักษะรองรับงานหลังวิกฤต COVID-19 ได้คาดว่าจะสามารถพัฒนาคนได้กว่า 3,000 คน ภายในปี 2563
.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักมาตรฐานและประเมินผลอุดมศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โทรศัพท์ 0-2039-5612
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/928331907632616


วันนี้ (4 มิ.ย. 63) ผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็น 0 ติดต่อกัน 10 วัน
อยู่ห่างไว้
ใส่แมสค์กัน
หมั่นล้างมือ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/149330223351977


นายกรัฐมนตรีมีความยินดีหากประเทศญี่ปุ่นจะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ อนุญาตให้คนไทยเดินทางเข้าประเทศได้ แต่ต้องหารือร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย พิจารณามาตรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดกลับมาอีกครั้ง

หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไทยดีขึ้น อาจเปิดการท่องเที่ยวในลักษณะประเทศต่อประเทศก่อน โดยจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นขั้นตอน ไม่ใช่เปิดแบบเสรีทันที

ประเทศไทยของเรามีศักยภาพในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เราจะใช้จุดแข็งตรงนี้เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้มีการฟื้นฟู การรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเรา เหมือนเช่นเดิมที่เคยมี ขอให้สถานประกอบการต่างๆ ได้เตรียมความพร้อมไว้

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการเปิดน่านฟ้า เพราะจะต้องประเมินข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างรอบคอบ
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/285611636157499




ประเภทกิจการและกิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะต่อไป
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/286216162763713

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... จะเป็นเครื่องมือสําคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจาก การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติ สาธารณะร้ายแรงส่งผลกระทบต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจโดยรวม ของประเทศ รวมทั้งปัญหาจากภัยพิบัติ ภัยแล้ง อุทกภัย และกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือจําเป็นอื่น

กฎหมายโอนงบประมาณรายจ่ายประจําปีฉบับนี้ มีความสอดคล้องกับกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ รวมทั้งทําให้ การบริหารงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

ร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... เป็นการโอนงบประมาณรายจ่ายประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2563 บางรายการที่ไม่สามารถ ดําเนินการได้ภายในปีงบประมาณ จํานวนทั้งสิ้น 88,452,597,900 บาท (แปดหมื่น แปดพัน สี่ร้อย ห้าสิบสองล้าน ห้าแสน เก้าหมื่น เจ็ดพัน เก้าร้อยบาท)

โดยงบประมาณและ รายการที่นําไปจัดทําร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ .... ในครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. รายจ่ายประจําในทุกงบรายจ่ายที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายและ ไม่มีข้อผูกพัน อาทิ ค่าใช้จ่ายในการสัมมนา การฝึกอบรม การประชาสัมพันธ์ การจ้างที่ปรึกษา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ การดําเนินการ จัดงานกิจกรรมต่าง ๆ
2.รายจ่ายลงทุนในทุกงบรายจ่าย อาทิ รายการปีเดียว ที่ยังไม่ประกาศดําเนินการจัดซื้อจัดจ้าง รายการที่สามารถชะลอการดําเนินการโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อราชการ หรือไม่สามารถดําเนินการได้ในปีงบประมาณ 2563

เมื่อร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับ จะนําไปดําเนินแผนงาน/โครงการ ที่สอดคล้องกับภารกิจใน 3 เรื่องสําคัญ ดังนี้
1. การแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
2. การป้องกัน แก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากปัญหาภัยพิบัติ ภัยแล้ง อุทกภัย ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี งบประมาณ พ.ศ. 2563
3. การดําเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน หรือจําเป็นอื่น
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/286313706087292
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่