คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 22 มิ.ย. 2563
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 22 มิถุนายน 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,151 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 3 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 28
-และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 3 ราย
-เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
-รักษาหายป่วยแล้ว 3,022 ราย (95.91%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 4 ราย)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดียและเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
สถานการณ์โลกวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 9 ล้านรายแล้ว ประเทศชิลีมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแซงหน้าประเทศอิตาลีอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก ในขณะที่การติดเชื้อในอาเซียนยังคงสูงขึ้นโดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 862 ราย และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 652 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2873863862739167
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2563
การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19
ประเทศไทยได้มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19 โดยการตรวจหาสารพันธุกรรม (RT-PCR) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานสากล ไปแล้ว 568,294 ตัวอย่าง คิดเป็น 8,533 ตัวอย่างต่อประชากรหนึ่งล้านคน ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2563
ในระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน - 19 มิถุนายน 2563 ได้ตรวจไปแล้ว 46,185 ตัวอย่าง โดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 175 แห่ง
แหล่งข้อมูล: กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2873601236098763
จุฬา พอใจผลการทดสอบวัคซีนเข็มแรกในลิง
ทดลองวัคซีน "โควิด-19" ในลิงได้ผลน่าพอใจ เดินหน้าฉีดเข็มสองต่อ
ความก้าวหน้าในการทดลองวัคซีนป้องกัน"โควิด-19" หลังฉีดเข็มแรกในลิง ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีการสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น คาดว่า จะทดลองในคนได้ในช่วงเดือนตุลาคม พร้อมตั้งเป้าผลิตวัคซีนใช้ได้กลางปีหน้า
ข่าวดี!! ลิงสร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิดหลังได้รับวัคซีนเข็มแรกฉีดวัคซีนโควิด เข็มที่ 2 วันนี้ครับ
วันนี้ผมได้ร่วมแถลงข่าวผ่าน VDO Conference ถึงความคืบหน้าการทดลอง ทดสอบวัคซีนโควิด-19 โดยได้มอบหมายให้ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับ นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ นำคณะผู้เชี่ยวชาญและสื่อมวลชน ไปติดตามความคืบหน้าของและตรวจสอบรายละเอียดของการทดสอบ เพื่อให้คำแนะนำและเตรียมรายละเอียดการดำเนินงานในขั้นต่อไปครับ
หลังจากได้ทดลองวัคซีนโควิด-19 โดยใช้สารพันธุกรรมของเชื้อ “ชนิด mRNA” ในลิง เข็มที่หนึ่ง ที่ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ พบว่าลิงทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีผลข้างเคียงจากวัคซีน และเมื่อนักวิจัยได้ทำการเจาะเลือดของลิงมาทำการทดสอบการสร้างภูมิคุ้มกันหรือ antibody มีข่าวดีมากที่พบว่าลิงที่ได้รับวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับที่น่าพอใจ และจะฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่สองในวันนี้ ( 22 มิ.ย 63) แล้วจะเจาะเลือดมาตรวจเป็นระยะ ซึ่งคาดว่าระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อก่อโรคโควิด-19 จะระดับเพิ่มขึ้นในอีกประมาณสองสัปดาห์นับจากนี้ และจะฉีดเข็มที่สามต่อไปในเดือน ก.ค. ขณะนี้การวิจัยและพัฒนาเป็นไปตามแผนงาน ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ประเมินผลการทดสอบในลิงทั้งในด้านผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและด้านความปลอดภัยเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่การทดสอบในมนุษย์ต่อไป โดย วช. ได้ตกลงให้ทุนวิจัยเพิ่มเติมอีกเพื่อให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถเริ่มสั่งผลิตวัคซีนชนิดนี้ให้พร้อมสำหรับทำการทดสอบในมนุษย์ไว้แล้ว หากเป็นไปตามที่คาดไว้จะทำการทดสอบในมนุษย์ได้ประมาณเดือน ต.ค. - พ.ย.ตามแผนครับ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายเพื่อให้คนไทยสามารถมีวัคซีนอย่างรวดเร็วเป็นลำดับแรกๆ เมื่อสามารถพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ โดยมอบให้ อว. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันดำเนินงานในเชิงรุก ทั้งโดยการวิจัยและพัฒนาในประเทศ และร่วมมือกับต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมการผลิตให้ทันท่วงทีและเพียงพอ ในขณะนี้ยังได้เจรจาหารือกับต่างประเทศในการร่วมวิจัย ถ่ายทอดเทคโนโลยีและเตรียมการผลิตไว้ด้วยแล้วครับ
https://www.facebook.com/drsuvitpage/posts/1943974389242615
ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 28 วันแล้ว ‼‼
อยู่ห่างไว้
ใส่แมสก์กัน
หมั่นล้างมือ
ถือหลักสะอาด
ปราศจากแออัด
เคร่งครัดไทยชนะ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/155939056024427
สื่อญี่ปุ่นชื่นชมไทย ใช้มาตรการเข้มงวด รวดเร็ว ทำให้ควบคุมโควิด-19 ได้ผล
นิคเคอิ เอเชียน รีวิว ได้เขียนบทความวิเคราะห์ความสำเร็จของประเทศที่ควบคุมโควิด-19 ได้สำเร็จ โดยสรุปว่า ปัจจัยสำคัญคือ การตัดสินใจใช้มาตรการเข้มงวดก่อนที่อัตราการแพร่ระบาดต่อวันจะพุ่งสูงเกิน 0.5 รายต่อแสนประชากร ซึ่งหากใช้มาตรการหลังจากนั้น จะมีโอกาสที่ผู้ติดเชื้อแพร่ระบาดจนควบคุมไม่อยู่
โดยประเทศไทยเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดเมื่ออัตราผู้ติดเชื้ออยู่ที่เพียง 0.02 ต่อ แสนประชากร ทำให้ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดในระลอกแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/155921799359486
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งมีพิธีลงนามสัญญาระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญของอีอีซี เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3 เชื่อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิด้วยรถไฟความเร็วสูง ทำให้ทั้ง 3 สนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้มากถึง 200 ล้านคนต่อปี รวมทั้งยังทำให้เกิดศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ศูนย์กลางของมหานครการบินภาคตะวันออก ครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่เมือง ประมาณ 30 ก.ม.รอบสนามบิน และยังทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม 15,600 ตำแหน่งต่อปี รัฐได้ผลประโยชน์ด้านการเงิน 305,555 ล้านบาท ได้ภาษีอากรกว่า 62,000 ล้านบาท
https://www.facebook.com/DrNarumonP/posts/600228947564788
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยจากแบงค์ชาติ ระยะที่ 2
#ไทยคู่ฟ้า ข่าวดีสำหรับลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 และไม่เป็น NPLs ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือล่าสุดมาแล้วครับ โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 63
การช่วยเหลือตามมาตรการล่าสุดนี้ จะไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้นผู้ให้บริการทางการเงินจะไม่สามารถเรียกเก็บเบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ รวมถึงกรณีที่ลูกหนี้ประสงค์จะชำระหนี้ก่อนกำหนด จะต้องไม่มีการคิดค่าเบี้ยปรับ
ลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ให้บริการทางการเงิน เช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ Call Center หรือส่งข้อความ SMS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 63
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2020/Pages/n3263.aspx?fbclid=IwAR3tSlJmDtpIYC7RE1LRbXIdpqN83FWMMOCmiBN1lBPa8J21D50rQgMhfiM
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/942050292927444
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 22 มิถุนายน 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,151 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 3 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 28
-และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 3 ราย
-เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
-รักษาหายป่วยแล้ว 3,022 ราย (95.91%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 4 ราย)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดียและเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
สถานการณ์โลกวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 9 ล้านรายแล้ว ประเทศชิลีมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแซงหน้าประเทศอิตาลีอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก ในขณะที่การติดเชื้อในอาเซียนยังคงสูงขึ้นโดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 862 ราย และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 652 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2873863862739167
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2563
การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19
ประเทศไทยได้มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19 โดยการตรวจหาสารพันธุกรรม (RT-PCR) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานสากล ไปแล้ว 568,294 ตัวอย่าง คิดเป็น 8,533 ตัวอย่างต่อประชากรหนึ่งล้านคน ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2563
ในระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน - 19 มิถุนายน 2563 ได้ตรวจไปแล้ว 46,185 ตัวอย่าง โดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 175 แห่ง
แหล่งข้อมูล: กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2873601236098763
จุฬา พอใจผลการทดสอบวัคซีนเข็มแรกในลิง
ทดลองวัคซีน "โควิด-19" ในลิงได้ผลน่าพอใจ เดินหน้าฉีดเข็มสองต่อ
ความก้าวหน้าในการทดลองวัคซีนป้องกัน"โควิด-19" หลังฉีดเข็มแรกในลิง ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีการสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น คาดว่า จะทดลองในคนได้ในช่วงเดือนตุลาคม พร้อมตั้งเป้าผลิตวัคซีนใช้ได้กลางปีหน้า
ข่าวดี!! ลิงสร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิดหลังได้รับวัคซีนเข็มแรกฉีดวัคซีนโควิด เข็มที่ 2 วันนี้ครับ
วันนี้ผมได้ร่วมแถลงข่าวผ่าน VDO Conference ถึงความคืบหน้าการทดลอง ทดสอบวัคซีนโควิด-19 โดยได้มอบหมายให้ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับ นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ นำคณะผู้เชี่ยวชาญและสื่อมวลชน ไปติดตามความคืบหน้าของและตรวจสอบรายละเอียดของการทดสอบ เพื่อให้คำแนะนำและเตรียมรายละเอียดการดำเนินงานในขั้นต่อไปครับ
หลังจากได้ทดลองวัคซีนโควิด-19 โดยใช้สารพันธุกรรมของเชื้อ “ชนิด mRNA” ในลิง เข็มที่หนึ่ง ที่ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ พบว่าลิงทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีผลข้างเคียงจากวัคซีน และเมื่อนักวิจัยได้ทำการเจาะเลือดของลิงมาทำการทดสอบการสร้างภูมิคุ้มกันหรือ antibody มีข่าวดีมากที่พบว่าลิงที่ได้รับวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับที่น่าพอใจ และจะฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่สองในวันนี้ ( 22 มิ.ย 63) แล้วจะเจาะเลือดมาตรวจเป็นระยะ ซึ่งคาดว่าระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อก่อโรคโควิด-19 จะระดับเพิ่มขึ้นในอีกประมาณสองสัปดาห์นับจากนี้ และจะฉีดเข็มที่สามต่อไปในเดือน ก.ค. ขณะนี้การวิจัยและพัฒนาเป็นไปตามแผนงาน ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ประเมินผลการทดสอบในลิงทั้งในด้านผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและด้านความปลอดภัยเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่การทดสอบในมนุษย์ต่อไป โดย วช. ได้ตกลงให้ทุนวิจัยเพิ่มเติมอีกเพื่อให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถเริ่มสั่งผลิตวัคซีนชนิดนี้ให้พร้อมสำหรับทำการทดสอบในมนุษย์ไว้แล้ว หากเป็นไปตามที่คาดไว้จะทำการทดสอบในมนุษย์ได้ประมาณเดือน ต.ค. - พ.ย.ตามแผนครับ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายเพื่อให้คนไทยสามารถมีวัคซีนอย่างรวดเร็วเป็นลำดับแรกๆ เมื่อสามารถพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ โดยมอบให้ อว. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันดำเนินงานในเชิงรุก ทั้งโดยการวิจัยและพัฒนาในประเทศ และร่วมมือกับต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมการผลิตให้ทันท่วงทีและเพียงพอ ในขณะนี้ยังได้เจรจาหารือกับต่างประเทศในการร่วมวิจัย ถ่ายทอดเทคโนโลยีและเตรียมการผลิตไว้ด้วยแล้วครับ
https://www.facebook.com/drsuvitpage/posts/1943974389242615
ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 28 วันแล้ว ‼‼
อยู่ห่างไว้
ใส่แมสก์กัน
หมั่นล้างมือ
ถือหลักสะอาด
ปราศจากแออัด
เคร่งครัดไทยชนะ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/155939056024427
สื่อญี่ปุ่นชื่นชมไทย ใช้มาตรการเข้มงวด รวดเร็ว ทำให้ควบคุมโควิด-19 ได้ผล
นิคเคอิ เอเชียน รีวิว ได้เขียนบทความวิเคราะห์ความสำเร็จของประเทศที่ควบคุมโควิด-19 ได้สำเร็จ โดยสรุปว่า ปัจจัยสำคัญคือ การตัดสินใจใช้มาตรการเข้มงวดก่อนที่อัตราการแพร่ระบาดต่อวันจะพุ่งสูงเกิน 0.5 รายต่อแสนประชากร ซึ่งหากใช้มาตรการหลังจากนั้น จะมีโอกาสที่ผู้ติดเชื้อแพร่ระบาดจนควบคุมไม่อยู่
โดยประเทศไทยเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดเมื่ออัตราผู้ติดเชื้ออยู่ที่เพียง 0.02 ต่อ แสนประชากร ทำให้ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดในระลอกแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/155921799359486
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งมีพิธีลงนามสัญญาระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญของอีอีซี เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3 เชื่อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิด้วยรถไฟความเร็วสูง ทำให้ทั้ง 3 สนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้มากถึง 200 ล้านคนต่อปี รวมทั้งยังทำให้เกิดศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ศูนย์กลางของมหานครการบินภาคตะวันออก ครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่เมือง ประมาณ 30 ก.ม.รอบสนามบิน และยังทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม 15,600 ตำแหน่งต่อปี รัฐได้ผลประโยชน์ด้านการเงิน 305,555 ล้านบาท ได้ภาษีอากรกว่า 62,000 ล้านบาท
https://www.facebook.com/DrNarumonP/posts/600228947564788
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยจากแบงค์ชาติ ระยะที่ 2
#ไทยคู่ฟ้า ข่าวดีสำหรับลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 และไม่เป็น NPLs ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือล่าสุดมาแล้วครับ โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 63
การช่วยเหลือตามมาตรการล่าสุดนี้ จะไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้นผู้ให้บริการทางการเงินจะไม่สามารถเรียกเก็บเบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ รวมถึงกรณีที่ลูกหนี้ประสงค์จะชำระหนี้ก่อนกำหนด จะต้องไม่มีการคิดค่าเบี้ยปรับ
ลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ให้บริการทางการเงิน เช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ Call Center หรือส่งข้อความ SMS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 63
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2020/Pages/n3263.aspx?fbclid=IwAR3tSlJmDtpIYC7RE1LRbXIdpqN83FWMMOCmiBN1lBPa8J21D50rQgMhfiM
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/942050292927444
แสดงความคิดเห็น
🔅🔅/มาลาริน/เย้!ไทยป่วยโควิด 3 รายจากอินเดีย ติดเชื้อในประเทศเป็น 0 นาน 28วัน แต่ยังไม่ผ่อนคลาย นพ.ยงเปิดอัตราระบาดหนัก
วันนี้ (22 มิ.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 3 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 4 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,151 ราย กลับบ้านรวม 3,022 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 71 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมดกลับมาจากต่างประเทศ คือ อินเดีย หญิงไทย อายุ 11 ปี 21 ปี และ 34 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 15 มิ.ย. เชื่อมโยงกับผู้ป่วย 1 ราย ที่เดินทางมาไฟลต์เดียวกันและเจอเชื้อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 รายเข้าพักในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 20 มิ.ย. พบเชื้อ แต่ทุกรายไม่มีอาการ ทำให้ตัวเลขสะสมของอินเดีย เดินทาง 2,265 ราย พบยืนยัน 14 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อ 9.04 ล้านราย รายใหม่ในวันเดียวถึง 1.3 แสนราย ผู้ป่วยหนัก 5.4 หมื่นกว่าราย รักษาหาย 4.8 ล้านราย เสียชีวิต 4.7 แสนราย สหรัฐอเมริกายังคงเป็นอันดับ 1 คือ 2.3 ล้านราย บราซิล 1.08 ล้านราย รัสเซีย 5.84 แสนราย อินเดีย 4.26 แสนราย ซึ่งจะเห็นว่าเป็นคนละทวีปกันเลย ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับ 92 ของโลก
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สื่อญี่ปุ่นชื่นชมไทยและวิเคราะห์ว่า ทำไมไทยถึงควบคุมโควิดได้ผล โดยนิคเคอิ เอเชียน รีวิว ได้เขียนบทความวิเคราะห์ระบุว่า การตัดสินใจใช้มาตรการเข้มงวดก่อนที่อัตราการแพร่ระบาดต่อวันจะพุ่งสูงเกิน 0.5 รายต่อแสนประชากร หากใช้มาตรการหลังจากนั้น จะมีโอกาสผู้ติดเชื้อแพร่ระบาดจนควบคุมไม่อยู่สูงขึ้น ซึ่งไทยใช้เมื่ออัตราผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 0.02 ต่อแสนประชากร ซึ่งเราใช้มาตรการเข้มตั้งแต่แรก ทำให้ประสบความสำเร็จควบคุมการระบาดระลอกแรกได้ ขณะที่ยุโรปและอเมริกา ใช้มาตรการที่เข้มงวดช้ากว่ามาก เช่น อังกฤษ มีอัตราผู้ติดเชื้อ 0.76 รายต่อแสนประชากร นิวยอร์กเริ่มใช้เมื่ออัตราป่วยสูง 4.25 รายต่อแสนประชากร ทำให้การติดเชื้อเกิดขึ้นโดยง่ายและมีผู้ที่เสียชีวิตขึ้นจำนวนมาก
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การนำคนไทยตกค้างกลับประเทศ วันที่ 22 มิ.ย. จะมีคนไทยกลับมาจำนวน 429 คน ผ่านหลายประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา (ผ่านญี่ปุ่น) 78 คน รัสเซีย 34 คน ออสเตรีย/ฮังการี 159 คน สิงคโปร์ 156 คน ไต้หวัน 2 คน วันที่ 23 มิ.ย. กลับมา 476 คน จาก เนปาล 10 คน ญี่ปุ่น 201 คน อินเดีย 185 คน และเวียดนาม 80 คน สำหรับวันที่ 24 มิ.ย. จะมา 4 เที่ยวบิน จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย ซูดาน/อียิปต์ แะอินเดีย
วันที่ 25 มิ.ย. 6 เที่ยวบิน จาก สหรัฐอเมริกาผ่านญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาผ่านเกาหลีใต้ บังกลาเทศ มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ อิหร่าน/อิรัก วันที่ 26 มิ.ย. มา 3 เที่ยวบิน จากสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และฮ่องกง วันที่ 27 มิ.ย. มา 3 เที่ยวบิน จาก แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกาผ่านเกาหลีใต้ และชิลี/เปรู/เนเธอร์แลนด์ วันที่ 28 มิ.ย. มา 4 เที่ยวบิน จาก บาห์เรน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ และวันที่ 29 มิ.ย. มา 2 เที่ยวบิน จากสหรัฐอเมริการผ่านเกาหลีใต้ และคูเวต
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับการติดเชื้อในประเทศไทย ขณะนี้เป็น 0 ต่อเนื่องวันที่ 28 ซึ่งทำให้อุ่นใจขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะประเทศต่างๆ ยังติดเชื้อมากกว่าแสนรายต่อวัน แม้จะเป็น 2 เท่าของการฟักเชื้อ 14 วัน ก็น่าไว้วางใจมากขึ้น แต่จะผ่อนคลายทุกเรื่องกลับไปเป็นปกติได้หรือไม่มาตรการยังไม่สามารถกลับไปได้ แม้จะมั่นใจในประเทศ แต่การนำเข้าของเชื้อแม้เพียง 1 คนก็จะเกิดผลต่อการติดเชื้อในระดับที่รุนแรงได้ ตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเกิดได้
https://mgronline.com/qol/detail/9630000064120
‘โควิด’ลามหนัก!‘นพ.ยง’เปิดอัตราระบาดทั่วโลกแตะอาทิตย์ละ 1 ล้านคน ย้ำสิ่งที่คนไทย‘อย่าลืม’
วันจันทร์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 07.07 น.
22 มิถุนายน 2563 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan มีเนื้อหาดังนี้
โควิด-19
การระบาดของทั่วโลก ยังมีอัตราในการเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด
เมื่อเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ล้านคนจะใช้เวลา 12 วัน
ต่อมาเมื่อถึงกลางเดือนพฤษภาคม ถึงต้นมิถุนายน เป็นต้นมา อัตราการเพิ่มขึ้นในอัตรา 1 ล้านคนทุก 10 วัน
มาในสัปดาห์นี้และสัปดาห์ต่อไป มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น อาทิตย์ละ 1 ล้านคน
ที่สำคัญ โรคระบาดเข้าสู่ประเทศ ลาตินอเมริกา และมีอัตราการเพิ่มตัวสูงมาก
โดยเฉพาะในบราซิล
นอกจากนี้การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วยังเพิ่มขึ้นในอินเดีย บังคลาเทศ และประเทศในตะวันออกกลาง
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการระบาด จะเข้าสู่ทวีปแอฟริกาในที่สุด
ตัวเลขที่ไม่ได้วินิจฉัยจะมีจำนวนมาก
ในประเทศเพื่อนบ้านเรา ที่มีการระบาดมากและรวดเร็ว ก็คงจะเป็นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
การระบาดทั่วโลกยังสูงอยู่ รวมทั้งประเทศที่ไม่อยู่ไกลจากบ้านเรานัก
เรายังคงต้องระมัดระวังอย่างมาก ไม่ให้มีการระบาดภายในประเทศเกิดขึ้น
เราคงจะต้องต่อสู้ไปอีกยาวนาน
ทุกคนจะต้องช่วยกัน ที่จะไม่ลืม
กำหนดระยะห่างสำหรับบุคคล สังคม ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย
https://www.naewna.com/local/500706
ไทยชนะโควิดแล้ว แต่ประเทศอื่นยังไม่ชนะ
นพ.ยงเปิดอัตราระบาดหนักทั่วโลก 1 ล้านคนใน 12 วัน
ยังน่าเป็นกังวลค่ะ ยังวางใจไม่ได้
ยังคงต้องใช้มาตรการเข้มข้นอย่าการ์ดตกค่ะ