💙/มาลาริน/3 ก.ค.ไทยป่วยโควิด1รายจากบาห์เรน แถลงข่าวเหลือ“จันทร์-พฤหัส” หมอเตือนไทยยังเสี่ยงโควิด สธ.เตรียมรับมือระลอก 2

ไทยมีป่วยโควิดเพิ่ม 1 ราย กลับจากบาห์เรน ศบค.ลดแถลงข่าวเหลือ “จันทร์-พฤหัส” หลังสถานการณ์ดีขึ้น



ศบค.เผยตัวเลขโควิดรายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงกลับจากบาห์เรน ผู้ป่วยสะสมรวม 3,180 ราย ส่วนทั่วโลกติดเชื้อรวม 10.9 ล้านราย เตรียมลดวันแถลงข่าวจากจันทร์ พุธ ศุกร์ เหลือแค่จันทร์และพฤหัสบดี ตั้งแต่สัปดาห์หน้า หลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้น

วันนี้ (3 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1 ราย จากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) โดยถือเป็นวันที่ 39 ที่การติดเชื้อในประเทศเป็น 0 มีผู้รักษาหายเพิ่ม 7 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยผู้ป่วยสะสมรวม 3,180 ราย ติดเชื้อในสถานกักกัน 243 ราย หายป่วยรวม 3,066 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาใน รพ. 56 ราย โดยรายใหม่มาจากบาห์เรน เป็นเพศหญิงอายุ 24 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 28 มิ.ย. เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี เริ่มมีอาการเจ็บคอ ถ่ายเหลว ตรวจหาเชื้อวันที่ 1 ก.ค. จึงพบเชื้อยืนยัน โดยมีคนไทยกลับจากประเทศบาห์เรนรวม 827 ราย ตรวจเจอเชื้อ 3 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อรวม 10.9 ล้านกว่าราย คาดว่า วันที่ 4 ก.ค. น่าจะถึง 11 ล้านราย โดยป่วยเพิ่มในวันเดียว 1.74 แสนราย เสียชีวิตรวม 5.23 แสนราย เพิ่มขึ้นวันเดียว 5.1 พันราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา ป่วยเพิ่มวันเดียว 5.7 หมื่นราย เป็นอันดับ 1 มีผู้ป่วยรวม 2.8 ล้านกว่าราย ประเทศบราซิล ป่วยเพิ่ม 4.7 หมื่นราย ป่วยรวม 1.5 ล้านราย ขณะที่เม็กซิโกเข้ามาในอยู่ในท็อปเทนแล้ว ป่วยวันเดียว 6.7 พันกว่าราย ส่วนไทยยังอยู่อันดับ 96 ของโลก ข่าวที่น่าสนใจในต่างประเทศ คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการติดเชื้อเกิน 100 ราย ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ต้องเฝ้าสังเกตต่อไป

“สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่จะแถลงข่าวในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยสัปดาห์หน้าจะลดลงเหลือวันจันทร์และพฤหัส ก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายไปตามสถานการณ์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

https://mgronline.com/qol/detail/9630000068357

อย่าประมาท! 'หมออนุพงศ์'เตือนไทยยังเสี่ยงพบผู้ติดเชื้อโควิด สธ.เตรียมรับมือระลอก2

วันศุกร์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 16.44 น.



"หมออนุพงศ์"ระบุไทยไร้ผู้ติดเชื่อในประเทศ38วัน ชี้ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจกลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19ได้อีก หากประชาชนประมาทใช้ชีวิตเป็นปกติมากขึ้น ขณะ"สธ."เตรียมรับมือหากเกิดการระบาดระลอก2ในประเทศ
 
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้มีผู้ป่วยใหม่ 1 ราย เป็นคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศบาห์เรน และอยู่ในระบบเฝ้าระวังในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทย ขณะนี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันเป็นเวลา 38 วันแล้ว ผู้ป่วยหายกลับบ้าน 7 ราย ผู้ติดเชื้อหายกลับบ้านได้สะสม 3,066 ราย (คิดเป็นร้อยละ 96.42) ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 56 ราย ผู้ป่วยสะสมภายในประเทศ 3,180 ราย

ทั้งนี้ ความสำเร็จของการควบคุมโรคโควิด-19 ของประเทศไทยมาจากความร่วมมือของประชาชนที่ดูแลสุขภาพ ปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข กำหนด เช่น การสวมหน้ากากผ้าเมื่อออกจากบ้าน อยู่บ้านมากขึ้น ทำงานจากบ้าน ลดการพบปะสังสรรค์ หรืออยู่ในพื้นที่หนาแน่น แออัด และล้างมือบ่อยๆ
 
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกนั้น ประเทศยุโรปจํานวนผู้ติดเชื้อเริ่มทรงตัวแล้ว แต่สหรัฐอเมริกายังคงมีผู้ป่วยจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ที่ยังคงมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า จากข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 103,234 ราย เสียชีวิต 3 ราย ในช่วงเดียวกันของปี 2562 พบผู้ป่วยสะสม 194,598 ราย เสียชีวิต 15 ราย ส่วนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบพบจำนวน 102,476 ราย เสียชีวิต 70 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 พบผู้ป่วย 124,906 ราย เสียชีวิต 98 ราย แสดงให้เห็นว่ามาตรการป้องกันโควิด-19 มีประโยชน์ทำให้ปัญหาสุขภาพ และโรคระบบทางเดินหายใจลดลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจกลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อีก เนื่องจากประชาชนออกมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากขึ้น ขอให้ประชาชนอย่าประมาท การ์ดอย่าตก ต้องเข้มงวดการป้องกันตัวเอง ทำให้เป็นนิสัย ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดการระบาดระลอก 2 ในประเทศ

https://www.naewna.com/local/503166

วันนี้เป็นวันศุกร์มีความสุขที่จะมีวันหยุดต่อไปอีกหลายวันนะคะ

มีบางคนอาจเตรียมทำบุญในวันพระใหญ่  บางคนอาจไปท่องเที่ยว

ใช้ชีวิตวันหยุดให้มีสติและปลอดภัยด้วยค่ะ  

ปกป้องประเทศชาติจากโควิดด้วยจิตสำนึกของประชาชนทุกคน

แพทย์เตือนว่าอาจมีระบาดระลอก 2  ฟังไว้ก็ดีค่ะจะได้ระมัดระวัง

ยังสวมแมส เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ กันไหมคะ

เชื่อว่ายังการ์ดไม่ตกค่ะ

อ้อ..แถลงข่าวลดลงเหลือ 2 วัน  เพราะสถานการณ์ดี....👌

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 3 ก.ค. 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 3 กรกฎาคม 2563





รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,180 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 39
   -และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,066 ราย (96.42%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 7 ราย)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศบาห์เรนและเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี

สถานการณ์โลกในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกทำสถิติสูงที่สุดนับจากที่เคยรายงานมา อยู่ที่ 208,864 ราย ซึ่งขึ้นมาเป็นหลักสองแสนรายต่อวันเป็นครั้งแรก ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่เกือบ 10.9 ล้านรายแล้ว

สำหรับสถานการณ์ในอาเซียน ยอดผู้ติดเชื้อของอินโดนีเซียยังคงพุ่งสูงขึ้น โดยทำสถิติสูงที่สุดนับจากที่เคยรายงานมาอยู่ที่ 1,624 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินโดนีเซียอยู่ที่ 59,394 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2901854586606761

แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 3 กรกฎาคม​ 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ​ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 3 กรกฎาคม​ 2563


ดีเดย์! 4 ก.ค. โอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯ ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิโควิด-19

#ไทยคู่ฟ้า มาแล้วครับ....เงินช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 1.14 ล้านคน ที่ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการใด ๆ ของรัฐ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) รวมเป็นเงิน 3,000 บาท/คน

กระทรวงการคลังจะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ของผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ย้อนหลัง รวมเป็นครั้งเดียว จำนวน 3,000 บาท ในวันที่ “4 ก.ค. 63” และขอย้ำอีกครั้งว่า ผู้ที่ได้รับสิทธินี้จะต้องเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการใด ๆ เช่น โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการช่วยเหลือเกษตรกร โครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เป็นต้น รวมถึงจะต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวันและเวลาราชการ
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/950749858724154


ข่าวดี กลุ่มเปราะบางรับเงินเยียวยา 3,000 ภายใน ก.ค.นี้

#ไทยคู่ฟ้า เมื่อไม่นานมานี้ ครม.ได้เห็นชอบมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ครอบคลุมประชาชน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้พิการ โดยจะจ่ายเงินเยียวยา 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.- ก.ค. 63 ล่าสุดมีกำหนดจะจ่ายในคราวเดียวภายในเดือน ก.ค. 63 รวมเป็นเงิน 3,000 บาท ซึ่งประชาชนกลุ่มเปราะบางที่จะได้รับเงินเยียวยาส่วนนี้ จะต้องไม่เคยได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ของกระทรวงการคลัง หรือเงินเยียวจากภาครัฐในส่วนอื่น ๆ มาก่อน สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/950245212107952


แนวทางการจัดทำสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159661608985505


วิถี New Normal
สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง
ทำให้อัตราการติดเชื้อ โรคทางเดินหายใจ ในไทยต่ำลง
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159623068989359


ปลดล็อกความสุข
ฟรี ค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์
สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา)
สาย 9 (บางปะอิน-บางพลี)
สาย 9 (พระประแดง-บางขุนเทียน)
ตั้งแต่ เวลา 00.01 น.  ของวันที่ 3 ก.ค. 63
ถึง เวลา 24.00 น.  ของวันที่ 8 ก.ค. 63
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159552425663090







#ไทยคู่ฟ้า เอกสารประกอบการชี้แจงของนายกรัฐมนตรีต่อสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นกรณีช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับ SMEs ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการจัดสรรงบประมาณ ปี 2564 ให้กับ SMEs

แนวทางการช่วยเหลือ SMEs กว่า 300,000 ราย ในปีงบประมาณ 2564 จะมีการสนับสนุนงบประมาณใน 5 ลักษณะ/หน่วยงาน ดังนี้
1.แผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการ
2.กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
3.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อย (บสย.)
4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
5.ธนาคารออมสิน

ด้วยแนวคิด “รวมไทยสร้างชาติ” ที่จะนำพลังของทุกภาคส่วน
มาร่วมกันยกระดับ SMEs ไทย ให้มีความเข้มแข็ง และเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/950873272045146


กรมประมง จัด “โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง” สามารถกู้เงินไปเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพได้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี (จ่ายเองร้อยละ 4 ต่อปี รัฐชดเชยให้ร้อยละ 3 ต่อปี) สมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 – 25 พฤษภาคม 2564

ที่มา : กรมประมง
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159311735687159


กรมบัญชีกลางเตรียมจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1.14 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการใด ๆ ของภาครัฐ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) จำนวน 3,000 บาท จ่ายครั้งเดียว ในวันที่ 4 ก.ค. 63

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองใช้จ่ายเงินกู้ ที่อนุมัติให้กระทรวงการคลังช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการใด ๆ ของภาครัฐ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ จำนวนทั้งสิ้น 1.14 ล้านคน โดยผู้มีสิทธิจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พฤษภาคม-กรกฎาคม 2563) รวมเป็นเงินจำนวน 3,000 บาท/คน

“สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1.14 ล้านคนที่ได้รับสิทธิ ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของสำนักงานประกันสังคม และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ อีกทั้ง ยังไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการใด ๆ ของภาครัฐ ได้แก่ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการช่วยเหลือเกษตรกร และโครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการเบิกเงินแทนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ โดยการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 3,000 บาท ซึ่งจ่ายเพียงครั้งเดียว ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ ”

ที่มา : กรมบัญชีกลาง
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/159308392354160


วันนี้ทั่วโลกกำลังมีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เรื่องการจ้างงาน การลดกำลังการผลิต  จึงต้องหาแนวทางให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการขับเคลื่อนให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

รัฐบาลจะหาแนวทางผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ อาจจะมีการตั้งกองทุน หรือออกพันธบัตร เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้มีการออม
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/308433280542001
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่