คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
สธ. ซักซ้อมแนวทางฉีดวัคซีนโควิด เตรียมเปิดจุดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง
ย้ำ !! ต้องไม่กระทบกับการฉีดวัคซีนให้คนไทย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภายหลังสถานการณ์โควิด 19 เริ่มคลี่คลาย ประเทศต่างๆ ได้ทยอยเปิดประเทศ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงานในการกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ซึ่งหนึ่งในแผนเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ คือ ให้จัดระบบและกำหนดแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามความสมัครใจ โดยคิดค่าบริการที่เหมาะสม ภายใต้กลไก Medical hub โดยวัคซีนที่ให้บริการจะเป็นวัคซีนที่รัฐบาลไทยจัดซื้อมาเท่านั้น ไม่รวมถึงวัคซีนได้รับบริจาค และให้ทุกจังหวัดคำนึงถึงปริมาณวัคซีนคงคลังที่จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนไทย และจัดสรรวัคซีนให้แก่ประชาชนไทยเป็นลำดับแรก สำหรับชาวต่างชาติที่มาพำนักระยะยาวในไทย อาทิ ทำธุรกิจ ทำงาน คณะทูตและสมาชิกครอบครัว ยังคงรับวัคซีนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามนโยบายเดิมของรัฐบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิดกับประชาชนทุกสัญชาติที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ยึดตามหลักสากล โดยเป็นไปตามความสมัครใจและตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ดังนั้น ชาวต่างชาติที่นอกเหนือจากนักท่องเที่ยว ยังคงสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด 19 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับคนไทยทุกประการ ในวันนี้จึงได้จัดประชุมชี้แจงให้หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการทุกจังหวัดมีความเข้าใจตรงกัน พร้อมนำเสนอตัวอย่างการดำเนินงานให้บริการวัคซีนโควิด 19 นำร่องสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะแรก ของโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ และศูนย์ฉีดวัคซีนบางรัก ทั้งนี้ ได้มีข้อสั่งการขอให้ทุกจังหวัดเปิดจุดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่ได้กระจุกอยู่แต่ในจังหวัดใหญ่ๆ โดยย้ำว่าต้องไม่ให้กระทบกับการบริการฉีดวัคซีนให้คนไทย
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid033xz2DRaXBtB55cwXDfLhRYqXgtQfuqS1xGqSEAqpLZep566RQ9JZoqYv2xP1T7H1l
สธ. ซักซ้อมแนวทางฉีดวัคซีนโควิด เตรียมเปิดจุดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง
ย้ำ !! ต้องไม่กระทบกับการฉีดวัคซีนให้คนไทย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภายหลังสถานการณ์โควิด 19 เริ่มคลี่คลาย ประเทศต่างๆ ได้ทยอยเปิดประเทศ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงานในการกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ซึ่งหนึ่งในแผนเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ คือ ให้จัดระบบและกำหนดแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามความสมัครใจ โดยคิดค่าบริการที่เหมาะสม ภายใต้กลไก Medical hub โดยวัคซีนที่ให้บริการจะเป็นวัคซีนที่รัฐบาลไทยจัดซื้อมาเท่านั้น ไม่รวมถึงวัคซีนได้รับบริจาค และให้ทุกจังหวัดคำนึงถึงปริมาณวัคซีนคงคลังที่จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนไทย และจัดสรรวัคซีนให้แก่ประชาชนไทยเป็นลำดับแรก สำหรับชาวต่างชาติที่มาพำนักระยะยาวในไทย อาทิ ทำธุรกิจ ทำงาน คณะทูตและสมาชิกครอบครัว ยังคงรับวัคซีนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามนโยบายเดิมของรัฐบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิดกับประชาชนทุกสัญชาติที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ยึดตามหลักสากล โดยเป็นไปตามความสมัครใจและตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ดังนั้น ชาวต่างชาติที่นอกเหนือจากนักท่องเที่ยว ยังคงสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด 19 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับคนไทยทุกประการ ในวันนี้จึงได้จัดประชุมชี้แจงให้หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการทุกจังหวัดมีความเข้าใจตรงกัน พร้อมนำเสนอตัวอย่างการดำเนินงานให้บริการวัคซีนโควิด 19 นำร่องสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะแรก ของโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ และศูนย์ฉีดวัคซีนบางรัก ทั้งนี้ ได้มีข้อสั่งการขอให้ทุกจังหวัดเปิดจุดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่ได้กระจุกอยู่แต่ในจังหวัดใหญ่ๆ โดยย้ำว่าต้องไม่ให้กระทบกับการบริการฉีดวัคซีนให้คนไทย
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid033xz2DRaXBtB55cwXDfLhRYqXgtQfuqS1xGqSEAqpLZep566RQ9JZoqYv2xP1T7H1l
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭🌿มาลาริน🌿🇹🇭โควิดในไทยยังเป็นโอมิครอน BA.2.75 นทท.ติดเชื้อไม่มีอาการ/หมอ ยง' ย้ำไทยจะไม่กลับมาปิดบ้านปิดเมืองอีก
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผย สายพันธุ์โควิด-19 ในไทยพบมากสุดยังเป็น “โอมิครอน BA.2.75” ด้าน “หมอธเรศ” เผย ชาวต่างชาติเข้าไทยที่พบติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ยังขอคนไทยดูแลป้องกันตัวเอง
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวในวันนี้ (25 มกราคม 2566) ว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-21 มกราคม 2566) มีรายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 627 ราย เฉลี่ยวันละ 90 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 277 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 178 ราย ผู้เสียชีวิต 44 ราย เฉลี่ยวันละ 6 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนร้อยละ 32.3 โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 มีผู้หายป่วย สะสม 2,593 ราย เสียชีวิต สะสม 167 ราย
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติทุกสัญชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8-21 ม.ค. 2566 พบผู้ติดเชื้อ 8 ราย โดยมีอาการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพียง 1 ราย ที่เหลือส่วนใหญ่ไม่มีอาการ โดยสัญชาติที่ตรวจพบเชื้อ อันดับ 1 คือ จีน 3 ราย เมียนมา กัมพูชา ญี่ปุ่น อังกฤษ และเกาหลีใต้ อย่างละ 1 ราย
อัตราการพบผลบวกต่อโรคโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 (8-14 มกราคม 2566) พบร้อยละ 1.7 สัปดาห์ที่ 3 (15-21 มกราคม 2566) พบเพียงร้อยละ 0.5 จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงาน ขณะนี้สายพันธุ์ที่พบในไทยมากที่สุดเป็นสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.75 (86%) ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อื่นที่เคยพบในต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ที่ต้องเดินทางไปประเทศที่กำหนดให้ตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องนั้น ห้องปฏิบัติการต่างๆ ได้รายงานข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 เข้าระบบโคแล็บ (Co-Lab) พบติดเชื้อประมาณ 300-400 ราย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยพบผลบวกในนักท่องเที่ยวชาวจีนเพียง 10 กว่าราย (ประมาณร้อยละ 4 ของผู้เดินทางสัญชาติเดียวกัน)
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้มีมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยไม่ต้องกักตัวหรือมีผลตรวจโควิด-19 และขณะนี้หลายประเทศส่วนใหญ่ในทวีปยุโรปก็ใช้มาตรการเปิดประเทศแบบไม่ต้องกักตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บางประเทศมีมาตรการแตกต่างออกไป เช่น นักท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดส อย่างน้อย 14 วัน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 180-270 วัน หรือผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และรักษาหายดีแล้ว หลักฐานการตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง หรือมีผลการทดสอบ ATK ไม่เกิน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เป็นต้น
https://www.thairath.co.th/news/politic/2612206
ศ.นพ.ยง' ย้ำไทยจะไม่กลับมาปิดบ้านปิดเมืองอีกแล้ว
หมอ ยง' เตรียมบรรยายออนไลน์เรื่องโควิด 19 ในปี 2023 และชีวิตปกติใหม่ ย้ำเราจะไม่ย้อนกลับมาปิดบ้านปิดเมืองอีกแล้ว
25 ม.ค.2566 - ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และราชบัณฑิต โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “โควิด 19 ในปี 2023 และชีวิตปกติใหม่” ระบุว่า ผมจะบรรยายสถานการณ์โควิด 19 ในปีนี้ 2566 ที่กำลังจะเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่โรคประจำฤดูกาล ชีวิตความเป็นอยู่แบบปกติใหม่ ที่เราจะต้องอยู่ร่วมกับ โควิด 19 การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนการดูแลและปฏิบัติตน ในปีนี้ เราจะไม่ย้อนกลับมาปิดบ้านปิดเมืองอีกแล้ว จะบรรยายในวันที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 12.00 - 13.00 น ผู้ที่สนใจ สแกน QR Code
https://www.thaipost.net/covid-19-news/309596/
กระทู้โควิดยังมีต่อนะคะ.....