คนติดโควิดแล้วยิ้มออก! ผลวิจัยใหญ่พบมอบภูมิคุ้มกันยาวนานพอๆ กับฉีดวัคซีน
ภูมิคุ้มกันต่อต้านโควิด-19 ที่เกิดจากการติดเชื้อจะอยู่ได้นานอย่างน้อยๆ ก็พอกับการฉีดวัคซีน จากผลการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดหนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อดังกล่าว ที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (17 ก.พ.)
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์เดอะแลนซิต พบว่า 10 เดือนหลังจากติดโควิด ผู้คนยังมีความเสี่ยงระดับต่ำถึง 88% สำหรับการติดเชื้อซ้ำ อาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิต
"นั่นหมายความว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาตินี้ คงทนอย่างน้อยๆ ก็พอๆ กับ ถ้าไม่นานกว่าวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 2 เข็ม" ผลการศึกระบุ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเน้นว่าผลการค้นพบของพวกเขาไม่ควรถูกนำไปด้อยค่าวัคซีน ซึ่งยังคงเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับได้รับภูมิคุ้มกัน
การศึกษาที่นำโดยสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพ (Institute for Health Metrics and Evaluation - IHME) ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ บอกว่ามันเป็นการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมที่สุด ในข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับรูปแบบภูมิคุ้มกันต่างๆ มอบการป้องกันต้านทานโควิด-19 ยาวนานแค่ไหน
พวกนักวิจัยได้ทบทวนผลการศึกษา 65 การศึกษา จาก 19 ประเทศทั่วโลก จนถึงเดือนกันยายน 2022 นั่นหมายความว่ามันครอบคลุมช่วงเวลาที่ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดไปทั่วโลกด้วย ในขณะที่โอมิครอนเป็นตัวกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่ผ่านมา แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า
คนที่ได้รับภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน พบเห็นภูมิคุ้มกันของพวกเขาต่อการป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นๆ ของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน โดยลดลงเหลือ 36% หลังผ่านไป 10 เดือน
"วัคซีนยังคงมีความสำคัญกับทุกคน เพื่อปกป้องประชากรที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและคนที่มีโรคร่วม" แคโรลีน สเตน ผู้ร่วมเขียนผลการวิจัยจาก IHME ระบุในถ้อยแถลง
ผลการศึกษายังให้ภาพที่มีความแม่นยำมากกว่าเกี่ยวกับแนวโน้มของโควิด-19 ในอนาคต ในขณะที่จะมีคนฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อซ้ำมากขึ้น และได้มาซึ่ง "ภูมิคุ้มกันแบบลูกผสม (hybrid immunity)"
"ในระยะยาว การติดเชื้อส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีภูมิคุ้มกันเข้มแข็งต่อการติดเชื้ออาการรุนแรง อันเนื่องจากเคยติดเชื้อมาแล้ว หรือฉีดวัคซีนแล้ว หรือทั้ง 2 อย่าง" เชอรัล โคเฮน นักระบาดวิทยาจากสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติแอฟริกาใต้กล่าว "ผลเหล่านี้บ่งชี้ว่า คล้ายกับไวรัสโคโรนาที่สามารถก่อโรคในคนอื่นๆ อาจมีคนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตามฤดูกาลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แค่เพียงในระดับต่ำ" โคเฮน แสดงความคิดเห็นในวารสารเดอะแลนซิต
(ที่มา : เอเอฟพี)
https://mgronline.com/around/detail/9660000015584
“มังกร” ประกาศชัยเหนือ “โควิด” - โว “เหยื่อป่วยตาย” ต่ำสุดในโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการของกรมการเมืองพรรคคอมิวนิสต์จีน หรือโปลิตบูโร ประกาศชัยชนะในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน อันเป็นผลจากความพยายามที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและการควบคุมโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2022 (พ.ศ. 2565) เป็นต้นมา ซึ่งมาตรการรับมือต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังกล่าว เป็นไปอย่างราบรื่น จนถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของจีนในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังระบุด้วยว่า จีนมีผู้ป่วยโควิดฯ ที่มีอาการรุนแรงเกือบ 800,000 ราย แต่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม จนทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตต่ำที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของจีน
https://siamrath.co.th/n/424170
ติดตามข่าวโควิดกันต่อนะคะ....
🇹🇭💎มาลาริน💎🇹🇭คนติดโควิดแล้วยิ้มออก! ผลวิจัยใหญ่พบภูมิคุ้มกันยาวนานพอกับฉีดวัคซีน/“จีน” ประกาศชัยเหนือ “โควิด”
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์เดอะแลนซิต พบว่า 10 เดือนหลังจากติดโควิด ผู้คนยังมีความเสี่ยงระดับต่ำถึง 88% สำหรับการติดเชื้อซ้ำ อาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิต
"นั่นหมายความว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาตินี้ คงทนอย่างน้อยๆ ก็พอๆ กับ ถ้าไม่นานกว่าวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 2 เข็ม" ผลการศึกระบุ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเน้นว่าผลการค้นพบของพวกเขาไม่ควรถูกนำไปด้อยค่าวัคซีน ซึ่งยังคงเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับได้รับภูมิคุ้มกัน
การศึกษาที่นำโดยสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพ (Institute for Health Metrics and Evaluation - IHME) ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ บอกว่ามันเป็นการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมที่สุด ในข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับรูปแบบภูมิคุ้มกันต่างๆ มอบการป้องกันต้านทานโควิด-19 ยาวนานแค่ไหน
พวกนักวิจัยได้ทบทวนผลการศึกษา 65 การศึกษา จาก 19 ประเทศทั่วโลก จนถึงเดือนกันยายน 2022 นั่นหมายความว่ามันครอบคลุมช่วงเวลาที่ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดไปทั่วโลกด้วย ในขณะที่โอมิครอนเป็นตัวกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่ผ่านมา แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า
คนที่ได้รับภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน พบเห็นภูมิคุ้มกันของพวกเขาต่อการป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นๆ ของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน โดยลดลงเหลือ 36% หลังผ่านไป 10 เดือน
"วัคซีนยังคงมีความสำคัญกับทุกคน เพื่อปกป้องประชากรที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและคนที่มีโรคร่วม" แคโรลีน สเตน ผู้ร่วมเขียนผลการวิจัยจาก IHME ระบุในถ้อยแถลง
ผลการศึกษายังให้ภาพที่มีความแม่นยำมากกว่าเกี่ยวกับแนวโน้มของโควิด-19 ในอนาคต ในขณะที่จะมีคนฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อซ้ำมากขึ้น และได้มาซึ่ง "ภูมิคุ้มกันแบบลูกผสม (hybrid immunity)"
"ในระยะยาว การติดเชื้อส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีภูมิคุ้มกันเข้มแข็งต่อการติดเชื้ออาการรุนแรง อันเนื่องจากเคยติดเชื้อมาแล้ว หรือฉีดวัคซีนแล้ว หรือทั้ง 2 อย่าง" เชอรัล โคเฮน นักระบาดวิทยาจากสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติแอฟริกาใต้กล่าว "ผลเหล่านี้บ่งชี้ว่า คล้ายกับไวรัสโคโรนาที่สามารถก่อโรคในคนอื่นๆ อาจมีคนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตามฤดูกาลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แค่เพียงในระดับต่ำ" โคเฮน แสดงความคิดเห็นในวารสารเดอะแลนซิต
(ที่มา : เอเอฟพี)
https://mgronline.com/around/detail/9660000015584
“มังกร” ประกาศชัยเหนือ “โควิด” - โว “เหยื่อป่วยตาย” ต่ำสุดในโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการของกรมการเมืองพรรคคอมิวนิสต์จีน หรือโปลิตบูโร ประกาศชัยชนะในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน อันเป็นผลจากความพยายามที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและการควบคุมโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2022 (พ.ศ. 2565) เป็นต้นมา ซึ่งมาตรการรับมือต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังกล่าว เป็นไปอย่างราบรื่น จนถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของจีนในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังระบุด้วยว่า จีนมีผู้ป่วยโควิดฯ ที่มีอาการรุนแรงเกือบ 800,000 ราย แต่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม จนทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตต่ำที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของจีน
https://siamrath.co.th/n/424170
ติดตามข่าวโควิดกันต่อนะคะ....