สธ.ยันเตียงโควิดยังพอ หลัง "ศิริราช" แจ้งเต็ม เผยภาพรวมใช้เพียง 22% แนะปรับขยายเตียงจากโรคอื่นตามสถานการณ์

สธ.ยันเตียงโควิดยังพอ หลัง "ศิริราช" แจ้งเต็ม เผยภาพรวมใช้เพียง 22% แนะปรับขยายเตียงจากโรคอื่นตามสถานการณ์
27 พ.ค. 2566 16:55   

กรมการแพทย์เผยสถานการณ์เตียงโควิด ยังมีเพียงพอรองรับ มีผู้ป่วยรักษา 2,527 ราย อัตราครองเตียง 22.41% ส่วน รพ.ดังประกาศเตียงเต็ม คาดมีเตียงจำกัด พ่วงปรับเตียงไปดูแลโรคอื่น ย้ำทุก รพ.ให้ปรับขยายเตียงตามสถานการณ์ เชื่อยังบริหารจัดการได้

จากกรณีข่าว รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ประกาศแจ้งขณะนี้เตียงผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และเตียงผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด 19 เต็มทุกห้อง แผนกฉุกเฉิน (ER) ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด 19 ที่รอการส่งต่อ ทำให้ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มได้

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์เตียงโควิด ว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอม และเริ่มมีฝนตก ทำให้เกิดการระบาดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือการเล็กน้อย โดยจะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน มีส่วนหนึ่งที่มารับการรักษาใน รพ.ที่คลินิกทางเดินหายใจ ARI ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น หลาย รพ.ได้ปรับโดยขยายระยะเวลาบริการเป็นนอกเวลาด้วย รวมถึงคัดกรองผู้ป่วยโควิดที่ห้องฉุกเฉิน โดยมีการแยกโรคเพื่อความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดความคับคั่ง และจัดการให้รับยาแบบผู้ป่วยนอกโดยใช้ Telemedicine ไม่ต้องมาตรวจที่ รพ. ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยในที่นอนมีเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนเปรียบเทียบก็ยังน้อยกว่าเมื่อ ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง รพ.ส่วนใหญ่สามารถบริหารจัดการได้

กรณีที่มีข่าวว่าผู้ป่วยใน รพ.แห่งหนึ่งเต็ม เนื่องจาก รพ.บางแห่งจะมีเตียงผู้ป่วยโควิดอยู่จำกัดและได้มีการปรับเตียงไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ แล้ว โดยได้ตรวจสอบสถานการณ์จริงกับ รพ.ในสังกัดกรมการแพทย์ใน กทม. ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี สถาบันโรคทรวงอก พบว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยมานอน รพ.เพิ่มขึ้น แต่ รพ.สามารถบริหารจัดการเตียงได้ดี โดยเดิมเคยมีศักยภาพเตียงจำนวนมาก ซึ่งได้ปรับไปดูแลผู้ป่วยหนักโรคอื่นแล้ว ให้กลับมารับผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่นอนอยู่ใน รพ.เป็นสาเหตุจากมีโรคร่วม และจัดอัตรากำลังพยาบาลตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นและพร้อมที่จะขยายเตียงได้เพิ่มขึ้นอีกทั้ง ICU และเตียงผู้ป่วยหนักระดับอื่น จึงไม่มีข้อกังวลที่น่าเป็นห่วง

"ขอแนะนำว่าประชาชนที่ได้รับวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับเข้มกระตุ้นมานานกว่า 3 เดือน ควรไปรับวัคซีนโควิด 19 ที่ รพ.ได้ทุกแห่งเพื่อช่วยลดความรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้อย่างดี โดยเราจะเห็นว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามากกว่า 90% เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้ไม่ครบทั้งนั้น" นพ.ธงชัยกล่าว

นพ.ธงชัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยใน รพ.ที่ลงทะเบียนเตียงทั้งหมดในประเทศพบว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ที่ต้องเข้ารักษาใน รพ.สะสม 2,527 ราย อัตราครองเตียงร้อยละ 22.41 แบ่งเป็น กลุ่มไม่มีอาการ 240 ราย คิดเป็น 9.7% กลุ่มอาการน้อย 687 ราย คิดเป็น 27.8% กลุ่มอาการปานกลาง 1,146 ราย คิดเป็น 46.30% กลุ่มอาการหนัก 402 ราย คิดเป็น 16.2% และกลุ่มที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 278 ราย คิดเป็น 11.2% ดังนั้น กรมการแพทย์ขอเน้นย้ำว่า รพ.ส่วนใหญ่ยังคงมีเตียงรับผู้ป่วยโควิด 19 รวมทั้งยา และเวชภัณฑ์เพียงพอ อีกทั้งยังสามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ได้ตามปกติ โดยทุกหน่วยงานในสังกัดของกรมการแพทย์และเครือข่ายมีการบริหารเตียงรองรับผู้ป่วยหนักร่วมกันได้ถ้าจำเป็นต้องส่งรักษาต่อ

นพ.ธงชัยกล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น ถ้าหากมีอาการแต่ตรวจ ATK ไม่พบ อาจสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ก็ได้ แม้ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง ก็ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้ามีอาการไม่มาก ก็สามารถใช้การรักษาตามอาการได้ ไม่ต้องไป รพ. แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น สูงอายุ มีโรคประจำตัว เป็นผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย หากเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการวินิจฉัย

https://mgronline.com/qol/detail/9660000048944
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่