https://www.energynewscenter.com/%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%99%e0%b9%8c-%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%9c/?fbclid=IwAR1QbcSej23-SFJQdtUUmfuYO3i0nN7kuIGkEZz0vAZGOazSAehwiYju2Jg
รัฐมนตรีพลังงาน ยอมรับการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้มาก จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ระบุหากจำเป็นต้องปรับแผนPDP2018 Rev 1 อีกรอบก็พร้อมเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เพื่อเลื่อนจ่ายไฟเข้าระบบ แต่จะไม่ขยับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม 270 เมกะวัตต์ ในขณะที่ยังไม่พิจารณาต่ออายุมาตรการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2563
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอขอให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี จากกรณีที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมกันแบกรับภาระค่าไฟฟ้าจากการที่รัฐกำหนดผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้ว่า ยอมรับว่าการผลิตไฟฟ้าปัจจุบันเกินความต้องการใช้ เพราะการเติบโตของภาคเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้แล้วตามแนวทางการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) และเทคโนโลยีดังกล่าวที่กำลังมาเร็วขึ้นก็จะมีส่วนสำคัญต่อการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อถึงเวลานั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วหรือ Disruptive Technology จะทำให้การใช้ไฟโตก้าวกระโดดและหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวถึงเวลานั้นไฟฟ้าที่มากขณะนี้อาจไม่เพียงพอก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018 Rev 1 ) นั้นได้มีการพิจารณาให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นโรงไฟฟ้าต่างๆ จะยังเกิดขึ้นภายใต้แผนที่กำหนดไว้โดยไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงมีเพียงโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ปรับให้เร็วขึ้น ( ตามแผนPDP2018 Rev 1 จะมีไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์ และจากพลังงานลมเข้าสู่ระบบในปี 2565-2567 รวม270 เมกะวัตต์ ) เพราะอีกส่วนหนึ่งนั้นจะต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาดหรือ Green Energy ด้วย
” ในระยะสั้นหากมีการพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องเจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ SPP ออกไปเพื่อบริหารไฟฟ้าให้สมดุลกับความต้องการก็ทำได้ โดยสามารถเลื่อนเข้า เลื่อนออกให้เหมาะสมได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปดู ” นายสนธิรัตน์กล่าว
ในส่วนของมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าเพื่อเยียวยาผู้ได้ผลกระทบโควิด-19 ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 และจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค.นี้ นั้นยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการดังกล่าว
ว่าแล้วว่าทำไมโรงไฟฟ้ามันแปลกๆ....“สนธิรัตน์” ยอมรับกำลังผลิตไฟล้นระบบ เล็งชะลอSPP
รัฐมนตรีพลังงาน ยอมรับการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้มาก จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ระบุหากจำเป็นต้องปรับแผนPDP2018 Rev 1 อีกรอบก็พร้อมเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เพื่อเลื่อนจ่ายไฟเข้าระบบ แต่จะไม่ขยับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม 270 เมกะวัตต์ ในขณะที่ยังไม่พิจารณาต่ออายุมาตรการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2563
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอขอให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี จากกรณีที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมกันแบกรับภาระค่าไฟฟ้าจากการที่รัฐกำหนดผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้ว่า ยอมรับว่าการผลิตไฟฟ้าปัจจุบันเกินความต้องการใช้ เพราะการเติบโตของภาคเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้แล้วตามแนวทางการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) และเทคโนโลยีดังกล่าวที่กำลังมาเร็วขึ้นก็จะมีส่วนสำคัญต่อการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อถึงเวลานั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วหรือ Disruptive Technology จะทำให้การใช้ไฟโตก้าวกระโดดและหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวถึงเวลานั้นไฟฟ้าที่มากขณะนี้อาจไม่เพียงพอก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018 Rev 1 ) นั้นได้มีการพิจารณาให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นโรงไฟฟ้าต่างๆ จะยังเกิดขึ้นภายใต้แผนที่กำหนดไว้โดยไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงมีเพียงโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ปรับให้เร็วขึ้น ( ตามแผนPDP2018 Rev 1 จะมีไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์ และจากพลังงานลมเข้าสู่ระบบในปี 2565-2567 รวม270 เมกะวัตต์ ) เพราะอีกส่วนหนึ่งนั้นจะต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาดหรือ Green Energy ด้วย
” ในระยะสั้นหากมีการพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องเจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ SPP ออกไปเพื่อบริหารไฟฟ้าให้สมดุลกับความต้องการก็ทำได้ โดยสามารถเลื่อนเข้า เลื่อนออกให้เหมาะสมได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปดู ” นายสนธิรัตน์กล่าว
ในส่วนของมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าเพื่อเยียวยาผู้ได้ผลกระทบโควิด-19 ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 และจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค.นี้ นั้นยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการดังกล่าว