ผมเป็นคนวิตกกังวลและกลัวความเสี่ยงมากครับ เลยอยากลองแก้ไข เซริสในเน็ตดู เลยเจอเรื่องนี้เข้า ละพออ่านดูค่อนข้างน่าสนใจเลย 

แต่ภาษาตามเน็ตที่อ่านคืออ่านละงงอะ แล้วอีกอย่างคือ ผมคิดว่าวิทยาศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่มีอะไรแน่นอน

บางทีอาจมีโลกหลังความตายก็ได้ แต่ถึงไม่มี เราก็ยังได้ประโยชน์จากมันอยู่ดี จากการที่เราเข้าใจโครงสร้างและปฎิบัติได้ถูกต้อง  

การที่เราเจริญสติ จึงเป็นการประกันความเสี่ยงรูปแบบหนึ่ง ถ้ามันเกิดขึ้นก็สามารถสร้างผลกำไรให้เราได้มหาศาลเลย(มีโลกหลังความตาย)

แต่หากมันไม่เกิดขึ้นเราก็ไม่ได้เสียอะไรทั้งยังได้ประโยชน์จากความอิ่มเอิบจากความเข้าใจตนเองอีกด้วย(เป็นการประกันความเสี่ยงที่คุ้มมาก)
  
จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าต้องเริ่มจากตรงไหน และอยากสอบถามเพิ่มเติมว่าผมเข้าใจถูกไหมตอนนี้ผมมีความเข้าใจเล็กน้อยจากการลองตั้งสมาธิดู

ละอ่านเพิ่มเติมนิดหน่อย คือผมเข้าใจว่า 

1.ความคิด และอารมณ์ แยกกัน โดยความคิดจะเกิดขึ้น จากนั้นมีจิตซึ่งเป็นธาตุรู้ชนิดหนึ่ง เข้าไปรู้ความคิดและเกิดการปรุงแต่งเป็นเจตสิกซึ่งมี54ประเภท 

2.ถ้าเจริญวิปัสสนา จะเกิดอีกตัวแปรหนึ่ง ที่เรียกว่า สติ คือตอนผมทำสมาธิ พอผมเห็นความคิดหรืออารมณ์มีสติรู้ทัน ความคิดและอารมณ์ตรงนั้นจึงถูกแยก

องค์ประกอบด้วยอำนาจของสติ ส่งผลให้อารมณ์นั้นดับลงไป และไม่เกิดความคิดฟลุ้งซ่านเพิ่มเติมจากจุดนั้น(กลายเป็นฟุ้งซ่านอย่างอื่นแทน)  

3.จุดประสงค์ของการการเจริญวิปัสสนา คือการแยกองค์ประกอบของเจตสิกที่เกิดขึ้น กับความคิดให้ออกจากกัน ไม่ให้มีความยินดียินร้ายในความคิดที่เกิดขึ้น 

4.การเจริญวิปัสสนา ต้องมีฐานเป็นสมาธิระดับขณิกะสมาธิเป็นต้นไป 

ตัวอย่างของเจตสิกที่เรียกโทสะ เช่น เมื่อเราคิดถึงเรื่องน่ากลัวเข้า เราจึงรู้สึกอยากไปคิดเรื่องอื่นนี้คือโทสะที่เกิดขึ้น ไม่พอใจในความคิดที่เกิดขึ้น 

ผมเข้าใจถูกต้องมากแค่ไหนครับ เพราะจริงๆแค่อ่านมาคร่าวๆแล้วรู้สึกสนใจ รายละเอียดมันค่อนข้างดีแล้วดูเป็นเหตุเป็นผล

(ผมเคยเรียนร.ร.คริส และเป็นเด็กสายวิทย์จ๋ามาก ไม่ค่อยเข้าใจด้านนี้นะครับ แค่ลองศึกษาดู)

เป็นไปได้อยากได้สื่อที่อธิบายด้วยภาษาธรรมดาๆจะดีมาก เพราะอ่านละงง55555 ขอผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ

อยากได้ตั้งแต่ความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับสมาธิและการเจริญสติทั้งหมด พร้อมแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจนกับแต่ละคน ขอบคุณมากครับผม