คดีดังกล่าว ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งต่างเรียกร้องออกมาให้รัฐบาลยกเลิกอภิสิทธิ์ที่พระราชวงศ์มี ทำให้รัฐบาลพยายามที่จะออกกฎหมายใหม่ขึ้น
สุลต่าน 6 ใน 9 รัฐสนับสนุนกฎหมายดังกล่าว โดยสุลต่านอิสกันดาร์เองและสุลต่านอิสมาอิล เปตราแห่งกลันตัน ไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนี้ขึ้น
สุลต่านอิสกันดาร์ ทรงพยายามเรียกร้องขอให้ข้าราชการและประชาชนของยะโฮร์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว แต่ก็ล้มเหลวไป
กฎหมายดังกล่าว อนุญาตให้ดำเนินคดีกับบรรดาพระราชวงศ์ที่ละเมิดกฎหมายของประเทศได้ และได้บังคับใช้ในรัฐธรรมนูญในเดือนมีนาคม ปี 1993
อย่างไรก็ตาม สุลต่านอิสกันดาร์ ไม่ทรงถูกดำเนินคดีใดๆ ในก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้น พระองค์เองก็ระมัดระวังท่าทีในการแสดงออกต่อสาธารณะขึ้น

นอกจากนี้ ในปี 1987 สุลต่านอิสกันดาร์ขณะเป็นยังดีประตวนอากง ทรงถูกเชื่อมโยงกับการตายของแคดดี้คนหนึ่ง ในสนามกอล์ฟที่ราบสูง Cameron
สาเหตุของเรื่องราวก็คือ แคดดี้คนนั้นเผลอหัวเราะขณะที่สุลต่านทรงตีกอล์ฟแล้วไม่ลงหลุม ขณะที่น้องชายของเขา ก็บาดเจ็บและมีอาการทางจิตไป
จากเรื่องราวดังกล่าว ทำให้แม้แต่ตุนกู อับดุล ระห์มัน นายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย ถึงกับอดวิจารณ์ไม่ได้ว่าสุลต่านนั้นทรงประพฤติเสื่อมเสีย
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 29 ปี ก่อนเสด็จสวรรคต สุลต่านอิสกันดาร์ มีเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องการเมือง เรื่องความประพฤติส่วนพระองค์ และอื่นๆ
หนึ่งในนั้นก็คือ การที่ทรงพกพระแสงปืนในช่วงที่ยังเป็นยังดีประตวนอากง หรือการโปรดปรานมอเตอร์ไซค์และมักจะมีสารคดีที่มีภาพทรงขี่อยู่บ่อยๆ

สุลต่านอิสกันดาร์ เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2010 พระราชโอรส ตุนกูอิบราฮีม อิสมาอิล ได้ขึ้นครองราชย์ต่อเป็นสุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิล
สุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิล มีพระราชมารดาเป็นชาวอังกฤษ ชื่อเดิมว่า Josephine Ruby Trevorrow ซึ่งได้ทรงหย่ากับสุลต่านอิสกันดาร์ในปี 1962
สุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิล มีพระประวัติที๋โชกโชนไม่แพ้พระราชบิดา ช่วงที่ยังเป็นมกุฎราชกุมาร เคยมีข่าวว่าทรงยิงชายคนหนึ่งตายในไนท์คลับด้วย
อย่างไรก็ตามนั้น สุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิล เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว กลับไม่ได้ปรากฎพฤติกรรมหรือมีเรื่องราวใดๆ ในทางลบของพระองค์ปรากฎขึ้น
ยุคสมัยของพระองค์ ถือว่าเป็นช่วงเวลาของยุคใหม่ เนื่องจากขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ 2010 ในช่วงนั้น มีหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อทั้งด้านบวกและลบ

สุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิล เป็นสุลต่านที่มีความคิดเรื่องศาสนาอย่างทันสมัย จนครั้งหนึ่งถึงกับตรัสถึงสังคมมุสลิมมลายูว่ามีความเป็นอาหรับเกินไป
การวิจารณ์ดังกล่าวของพระองค์ ทำให้ผู้นำศาสนา ต่างออกมาโจมตีพระองค์และกล่าวว่า วัฒนธรรมมลายูนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับอาหรับอยู่นานแล้ว
อย่างไรก็ตาม สุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิล ขึ้นชื่อเรื่องความห่วงใยของประชาชน โดยทรงออกมาเปลี่ยนวันหยุดสุดสัปดาห์ให้เป็นวันศุกร์และเสาร์แล้ว
ทั้งยังทรงออกกฎหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้าโดยอ้างเรื่องสุขภาพของประชาชน และการทำป้ายโฆษณาที่ใหญ่เกินไปเพื่อไม่ให้ทำลายภาพลักษณ์เมือง
นอกจากนี้ ยังทรงเปลี่ยนชื่ออำเภอ เมืองทั้งหลายในยะโฮร์ รวมถึงประกาศย้ายเมืองเจ้าผู้ครองรัฐไปอยู่ที่มูวะร์แทน โดยให้เหตุผลว่ามีประวัติศาสตร์

นอกเหนือจากสุลต่านอิบราฮีม อิสมาอิลแล้ว อีกหนึ่งบุคคลที่อดกล่าวถึงไม่ได้ก็คือ ตุนกู อิสมาอิล อิดริส พระราชโอรสองค์โต ตุนกูมะห์โกตายะโฮร์
เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะแม้แต่ตุนกู อิสมาอิล อิดริส เอง ก็ยังมีพระประวัติที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงไม่ต่างกับพระราชบิดาและพระราชอัยกาเลย
โดยตุนกู อิสมาอิล อิดริส ซึ่งปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานสโมสรยะโฮร์ ดารุล ตะซิม ด้วยนั้น มีเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันในไนท์คลับในช่วงปี 2008
โดยงานนี้ถึงขั้นทำให้หลายฝ่ายปวดหัว เพราะคู่กรณีของพระองค์ก็คือ ตุนกู นาซิมุดดิน พระโอรสของตุนกูจาฟาร์ ยังดีประตวนอากงองค์ที่ 10 นั้นเอง
พระองค์ถูกตุนกูอิสมาอิล อิดริส ทำร้ายที่พระพักตร์และพระเศียร ขณะที่พระสหายซึ่งเป็นทนายความด้วยนั้น ได้รับบาดเจ็บไปด้วยและฟันหักไป 2 ซี่

(กระทู้หน้า กระทู้ตอนสุดท้ายแล้วครับ)