รัฐยะโฮร์ ตอนที่ 1

*ขอประกาศตัดจบรัฐยะโฮร์ไว้แค่ตอนเดียว ไม่มีตอนอื่นนะครับ*

รัฐยะโฮร์ เป็นรัฐที่อยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศมาเลเซีย เป็นรัฐเดียวของมาเลเซีย ที่ติดทั้งฝั่งช่องแคบมะละกาและทะเลจีนใต้ จึงอำนวยต่อการค้า
รัฐยะโฮร์ มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของมาเลเซีย มีพื้นที่เป็นอันดับ 5 ของมาเลเซีย หากไม่นับฝั่งตะวันออก จะเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับก่อน
รัฐยะโฮร์ รวมถึงเมืองหลวงโจโฮร์บะห์รู เป็นรัฐและเมืองที่สำคัญมากที่สุดรัฐหนึ่งของมาเลเซีย เนื่องจากอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเกาะสิงคโปร์เพียงไม่กี่ กม.
รัฐยะโฮร์ เป็นรัฐเพียงแห่งเดียวในประเทศมาเลเซีย ที่มีกองกำลังเป็นของตัวเอง โดยเป็นกองกำลังส่วนพระองค์ขององค์สุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์เอง
ทั้งหมดนี้ คือความเป็นได้เท่าไร ที่รัฐยะโฮร์ จะแยกตัวจากมาเลเซียในฐานะรัฐอธิปไตย เช่นเดียวกับบรูไนดารุสสลามที่เคยทำมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน

การที่พรรคอัมโน ถูกก่อตั้งโดย อนน์ จาฟาร์ มุขมนตรีของรัฐยะโฮร์ ณ พระราชวังยะโฮร์นั้นเอง อาจจะทำให้รัฐยะโฮร์ มีสิทธิพิเศษเหนือรัฐอื่นๆ ทั่วไป
เมื่อได้เข้าร่วมกับสหพันธรัฐมลายู ยะโฮร์ขอเงื่อนไข 3 อย่างคือ 1.ศาสนาอิสลามจะต้องเป็นศาสนาประจำชาติ 2.ต้องมีสิทธิ์เหนือดินแดนและน่านน้ำ
และ 3.ราชสำนักยะโฮร์สามารถมีกองทหารเป็นของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ยะโฮร์แสดงท่าทีว่าต้องการแยกตัวออกไป
ตุนกู อิสมาอิล ตุนกูมะห์โกตา (มกุฎราชกุมาร) แห่งยะโฮร์ ทรงแสดงความเห็นอยู่ตลอดในทำนองที่ว่า ยะโฮร์ จะแยกตัวออกจากมาเลเซียในอนาคต
ขณะที่ตุนกู อิดริส พระอนุชา เคยโพสต์ Instagram ในทำนองที่เรียกร้องให้ยะโฮร์แยกตัวจากมาเลเซีย จนเชื่อว่ายะโฮร์อาจจะแยกตัวในอนาคตได้

แม้ว่าสุลต่านองค์ปัจจุบัน จะไม่แสดงความคิดเห็นมากนัก แต่ตุนกู อิสมาอิล ซึ่งโต้ตอบรัฐบาลกลางในหลายครั้งในหลายปีที่ผ่านมา อาจจะมีโอกาสได้
ทั้งนี้ ชาวยะโฮร์ส่วนใหญ่ มีน้อยคนที่ภูมิใจในความเป็นมาเลเซียมากกว่าความเป็นยะโฮร์ ในบางคนนั้น ถึงกับดูทีวีสิงคโปร์มากกว่ามาเลเซียเสียด้วยซ้ำ
มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่ทำให้ราชสำนักยะโฮร์กับรัฐบาลกลางบาดหมางกัน อาจจะเป็นเพราะเรื่องราวคดีความที่เคยเกิดขึ้นกับเหล่าพระราชวงศ์
ยกตัวอย่างเช่น กรณีโกเมซ ที่อดีตสุลต่านอิสกันดาร์ทรงประทุษร้ายโค้ชที่เรียกร้องให้รัฐบาลกลางถอนทีมยะโฮร์ออกจากการแข่งขันฮอกกี้ระดับชาติ
มหาธีร์ ซึ่งไม่ถูกกับราชสำนักยะโฮร์มาตลอด มักจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวของสมาชิกพระราชวงศ์ยะโฮร์อยู่ตลอด ทำให้อาจจะเป็นที่มาของการแยกตัว

อย่างไรก็ตาม หากรัฐยะโฮร์แยกตัวสำเร็จ แล้วได้เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของอาเซียน รัฐอธิปไตยยะโฮร์ จะมีพื้นที่เป็นอันดับที่ 9 มากกว่าบรูไนและสิงคโปร์
ยะโฮร์จะมีประชากรเป็นอันดับที่ 9 มากกว่าแค่บรูไน ส่วน GDP จะสูงถึง 27,853 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ มากกว่ากัมพูชา ลาว และบรูไน ก็คือฐานะดีหน่อย
ส่วนมาเลเซีย จะสูญเสียพื้นที่ไปประมาณ 6% สูญเสีย GDP ประมาณ 7% และประชากรอีกจำนวนหนึ่ง แต่ความเสียหายจะน้อยกว่ารัฐอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น
ในปัจจุบัน รัฐที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมมากที่สุดก็คือ รัฐสะลาโงร์ ด้วยเหตุผลที่เป็นรัฐล้อมรอบเมืองหลวงและศูนย์กลางรัฐบาล
แต่เนื่องจากด้วยฐานะของยะโฮร์ ที่ติดต่อกับสิงคโปร์ได้ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่มาเลเซีย อาจจะไม่ยอมให้ยะโฮร์ แยกตัวออกไปจากสหพันธรัฐได้ง่าย

สำหรับราชวงศ์ยะโฮร์นั้น มีเชื้อสายมาจากผู้ครองรัฐมะละกา แต่ราชวงศ์ปัจจุบัน ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากปฐมสุลต่านที่ก่อตั้งรัฐยะโฮร์มาแต่ต้นเริ่มแรก
ปฐมสุลต่านในรัฐยะโฮร์ใหม่คือ สุลต่าน อาบู บักร์ บุตรของดะเอ็ง อิบราฮีม ซึ่งได้รับดินแดนยะโฮร์มาจากสุลต่านยะโฮร์ราชวงศ์ก่อนโดยอังกฤษบังคับ
ดะเอ็ง อิบราฮีม ได้รับมอบดินแดนในรัฐยะโฮร์ทั้งหมดจากสุลต่านอะลี อิสกันดาร์ เว้นเพียงเมืองมูวะร์ ซึ่งสุลต่านอะลี อิสกันดาร์ ยังมีสิทธิครอบครองอยู่
หลังจากเกิดความขัดแย้งและได้ยึดดินแดนมูวะร์แล้ว อาบู บักร์ จึงได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นสุลต่านองค์ใหม่ของยะโฮร์ สืบต่อราชบัลลังก์ตั้งแต่นั้นมา
โดยดินแดนบางส่วนของรัฐยะโฮร์เวลานั้น ถูกอังกฤษและเนเธอร์แลนด์แบ่งไป จนเหลือเท่าที่เห็นอย่างในปัจจุบัน ซึ่งยังติดกับฝั่งทะเลทั้ง 2 ด้านอยู่ดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่