มาทำความรู้จักกับโมเดล "3 ประโยชน์ 4 ประสาน" ของ "เจ้าสัวธนินท์"

ตอนนี้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในไทยลดระดับความรุนแรงลงไปมากแล้ว ถึงเวลาที่ภาคธุรกิจจะกลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว เพราะการ “ล็อกดาวน์” ประเทศ ทำให้เกิดการสูญเสียทางธุรกิจเฉลี่ย 5 แสนล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 นั้นเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลก การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก....ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงต้องทำจดหมายขอความร่วมมือจากนักธุรกิจชั้นนำให้ร่วมช่วยชาติฝ่าวิกฤติโควิด-19

หนึ่งในนั้นคือ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งได้ตอบจดหมายส่งถึงนายกรัฐมนตรี...และได้นำเสนอแนวคิดที่เป็นรูปธรรมหลายเรื่อง...มีโครงการที่ซีพีจะทำและเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก....คือ เกษตรผสมผสานในยุค 4.0 โดยจะทำโครงการต้นแบบแนวคิด “3 ประโยชน์ 4 ประสาน” ที่ซีพีได้ทำจริงมีประสบการณ์มาแล้ว

โมเดล "3 ประโยชน์ 4 ประสาน" เป็นรูปแบบความร่วมมือ 4 ฝ่าย ได้แก่ รัฐบาล บริษัทเอกชน สถาบันการเงิน และเกษตรกร  เพื่อรองรับการพัฒนาเกษตรกรรมทันสมัยในจีน  ซึ่งถือได้ว่า “3 ประโยชน์ –  4 ประสาน” เป็นยุทธศาสตร์ความร่วมมือสำคัญที่สร้างประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และที่สำคัญที่สุดคือก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของจีน ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

หัวใจสำคัญของ โมเดล 3 ประโยชน์ 4 ประสานคือ ความยั่งยืน ไม่ใช่การทำไปไม่กี่ปีแล้วเลิก ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ดำเนินโครงการเกษตรกรรมทันสมัย เพื่อเป็นต้นแบบการเรียนรู้เพื่อยกระดับเกษตรกรอย่างยั่งยืน หลายโครงการ อาทิ ในประเทศไทย มีโครงการเกษตรกรรมหนองหว้า อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จากพื้นดินรกร้างว่างเปล่ากว่า 1 พันไร่ นับเป็นเวลากว่า 37 ปีแล้ว ที่หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า ส่งเสริมอาชีพให้เลี้ยงสุกร จนถึงปัจจุบันเติบโตกลายเป็นตัวอย่างชุมชนที่ประสบความสำเร็จ มีความเข้มแข็งสามารถเลี้ยงชีพได้ด้วยตัวเองมีผู้เดินทางมาศึกษาดูงานจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีโครงการภายใต้โมเดล 3 ประโยชน์ 4 ประสาน ที่ทำสำเร็จในประเทศจีน ได้แก่ โครงการไก่ไข่ครบวงจร 3 ล้านตัวที่ผิงกู่ นครปักกิ่ง โครงการไก่เนื้อ 100 ล้านตัวต่อปี หมู 1 ล้านตัวต่อปี รวมถึงโครงการเกษตรกรรมทันสมัยฉือซี พัฒนาพื้นที่ 8,000 ไร่ มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นเกษตรผสมผสานแบบทันสมัยครบวงจรที่อยู่ใกล้เมือง โดยให้ทุกอย่างอยู่ในจุดเดียวกัน ครบทั้งด้านพืชผักและปศุสัตว์ เป็นต้น

เจ้าสัวธนินท์กล่าวว่า อันนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างหนึ่ง แต่ก็ได้ทำมาหลายสิบปีแล้ว แต่ในยุคนี้เทคโนโลยีพร้อมขึ้นกว่าเดิมมาก สามารถทำให้ครบวงจร และทันสมัยได้ มากขึ้น ขณะนี้กำลังจะคัดเลือกพื้นที่ต้นแบบเกษตรผสมผสาน 3 ประโยชน์4 ประสาน ใน 2-3 จังหวัด และทำให้เป็นเสมือนโรงเรียนให้เกษตรกรมาดูงาน มาศึกษาได้ และนำไปต่อยอดได้ อย่างไรก็ดี ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้โครงการขยายผลได้ เน้นการมีส่วนร่วมและเกษตรกรเป็นเจ้าของ และที่สำคัญที่ต้องเร็วและมีคุณภาพ และหากทำสำเร็จจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เป็นโรงเรียนพัฒนาอาชีพให้เกษตรกร ให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืน เป็นการกระจายรายได้ และสร้างความแข็งแกร่งแก่เศรษฐกิจฐานราก สร้างความมั่นคงทางอาหาร และความปลอดภัยในอาหารในระยะยาวให้กับประเทศไทย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่