สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิพ
เมื่อเดือนก่อน เราเคยตั้งกระทู้เรื่อง ซินหนงชุน โมเดลการพัฒนาเกษตรกรรมสมัยใหม่ของจีน ที่คนไทยคิด แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในเมืองไทย
ตามลิงค์นี้
http://ppantip.com/topic/33637297
พอดีว่า เมื่อเดือนที่แล้วเราได้มีโอกาสพบเจ้าสัวค่ะ ก็เลยได้โยนคำถามเกรียนๆ ที่ชาวพันทิพช่วยกันส่งมาในกระทู้ “เมื่อฉันแอบเกรียนเบาๆ กับเจ้าสัว CP
http://ppantip.com/topic/33611406
ไปให้เจ้าสัวตอบด้วย หลายคำถามจัด แต่เจ้าสัวก็ตอบให้นะคะ ไว้จะทยอยเล่าให้ฟังเรื่อยๆ ค่ะ
แต่เรื่องแรกที่เราขอเล่าให้ฟังก่อนเลยคือ ซินหนงชุน เพราะหลังจากได้ถามเจ้าสัวรอบล่าสุดนี้ ถึงรู้ว่า เราให้ข้อมูลขาดไปเยอะเลยค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยอ่านกระทู้เดิม เราเล่าคร่าวๆ ดังนี้นะคะ
ซินหนงชุน เป็นโครงการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ของรัฐบาลจีน โครงการนำร่องอยู่ที่ เขตผิงกู่ กรุงปักกิ่ง โดยเป็นโครงการ 4 ประสาน คือ รัฐบาล ธนาคาร เกษตรกร และ ซีพี. ร่วมกันทำโครงการเลี้ยงไก่ไข่ 3 ล้านตัวค่ะ โครงการนี้เป็นแบบครบวงจร (Integrate) คือ มีทั้งฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ โรงงานอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไข่ โรงทำปุ๋ยจากขี้ไก่ กระทู้ที่แล้วเราเล่าโมเดลรายได้ของเกษตรกรไว้ แต่อาจจะไม่ค่อยชัด
คราวนี้จึงได้โอกาส ถามเจ้าสัวอีกรอบค่ะ
อ่อ ก่อนอื่นต้องขอแก้ข่าวก่อนนะคะ คราวที่แล้วเราบอกว่า รัฐบาลจีนให้ชีพี. ช่วยเสนอความเห็นในการพัฒนาประเทศ แต่ๆๆๆๆๆ เจ้าสัวติงมาว่า มันดูโม้เกินไป ซีพี. เป็นแค่คนเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปเท่านั้นเอง
โอเคค่ะเจ้าสัว
เข้าใจตามนั้น นะคะเพื่อนๆ
เอาล่ะ มาฟังที่เจ้าสัวเล่ากันต่อค่ะ
เจ้าสัวเล่าย้อนไปถึงสภาพของเมืองจีนว่า การจะกู้เงินธนาคารที่นั่น ผู้กู้ต้องมีเงินทุน 30% แล้วธนาคารจะปล่อยกู้ให้ 70% ด้วยหลักเกณฑ์แบบนี้ทำให้เกษตรกรไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเลย
ทำไมล่ะ?
ก็เพราะเมืองจีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ เกษตรกรยากจน แม้กระทั่งที่ดินยังเป็นของรัฐบาล เขาจะไปหาทุน 30% ที่ว่ามาจากไหน
เจอปัญหาแบบนี้ สุดท้าย ซีพี. เลยไปคุยกับรัฐบาลว่า เอาอย่างนี้แล้วกัน เพื่อแสดงความจริงใจว่า โครงการนี้จะสำเร็จ เงินทุน 30% ที่จะต้องมีก่อนไปกู้ธนาคารเนี่ย ซีพี. จะรับผิดชอบ 15% อีก 15% ให้รัฐบาลปักกิ่งรับผิดชอบ คราวนี้เกษตรกรก็มีเงินทุน 30% แล้ว แล้วก็ไปกู้ธนาคารอีก 70%
เท่านั้นยังไม่พอ ซีพี. ในฐานะผู้เช่าสถานที่ทั้งฟาร์ม ทั้งโรงงานต่างๆ ทั้งหมดในโครงการ ต้องเอาบริษัทย่อยของ ซีพี. ที่มีกำไรอย่างน้อยปีละ 70 ล้านหยวนมาการันตีให้โครงการด้วย
เจ้าสัวอธิบายว่า ที่ต้องเอาบริษัทมาการันตีด้วย เพราะ ซีพี. มีภาระผูกพันต้องจ่ายค่าเช่าสถานที่ให้กับเกษตรกรประมาณ 75 ล้านหยวน ต่อปี ( 10% ของมูลค่าโรงงานทั้งหมด 750 ล้านหยวน ถ้าคิดเป็นเงินไทยคร่าวๆ ก็เอา 5 คูณเข้าไปนะคะ)
เงินค่าเช่า 75 ล้านหยวนต่อปีนี้ จะถูกนำไปชำระเงินต้นที่กู้มาลงทุนในโครงการ พอครบ 10 ปี ภาระเงินกู้ก็จะหมด ทรัพย์สินในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มเอย โรงงานเอย เป็นของเกษตรกร 1,800 ครอบครัวนี้ทั้งหมด
พออธิบายมาถึงตรงนี้ เจ้าสัวถามว่า คุณรู้ไหม ดอกเบี้ยเงินกู้ใครเป็นคนจ่าย?
น่านสิ ที่อธิบายมามีแต่ชำระเงินต้น 750 ล้านหยวน ไม่เห็นพูดถึงดอกเบี้ย
เจ้าสัวเล่าต่อว่า ที่เมืองจีน รัฐบาลเขาจะมีเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจน ครอบครัวละ 200 หยวนต่อเดือน พอมาทำโครงการนี้ ซีพี. จ่ายเงินให้ 1,800 ครอบครัวนี้เดือนละ 600 หยวน และจะเพิ่มให้ทีละ 200 หยวนในทุกๆ 3 ปี จนครบ 1,000 หยวนต่อเดือน ทำให้รัฐบาลปักกิ่งไม่ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัว 1,800 ครอบครัวนี้อีกต่อไป รัฐบาลจีนจึงเอาเงินส่วนที่ประหยัดได้นี้ ไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ที่เอามาลงทุนในโครงการนี้แทน
สรุป เกษตรกร 1,800 ครอบครัวนี้ ไม่ต้องเสียอะไรเลย
เงินลงทุน: ซีพี. กับรัฐบาลรับภาระกู้เงินมาให้
เงินกู้ : ซีพี. เป็นคนทยอยจ่ายเงินต้นทั้งหมดให้
รายได้: เกษตรกรมีรายได้หลายทาง
ทางแรก ได้จาก ชีพี. ครอบครัวละ 600 หยวน และเพิ่มขึ้น 200 หยวนทุกๆ 3 ปี จนครบ 1,000 หยวน
ทางที่สอง รายได้จากค่าจ้าง ถ้าอยากทำงานในโครงการนี้ ก็จะได้ค่าจ้างจากโครงการ หรือถ้าไม่อยากทำจะไปทำอาชีพอื่นๆ ตามความถนัดก็ได้
ทางที่สาม พอครบ 10 ปี ซีพี. จ่ายเงินต้นหมด ทรัพย์สินในโครงการ ทั้งฟาร์ม ทั้งโรงงาน เป็นของเกษตรกร 1,800 ครอบครัวนี้ทั้งหมด
นี่เป็นข้อมูลที่เราได้เพิ่มเติมจากเจ้าสัวมาค่ะ
ในกระทู้ที่แล้ว มีเพื่อนๆ ห่วงว่า โครงการแบบนี้จะทำให้เกษตรกรมีหนี้จากการกู้ธนาคารหรือเปล่า
ข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าสัว คงพอตอบเพื่อนๆ ได้แล้วนะคะว่า เกษตรกรไม่มีภาระหนี้ใดๆ
มาถึงตรงนี้ เจ้าสัวแอบกังวลนิดหน่อยค่ะว่า พูดถึงซินหนงชุนเยอะแบบนี้ เดี๋ยวโดนหาว่า เราไปช่วยประเทศอื่น ไม่ช่วยประเทศไทยหรือเปล่า จริงๆ เมืองไทยเราก็มีโครงการดีๆ เยอะแยะ
เจ้าสัวบอกคุณรู้ไหม แต่ละปี ซีพี. ทำให้กับสังคมเท่าไหร่ 500-800 ล้านบาทนะ เราทำเรื่องใหญ่แต่ไม่ได้พูดเลย
ณ จุดนี้ ก็เข้าใจนะคะว่า เจ้าสัวกลัวโดนด่า แต่แหม เราก็อยากเอาโมเดลแบบนี้มาเล่าให้ฟังอ่ะ เผื่อจะมีใครเอามาใช้ในเมืองไทยบ้าง เกษตรกรเราจะได้ลืมตาอ้าปากซะที
แต่ก็นะที่เมืองจีนเขาทำได้เพราะรัฐบาลเขาเอาจริงเอาจัง ยอมลงทุนกู้เงินมาทำเป็นเรื่องเป็นราว เราก็ไม่รู้นะว่า รัฐบาลไทยจะทำได้ถึงขั้นนั้นหรือเปล่า
อย่างแรกเลยคือ รวบรวมที่ดิน มาทำฟาร์มขนาใหญ่เนี่ย เมืองจีนทำได้ เพราะเป็นคอมมิวนิสต์ แต่เมืองไทยใครจะรับหน้าเสื่อรวบรวมที่ดินได้ขนาดนั้น ในเมื่อทุกคนเป็นเจ้าของที่ดิน มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่จะทำอะไรก็ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า รวบรวมผืนใหญ่เสร็จแล้ว สร้างโรงงานแล้ว เจ้าของที่เกิดเปลี่ยนใจอยากขาย ทีนี้ยุ่งเลย
นอกจากเรื่องนี้แล้วก็มีประเด็นยิบย่อยอีกจิปาถะ ที่ต้องถกกัน ถ้าจะทำจริงๆ คงต้องปรับปรุงโมเดลให้เหมาะกับเมืองไทย
วันนี้ขอเล่าเรื่องนี้ก่อนนะคะ เพราะคราวที่แล้วเราให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ต้องรีบมาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดก่อน ส่วนเรื่องเจ้าสัวตอบคำถามเกรียนๆ จากเพื่อนๆ พันทิพ อย่างไรนั้น ขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวจะทยอยเล่าให้ฟังค่ะ
ปล. คือว่า เราแอบกลัวกระทู้หรือ ID เราโดนอุ้มอ่ะ ถ้าต่อไปเราโดนอุ้ม ไปเจอเราใน FB ละกันนะคะ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%86-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A7-CP/1438835776421261
พอดีได้ข้อมูลเพิ่มจากเจ้าสัว CP เลยจัดให้อีกรอบกับ “ซินหนงชุน” โมเดลการพัฒนาเกษตรกรรมสมัยใหม่ของจีน
เมื่อเดือนก่อน เราเคยตั้งกระทู้เรื่อง ซินหนงชุน โมเดลการพัฒนาเกษตรกรรมสมัยใหม่ของจีน ที่คนไทยคิด แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในเมืองไทย
ตามลิงค์นี้ http://ppantip.com/topic/33637297
พอดีว่า เมื่อเดือนที่แล้วเราได้มีโอกาสพบเจ้าสัวค่ะ ก็เลยได้โยนคำถามเกรียนๆ ที่ชาวพันทิพช่วยกันส่งมาในกระทู้ “เมื่อฉันแอบเกรียนเบาๆ กับเจ้าสัว CP http://ppantip.com/topic/33611406
ไปให้เจ้าสัวตอบด้วย หลายคำถามจัด แต่เจ้าสัวก็ตอบให้นะคะ ไว้จะทยอยเล่าให้ฟังเรื่อยๆ ค่ะ
แต่เรื่องแรกที่เราขอเล่าให้ฟังก่อนเลยคือ ซินหนงชุน เพราะหลังจากได้ถามเจ้าสัวรอบล่าสุดนี้ ถึงรู้ว่า เราให้ข้อมูลขาดไปเยอะเลยค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยอ่านกระทู้เดิม เราเล่าคร่าวๆ ดังนี้นะคะ
ซินหนงชุน เป็นโครงการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ของรัฐบาลจีน โครงการนำร่องอยู่ที่ เขตผิงกู่ กรุงปักกิ่ง โดยเป็นโครงการ 4 ประสาน คือ รัฐบาล ธนาคาร เกษตรกร และ ซีพี. ร่วมกันทำโครงการเลี้ยงไก่ไข่ 3 ล้านตัวค่ะ โครงการนี้เป็นแบบครบวงจร (Integrate) คือ มีทั้งฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ โรงงานอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไข่ โรงทำปุ๋ยจากขี้ไก่ กระทู้ที่แล้วเราเล่าโมเดลรายได้ของเกษตรกรไว้ แต่อาจจะไม่ค่อยชัด
คราวนี้จึงได้โอกาส ถามเจ้าสัวอีกรอบค่ะ
อ่อ ก่อนอื่นต้องขอแก้ข่าวก่อนนะคะ คราวที่แล้วเราบอกว่า รัฐบาลจีนให้ชีพี. ช่วยเสนอความเห็นในการพัฒนาประเทศ แต่ๆๆๆๆๆ เจ้าสัวติงมาว่า มันดูโม้เกินไป ซีพี. เป็นแค่คนเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปเท่านั้นเอง
โอเคค่ะเจ้าสัว
เข้าใจตามนั้น นะคะเพื่อนๆ
เอาล่ะ มาฟังที่เจ้าสัวเล่ากันต่อค่ะ
เจ้าสัวเล่าย้อนไปถึงสภาพของเมืองจีนว่า การจะกู้เงินธนาคารที่นั่น ผู้กู้ต้องมีเงินทุน 30% แล้วธนาคารจะปล่อยกู้ให้ 70% ด้วยหลักเกณฑ์แบบนี้ทำให้เกษตรกรไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเลย
ทำไมล่ะ?
ก็เพราะเมืองจีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ เกษตรกรยากจน แม้กระทั่งที่ดินยังเป็นของรัฐบาล เขาจะไปหาทุน 30% ที่ว่ามาจากไหน
เจอปัญหาแบบนี้ สุดท้าย ซีพี. เลยไปคุยกับรัฐบาลว่า เอาอย่างนี้แล้วกัน เพื่อแสดงความจริงใจว่า โครงการนี้จะสำเร็จ เงินทุน 30% ที่จะต้องมีก่อนไปกู้ธนาคารเนี่ย ซีพี. จะรับผิดชอบ 15% อีก 15% ให้รัฐบาลปักกิ่งรับผิดชอบ คราวนี้เกษตรกรก็มีเงินทุน 30% แล้ว แล้วก็ไปกู้ธนาคารอีก 70%
เท่านั้นยังไม่พอ ซีพี. ในฐานะผู้เช่าสถานที่ทั้งฟาร์ม ทั้งโรงงานต่างๆ ทั้งหมดในโครงการ ต้องเอาบริษัทย่อยของ ซีพี. ที่มีกำไรอย่างน้อยปีละ 70 ล้านหยวนมาการันตีให้โครงการด้วย
เจ้าสัวอธิบายว่า ที่ต้องเอาบริษัทมาการันตีด้วย เพราะ ซีพี. มีภาระผูกพันต้องจ่ายค่าเช่าสถานที่ให้กับเกษตรกรประมาณ 75 ล้านหยวน ต่อปี ( 10% ของมูลค่าโรงงานทั้งหมด 750 ล้านหยวน ถ้าคิดเป็นเงินไทยคร่าวๆ ก็เอา 5 คูณเข้าไปนะคะ)
เงินค่าเช่า 75 ล้านหยวนต่อปีนี้ จะถูกนำไปชำระเงินต้นที่กู้มาลงทุนในโครงการ พอครบ 10 ปี ภาระเงินกู้ก็จะหมด ทรัพย์สินในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มเอย โรงงานเอย เป็นของเกษตรกร 1,800 ครอบครัวนี้ทั้งหมด
พออธิบายมาถึงตรงนี้ เจ้าสัวถามว่า คุณรู้ไหม ดอกเบี้ยเงินกู้ใครเป็นคนจ่าย?
น่านสิ ที่อธิบายมามีแต่ชำระเงินต้น 750 ล้านหยวน ไม่เห็นพูดถึงดอกเบี้ย
เจ้าสัวเล่าต่อว่า ที่เมืองจีน รัฐบาลเขาจะมีเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจน ครอบครัวละ 200 หยวนต่อเดือน พอมาทำโครงการนี้ ซีพี. จ่ายเงินให้ 1,800 ครอบครัวนี้เดือนละ 600 หยวน และจะเพิ่มให้ทีละ 200 หยวนในทุกๆ 3 ปี จนครบ 1,000 หยวนต่อเดือน ทำให้รัฐบาลปักกิ่งไม่ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัว 1,800 ครอบครัวนี้อีกต่อไป รัฐบาลจีนจึงเอาเงินส่วนที่ประหยัดได้นี้ ไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ที่เอามาลงทุนในโครงการนี้แทน
สรุป เกษตรกร 1,800 ครอบครัวนี้ ไม่ต้องเสียอะไรเลย
เงินลงทุน: ซีพี. กับรัฐบาลรับภาระกู้เงินมาให้
เงินกู้ : ซีพี. เป็นคนทยอยจ่ายเงินต้นทั้งหมดให้
รายได้: เกษตรกรมีรายได้หลายทาง
ทางแรก ได้จาก ชีพี. ครอบครัวละ 600 หยวน และเพิ่มขึ้น 200 หยวนทุกๆ 3 ปี จนครบ 1,000 หยวน
ทางที่สอง รายได้จากค่าจ้าง ถ้าอยากทำงานในโครงการนี้ ก็จะได้ค่าจ้างจากโครงการ หรือถ้าไม่อยากทำจะไปทำอาชีพอื่นๆ ตามความถนัดก็ได้
ทางที่สาม พอครบ 10 ปี ซีพี. จ่ายเงินต้นหมด ทรัพย์สินในโครงการ ทั้งฟาร์ม ทั้งโรงงาน เป็นของเกษตรกร 1,800 ครอบครัวนี้ทั้งหมด
นี่เป็นข้อมูลที่เราได้เพิ่มเติมจากเจ้าสัวมาค่ะ
ในกระทู้ที่แล้ว มีเพื่อนๆ ห่วงว่า โครงการแบบนี้จะทำให้เกษตรกรมีหนี้จากการกู้ธนาคารหรือเปล่า
ข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าสัว คงพอตอบเพื่อนๆ ได้แล้วนะคะว่า เกษตรกรไม่มีภาระหนี้ใดๆ
มาถึงตรงนี้ เจ้าสัวแอบกังวลนิดหน่อยค่ะว่า พูดถึงซินหนงชุนเยอะแบบนี้ เดี๋ยวโดนหาว่า เราไปช่วยประเทศอื่น ไม่ช่วยประเทศไทยหรือเปล่า จริงๆ เมืองไทยเราก็มีโครงการดีๆ เยอะแยะ
เจ้าสัวบอกคุณรู้ไหม แต่ละปี ซีพี. ทำให้กับสังคมเท่าไหร่ 500-800 ล้านบาทนะ เราทำเรื่องใหญ่แต่ไม่ได้พูดเลย
ณ จุดนี้ ก็เข้าใจนะคะว่า เจ้าสัวกลัวโดนด่า แต่แหม เราก็อยากเอาโมเดลแบบนี้มาเล่าให้ฟังอ่ะ เผื่อจะมีใครเอามาใช้ในเมืองไทยบ้าง เกษตรกรเราจะได้ลืมตาอ้าปากซะที
แต่ก็นะที่เมืองจีนเขาทำได้เพราะรัฐบาลเขาเอาจริงเอาจัง ยอมลงทุนกู้เงินมาทำเป็นเรื่องเป็นราว เราก็ไม่รู้นะว่า รัฐบาลไทยจะทำได้ถึงขั้นนั้นหรือเปล่า
อย่างแรกเลยคือ รวบรวมที่ดิน มาทำฟาร์มขนาใหญ่เนี่ย เมืองจีนทำได้ เพราะเป็นคอมมิวนิสต์ แต่เมืองไทยใครจะรับหน้าเสื่อรวบรวมที่ดินได้ขนาดนั้น ในเมื่อทุกคนเป็นเจ้าของที่ดิน มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่จะทำอะไรก็ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า รวบรวมผืนใหญ่เสร็จแล้ว สร้างโรงงานแล้ว เจ้าของที่เกิดเปลี่ยนใจอยากขาย ทีนี้ยุ่งเลย
นอกจากเรื่องนี้แล้วก็มีประเด็นยิบย่อยอีกจิปาถะ ที่ต้องถกกัน ถ้าจะทำจริงๆ คงต้องปรับปรุงโมเดลให้เหมาะกับเมืองไทย
วันนี้ขอเล่าเรื่องนี้ก่อนนะคะ เพราะคราวที่แล้วเราให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ต้องรีบมาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดก่อน ส่วนเรื่องเจ้าสัวตอบคำถามเกรียนๆ จากเพื่อนๆ พันทิพ อย่างไรนั้น ขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวจะทยอยเล่าให้ฟังค่ะ
ปล. คือว่า เราแอบกลัวกระทู้หรือ ID เราโดนอุ้มอ่ะ ถ้าต่อไปเราโดนอุ้ม ไปเจอเราใน FB ละกันนะคะ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%86-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A7-CP/1438835776421261