🌀🌀🌀มาลาริน/อัศวินเพียบพร้อมรายล้อมลุงตู่..เจ้าสัวตอบจม.ควัก700 ล้านแก้วิกฤติโควิด19 ลุงตู่ตั้งทีมกุนซือมีคนดังเพียบ

ผมถือเป็นหน้าที่ : 'เจ้าสัวธนินท์'ตอบจดหมาย'ลุงตู่'ควัก 700 ล้านร่วมแก้วิกฤติโควิด-19
วันศุกร์ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 17.50 น.



วันที่ 1 พฤาภาคม 2563 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ได้ส่งหนังสือตอบรับจดหมายเปิดผนึกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว โดยมีเนื้อหาระบุว่า
 
"ผมถือเป็นหน้าที่ ที่จะต้องทำเพื่อประเทศโดยเฉพาะในยามวิกฤต เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อมสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่ และขอเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการนำประเทศชาติ ก้าวผ่านสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ถือเป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงของประเทศและของโลกในครั้งนี้ และขอยกย่องในความเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ถือเป็นนักรบแนวหน้าในการรักษาชีวิตพี่น้องประชาชนไทย  ทำให้วันนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤตในอดีตจนถึงปัจจุบัน จะเห็นความสามัคคี ความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยจากทุกภาคส่วน ออกมาให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเสมอมา เช่นเดียวกับวิกฤตในครั้งนี้ ที่จะเห็นได้ว่า ทุกภาคส่วนได้ออกมาร่วมแรงร่วมใจกันทำหน้าที่ของตนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยอย่างดีมาโดยตลอด พร้อมทั้งเสนอสิ่งที่ผมและเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ดำเนินการแล้ว รวมยอดกว่า 700 ล้านบาท

เงินลงทุนดังกล่าว แบ่งเป็น สร้างโรงงานหน้ากากอนามัยฟรี 100 ล้านบาท พร้อมเพิ่มงบผลิตหน้ากากอีก 75 ล้านบาท บริจาค อุปกรณ์การแพทย์ 30 ล้านบาท ,โครงการมอบอาหารต้านภัยโควิด-19 ให้บุคลากรการแพทย์และผู้ถูกกักตัว 200 ล้านบาท  ,มอบ 77 ล้าน ให้กับ 77โรงพยาบาลและโครงการอื่นๆ 176.60 ล้านบาท ,แจกอุปกรณ์สื่อสรให้กับโรงพยาบาลทั้งดาต้า หุ่นยนต์ ซิมและอินเตอร์เน็ต 12 ล้านบาท

นอกจากนี้จะเสนอโครงการที่จะดำเนินการในระยะต่อไป ได้แก่ พัฒนาแหล่งน้ำระบบชลประทานเป็นแก้มลิง4.0 ,โครงการเกษตรผสมผสานเพื่อทำเป็นต้นแบบ 4 ประสานเพิ่มรายได้เกษตรกร ,โครงการแพลตฟอร์มออนไลน์ เรียนทางไกลและแพทย์ทางไกล และโครงการวิจัยสู้ภัยโควิด-19 วิจัยวัคซีนและยารักษาโรค
 
อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไป สิ่งที่ประเทศไทยควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ การเตรียมการเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องรักษาความเชื่อมั่น และประคองระบบสังคม วิถีชีวิต ให้สามารถดำรงอยู่ได้ ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ต้องไม่ล้มหายตายจากไป และ ยังรักษาการจ้างงาน พี่น้องประชาชน จะยังคงมีรายได้เลี้ยงชีพ อาชีพอิสระ อาชีพรับจ้าง เกษตรกร หรือแม้กระทั่งคนว่างงาน จะยังคงมีรายได้เพียงพอในการยังชีพ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ ในยามที่ฟ้ามืด ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อยามฟ้าสว่าง  นั่นคือ การเตรียมแผนฟื้นฟูประเทศไทยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และหากมองวิกฤตนี้เป็นโอกาส และ ประเทศไทย กล้าตั้งเป้าหมายให้ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก” ทั้งด้านการค้า การลงทุน การเงิน และเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว

ส่วนภาคประชาชน ภาคธุรกิจเอกชน ภาครัฐจะต้องให้ความช่วยเหลือ ดูแล และสนับสนุนให้ทั่วถึง โดยเฉพาะแรงงาน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และครอบครัวของบุคคลเหล่านี้ ได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ และอาจมีภาระหนี้สินด้วย ในส่วนของภาคธุรกิจเอกชน ก็ได้รับผลกระทบ ทั้งด้านการขาดรายได้ การยังคงมีรายจ่ายค่าจ้างแรงงานและรายจ่ายต่างๆ ตลอดจนภาระหนี้สินที่เกี่ยวข้อง ธุรกิจเอกชนขนาดเล็ก-กลาง (SME) แม้จะมีสัดส่วนทางเศรษฐกิจไม่มากนัก แต่ก็เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในระดับภูมิภาค/ท้องถิ่น ธุรกิจขนาดใหญ่มีความเชื่อมโยงกับเอสเอ็มอี และซัพพลายเชนในระบบเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง มีสัดส่วนในระบบเศรษฐกิจสูง นับเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
 
ฉะนั้น รัฐบาลจึงควรช่วยเหลือสนับสนุนภาคประชาชนและธุรกิจเอกชนทุกขนาดให้ทั่วถึงโดยรวดเร็ว ตามความเดือดร้อน ในช่วงที่ประสบปัญหาโควิด-19 รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ สนับสนุน เร่งกระตุ้นภาคเอกชนให้ปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ให้มีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันได้ ภายใต้ “สภาวะปกติใหม่” ที่จะมีรูปแบบความต้องการสินค้าและบริการ และการตอบสนองเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหลังปัญหาโควิด-19 ยุติลง ตลอดจน เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ ประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ"นายธนินท์  กล่าว

https://www.naewna.com/politic/490240

ด่วนที่สุด! 'บิ๊กตู่'ตั้งทีมกุนซือสู้โควิด ดึง'หมอจรัส'นั่งประธาน พร้อมคนดังอีกเพียบ

วันศุกร์ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 17.45 น.



เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563  เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 21/2563 ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยระบุว่า เพื่อให้การปฎิบัติงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า มีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม จึงให้แต่งตั้ง คณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีหน้าที่เสนอความเห็นทางวิชาการ แนวทางป้องกันปัญหา แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจสังคม จากการระบาดของไวรัส

สำหรับรายชื่อคณะที่ปรึกษาดังกล่าวประกอบด้วย
 
1.ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธาน
2.) ศาสตราจารย์กิตติคุณเทียนฉาย กีระนันทน์ รองประธาน
3.) ศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ มหานนท์ กรรมการ
4.) ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย กรรมการ
5.) รองศาสตราจารย์สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ กรรมการ
6.) รองศาสตราจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ กรรมการ
7.) พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา กรรมการ
8.) นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการ
9.) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการ
10.) นายวีระ ธีระภัทรานนท์ กรรมการ
11.) นายสมชัย จิตสุชน กรรมการ
12.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ
13.) รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563



https://www.naewna.com/politic/490246

ลุงมีคนมาช่วยล้วนแต่คนมีความสามารถ มีฝีมือและมีประสบการณ์สูง

อย่างนี้ไทยไปรอดแน่ค่ะ ไม่ใช่รอดจากโควิดอย่างเดียว

เศรษฐกิจก็ไปรอดด้วยค่ะ

ทีมอาจารย์หมอที่ปรึกษาทางสาธารณสุขก็ช่วยต้านโควิด

ทีมเจ้าสัวช่วยนำสินทรัพย์เอามาสู้โควิดและเศรษฐกิจ

ทีมที่ปรึกษาคณะหลังนี้จะช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม

อัศวินมีเพียบพร้อม...รายล้อมลุงตู่  

ช่วยให้เอาอยู่ทุกเรื่องค่ะ...👍😊😃😄😉👍

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เปิดตัว 5 กุนซือทีมแพทย์สู้ศึก COVID-19



สื่อสายทำเนียบ เปิดเบื้องหลังก่อนออก 6 มาตรการสู้ไวรัสโคโรนา (COVID-19) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชิญ 5 แพทย์ ผู้เชียวชาญของไทย มาให้คำปรึกษาและคำแนะนำ เพื่อวางมาตรการในการป้องกันการระบาด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) จนนำมาสู่การออกมาตรการ 6 ข้อในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ปิดโรงเรียน สถานศึกษา สถาบันกวดวิชา สนามมวย สถานบันเทิงระหว่างวันที่ 18-31 มี.ค.นี้ 

วันนี้ (18 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสายทำเนียบรัฐบาล ได้เผยแพร่ข้อมูลเหตุการณ์ในวงประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมนัดแรก ก่อนที่จะมีการเผยแพร่ภาพออกมาสู่สาธารณะว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังนั่งคุยกับคณะบุคคลหนึ่งอยู่

ข้อมูลระบุว่า 5 บุคคลสำคัญที่อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้คำปรึกษาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ประกอบด้วย

ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 
อดีต รมช.กระทรวงศึกษาธิการศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์"ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ นายกแพทยสมาคมศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาหารือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมผ่านวิกฤต

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha เผยแพร่ภาพดังกล่าว โดยระบุว่า 

เช้านี้ก่อนเข้าประชุมศูนย์บริหาร COVID-19 ได้มีการหารือ รับฟังข้อมูล และแลกเปลี่ยนแนวคิดกับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ ทำให้ผมเชื่อว่าทุกคน ทุกส่วนมีความตั้งใจ และเต็มใจที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ และพร้อมที่จะร่วมมือกันนำพาประเทศไทยของเราให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้

“ผมขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนติดตามข้อมูลข่าวสาร ความคืบหน้า และมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือ เพิ่มความระมัดระวัง มีความตระหนักอย่าตื่นตระหนก เพื่อเราจะผ่านวิกฤตโรคอุบัติใหม่นี้ไปให้ได้ครับ”

ก่อนหน้านี้ศ.นพ.ยง โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า "เราจะหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายของประชากรได้อย่างไร ปีนี้ขอโยกย้ายปีใหม่ของไทย ในช่วงสงกรานต์ ให้ไม่เป็นวันหยุด แล้วเมื่อโรคสงบแล้ว ค่อยหยุดชดเชยให้แทนช่วงที่มีการระบาดของโรค

ถ้าเป็นเช่นนี้ทุกคนจะต้องยอมรับ สังคมเราก็น่าจะยอมรับได้ อีกประการหนึ่ง social distance การรวมกันของคนหมู่มาก ทุกคนจะต้องเข้าใจ ว่าจะเป็นแหล่งของการกระจายโรคอย่างรวดเร็ว (super spread) งานสังคมจำเป็นที่จะต้องงด การจัดประชุมวิชาการ ก็ต้องหาทางออกด้วย tele-conference สนามมวย การแข่งขันกีฬาต่างๆ โรงเรียนกวดวิชาก็จะต้องปิดการสอน เพื่อลดการระบาดของโรคให้ได้"




https://news.thaipbs.or.th/content/289929
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่