ขอบ่นหน่อยละกัน คือเราไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ เราอยากลดความอ้วน จึงจ้างเทรนเนอร์ออนไลน์ ลักษณะการเทรนของเขาคือ ให้ท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อกับหน้าท้องมา และให้เล่นท่านั้นไปตลอดจนจบคอร์ส และก็มีการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ ซึ่งเราต้องเลือกเองว่าจะออกกำลังแบบไหน เราเลือกเปิดคลิปแล้วออกกำลังกายตาม ช่วงแรกเทรนเนอร์ให้เรากินเยอะมาก จนน้ำหนักเราเพิ่มมาเกือบ 3 กิโล (และจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่ลงกลับไปเท่าเดิมก่อนเทรนเลย)

เทรนเนอร์ปรับสารอาหารเราทุกอาทิตย์ ลดคาร์โบไฮเดรตเรา จนตอนนี้เหลือแค่ 80 กรัม เราหาอาหารกินค่อนข้างยาก ปกติอาหารที่เรากินมักจะมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่าโปรตีนและไขมันอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกลดคาร์โบไฮเดรตให้เหลือเท่าโปรตีน ผลคือ เวลาเรากินอาหาร ก็จะขาดโปรตีนไป เพราะถ้ากินโปรตีนครบ คาร์โบไฮเดรตก็จะเกินอีก หลายครั้งเราเลือกกินตามใจตัวเองเลย เพราะเหนื่อยกับการต้องมาคอยคิดว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ เราก็กินตามใจเลย แล้วค่อยโกหกเทรนเนอร์ไปว่ากินครบตามที่เขากำหนด (เราต้องแจ้งเทรนเนอร์ทุกวันว่ากินอะไรไปบ้าง สารอาหารเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่าเราโกหก)

นอกจากนี้ เทรนเนอร์ก็ชอบเพิ่มเวลาออกกำลังกายของเราด้วย และเราก็ทำได้ไม่ครบ เพราะเราไม่ได้ชอบออกกำลังกาย และเราออกกำลังกายได้เต็มที่แค่วันละ 30 นาที ถ้าเทรนเนอร์กำหนดว่าสัปดาห์หนึ่งต้องออกกำลังหาย 300 ชั่วโมง เราก็ทำไม่ได้ เราไม่ได้มีวินัยมากพอ ช่วงหลังเราขี้เกียจออกกำลังกาย เราก็จะไม่ออก แต่โกหกเทรนเนอร์ไปว่าออก เทรนเนอร์ไม่ได้ขอดูหลักฐานการออกกำลังกายของเรานี่นา

พอครบสัปดาห์เราต้องถ่ายรูปตัวเราไปให้เทรนเนอร์ดู ของเราเน้นหน้าท้อง ก็จะดูว่าหน้าท้องยุบลงไหม ซึ่งความจริงมันก็ไม่ยุบลงหรอก(ในความคิดเรา) แต่บางทีเทรนเนอร์เห็นว่ามันยุบลง เราคิดว่าคงเป็นเพราะบางวันเรากินอาหารน้อยมาก และช่วงเวลาที่ถ่ายรูปก็มีผล ถ้าถ่ายรูปตอนเช้า ยังไม่กินข้าว หน้าท้องก็จะไม่ใหญ่สักเท่าไหร่ ถ้าเอาไปเทียบกับรูปสัปดาห์ก่อนที่ถ่ายตอนเย็นหลังจากกินอาหารไปเต็มที่ หน้าท้องเราต้องดูเหมือนยุบลงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเลยคิดว่าต่อไปนี้ไม่เอาอีกแล้ว เทรนเนอร์ออนไลน์ ถ้าอยากออกกำลังกายก็ไปฟิตเนสดีกว่า อย่างน้อยก็มีแรงกระตุ้นให้ออกกำลังกายมากกว่า