วัฒนา เซฟแหม่มโพธิ์ดำ จี้ตร. อย่าปิดปากพลเมืองดี
https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_3921970
วัฒนา เมืองสุข โพสต์เฟซบุ๊ก #saveแหม่มโพธิ์ดำ หลังตร.ประกาศล่าตัวดำเนินคดีข้อหาผิดพรบ.คอมพ์ แฉกักตุนหน้ากากของเสี่ยบอย ชี้อย่าใช้กฎหมายปิดปากพลเมืองดี
วันที่ 10 เม.ย. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Watana Muangsook ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีแอดมินเพจแหม่มโพธิ์ดำ ในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการแชร์ไลฟ์สดขายหน้ากากอนามัยของเสี่ยบอย ว่า
อย่าฉวยโอกาสใช้กฎหมายรังแกหรือปิดปากพลเมืองดี
หน้ากากอนามัยถูกประกาศเป็นสินค้าควบคุมและกำหนดราคาจำหน่ายปลีกไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท ดังนั้น การที่เสี่ยบอยไลฟ์โฆษณาว่ามีหน้ากากอนามัยถึง 200 ล้านชิ้นขายในราคาที่เกินประกาศจึงเป็นความผิด ส่วนที่เพจแหม่มโพธิ์ดำนำโพสต์ของบุคคลดังกล่าวมาแสดงความเห็นต่อยอดเพื่อให้เกิดการตรวจสอบและดำเนินคดีจึงขาดเจตนาทุจริต หรือโดยหลอกลวง หรือต้องการช่วยเหลือผู้กระทำผิด การกระทำดังกล่าวจึงไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
การที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (พล.ต.ต. ปัญญา ปิ่นสุข) แถลงข่าวจะดำเนินคดีกับเจ้าของเพจแหม่มโพธิ์ดำที่นำโพสต์ดังกล่าวมาแชร์ต่อฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จึงสร้างความสับสนเพราะรอง ผบช. ก. คนเดียวกันก็เพิ่งแถลงข่าวการจับกุมนายศรสุวีร์หรือเสี่ยบอยที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลมาสู่การจับกุมนายพันธ์ยศได้พร้อมของกลางซึ่งก็เป็นผลมาจากโพสต์ของเสี่ยบอยที่เพจแหม่มโพธิ์ดำเอามาเผยแพร่ แสดงว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดแล้วจะมาดำเนินคดีกับผู้ที่ชี้เบาะแสได้อย่างไร
การกระทำความผิดฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 14 (1) จะต้องมีเจตนาพิเศษคือโดยทุจริต หรือโดยหลอกหลวง และการกระทำนั้นต้องน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ดังนั้น ก่อนแจ้งข้อหาท่านรองต้องตอบให้ได้ก่อนว่าการกระทำดังกล่าวมีเจตนาทุจริตหรือโดยหลอกลวงและเสียหายกับประชาชนอย่างไร ไม่เช่นนั้นคนแจ้งข้อหาจะกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง อย่ามักง่ายกับประชาชนครับ
กรณีไม่ต่างจากการโพสต์ข้อความว่า “เงินเยียวยา 5,000 บาท เข้าบัญชีแล้วแค่เศษเงินหลังตู้เย็น” อาจจะฟังแล้วไม่เหมาะสมแต่ก็ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์เช่นกัน จำไว้ว่าไทยเป็นสังคมนิติรัฐ (legal state) คือสังคมที่ใช้กฎหมายเป็นหลักในการปกครอง รัฐจึงต้องเคารพหลักการของกฎหมายและไม่ใช้อำนาจตามอำเภอใจหรือทำตามกระแส ประเทศไทยเสียหายเพราะศรีธนญชัยสอพลอมาเยอะแล้ว
วัฒนา เมืองสุข
10 เมษายน 2563
https://www.facebook.com/WatanaMuangsook/photos/a.692230194245846/1839251779543676/?type=3
ก้าวไกล แฉรับจ้างลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน กรอกข้อมูลผิดให้เป็นถูกได้
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3921419
ก้าวไกล แฉอาชีพใหม่ รับจ้างลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน กรอกข้อมูลผิดให้เป็นถูกได้
วันที่ 10 เม.ย. นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า ขณะนี้ มีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึงมาตราการเยียวยาจากรัฐบาลตามโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และการช่วยเหลือจากรัฐบาลอื่นๆ เพื่อบรรเทา ผลกระทบจากปัญหาไวรัสโควิด -19 หลายครอบครัวเช่าบ้านผู้อื่นอยู่ก็ไม่ได้รับเงินตามมาตรการคืนมิเตอร์ไฟฟ้า ขณะที่อีกหลายคนที่เป็นคนทำงานรับจ้างทั่วไป ก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการช่วยเหลือ และอีกหนึ่งกลุ่มที่เข้าไม่ถึงระบบการลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยา คือคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น
“
ทำให้เกิดอาชีพใหม่ คือเปิดโต๊ะรับลงทะเบียนในเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยมีค่าบริการครั้งละ100-500 บาท” นาย
ณัฐชา กล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ประชาชนร้องเรียนว่า เขาลงทะเบียนเองไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง แต่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือเจ้าของบ้านสั่งพักงานไม่มีกำหนด โดยเขามีลูกน้องที่ต้องรับผิดชอบหลายชีวิต
แต่เมื่อไปใช้บริการที่มีการเปิดโต๊ะรับจ้างเขากรอกอาชีพว่ารับจ้าง สุดท้ายสามารถลงทะเบียนได้ สิ่งเหล่านี้คือเทคนิคที่หลอกล่อระบบที่ไร้มาตรฐานของรัฐบาล ที่นำเอาหลักเกณฑ์เลือกปฏิบัติมาเป็นเงื่อนไขในการรับเงินเยียวยา ทั้งที่การเยียวยาประชาชนในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้คือการช่วยเหลือประชาชนและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ การเยียวยาประชาชนไม่ใช่การพิสูจน์ความจนเพื่อรับเงินจากรัฐบาล
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลต้องทบทวนหลักเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์การเยียวยาจากผลกระทบโควิด-19 ตนย้ำอีกครั้งว่าประชาชนทุกคนเดือดร้อนและทุกคนทุกอาชีพมีสิทธิ์ได้รับหน้าที่ของรัฐบาลคือดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเท่าเทียม
JJNY : วัฒนาจี้อย่าปิดปากพลเมืองดี/ก้าวไกลแฉรับจ้างลงทะเบียน/กมธ.จับตาสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์/ติดเชื้อเพิ่ม 50 เสียชีวิต 1
https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_3921970
วันที่ 10 เม.ย. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Watana Muangsook ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีแอดมินเพจแหม่มโพธิ์ดำ ในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการแชร์ไลฟ์สดขายหน้ากากอนามัยของเสี่ยบอย ว่า
หน้ากากอนามัยถูกประกาศเป็นสินค้าควบคุมและกำหนดราคาจำหน่ายปลีกไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท ดังนั้น การที่เสี่ยบอยไลฟ์โฆษณาว่ามีหน้ากากอนามัยถึง 200 ล้านชิ้นขายในราคาที่เกินประกาศจึงเป็นความผิด ส่วนที่เพจแหม่มโพธิ์ดำนำโพสต์ของบุคคลดังกล่าวมาแสดงความเห็นต่อยอดเพื่อให้เกิดการตรวจสอบและดำเนินคดีจึงขาดเจตนาทุจริต หรือโดยหลอกลวง หรือต้องการช่วยเหลือผู้กระทำผิด การกระทำดังกล่าวจึงไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
การที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (พล.ต.ต. ปัญญา ปิ่นสุข) แถลงข่าวจะดำเนินคดีกับเจ้าของเพจแหม่มโพธิ์ดำที่นำโพสต์ดังกล่าวมาแชร์ต่อฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จึงสร้างความสับสนเพราะรอง ผบช. ก. คนเดียวกันก็เพิ่งแถลงข่าวการจับกุมนายศรสุวีร์หรือเสี่ยบอยที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลมาสู่การจับกุมนายพันธ์ยศได้พร้อมของกลางซึ่งก็เป็นผลมาจากโพสต์ของเสี่ยบอยที่เพจแหม่มโพธิ์ดำเอามาเผยแพร่ แสดงว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดแล้วจะมาดำเนินคดีกับผู้ที่ชี้เบาะแสได้อย่างไร
การกระทำความผิดฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 14 (1) จะต้องมีเจตนาพิเศษคือโดยทุจริต หรือโดยหลอกหลวง และการกระทำนั้นต้องน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ดังนั้น ก่อนแจ้งข้อหาท่านรองต้องตอบให้ได้ก่อนว่าการกระทำดังกล่าวมีเจตนาทุจริตหรือโดยหลอกลวงและเสียหายกับประชาชนอย่างไร ไม่เช่นนั้นคนแจ้งข้อหาจะกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง อย่ามักง่ายกับประชาชนครับ
กรณีไม่ต่างจากการโพสต์ข้อความว่า “เงินเยียวยา 5,000 บาท เข้าบัญชีแล้วแค่เศษเงินหลังตู้เย็น” อาจจะฟังแล้วไม่เหมาะสมแต่ก็ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์เช่นกัน จำไว้ว่าไทยเป็นสังคมนิติรัฐ (legal state) คือสังคมที่ใช้กฎหมายเป็นหลักในการปกครอง รัฐจึงต้องเคารพหลักการของกฎหมายและไม่ใช้อำนาจตามอำเภอใจหรือทำตามกระแส ประเทศไทยเสียหายเพราะศรีธนญชัยสอพลอมาเยอะแล้ว
วัฒนา เมืองสุข
10 เมษายน 2563
https://www.facebook.com/WatanaMuangsook/photos/a.692230194245846/1839251779543676/?type=3
ก้าวไกล แฉรับจ้างลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน กรอกข้อมูลผิดให้เป็นถูกได้
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3921419
ก้าวไกล แฉอาชีพใหม่ รับจ้างลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน กรอกข้อมูลผิดให้เป็นถูกได้
วันที่ 10 เม.ย. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า ขณะนี้ มีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึงมาตราการเยียวยาจากรัฐบาลตามโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และการช่วยเหลือจากรัฐบาลอื่นๆ เพื่อบรรเทา ผลกระทบจากปัญหาไวรัสโควิด -19 หลายครอบครัวเช่าบ้านผู้อื่นอยู่ก็ไม่ได้รับเงินตามมาตรการคืนมิเตอร์ไฟฟ้า ขณะที่อีกหลายคนที่เป็นคนทำงานรับจ้างทั่วไป ก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการช่วยเหลือ และอีกหนึ่งกลุ่มที่เข้าไม่ถึงระบบการลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยา คือคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น
“ทำให้เกิดอาชีพใหม่ คือเปิดโต๊ะรับลงทะเบียนในเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยมีค่าบริการครั้งละ100-500 บาท” นายณัฐชา กล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ประชาชนร้องเรียนว่า เขาลงทะเบียนเองไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง แต่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือเจ้าของบ้านสั่งพักงานไม่มีกำหนด โดยเขามีลูกน้องที่ต้องรับผิดชอบหลายชีวิต
แต่เมื่อไปใช้บริการที่มีการเปิดโต๊ะรับจ้างเขากรอกอาชีพว่ารับจ้าง สุดท้ายสามารถลงทะเบียนได้ สิ่งเหล่านี้คือเทคนิคที่หลอกล่อระบบที่ไร้มาตรฐานของรัฐบาล ที่นำเอาหลักเกณฑ์เลือกปฏิบัติมาเป็นเงื่อนไขในการรับเงินเยียวยา ทั้งที่การเยียวยาประชาชนในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้คือการช่วยเหลือประชาชนและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ การเยียวยาประชาชนไม่ใช่การพิสูจน์ความจนเพื่อรับเงินจากรัฐบาล
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลต้องทบทวนหลักเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์การเยียวยาจากผลกระทบโควิด-19 ตนย้ำอีกครั้งว่าประชาชนทุกคนเดือดร้อนและทุกคนทุกอาชีพมีสิทธิ์ได้รับหน้าที่ของรัฐบาลคือดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเท่าเทียม