เล่าเท่าที่กิน.....บอกเท่าที่ไป เบตงก็ต้อง O.K. ทริปกินเบาๆ 31 ร้าน ใต้สุดแดนสยาม แบบสบายกระเป๋า
เนื่องจากภาระกิจชีวิต และรู้สึกชีวิตค่อนข้างหนักหน่วง ทำให้ห่างหายไปนานจากการเล่าเรื่องต่างๆ อย่างที่เคยตั้งใจไว้ จนตอนนี้มีเรื่องที่ดองเก็บไว้ว่าจะมาเล่าเป็นกระบุงโกย แต่ก็พยายามจะมาเล่าเรื่อยๆนะครับ 
ทริปนี้เริ่มจากคุณป๊าอยากไปเบตงมาตั้งนานแล้ว กับพอดีช่วงนี้ทั้งครอบครัวเราพอจะหาเวลาว่างได้ค่อนข้างยาวช่วงหยุดวันเฉลิมพระชนมพรรษา ร.10 ลูกๆเลยจัดให้ พาป๊า-ม๊า ไปจัดทริปยาวๆ แบบตามใจฉัน เน้นของอร่อยล้วนๆ แวะเก็บทุกร้านที่ทำการบ้านมา จนพี่รถตู้ยังงงว่าไอ้บ้านนี้มันจะกินบ้าเลือดไรขนาดนั้น
 
P.S ทุกร้าน ทุกสถานที่ครอบครัวเราจ่ายเงินกันเอง งั้นมันก็ต้องเป็นกระทู้ CR แหละ 
P.S.2 ถ้ารูปไม่สวยไม่ชัด กาก ต้องขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้นะครับ ถ่ายกันตามมีตามเกิดจากล้องมั่ง มือถือมั่ง
P.S.3 รสชาติ ความอร่อย เป็นเรื่องส่วนบุคคลผมแค่เล่าและบรรยายสิ่งที่ได้กินมาตามความรู้สึก อาจไม่ถูกปากหลายท่านได้นะครับ
P.S.4 มีหลายๆร้านที่อยากไป แต่ด้วยเส้นทาง เวลา หรือเกินกระเพาะทั้ง 6 จะยัดลงไปไหวเลยข้ามไปนะครับ
P.S. 5 พี่ๆ เพื่อนๆมีอะไรแนะนำติชมได้นะครับ
ทริปนี้เราเดินทางตั้งแต่กลางปีที่แล้วนะครับ ดองไว้นานมาก ช่วงนี้อ่านแต่ข่าว COVID 19 จนเครียดไปหมดละ มาอ่านอะไรแก้แก้เครียด แต่หนักท้องกันดีกว่าครับ
มาเริ่มทริปกันเลย

Day :1  25/07/19 หาดใหญ่-เบตง Air Asia FD-3116 8.30 
ยากที่สุดในทริปครั้งนี้ก็น่าจะเป็นการจองตั๋วนี่แหละครับ เล็งๆกันเป็นเดือนราคาขึ้นๆลง พี่พี่ เพื่อนๆคนไหนมีทริคในการจองตั๋วถูกๆ ช่วยแชร์หน่อยนะครับ 
เราเดินทางกันเช้าวันก่อนที่จะเป็นวันหยุดยาวเล็กน้อย รถกรุงเทพค่อนข้างติดเลยทีเดียว สมาชิกมาค่อนข้างช้า โชคดีที่เราใช้สิทธิ Xpress Check In บัตรร่วม ธ.กรุงเทพ-Air Asia เลยค่อนข้างประหยัดเวลารอคิวเช็คอินไปได้มาก แล้วใช้คูปองน้ำหนักกระเป๋าฟรีทำให้เราไม่ต้องเสียค่าน้ำหนักซักบาทในทริปนี้ครับ  เวลาล่าช้าละทำให้ แผนที่เราจะเข้าไปหาอะไรรองท้องก่อนบินใน Miracle Lounge เปลี่ยนเป็นนั่งงับเบอร์เกอร์คิงส์ หน้าเกตแทนเพราะกลัวตกเครื่อง พอขึ้นเครื่องมาดีเลย์ก่อนขึ้นนิดหน่อย ส่วนระหว่างบินไม่มีไรมากหลับๆ ตื่นๆไปตามเรื่องราว หางแดงทำเวลาได้ค่อนช้างดีครับเวลาถึงไม่มีดีเลย์ 
10.30 ถึงสนามบินหาดใหญ่ เอากระเป๋าจากสายพานเสร็จก็เดินต๊อกแต๊กออกมาด้านนอก มาหาดใหญ่ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ ป.2 มาครั้งนี้ตกใจเลยครับ รู้สึกว่าน่าจะใหญ่โตกว่าสนามบินในประเทศที่อื่นๆมากเลย  เดินออกมาถึงก็โทรหาพี่รถตู้ที่นัดไว้ รถใหม่มาเชียวเป็นรถ TOTOTA รุ่นใหม่ยังป้ายแดงพี่เขาบอกว่าพึ่งออกรถมาจากโชวรูมที่กรุงเทพขับกลับมาถึงหาดใหญ่เมื่อวันจันทร์ ได้มารับกรุ๊ปเราเป็นกรุ๊ปแรกเลย แหมพี่ก็ไม่บอกกันก่อนจะได้ติดรถมาจากกรุงเทพประหยัดค่าตั๋วไปได้หลายตังค์


รถใหม่ป้ายแดงประเดิมทริปแรกเลย


แน่นอนว่ามื้อเช้าอย่างเบอร์เกอร์คิงส์ ไม่ครณาท้องคณะเรา เลยอยากหาไรกินง่ายๆก่อนเดินทางยาวไปเบตง

1.        ลูกชิ้นถนัดศรี
เป็นร้านแรกของทริปนี้เลยครับ ดูเหมือนจะมีหลายร้านใช้ชื่อเดียวกัน อยู่ติดๆกันในเมืองหาดใหญ่ ลงจากรถเล็งจากร้านไหนมีคนนั่งเยอะสุดเราเข้าร้านนั้น เอาง่ายๆอย่างี้แหละ  ก๋วยเตี๋ยวคนละชามผลัดกันชิม กับเปาะเปี๊ยะสดที่เห็นว่าเป็นเมนูแนะนำ
            ก๋วยเตี๋ยวทั้งหมูและเนื้อ น้ำข้นน้ำใส หอมอร่อยครับ ทั้งสด เปื่อย ลูกชิ้น อร่อยเลย ตัวเปาะเปี๊ยะ แปลกจากที่เคยกินค่อนข้างมาก เหมือนจะใส่ไส้มันแกวเหมือนทางภูเก็ต แต่น้ำราดเผ็ดมากเลยครับ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ 
            แวะซื้อกาแฟจากร้านฝั่งตรงข้ามแล้วเราก็เริ่มการเดินทางยาวๆไปเบตงกันเลย


คุณป๊ากะพี่ทหาร 


คุณแฟนกะพี่เงาะ

ปั๊ม ป.ต.ท. อำเภอธารโต
ขับรถกันมายาวๆเฉียดตัวเมืองปัตตานี และแวะวนรอบศาลหลักเมือง ยะลา เราไม่ได้ลงจากรถกันเลยเพราะสมาชิกส่วนใหญ่หลับกัน ระหว่างทางเท่าที่สังเกต ไม่มีอะไรน่ากลัว ถนนใหญ่4 เลนส์ เรียบวิ่งสบายตลอดทางมีด่านตรวจบ้างเป็นระยะๆ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ขับรถเดินทางกันชิลล์มาก มีชุมชน ร้านขายของและตลาด ดูเจริญกว่าหลายๆจังหวัดตลอดสองข้างทาง ก็ขับยาวกันมาเรื่อยๆและหยุดแวะที่แรกถึงปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท. ที่อำเภอธารโต หน้าปั๊มมีรูปเงาะป่าใหญ่เบิ้มให้ถ่ายรูปกันได้ด้วย พร้อมมีที่ทหารแต่งตัวเต็มยศถือปืนเหมือนในหนังยืนคู่กับรถฮัมวี่จอดในปั๊มด้วย 

เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ยืดเส้นสายกันเล้กน้อยเราก็เดินทางกันต่อ หลังออกจากอำเภอธารโต สองข้างทางเริ่มเป็นสวนทุเรียน กับหมู่บ้านและเพิงขายของเป็นระยะๆ จุดหมายต่อไปอยุ่ที่จุดชมวิวสะพานเขื่อนบางลาง ไม่ค่อยสวยอย่างในรูปรีวิวคนอื่นเลย ช่วงนี้น่าน้ำน้อยไปหน่อย ไว้คราวหน้าจะมาดูใหม่นะ

16.00 น. และแล้วเราก็มาถึงเบตงซะที ดูเจริญหูเจริญตาคึกคักจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเมืองชายแดนใต้สุด ที่อยู่ในหุบเขาเลย เบตงดูปลอดภัยดีนะครับไม่น่ากลัวเลย นักท่องเที่ยวก็เยอะมาก ตอนแรกว่าจะเล่าประวัติเมืองเบตงคร่าวๆ แต่เดี๋ยวจะยาวเกินเพื่อนๆไปหาอ่านเอาเองละกันนะครับ
เราเข้าพักที่ โรงแรม Modern Thai Hotel อยู่ใกล้บริเวณหอนาฬิกา และอุโมงเบตงมงคลฤทธิ์เลย เข้าที่พักเรียบร้อยเราให้พี่รถตู้ปพักก่อนเหนื่อยมาทั้งวันละห้องเก่านิดหน่อย สะอาดพอใช้เท่าที่สังเกตุคนเข้าพักค่อนข้างเยอะเป็นชาวจีนมาเลย์ เย็นนี้เรามีจองไว้ที่ร้าน ต้าเหริน ใกล้ๆที่พักเดินแค่ 100 เมตร คณะเราพักในห้องแปปนึง ก็เริ่มหิวเนื่องจากคลาดเวลามื้อเที่ยงมา เลยเดินเล่นมาถึงที่ร้านก่อนเวลาที่จองไว้แล้วขอกินก่อนเลย

2.        ต้าเหริน
ร้านดังของเบตง ที่ใครๆก็ต้องมาร้านนี้เราอ่านรีวิวมาก่อนว่ามีเมนูพิเศษที่ต้องจองล่วงหน้าคือ
หมูแดง ลูกชิ้นกุ้ง และปลิงทะเล เราโทรมาสั่ง หมูแดง และลูกชิ้นกุ้งไว้ล่วงหน้า 1 อาทิตย์ แต่มาถึงแอบเสียใจว่าลูกชิ้นกุ้งไม่มีซะงั้น โดยรวมถือว่าประทับใจกับหลายๆเมนู ราคาอาหารไม่แพงเลยถ้าเทียบกับปริมาณแต่ละจานที่ค่อนข้างใหญ่ มื้อนี้ 6 จานใหญ่ๆ รวมน้ำแค่ 1,430 บาท เอง

·      เคาหยก 
หนึ่งในเมนูแนะนำของทางร้านเป็นเคาหยกแบบอบกับเผือก หมูสามชั้นต้มแล้วทอดจนกรอบหนังพอง เรียงในชามสลับกับเผือกที่น่าจะทอดมาแล้ว ราดซอสที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศจำพวกพะโล้แล้วนึ่งอย่างน้อย 8 ชั่วโมง กลิ่นหอมเครื่องเทศและเผือก หนูสามชั้นนุ่มไม่เละ เผือกร่วน ถือว่าค่อนข้างดี

·      ผักน้ำผัดไฟแดง 
ผักน้ำ ซีหยางไช่ ของโปรดหนึ่งในของดีเบตง อยากสั่งแบบซ่างทางซีหยางไช่ หรือซุปสามไข่ แบบกวางตุ้ง แต่ทางร้านไม่มีเลยสั่งมาเป็นผัดไฟแดง ยอดผักอ่อน สดกรอบ ผัดได้ดีหมอกลิ่นกระทะ รสชาติดี เสียว่าผัดออกมามันไปหน่อย
 

·      มั้นหมิ่น หรือผัดหมี่เหลืองเบตง
เมนูแนะนำอีกแล้ว มาจานใหญ่พอควรเลยใส่จานมาดูไม่น่ากินแต่อร่อยเกินหน้าตา ผัดแบบค่อนข้างแฉะแต่เส้นหอมกระทะ ใส่ทั้ง หมู หมึก ลูกชิ้นปลา กุ้ง ผักกวางตุ้ง ประทับใจเส้นเหนียวหนึบดีเลย เส้นกับสไตล์การผัดอย่างนี้ไม่ค่อยเจอในกรุงเทพฯเลย

·      ไก่เบตง หรือไก่เก้าชั่ง อีกหนึ่งของดีของอำเภอนี้
จุดเด่นของไก่เบตงคือตัวใหญ่เนื้อเยอะ เนื้อแน่นนุ่ม หนังบาง ไม่มันไก่ต้มที่ดีต้องไม่สักแต่ต้มจนแห้งสากเป็นกระดาษที่หาร้านต้มได้แบบนี้น้อยลงไปทุกๆที ทางร้านต้มมาได้ดี ไม่ Over cook ราดซีอิ๊วหมักเองของทางร้านที่น่าจะใช้ถั่วดำผสม และหมักสองครั้ง ทำให้สีเข้มแต่ไม่เค็มมาก หอมถั่วผสมกับกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ

·      หมูทอดเต้าหูยี้
เห็นเป็นเมนูแนะนำอีกเมนู อันนี้เป็นหมูทอดคลูกแป้งบาง ทอดมาแห้งๆ หอมกลิ่นหมักเต้าหู้ยี้ รสเค็มตามด้วยหวานเล็กน้อยน่าจะถูกใจสายเบียร์

·      หมูแดงต้าเหริน
เมนูพิเศษที่ต้องสั่งจองล่วงหน้า ถือว่าค่อนข้างประทับใจใช้คอหมูหมักสไตล์ใกล้เคียงสูตรกวางตุ้งที่หอมอั๊งคัก เครื่องพะโล้ ฮอยซินซอส รสหวานนำ ใช้คอหมูทำให้มันที่แทรกอยู่ละลายออกมาเนื้อนุ่มหอม เสิร์ฟพร้อมหมั่นโถว ถึง 10 ลูก หมั่นโถวเนื้อดีเนียนนุ่มอร่อย

·      ก๊กโป๋ฉ๋า น้ำชาอันนี้ไม่มีรูปแต่อยากเล่าถึง ที่เบตงค่อนข้างดื่มชาหลากหลายกว่าทางกรุงเทพ ของที่ร้านต้าเหรินเสิร์ฟ ก๊กโป๋ฉ๋า เป็นชาผู่เอ๋อ (โป๋หลี) ที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นเคย ผสมกับเก็กฮวย น่าจะผสมชะเอมลงไปด้วยนิดหน่อย ชาแบบเคยเจอแต่ที่ฮ่องกง และที่จีน หอมผู่เอ๋อดิบได้กลิ่นสดชื่นเปรี้ยวอมหวานปะแล่มจากเก็กฮวยและชะเอม แก้เลี่ยนได้ดีมาก


3.  อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
ออกจากร้านต้าเหรินเราก็มาเดินเล่นย่อยกันหน่อย เดินมานิดเดียวก็ถึงอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เวลาประมาณ 18.00 อุโมงค์เริ่มเปิดไฟให้เห็นสวยงามแล้วถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วเดินกลับที่พักกัน
ประวัติอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
http://www.xn--42cg5bt7g4ebm.com/15634049/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%A4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C

4.โรตีหอนาฬิกา กินมันทุกวันเลย นี่ลืมถ่ายรูปได้งัย
ร้านนี้เราแวะตั้งแต่รอบแรกก่อนถึงอุโมงค์ซะอีก เดินไปกินไปถึงอุโมงค์แล้วเดินกลับมาซื้ออีก เป็นร้านข้างทางที่อร่อยดูสะอาดนมาไม่ขาดสาย แต่กลับรอไม่นานเลย คนขายก็อัธยาศัยดี แป้งโรตีทำได้หอมกรอบนอกนุ่มในดี หมักแป้งได้อร่อยเลยแหละ แฟนผมโปรดโรตีมาก เราเลยมีเบิ้ลถึงสองรอบในคืนเดียว อีกอย่างที่ทำให้ต่างจากโรตีที่เคยกินคือร้านใช้นมข้นหวานของมาเลย์ ม๊ะบอกว่าหวานน้อยกว่า มันกว่า แถมยังถูกกว่าด้วย  
 
ซื้อน้ำซื้อขนมเตรียมไว้นิดหน่อยแล้วรีบเข้านอนกันเพราะมีโปรแกรมตื่นตี 4 ไปดูทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

หมดโควต้าตัวอักษรละ ไปต่อกันนะครับ