เมื่อกล่าวถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลายคนคงตัดสินใจยากที่จะไปท่องเที่ยว ทีมเราก็เช่นกัน แต่ด้วยความงดงามของพื้นที่และธรรมชาติ ทำให้พวกเรารวบรวมความกล้า ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดใช้เวลา 3 วัน 2 คืน (23-25 ตุลาคม 2563) กินหรู อยู่สบายท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม และปลอดภัย ด้วยงบประมาณคนละ 1,486 บาท ใช่แล้วครับ งบประมาณคนละเท่านั้นจริง ๆ พวกเราใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่งของรัฐบาลบางส่วน
ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกผมเป็นตัวแถม เนื่องจากทีมศิษย์เก่าปริญญาโทพยาบาลศาสตร์ ม.อ. ของเพื่อนผมเค้าตกลงไปเที่ยวกัน 11 คน เพื่อนเลยชวนผมไปร่วมทริปด้วย เลยรีบตอบรับทันทีเพราะวางแผนไว้นานแล้วว่าจะไปเยือนเบตงสักครั้ง สรุปทริปนี้เราไปกัน 13 คน (ผู้ใหญ่ 12 เด็กน้อย 1) ออกเดินทางจากอำเภอหาดใหญ่ วันที่ 23 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 09.00 น. โดยใช้รถยนต์ Mitsibishi Pajero Sport 2 คัน นี่คือโฉมหน้าผู้ร่วมทริป
การเดินทางขาไปเราใช้เส้นทางหาดใหญ่-ยะลา (สายเก่า) ขากลับ ใช้เส้นทางยะลาสายใหม่ (รถที่ผมนั่งเรานั่งกัน 6 คน เพื่อนผมขับ ผมนั่งคู่คนขับ ส่วน 4 คน (เจ้าของรถและเพื่อนๆ) นั่งเบียดกันแถว 2 เรายุบแถว 3 เพราะจะได้มีพื้นที่ตั้งกระเป๋า) จากหาดใหญ่เดินทางผ่านอำเภอจะนะ-เทพา จังหวัดสงขลา เดินทางแบบชิว ๆ สบาย ๆ ไม่คิดอะไรกันมากทีมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเริ่มมาถึงอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เริ่มพูดคุยกันสนุกขึ้น (กลบเกลื่อนความกลัวในใจ(ของผม) และน่าจะคนอื่น ๆ ด้วย) เมื่อเข้าสู่อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ผมก็เริ่มสนิทกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของเพื่อนผมมากขึ้น เลยเริ่มคุยกันสนุกขึ้น มากขึ้นกว่าช่วงผ่านอำเภอโคกโพธิ์ 555 จากอำเภอเมืองเดินทางผ่านอำเภอบันนังสตา-ธารโต และเข้าสู่อำเภอเบตง โดยสวัสดิภาพ ตลอดการเดินทางมีฝนตกสลับแดดจ้า เส้นทางสบาย ปลอดภัย (แต่แอบใจหายนิด ๆ เมื่อผ่านจุดที่มีคนใส่ชุดดำจอดรถอยู่ข้างทางหรือเดินอยู่ แค่แอบคิดว่าโดนเปล่าน่ะ) ถนนเพิ่งสร้างใหม่ มีด่านทหารตลอดเส้นทาง ตลอดทางส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาธรรมชาติสวยงามมาก ๆๆๆๆ สุดท้ายเราก็ถึงที่พักโรงแรม Garden View Betong ทริปนี้อย่างที่บอกคือ เราเน้น กินหรู ท่ามกลางธรรมชาติและเมืองสวยงาม แต่จะขอแบ่งรีวิวแยกระหว่างการกินหรู และ แหล่งท่องเที่ยว
EP. 1 กินหรู
เรื่องกินกลายเป็นเรื่องใหญ่สุดสำหรับทริปเราทีมรีวิวอาหารก็มา (ร้านที่เราเลือกต้องอาหารอร่อย ดูหรูเหมาะสมฐานะ แต่ที่สำคัญต้องพร้อมใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง ไม่มี 2 อย่างหลัง อร่อยและหรูยังไงเราก็ไม่เลือก555) เราได้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันหลัง Check in ที่พักแล้ว 5,400 บาท (40%) เป็นงานหนักของเราแล้วว่าจะจ่ายยังไงให้หมด (แต่เดี๋ยวก่อน เราต้องออกเพิ่มตั้ง 60% น่ะ ณ จุดนี้ มารดำมารขาวก็มา ทีมนึงก็บอกว่าใช้ตามที่เราจำเป็นจะใช้ อีกทีมก็บอกว่าไม่ได้เราต้องใช้ให้หมด) ความมันจึงบังเกิด
วันที่ 23 ตุลาคม 2563
- เราทานอาหารเที่ยงกันที่ร้าน Maki ในอำเภอเมืองยะลา(ติดกับปั๊ม Esso ก่อนถึงสี่แยกโรงพยาบาลยะลา) อาหารอร่อย พนักงานน่ารัก บริการดีมาก เมนูแนะนำคือ ราดหน้า (จานใหญ่มาก) ซุปเนื้อ ข้าวขมิ้นปลากะพง น้ำพริกลงเรือ และ อื่น ๆ มากมาย
- ตอนเย็นเราทานอาหารกันที่ร้านต้าเหยิน ร้านอาหารจีนที่ขึ้นชื่อมากในเมืองเบตง เราไปแบบไม่ได้จองล่วงหน้า ชั้น 3 ยังพอมีที่นั่ง คนเยอะมาก ๆๆๆๆ แต่เราก็สู้ไม่ถอย วิธีเลือกอาหารของเราคือ เดินรีวิวโต๊ะข้าง ๆ ว่าเค้าสั่งเมนูอะไรกัน เราสั่งตามเค้า แต่เสียดดายอาหารบางอย่างต้องจองล่วงหน้า 1 วัน ไม่เป็นไร เราเก็บประสบการณ์นี้ไว้ เพราะเราดันไปเห็นหมูแดงหมั่นโถน่าทานมากกกกก พอสั่งปั๊บ พนักงานบอกว่าเสียใจด้วยจร้า ต้องสั่งล่วงหน้า ของมีเฉพาะคนสั่งจอง แต่ทริปนี้เราต้องได้ "ทานหมูแดงหมั่นโถ" หมูแดงหมั่นโถต้องตกถึงท้องเรา
สรุปเรานั้งกัน 2 โต๊ะ เพื่อความสะใจของการทานอาหาร เราสั่งเมนู หมี่เบตงผัด ซี่โครงหมูสวรรค์ ผัดผักน้ำ หมูทอดเต้าหู้ยี้ ไก่เบตงสับ ถั่วเจี๋ยน เราทานกันอย่างอร่อย รูปมีเพียงเมนูบางอย่างที่ถ่ายไว้ทันเวลา สรุปคือ อร่อยทุกเมนู พนักงานบริการดีทุกคน แถมให้คำแนะนำการสั่งอาหารจานเล็กจานใหญ่กลัวเราทานไม่หมด เป้นห่วงลูกค้า เราเลยให้ 3 ผ่าน แต่เรายังค้างคาใจกับหมูแดงหมั่นโถวววว
- การทานอาหารเย็นของเรายังไม่สะใจพอ เพราะเรารีวิวมาแล้วว่ามีโรตีเจ้าอร่อยเด็ดอยู่ที่ตลาดไนบาซาร์ ใกล้ ๆ อุโมงค์เบตง สุดท้ายก็หามาทานกันจนได้ ก็อร่อยสมคำล่ำลือ ชอบแบบใส่ไข่หรือไม่ใส่ไข่ก็โอเคทั้งนั้นครับ แนะนำ ๆ
วันที่ 24 ตุลาคม 2563
วันนี้เราไม่ได้ทานอาหารเช้ากัน เนื่องจากทางโรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้ อีกอย่างคือเราวางแผนไปชมทะเลหมอดอัยเยอร์เวง (ไฮไลต์ของทริปนี้) เราเลยรวบการทานอาหารเช้าและเที่ยงไว้ด้วยกัน มื้อนี้จึงต้องพิเศษกันสักหน่อย
- อาหารมื้อรวบ หลังกลับจากทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เวลาประมาณ 10.30 น. เราตกลงทานกันที่ร้าน "เจริญข้าวมันไก่เบตง" ร้านนี้ถือว่าเป็น Signature ของอำเภอเบตงเพราะใครไปเบตงต้องได้ทานไก่เบตง ร้านนี้ถือว่าเด็ด พนักงานทุกคนก็บริการดีมาก ๆๆ ให้คำแนะนำดี เราต้องทานแบบจัดเต็มที่ร้านมีหลายเมนู เราก็อยากทานทุกเมนู เลยต้องเลือกแบบสั่งมาตั้งกองกลางเพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลอง เมนูละ 2 จาน เมนูที่เราเลือก คือ หมี่แกง (เป็นแดงกะทิซี่โครงหมูใส่เส้นหมี่ขาว) ไก่สับ หมูกรอบ หมูแดง ก๋วยฉับ ขาหมู และสั่งข้าวมันมาคนละจาน น้ำชา/กาแฟ คนละแก้ว ด้วยความหิวเลยลืมเก็บภาพอาหารมาฝาก สรุปทุกคนทานกันอิ่มมาก แต่ชีวิตต้องสู้เมื่อรีวิวมาแล้วก็ต้องเดินต่อเพื่อความสุขของทุกคน ออกจากร้านข้าวมันไก่ ก็เดินตรงไปร้านกล้วยทอดมันทอด
- ร้านกล้วยทอดอยู่ใกล้หอนาฬิกา (ออกจากร้านข้าวมันไก่เดินมาทางขวาเลยมา 1 ซอย ปากซอยที่เลยมาจะมีร้านขนมครกดูหน้าตาน่าทานแต่ไม่อยู่ในรีวิว สวยงามอย่างไรก็ก็ไม่ซื้อจร้า) ทีมเรารีวิวมาอย่างดีแล้วถึงร้านกล้วยทอดมันทอดเราก็เริ่มลงมือกัน เจ้าของร้านพูดดี เราขอชิมก็ให้ชิมเลย เค้าแนะนำขนมไข่เต่า เอะอันนี้เรายังไม่ได้รีวิวมา ของลองทานก่อน ทุกคนชิมแล้วก็อร่อยดี สรุปคือสั่งขนมไข่เต่าด้วย มันทอดก็ต้องมา กล้วยนางยาก็ต้องทาน สรุปสุดท้ายเราซื้อทั้ง 3 อย่าง ตอนชิมอร่อยดี......แต่ทำไมตอนไปทานกันบนรถแป้งที่ทอดทั้งเหนียวทั้งแข็งน่ะ แต่เราจะไม่ทิ้งเพราะเรารีวิวมาแล้วเราเลยเก็บไว้ทานยามจำเป็น สุดท้าย เช้าวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เราก็เลือกที่จะทิ้งไม่อยากเป็นภาระต่อไป5555 ปล.บางคนอาจจะชอบก็ได้นะครับ กล้วยนางยาหวานดี มันทอดก็ใช้ได้ ใครที่จะไปเที่ยวเบตงก็อย่าเชื่อทริปเราน่ะ ต้องลองชิมด้วย แม่ค้าพ่อค้าน่ารักมาก หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าตามหาเฉาก๊วย กม.4 เจ้าดัง
- เฉาก๊วยเจ้าดังในตำนานนนนนนนนนน พิกัดร้านเป็นตึกไม้หลังแรกทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวหลายจุด ทั้ง อุโมงค์ปิยะมิตร สวนดอกไม้หมื่นภูผา และ บ่อน้ำร้อน เป็นร้านเล็ก ๆ ธุรกิจครอบครัว แต่คนไปรอทานจำนวนมากมายก่ายกอง ไม่มีที่จอดรถต้องไล่จอดตามริมถนน ถนนก็แคบรถติดไปอีก วันที่พวกเราไปตั้งใจจะสั่งกลับบ้านหลายกิโลกรัม แต่เจ้าของร้านแจ้งว่าไม่สามารถสั่งได้แล้วเพราะมีคนสั่งมากจนล้นโควต้าแล้ว เลยตัดสินใจนั่งทานที่ร้าน มาถึงแล้วเราต้องได้ทานทั้งที่ยังอิ่มกันอยู่ เลยสั่งทานคนละถ้วย สุดท้ายหลังจากเราทานคำแรก เราก็หันมองหน้ากันแล้วก็พูดพร้อมกันว่า "ก็ได้อยู่น่ะ" แล้วก็ยิ้ม ๆ เป็นที่รู้กัน แต่ในใจก็คิดว่า เฉาก๊วยชากังราวก็ดีอยู่น่ะ ดีแล้ววววววที่ของหมดสั่งกลับบ้านไม่ได้ หรือว่าทีมเราไม่ใช่สายขนมหวานแน่เลย แต่ก็ราคาถูกดี แค่ถ้วยละ 10 บาทเอง ส่วนสั่งใส่ถ้วยกระดานทานบนรถก็ถ้วยละ 20 บาทเอง ได้อยู่ ทานเสร็จก็รีบเดินออกจากร้านจะไปขึ้นรถเพื่อเที่ยวต่อ โอ้ววววหันไปเห็นร้านตรงกันข้ามขายส้มโชกุนเบตงและลำใย ของมันต้องจัด เลยเดินปรี่ไปที่ร้านส้มโชกุน ตั้งใจซื้อไปทานกันบนรถ
- ส้มโชกุน มีหลายราคา ตั้งแต่กิโลกรัมละ 150 130 100 90 70 และ 3 กิโล 100 บาท ตั้งใจจะซื้อกลับบ้าน แต่ทุกคนไม่มั่นใจในคุณภาพ แต่ศักดิ์ศรีของทีมเราคือต้องซื้อตามรีวิว และแพงเท่านั้น แต่พอถามว่าใช้สิทธิ์รัฐบาลได้เปล่า แม่ค้าบอกไม่ร่วมรายการ เราเลยตั้งใจเลือกแบบ 3 กิโล 100 บาท จัดไปอย่าให้เสีย 200 บาท ฝ่ายเลือกส้มโชกุนก็เลือกไป ส่วนเรากมีหน้าที่ชวนแม่ค้าคุยและขอชิมลำใยวนไป ส้มไม่แน่ใจว่าอร่อยป่ะ แต่ลำใยหวานกรอบแน่นอน
- แวะเที่ยวน้ำพุร้อน ของคู่กันเป็นอะไรไปไม่ได้ มันคือไข่ต้ม เราซื้อทั้งไข่นกกระทา และไข่ไก่ พร้อมชะลอม และแม็กกี้ สอบถามวิธีต้มกับแม่ค้าเรียบร้อย ได้ความว่า ไข่นกกระทาให้ต้ม 10 นาที ส่วนไข่ไก่ หากทานแบบสุกให้ต้ม 15 นาที หากทานแบบยางมะตูมให้ต้ม 10 นาที สุดท้าย 10 นาที ผ่านไป พร้อมทานจร้า ไข่นกกระทาไม่มีปัญหาทานอย่างอร่อย ส่วนไข่ไก่เหลวเป็นไข่ลวก เลยนำกลับไปต้มใหม่ 5 นาที กลับมาปอก เป็นไข่ลวกเช่นเดิม นำกลับไปต้มใหม่อีก 5 นาที ยังเหมือนเดิม สรุปเก็บของขึ้นรถ หวังว่ามื้อเช้าเราจะได้ทานไข่ลวกแทนอาหารเช้า
- มื้อเย็นที่รอคอยก็มาถึง เราตั้งใจจะกินหมูแดงหมั่นโถให้ได้ ตอนเที่ยงเราจึงโทรไปจองโต๊ะร้านต้าเหยินเช่นเดิม เราจองหมูแดงหมั่นโถจานใหญ่ 2 จาน เมื่อถึงเวลาเราก็ไปถึงร้านนั่งโต๊ะที่จองไว้ ทุกคนตั้งตารอหมูแดงหมั่นโถอย่างมุ่งมั่น พร้อมอาหารเมนูอื่น ๆ ทั้ง ผัดหมี่เบตง ปลานึ่งมะนาว ซี่โครงหมูสวรรค์ หมูทอดเต้าหู้ยี้ ยำมะม่วง ต้มจืดลูกชิ้น ถั่วเจี๋ยน เมนูเดิม ๆ ทั้งนั้น รู้ยังว่าอร่อยจริง สุดท้ายเราก็ได้ทานหมูแดงหมั่นโถ ซึ่งอร่อยจริง ๆ ใครไปร้านนี้แนะนำเลยครับต้องได้ทาน อารมณ์แบบปังปุริเย่มาก แต่ต้องโทรจองทุกกรณี ทานเสร็จก็ออกจากร้านไปหาขนมหวานทานกันดีกว่า
- เรากะว่าจะเดินเล่น ๆ เดินเพื่อย่อยอาหารแต่ดันไปเจอร้านขนมครกร้านปากซอยตลาดไนบาซาร์ เป็นขนมครกหลากสีสันสวยงามน่าทานมาก ขายทั้งแบบยกถาด ครึ่งถาดก็ขาย เราเลยจัดมาครึ่งถาด 40 บาท หลายคนชอบรสชาติ แต่เค้าใช้น้ำกะทิกล่องเลยไม่ชอบสักเท่าไหร่ หากเป็นน้ำกะทิสดคงแจ่มว้าว
กินหรูวันที่ 25 ตุลา
[CR] มนต์เสน่ห์ เบตง 3 วัน 2 คืน กินหรู อยู่สบาย ท่ามกลางธรรมชาติและเมืองสวยงาม
ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกผมเป็นตัวแถม เนื่องจากทีมศิษย์เก่าปริญญาโทพยาบาลศาสตร์ ม.อ. ของเพื่อนผมเค้าตกลงไปเที่ยวกัน 11 คน เพื่อนเลยชวนผมไปร่วมทริปด้วย เลยรีบตอบรับทันทีเพราะวางแผนไว้นานแล้วว่าจะไปเยือนเบตงสักครั้ง สรุปทริปนี้เราไปกัน 13 คน (ผู้ใหญ่ 12 เด็กน้อย 1) ออกเดินทางจากอำเภอหาดใหญ่ วันที่ 23 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 09.00 น. โดยใช้รถยนต์ Mitsibishi Pajero Sport 2 คัน นี่คือโฉมหน้าผู้ร่วมทริป
เรื่องกินกลายเป็นเรื่องใหญ่สุดสำหรับทริปเราทีมรีวิวอาหารก็มา (ร้านที่เราเลือกต้องอาหารอร่อย ดูหรูเหมาะสมฐานะ แต่ที่สำคัญต้องพร้อมใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง ไม่มี 2 อย่างหลัง อร่อยและหรูยังไงเราก็ไม่เลือก555) เราได้สิทธิ์เที่ยวด้วยกันหลัง Check in ที่พักแล้ว 5,400 บาท (40%) เป็นงานหนักของเราแล้วว่าจะจ่ายยังไงให้หมด (แต่เดี๋ยวก่อน เราต้องออกเพิ่มตั้ง 60% น่ะ ณ จุดนี้ มารดำมารขาวก็มา ทีมนึงก็บอกว่าใช้ตามที่เราจำเป็นจะใช้ อีกทีมก็บอกว่าไม่ได้เราต้องใช้ให้หมด) ความมันจึงบังเกิด
วันที่ 23 ตุลาคม 2563
- เราทานอาหารเที่ยงกันที่ร้าน Maki ในอำเภอเมืองยะลา(ติดกับปั๊ม Esso ก่อนถึงสี่แยกโรงพยาบาลยะลา) อาหารอร่อย พนักงานน่ารัก บริการดีมาก เมนูแนะนำคือ ราดหน้า (จานใหญ่มาก) ซุปเนื้อ ข้าวขมิ้นปลากะพง น้ำพริกลงเรือ และ อื่น ๆ มากมาย
- ตอนเย็นเราทานอาหารกันที่ร้านต้าเหยิน ร้านอาหารจีนที่ขึ้นชื่อมากในเมืองเบตง เราไปแบบไม่ได้จองล่วงหน้า ชั้น 3 ยังพอมีที่นั่ง คนเยอะมาก ๆๆๆๆ แต่เราก็สู้ไม่ถอย วิธีเลือกอาหารของเราคือ เดินรีวิวโต๊ะข้าง ๆ ว่าเค้าสั่งเมนูอะไรกัน เราสั่งตามเค้า แต่เสียดดายอาหารบางอย่างต้องจองล่วงหน้า 1 วัน ไม่เป็นไร เราเก็บประสบการณ์นี้ไว้ เพราะเราดันไปเห็นหมูแดงหมั่นโถน่าทานมากกกกก พอสั่งปั๊บ พนักงานบอกว่าเสียใจด้วยจร้า ต้องสั่งล่วงหน้า ของมีเฉพาะคนสั่งจอง แต่ทริปนี้เราต้องได้ "ทานหมูแดงหมั่นโถ" หมูแดงหมั่นโถต้องตกถึงท้องเรา
สรุปเรานั้งกัน 2 โต๊ะ เพื่อความสะใจของการทานอาหาร เราสั่งเมนู หมี่เบตงผัด ซี่โครงหมูสวรรค์ ผัดผักน้ำ หมูทอดเต้าหู้ยี้ ไก่เบตงสับ ถั่วเจี๋ยน เราทานกันอย่างอร่อย รูปมีเพียงเมนูบางอย่างที่ถ่ายไว้ทันเวลา สรุปคือ อร่อยทุกเมนู พนักงานบริการดีทุกคน แถมให้คำแนะนำการสั่งอาหารจานเล็กจานใหญ่กลัวเราทานไม่หมด เป้นห่วงลูกค้า เราเลยให้ 3 ผ่าน แต่เรายังค้างคาใจกับหมูแดงหมั่นโถวววว
วันที่ 24 ตุลาคม 2563
วันนี้เราไม่ได้ทานอาหารเช้ากัน เนื่องจากทางโรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้ อีกอย่างคือเราวางแผนไปชมทะเลหมอดอัยเยอร์เวง (ไฮไลต์ของทริปนี้) เราเลยรวบการทานอาหารเช้าและเที่ยงไว้ด้วยกัน มื้อนี้จึงต้องพิเศษกันสักหน่อย
- อาหารมื้อรวบ หลังกลับจากทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เวลาประมาณ 10.30 น. เราตกลงทานกันที่ร้าน "เจริญข้าวมันไก่เบตง" ร้านนี้ถือว่าเป็น Signature ของอำเภอเบตงเพราะใครไปเบตงต้องได้ทานไก่เบตง ร้านนี้ถือว่าเด็ด พนักงานทุกคนก็บริการดีมาก ๆๆ ให้คำแนะนำดี เราต้องทานแบบจัดเต็มที่ร้านมีหลายเมนู เราก็อยากทานทุกเมนู เลยต้องเลือกแบบสั่งมาตั้งกองกลางเพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลอง เมนูละ 2 จาน เมนูที่เราเลือก คือ หมี่แกง (เป็นแดงกะทิซี่โครงหมูใส่เส้นหมี่ขาว) ไก่สับ หมูกรอบ หมูแดง ก๋วยฉับ ขาหมู และสั่งข้าวมันมาคนละจาน น้ำชา/กาแฟ คนละแก้ว ด้วยความหิวเลยลืมเก็บภาพอาหารมาฝาก สรุปทุกคนทานกันอิ่มมาก แต่ชีวิตต้องสู้เมื่อรีวิวมาแล้วก็ต้องเดินต่อเพื่อความสุขของทุกคน ออกจากร้านข้าวมันไก่ ก็เดินตรงไปร้านกล้วยทอดมันทอด
- ร้านกล้วยทอดอยู่ใกล้หอนาฬิกา (ออกจากร้านข้าวมันไก่เดินมาทางขวาเลยมา 1 ซอย ปากซอยที่เลยมาจะมีร้านขนมครกดูหน้าตาน่าทานแต่ไม่อยู่ในรีวิว สวยงามอย่างไรก็ก็ไม่ซื้อจร้า) ทีมเรารีวิวมาอย่างดีแล้วถึงร้านกล้วยทอดมันทอดเราก็เริ่มลงมือกัน เจ้าของร้านพูดดี เราขอชิมก็ให้ชิมเลย เค้าแนะนำขนมไข่เต่า เอะอันนี้เรายังไม่ได้รีวิวมา ของลองทานก่อน ทุกคนชิมแล้วก็อร่อยดี สรุปคือสั่งขนมไข่เต่าด้วย มันทอดก็ต้องมา กล้วยนางยาก็ต้องทาน สรุปสุดท้ายเราซื้อทั้ง 3 อย่าง ตอนชิมอร่อยดี......แต่ทำไมตอนไปทานกันบนรถแป้งที่ทอดทั้งเหนียวทั้งแข็งน่ะ แต่เราจะไม่ทิ้งเพราะเรารีวิวมาแล้วเราเลยเก็บไว้ทานยามจำเป็น สุดท้าย เช้าวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เราก็เลือกที่จะทิ้งไม่อยากเป็นภาระต่อไป5555 ปล.บางคนอาจจะชอบก็ได้นะครับ กล้วยนางยาหวานดี มันทอดก็ใช้ได้ ใครที่จะไปเที่ยวเบตงก็อย่าเชื่อทริปเราน่ะ ต้องลองชิมด้วย แม่ค้าพ่อค้าน่ารักมาก หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าตามหาเฉาก๊วย กม.4 เจ้าดัง
- ส้มโชกุน มีหลายราคา ตั้งแต่กิโลกรัมละ 150 130 100 90 70 และ 3 กิโล 100 บาท ตั้งใจจะซื้อกลับบ้าน แต่ทุกคนไม่มั่นใจในคุณภาพ แต่ศักดิ์ศรีของทีมเราคือต้องซื้อตามรีวิว และแพงเท่านั้น แต่พอถามว่าใช้สิทธิ์รัฐบาลได้เปล่า แม่ค้าบอกไม่ร่วมรายการ เราเลยตั้งใจเลือกแบบ 3 กิโล 100 บาท จัดไปอย่าให้เสีย 200 บาท ฝ่ายเลือกส้มโชกุนก็เลือกไป ส่วนเรากมีหน้าที่ชวนแม่ค้าคุยและขอชิมลำใยวนไป ส้มไม่แน่ใจว่าอร่อยป่ะ แต่ลำใยหวานกรอบแน่นอน
- แวะเที่ยวน้ำพุร้อน ของคู่กันเป็นอะไรไปไม่ได้ มันคือไข่ต้ม เราซื้อทั้งไข่นกกระทา และไข่ไก่ พร้อมชะลอม และแม็กกี้ สอบถามวิธีต้มกับแม่ค้าเรียบร้อย ได้ความว่า ไข่นกกระทาให้ต้ม 10 นาที ส่วนไข่ไก่ หากทานแบบสุกให้ต้ม 15 นาที หากทานแบบยางมะตูมให้ต้ม 10 นาที สุดท้าย 10 นาที ผ่านไป พร้อมทานจร้า ไข่นกกระทาไม่มีปัญหาทานอย่างอร่อย ส่วนไข่ไก่เหลวเป็นไข่ลวก เลยนำกลับไปต้มใหม่ 5 นาที กลับมาปอก เป็นไข่ลวกเช่นเดิม นำกลับไปต้มใหม่อีก 5 นาที ยังเหมือนเดิม สรุปเก็บของขึ้นรถ หวังว่ามื้อเช้าเราจะได้ทานไข่ลวกแทนอาหารเช้า
- มื้อเย็นที่รอคอยก็มาถึง เราตั้งใจจะกินหมูแดงหมั่นโถให้ได้ ตอนเที่ยงเราจึงโทรไปจองโต๊ะร้านต้าเหยินเช่นเดิม เราจองหมูแดงหมั่นโถจานใหญ่ 2 จาน เมื่อถึงเวลาเราก็ไปถึงร้านนั่งโต๊ะที่จองไว้ ทุกคนตั้งตารอหมูแดงหมั่นโถอย่างมุ่งมั่น พร้อมอาหารเมนูอื่น ๆ ทั้ง ผัดหมี่เบตง ปลานึ่งมะนาว ซี่โครงหมูสวรรค์ หมูทอดเต้าหู้ยี้ ยำมะม่วง ต้มจืดลูกชิ้น ถั่วเจี๋ยน เมนูเดิม ๆ ทั้งนั้น รู้ยังว่าอร่อยจริง สุดท้ายเราก็ได้ทานหมูแดงหมั่นโถ ซึ่งอร่อยจริง ๆ ใครไปร้านนี้แนะนำเลยครับต้องได้ทาน อารมณ์แบบปังปุริเย่มาก แต่ต้องโทรจองทุกกรณี ทานเสร็จก็ออกจากร้านไปหาขนมหวานทานกันดีกว่า
กินหรูวันที่ 25 ตุลา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้