สวนดุสิตโพลคนกังวลศก.แย่จี้รบแก้ห่วงโควิดแมสขาดตลาด
https://www.innnews.co.th/social/news_615877/
สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิตสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,162 คน เรื่อง “
5 ความวิตกกังวล”ของประชาชน ณ วันนี้ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3 – 7 มีนาคม2563 พบว่า “
5 อันดับ ความวิตกกังวล” ของประชาชน ณ วันนี้ คือ
ร้อยละ 78.45 ระบุ ปากท้อง สาเหตุจาก สภาพเศรษฐกิจตกต่ำรายได้ไม่พอจ่าย สินค้าขายเกินราคา ทำมาหากินยากขึ้น มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือ ต้องดูแลตัวเองประหยัดอดทนทำงานให้มากขึ้น หารายได้เสริมรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ
รองลงมา
ร้อยละ 71.47 ระบุ โควิด-19 สาเหตุจากระบาดทั่วโลก มีผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงเข้ามาในไทยต่อเนื่อง มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ขาดตลาดฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือรัฐบาลมีพื้นที่กักตัวผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เร่งแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย ดูแลช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ประสบปัญหารายงานข้อมูลที่เป็นจริงให้ประชาชนได้รับรู้ฯลฯ
ร้อยละ 64.51 ระบุ โจร ผู้ร้าย สาเหตุจาก มีข่าวให้เห็นทุกวัน พฤติกรรม รูปแบบการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น กลัวว่าจะเกิดกับตัวเองหรือกับคนในครอบครัวสภาพเศรษฐกิจและสังคมเสื่อมโทรมฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ สายตรวจในทุกพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงฯลฯ
ขณะที่
ร้อยละ 58.93 ระบุ การเมือง สาเหตุจาก รัฐบาลแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ตรงจุด มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีการชุมนุมเคลื่อนไหว บ้านเมืองวุ่นวาย ฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือติดตามข่าวสารอย่างมีสติ รัฐบาลควรเร่งสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ฯลฯ
ร้อยละ 57.60 ระบุ ธุรกิจท่องเที่ยว สาเหตุจากได้รับผลกระทบจากโควิด 19 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ผู้ประกอบการขาดทุน ปิดกิจการ คนตกงานฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือรัฐบาลและภาคเอกชนต้องหารือร่วมกัน รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ธุรกิจท่องเที่ยวต้องปรับตัว กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ฯลฯ
*************************************
กระทู้ผลสำรวจอย่างเป็นทางการของสวนดุสิตโพลครับ
“5 ความวิตกกังวล” ของประชาชน ณ วันนี้
https://ppantip.com/topic/39696468
NIDAโพลวางใจฝ่ายค้านซักฟอกแต่ไม่เด็ดพอมัดรมต.
https://www.innnews.co.th/politics/news_615866/
“
นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,510 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “คุณไว้วางใจ ฝ่ายค้านหรือไม่?” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2 – 5 มีนาคม 2563
เมื่อถามถึงการติดตามข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พบว่า ร้อยละ 9.44 ระบุว่า ติดตามข่าวตลอด ร้อยละ 44.07 ระบุว่าติดตามข่าวบ้างพอสมควร
ร้อยละ 16.81 ระบุว่า ไม่ค่อยติดตาม
ร้อยละ 29.60 ระบุว่า ไม่ติดตามเลย
และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อมูลเด็ดของฝ่ายค้านในการมัดรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจนดิ้นไม่หลุด เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวตลอดและติดตามข่าวบ้างพอสมควร พบว่า
ร้อยละ 32.02 ระบุว่า มีข้อมูลเด็ด ที่สามารถมัดรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายจนดิ้นไม่หลุด
ร้อยละ 44.90 ระบุว่า มีข้อมูล แต่ไม่เด็ดเพียงพอที่จะมัดรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายจนดิ้นไม่หลุด
ร้อยละ 14.00 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลเด็ดเลย และร้อยละ 9.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ทั้งนี้ความเชื่อของประชาชนต่อกระแสข่าวที่ว่า พรรคเพื่อไทยมีข้อตกลงพิเศษกับรัฐบาลในการทำให้รัฐมนตรีบางรายไม่ต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากข้อจำกัดทางเวลา เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวตลอดและติดตามข่าวบ้างพอสมควร พบว่า
ร้อยละ 10.05 ระบุว่า เชื่อมาก
ร้อยละ 23.16 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ
ร้อยละ 27.63 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ
ร้อยละ 30.75 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย
และร้อยละ 8.41 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงการไว้วางใจของประชาชนต่อฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวตลอดและติดตามข่าวบ้างพอสมควร พบว่า
ร้อยละ 26.28 ระบุว่า ไว้วางใจมาก เพราะ ฝ่ายค้านมีข้อมูล หลักฐาน ในการนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สามารถทำให้ฝ่ายรัฐบาลถูกตรวจสอบการทำงานได้
ขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นในบุคลากรของพรรคเพื่อไทยและอดีตพรรคอนาคตใหม่
ร้อยละ 34.92 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ เพราะ ฝ่ายค้านมีข้อมูลที่ชัดเจน มีเหตุผลตรงไปตรงมาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
JJNY : สวนดุสิตโพลคนกังวลศก.ห่วงโควิดแมสขาดตลาด/NIDAโพลวางใจฝ่ายค้านแต่ไม่เด็ดพอ/พณ.แฉแม่ค้าขรก.ยศสูง/ทั่วโลกดับ3,559
https://www.innnews.co.th/social/news_615877/
ร้อยละ 78.45 ระบุ ปากท้อง สาเหตุจาก สภาพเศรษฐกิจตกต่ำรายได้ไม่พอจ่าย สินค้าขายเกินราคา ทำมาหากินยากขึ้น มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือ ต้องดูแลตัวเองประหยัดอดทนทำงานให้มากขึ้น หารายได้เสริมรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ
รองลงมาร้อยละ 71.47 ระบุ โควิด-19 สาเหตุจากระบาดทั่วโลก มีผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงเข้ามาในไทยต่อเนื่อง มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ขาดตลาดฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือรัฐบาลมีพื้นที่กักตัวผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เร่งแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย ดูแลช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ประสบปัญหารายงานข้อมูลที่เป็นจริงให้ประชาชนได้รับรู้ฯลฯ
ร้อยละ 64.51 ระบุ โจร ผู้ร้าย สาเหตุจาก มีข่าวให้เห็นทุกวัน พฤติกรรม รูปแบบการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น กลัวว่าจะเกิดกับตัวเองหรือกับคนในครอบครัวสภาพเศรษฐกิจและสังคมเสื่อมโทรมฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ สายตรวจในทุกพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงฯลฯ
ขณะที่ ร้อยละ 58.93 ระบุ การเมือง สาเหตุจาก รัฐบาลแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ตรงจุด มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีการชุมนุมเคลื่อนไหว บ้านเมืองวุ่นวาย ฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือติดตามข่าวสารอย่างมีสติ รัฐบาลควรเร่งสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ฯลฯ
ร้อยละ 57.60 ระบุ ธุรกิจท่องเที่ยว สาเหตุจากได้รับผลกระทบจากโควิด 19 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ผู้ประกอบการขาดทุน ปิดกิจการ คนตกงานฯลฯ วิธีป้องกันและแก้ไข คือรัฐบาลและภาคเอกชนต้องหารือร่วมกัน รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ธุรกิจท่องเที่ยวต้องปรับตัว กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ฯลฯ
*************************************
กระทู้ผลสำรวจอย่างเป็นทางการของสวนดุสิตโพลครับ
“5 ความวิตกกังวล” ของประชาชน ณ วันนี้
https://ppantip.com/topic/39696468
NIDAโพลวางใจฝ่ายค้านซักฟอกแต่ไม่เด็ดพอมัดรมต.
https://www.innnews.co.th/politics/news_615866/
เมื่อถามถึงการติดตามข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พบว่า ร้อยละ 9.44 ระบุว่า ติดตามข่าวตลอด ร้อยละ 44.07 ระบุว่าติดตามข่าวบ้างพอสมควร
ร้อยละ 16.81 ระบุว่า ไม่ค่อยติดตาม
ร้อยละ 29.60 ระบุว่า ไม่ติดตามเลย
และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อมูลเด็ดของฝ่ายค้านในการมัดรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจนดิ้นไม่หลุด เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวตลอดและติดตามข่าวบ้างพอสมควร พบว่า
ร้อยละ 32.02 ระบุว่า มีข้อมูลเด็ด ที่สามารถมัดรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายจนดิ้นไม่หลุด
ร้อยละ 44.90 ระบุว่า มีข้อมูล แต่ไม่เด็ดเพียงพอที่จะมัดรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายจนดิ้นไม่หลุด
ร้อยละ 14.00 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลเด็ดเลย และร้อยละ 9.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ทั้งนี้ความเชื่อของประชาชนต่อกระแสข่าวที่ว่า พรรคเพื่อไทยมีข้อตกลงพิเศษกับรัฐบาลในการทำให้รัฐมนตรีบางรายไม่ต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากข้อจำกัดทางเวลา เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวตลอดและติดตามข่าวบ้างพอสมควร พบว่า
ร้อยละ 10.05 ระบุว่า เชื่อมาก
ร้อยละ 23.16 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ
ร้อยละ 27.63 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ
ร้อยละ 30.75 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย
และร้อยละ 8.41 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงการไว้วางใจของประชาชนต่อฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวตลอดและติดตามข่าวบ้างพอสมควร พบว่า
ร้อยละ 26.28 ระบุว่า ไว้วางใจมาก เพราะ ฝ่ายค้านมีข้อมูล หลักฐาน ในการนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สามารถทำให้ฝ่ายรัฐบาลถูกตรวจสอบการทำงานได้
ขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นในบุคลากรของพรรคเพื่อไทยและอดีตพรรคอนาคตใหม่
ร้อยละ 34.92 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ เพราะ ฝ่ายค้านมีข้อมูลที่ชัดเจน มีเหตุผลตรงไปตรงมาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ