Phraeris's in Japan ม่อนพลอย
คอยเธอมาปลุกรัก ❤️ . . . ล้านปี๋
บรรยากาศฟิวป่าไผ่แบบโทนสีชมพู มุ้งมิ้งสุดๆ ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่าให้ตั้งหินตามคำอธิฐานว่าปราณาแบบไหน? เหมาะสำหรับผู้ที่มาหาคู่มากๆ มาชมรีวิวเล่าประสบการณ์กัน . . .
ทริป1วันบ้านน้ำพร้าว
- เรียนรู้ไฟป่ากับผู้ใหญ่บ้านผู้ดูแลป่าชุมชน
- เดินทางเข้าป่าไปม่อนพลอยแบบแอดเวนเจอร์
- ชมป่าไผ่สีชมพูบรรยากาศเหมือนอยู่ญี่ปุ่น
- ทานข้าวกับชาวบ้านอ่างน้ำพร้าว
#phraereview #บ้านน้ำพร้าว #เด่นชัย #แพร่ #ข่ายลูกหลานเมืองแพร่
ทริปนี้ขอบอกก่อนต้องติดต่อผู้ใหญ่บ้านน้ำพร้าวก่อนเน้อ
เบอร์ตามนี้เลยจ้าาา .... 0814724739
Page: ไปแอ่วน้ำพร้าว
ป่าไผ่สีชมพู
จริงๆสามารถเอารถขึ้นมาได้นะ แต่ขอแนะนำให้มากับชาวบ้าน
ถ่ายรูปจะได้ประมาณนี้กับป่าไผ่
ภาพนี้ที่ม่อนพลอยล้านปี เป็นแท่งหินบะซอลต์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก
แหล่งเรียนรู้ธรณีวิทยา ปี 2557 ได้เกิดฝนถล่มม่อนหินล้านปี เจออัญมณีเกือบทุกตารางนิ้วของพื้นที่ที่ถูกฝนถล่ม เป็นพลอยบริสุทธิ์ของจริง สภาพพื้นดินเต็มไปด้วยหินบะซอลต์อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1-2 เมตร
ทิวทัศน์ ณ ม่อนพลอยก็เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่สวยงามตามธรรมชาติ
ที่นี่เชื่อกันว่า ถ้าโสดต้องเป็นคู่ถึงจะได้เนื้อคู่ ส่วนถ้ามาเป็นครอบครัวให้ตั้งเป็นจำนวนที่ท่านมาแล้วขออธิฐานจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่าให้ตั้งหินตามคำอธิฐานว่าปราณาแบบไหน? เหมาะสำหรับผู้ที่หาคู่ตามความเชื่อ
บรรยากาศอ่างน้ำพร้าว ฟินสุดๆจะประมาณนี้ อารมณ์เข้าป่าอย่างแท้จริง
ไว้ก่อนเลยว่าไปยาก ถนนไม่ได้ดีอย่างที่คิด เฉพาะป่าไผ่และอ่างน้ำพร้าว ส่วนม่อนพลอยรถขึ้นสบายๆครับ
จุดชมวิวจะมีหมอกสวยมาก ถ้ามาในช่วงปลายฝนนี้ไปจนถึงหน้าหนาวกันเลยทีเดียว
พิกัด : ม่อนพลอยล้านปี เด่นชัย
จากแยกปางเคาะไปทางซ้ายมือ( ทางศรีสัชนาลัย) ขับไปเรื่อยๆ 5กม โดยประมาณ
เจอป้ายม่อนพลอยล้านปี เลี้ยวซ้าย เจอถนน ลูกรัง ขับไปเรื่อยๆ1-2กม
ผู้ชายจะชี้แจงและให้การต้อนรับเรา
ให้ความรู้ปลูกฝั่งกับเด็กๆหรือผู้ที่สนใจในเรื่องไฟป่า เป็นการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่น่ารักมากๆ
หลังจากนั้นเราเดินเข้าป่ากันเล๊ยยยย ถ้าจะมาเป็นหมู่คณะมีรถให้เราเลือก แบบในภาพ รถแบบนี้ไม่กลัวสีถลอกแน่นอน
หรือจะซ้อนมอไซด์ไฮโซม้งแนวนี้เก็บก่อนว่าเจ็บก้นแน่นอนเพราะทางมันจะคลึกๆน้อย
ไฟว์ติ้งๆ ทางจะโหดหน่อย ส่วนเรานั่งเก้าอี้อย่างหรู 55555แนะนำให้ใส่แมสมาด้วยนะ ฝุ่นจุ้งๆ พร้อมลุยไปเก็บภาพให้แฟนเพจกันครับ
ทิ้งระยะห่างทางขึ้น กลัวเบลกบ่อยู่
ทางโหดพอสมควร
แต่ระหว่างทางก็จะมีท้องฟ้าและวิวสวยๆแบบนี้
เย้ เรามาถึงกันแล้วม่อนพลอยแล้ว ใช้เวลาเดินทางเข้ามาประมาณ10นาที
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะเป็น จุดชมความอลังการงดงามตามธรรมชาติ แหล่งสุดท้ายของประเทศไทยที่เป็น "บะซอลท์อุ้มพลอย"
"บะซอลท์อุ้มพลอย"
เป็นพลอยบริสุทธิ์ของจริง สภาพพื้นดินเต็มไปด้วยหินบะซอลต์อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1-2 เมตร ที่นี่ไม่ทำเหมืองแร่แต่จะให้นักท่องเที่ยวทำเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพลอย
ชาวที่นี่มักจะมาตั้งดินแล้วขอพร สำหรับผู้ที่มาเที่ยวแล้วยังโสด
เชื่อกันว่าถ้าตั้งแบบคู่แบบนี้จะได้เจอเนื้อคู่
แต่ถ้าตั้งแบบนี้แสดงว่ามีครอบครัวแล้ว ขอหน้าที่การเงินมั่นคงมั่งคั่ง
สาธุ
เรามาเดินชมบรรยากาศกัน หินบะซอลต์อุ้มพลอยมันจะเรียงๆกันสวยมากไปดูรูปกันให้เรามาถ่ายรูปกัน
วิวบรรยากาศจะประมาณนี้จริงๆมีมุมสวยๆเยอะมาก แต่เราต้องไปกันต่อ
หลังจากนั้นเราจะไปเรียนรู้วิถีชีวิตเจ้าหน้าวิธีการที่ดับไฟป่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20นาที
เจ้าหน้าที่บ้านน้ำพร้าวสาธิตแบบไฟลามให้เห็นกันจริงๆเลย และสอนวิธีการทำแนวกันไฟแบบชาวบ้านๆ
เมื่อก่อนชาวบ้านจะทำไม้ไผ่กวาดแนวกันไฟมี3แบบด้วยกัน ประมาณนี้
เราได้ลองทำแนวกันไฟกัน เพื่อให้ตระหนักและเรียนรู้ถึงพิษจากไฟป่า
ถ้ามีเครื่องเป่าลมจะง่ายมากๆ
แบบนี้ๆขอบคุณทางข่ายลูกหลาน ในโครงการลูกรักลมหายใจของชาวแพร่ บริจาคให้กับทางชาวบ้าน4เครื่อง มาทดลองให้ชมกัน
หลังจากนั้นเรามากันที่ป่าไผ่สีชมพู บอกเลยว่าสวยงามมากๆ พร้อมพกกล้องดีๆมาได้เลย ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 15นาที
บรรยากาศแบบญี่ปุ่นชัดๆ โอ้ยยยยยยยย เหมาะ เรามาชมภาพกัน
หลังจากป่าไผ่สีชมพูแล้วเราก็มาแวะทานข้าวที่ทางชาวบ้านได้จัดเตรียมมาให้ที่อ่าง ใช้เวลาเดินมาแปปเดียวเพราะใกล้ๆกับป่าไผ่
บรรยากาศแบบนี้เย็นสบายมาก
กับข้าวเมียงๆลำแต้ๆ ชอบทุกอย่าง โดยเฉพาะแกงผักหวานไข่มดส้ม เข้ากับบรรยากาศป่าสุดๆ
อากาศที่นี่ดีมาก ขนาดเป็นตอนกลางวันนะ ถ้ามีน้ำมีชีวิต มีป่า มีลมหายใจสดชื่นๆแบบนี้ไปชมบรรยากาศกัน
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถกลับกันทางเดิม
ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ฟินดีนะเราชอบมาก ใช้เวลาเดินทางกลับเร็วหน่อย โดยรวมๆประมาณ 25-30นาที เพราะทางหลิ่งต้องค่อยๆไป
หลังจากที่เราเข้าป่ามาแล้วเราก็จะมาเรียนรู้ผลิตภัณฑ์กาแฟของที่นี่เลย
นี่คือการ Process แบบ Waste กับ จุลินทรีย์สูตรเฉพาะ
"แพร่โรบัส" ผลิตภัณฑ์กาแฟจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจังหวัดแพร่ ในรสชาติกาแฟแบบเข้มข้นกลมกล่อม โดยที่นี่ยังเป็น 1 ใน 15 ผู้แข่งขัน Phrae Esyenn Battle ซึ่งนอกจากกาแฟแล้วที่นี่ยังมี อาหารบริการที่หลากหลาย ในบรรยากาศของรีสอร์ทที่ตกแต่ง สวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติอีกด้วย
ต้นกาแฟอาราบะซอลต์ เอกลักของทางบ้านน้ำพร้าวเขาละ ขอบอกว่าปลูกยากมากเพราะที่นี่ดินแห้งแล้งมาก ต้องต่อสู้กับความแห้งแร้งรสชาติจะไม่เหมือนที่อื่น
ทางเราข่ายลูกหลานเมืองแพร่ได้บริจาคเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าดับไฟป่าต่อไป สู้ๆเน้อ
ขอบคุณทีมงานทุกๆท่านนะครับที่พาเราเที่ยวดูแลกันอย่างดี
ขอบคุณทุกท่านท่านที่ติดตาม
เขียน&ภาพ : บัดดี้นัด
เพจ: แพร่รีวิว
[CR] Phraeris's in Japan ม่อนพลอย
Phraeris's in Japan ม่อนพลอย
คอยเธอมาปลุกรัก ❤️ . . . ล้านปี๋
บรรยากาศฟิวป่าไผ่แบบโทนสีชมพู มุ้งมิ้งสุดๆ ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่าให้ตั้งหินตามคำอธิฐานว่าปราณาแบบไหน? เหมาะสำหรับผู้ที่มาหาคู่มากๆ มาชมรีวิวเล่าประสบการณ์กัน . . .
ทริป1วันบ้านน้ำพร้าว
- เรียนรู้ไฟป่ากับผู้ใหญ่บ้านผู้ดูแลป่าชุมชน
- เดินทางเข้าป่าไปม่อนพลอยแบบแอดเวนเจอร์
- ชมป่าไผ่สีชมพูบรรยากาศเหมือนอยู่ญี่ปุ่น
- ทานข้าวกับชาวบ้านอ่างน้ำพร้าว
#phraereview #บ้านน้ำพร้าว #เด่นชัย #แพร่ #ข่ายลูกหลานเมืองแพร่
ทริปนี้ขอบอกก่อนต้องติดต่อผู้ใหญ่บ้านน้ำพร้าวก่อนเน้อ
เบอร์ตามนี้เลยจ้าาา .... 0814724739
Page: ไปแอ่วน้ำพร้าว
ป่าไผ่สีชมพู
จริงๆสามารถเอารถขึ้นมาได้นะ แต่ขอแนะนำให้มากับชาวบ้าน
ถ่ายรูปจะได้ประมาณนี้กับป่าไผ่
ภาพนี้ที่ม่อนพลอยล้านปี เป็นแท่งหินบะซอลต์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก
แหล่งเรียนรู้ธรณีวิทยา ปี 2557 ได้เกิดฝนถล่มม่อนหินล้านปี เจออัญมณีเกือบทุกตารางนิ้วของพื้นที่ที่ถูกฝนถล่ม เป็นพลอยบริสุทธิ์ของจริง สภาพพื้นดินเต็มไปด้วยหินบะซอลต์อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1-2 เมตร
ทิวทัศน์ ณ ม่อนพลอยก็เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่สวยงามตามธรรมชาติ
ที่นี่เชื่อกันว่า ถ้าโสดต้องเป็นคู่ถึงจะได้เนื้อคู่ ส่วนถ้ามาเป็นครอบครัวให้ตั้งเป็นจำนวนที่ท่านมาแล้วขออธิฐานจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่าให้ตั้งหินตามคำอธิฐานว่าปราณาแบบไหน? เหมาะสำหรับผู้ที่หาคู่ตามความเชื่อ
บรรยากาศอ่างน้ำพร้าว ฟินสุดๆจะประมาณนี้ อารมณ์เข้าป่าอย่างแท้จริง
ไว้ก่อนเลยว่าไปยาก ถนนไม่ได้ดีอย่างที่คิด เฉพาะป่าไผ่และอ่างน้ำพร้าว ส่วนม่อนพลอยรถขึ้นสบายๆครับ
จุดชมวิวจะมีหมอกสวยมาก ถ้ามาในช่วงปลายฝนนี้ไปจนถึงหน้าหนาวกันเลยทีเดียว
พิกัด : ม่อนพลอยล้านปี เด่นชัย
จากแยกปางเคาะไปทางซ้ายมือ( ทางศรีสัชนาลัย) ขับไปเรื่อยๆ 5กม โดยประมาณ
เจอป้ายม่อนพลอยล้านปี เลี้ยวซ้าย เจอถนน ลูกรัง ขับไปเรื่อยๆ1-2กม
ผู้ชายจะชี้แจงและให้การต้อนรับเรา
ให้ความรู้ปลูกฝั่งกับเด็กๆหรือผู้ที่สนใจในเรื่องไฟป่า เป็นการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่น่ารักมากๆ
หลังจากนั้นเราเดินเข้าป่ากันเล๊ยยยย ถ้าจะมาเป็นหมู่คณะมีรถให้เราเลือก แบบในภาพ รถแบบนี้ไม่กลัวสีถลอกแน่นอน
หรือจะซ้อนมอไซด์ไฮโซม้งแนวนี้เก็บก่อนว่าเจ็บก้นแน่นอนเพราะทางมันจะคลึกๆน้อย
ไฟว์ติ้งๆ ทางจะโหดหน่อย ส่วนเรานั่งเก้าอี้อย่างหรู 55555แนะนำให้ใส่แมสมาด้วยนะ ฝุ่นจุ้งๆ พร้อมลุยไปเก็บภาพให้แฟนเพจกันครับ
ทิ้งระยะห่างทางขึ้น กลัวเบลกบ่อยู่
ทางโหดพอสมควร
แต่ระหว่างทางก็จะมีท้องฟ้าและวิวสวยๆแบบนี้
เย้ เรามาถึงกันแล้วม่อนพลอยแล้ว ใช้เวลาเดินทางเข้ามาประมาณ10นาที
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะเป็น จุดชมความอลังการงดงามตามธรรมชาติ แหล่งสุดท้ายของประเทศไทยที่เป็น "บะซอลท์อุ้มพลอย"
"บะซอลท์อุ้มพลอย"
เป็นพลอยบริสุทธิ์ของจริง สภาพพื้นดินเต็มไปด้วยหินบะซอลต์อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1-2 เมตร ที่นี่ไม่ทำเหมืองแร่แต่จะให้นักท่องเที่ยวทำเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพลอย
ชาวที่นี่มักจะมาตั้งดินแล้วขอพร สำหรับผู้ที่มาเที่ยวแล้วยังโสด
เชื่อกันว่าถ้าตั้งแบบคู่แบบนี้จะได้เจอเนื้อคู่
แต่ถ้าตั้งแบบนี้แสดงว่ามีครอบครัวแล้ว ขอหน้าที่การเงินมั่นคงมั่งคั่ง
สาธุ
เรามาเดินชมบรรยากาศกัน หินบะซอลต์อุ้มพลอยมันจะเรียงๆกันสวยมากไปดูรูปกันให้เรามาถ่ายรูปกัน
วิวบรรยากาศจะประมาณนี้จริงๆมีมุมสวยๆเยอะมาก แต่เราต้องไปกันต่อ
หลังจากนั้นเราจะไปเรียนรู้วิถีชีวิตเจ้าหน้าวิธีการที่ดับไฟป่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20นาที
เจ้าหน้าที่บ้านน้ำพร้าวสาธิตแบบไฟลามให้เห็นกันจริงๆเลย และสอนวิธีการทำแนวกันไฟแบบชาวบ้านๆ
เมื่อก่อนชาวบ้านจะทำไม้ไผ่กวาดแนวกันไฟมี3แบบด้วยกัน ประมาณนี้
เราได้ลองทำแนวกันไฟกัน เพื่อให้ตระหนักและเรียนรู้ถึงพิษจากไฟป่า
ถ้ามีเครื่องเป่าลมจะง่ายมากๆ
แบบนี้ๆขอบคุณทางข่ายลูกหลาน ในโครงการลูกรักลมหายใจของชาวแพร่ บริจาคให้กับทางชาวบ้าน4เครื่อง มาทดลองให้ชมกัน
หลังจากนั้นเรามากันที่ป่าไผ่สีชมพู บอกเลยว่าสวยงามมากๆ พร้อมพกกล้องดีๆมาได้เลย ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 15นาที
บรรยากาศแบบญี่ปุ่นชัดๆ โอ้ยยยยยยยย เหมาะ เรามาชมภาพกัน
หลังจากป่าไผ่สีชมพูแล้วเราก็มาแวะทานข้าวที่ทางชาวบ้านได้จัดเตรียมมาให้ที่อ่าง ใช้เวลาเดินมาแปปเดียวเพราะใกล้ๆกับป่าไผ่
บรรยากาศแบบนี้เย็นสบายมาก
กับข้าวเมียงๆลำแต้ๆ ชอบทุกอย่าง โดยเฉพาะแกงผักหวานไข่มดส้ม เข้ากับบรรยากาศป่าสุดๆ
อากาศที่นี่ดีมาก ขนาดเป็นตอนกลางวันนะ ถ้ามีน้ำมีชีวิต มีป่า มีลมหายใจสดชื่นๆแบบนี้ไปชมบรรยากาศกัน
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถกลับกันทางเดิม
ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ฟินดีนะเราชอบมาก ใช้เวลาเดินทางกลับเร็วหน่อย โดยรวมๆประมาณ 25-30นาที เพราะทางหลิ่งต้องค่อยๆไป
หลังจากที่เราเข้าป่ามาแล้วเราก็จะมาเรียนรู้ผลิตภัณฑ์กาแฟของที่นี่เลย
นี่คือการ Process แบบ Waste กับ จุลินทรีย์สูตรเฉพาะ
"แพร่โรบัส" ผลิตภัณฑ์กาแฟจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจังหวัดแพร่ ในรสชาติกาแฟแบบเข้มข้นกลมกล่อม โดยที่นี่ยังเป็น 1 ใน 15 ผู้แข่งขัน Phrae Esyenn Battle ซึ่งนอกจากกาแฟแล้วที่นี่ยังมี อาหารบริการที่หลากหลาย ในบรรยากาศของรีสอร์ทที่ตกแต่ง สวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติอีกด้วย
ต้นกาแฟอาราบะซอลต์ เอกลักของทางบ้านน้ำพร้าวเขาละ ขอบอกว่าปลูกยากมากเพราะที่นี่ดินแห้งแล้งมาก ต้องต่อสู้กับความแห้งแร้งรสชาติจะไม่เหมือนที่อื่น
ทางเราข่ายลูกหลานเมืองแพร่ได้บริจาคเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าดับไฟป่าต่อไป สู้ๆเน้อ
ขอบคุณทีมงานทุกๆท่านนะครับที่พาเราเที่ยวดูแลกันอย่างดี
ขอบคุณทุกท่านท่านที่ติดตาม
เขียน&ภาพ : บัดดี้นัด
เพจ: แพร่รีวิว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้