หนาวแล้วมีแพลนไปเที่ยวไหนกันหรือยังคะ?
เรามีที่มาแนะนำค่ะนี่เลย ‘เมืองคอง’ เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและหุบเขา บรรยากาศเงียบสงบ เรียบง่าย
แต่ขอบอกเลยว่าวิวไม่ธรรมดาเลย คราวนี้เรารวมพลพรรคนักเที่ยวได้ 8 คน กายพร้อม ใจพร้อม ไปแอ่วกันเลย!
วันที่ 1 : เมืองคองสวัสดีเจ้าาาา
จากตัวเมืองเชียงใหม่ เราเหมารถตู้ไว้ ราคาคนละ 187 บาท ให้ไปส่งยัง 'ถ้ำเชียงดาว' จุดนัดพบกับรถสองแถวของทางที่พักใน ‘เมืองคอง’
โดยเราติดต่อกับเจ้าของที่พักไว้แล้ว ราคาคนละ 200 บาท ได้เวลานัดหมายก็ออกเดินทางกันได้เลย
ในส่วนของเส้นทางนั้น ขอพักดมยาดมแปบ
เราแวะที่บ้าน ‘ระเบียงดาว’ จุดนี้นอกจากจะมีบ้านพักแล้ว ยังเปิดเป็นร้านกาแฟและอาหารให้เลือกทานด้วย
เจอวิวเข้าไปหายเมารถเลยค่ะ สวยมากกก
ถ่ายฮูปเป็นที่ระทึกกันสักหน่อยนะคะ โฉมหน้าพลพรรคนักเที่ยวของเรา สาระไม่มี หน้าตาดีไปวันๆ
เราเดินทางมาถึง ‘เมืองคอง’ ในช่วงบ่ายๆ แวะทานข้าวกันที่ ‘ร้านภูตะวัน’
ข้าวก็ลำ วิวก็เริ่ดดดดด
เมื่อจะถ่ายป้าย ขาดนายแบบได้ไงคะ
เดินทางต่อค่ะ ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงแล้วที่พักที่เราจองไว้ 'ม่อนชมหมอกเมืองคองโฮมสเตย์'
สายตาไม่ได้เอียงนะคะ ทางเอียงจริงค่ะ ท่าไมเคิล แจ็คสัน เอียงตัว 45 องศา ต้องมาแล้ว จัดไป
แต่วิวข้างทางนี่ ทำให้ความเอียงไม่เป็นอุปสรรคในการเดินของเราเลย สวยจึ้งมาก
ห้องพักของเราค่ะ ราคาคืนละ 625 บาท ห้องพักสะอาด มีห้องน้ำในตัวโอเคเลย
ด้านบนจะเป็นส่วนของห้องน้ำรวม มีน้ำอุ่นให้บริการ และยังมีมินิมาร์ทเล็กๆ
ให้เราได้เลือกซื้อของกันอีกด้วยนะคะ เจ้าของก็น่ารักมากเว่อร์ดูแลดีมากเลยค่ะ
แอ่นแอ๊นนนน!!! วิวหน้าห้องพักเราเอง
สวยเกินเบอร์มากกกกก
มื้อเย็นเราสั่งหมูกระทะกับทางที่พักมาทานกัน ใช่ค่ะถ่ายรูปไม่ทัน ยิ่งกว่าน้ำพริกคนรุมอีก เหลือมาให้จินตนาการเท่านี้ค่ะ
คืนนี้พวกเรานอนไปพร้อมกับ แสงไฟ แสงดาว และหมอกยามค่ำคืน สวยสงบมาก ฟินนน
วันที่ 2 : อยู่ต่อเลยได้มั้ย
เราจองรถกับที่พักไว้ให้มารับประมาณตี 5 ราคาคนละ 150 บาท เพื่อเดินทางมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่
‘จุดชมวิวเด่นทีวี’ หลังจากงัวเงียๆ เจอวิวเข้าไป ตื่นเลยค่ะ
ใช้คำว่าสวยได้เปลืองมาก
อยู่ต่อเลยได้มั้ยยยย
‘กลับเถอะสายแล้ว’ เสียงพี่ป๋องโชเฟอร์ของเราเองค่ะ แนะนำเลย ทางโหดแค่ไหน พี่ป๋องเอาอยู่
ทางที่พักมีอาหารเช้าให้ด้วยนะคะ เป็นเมนูข้าวต้มทรงครื่อง พร้อมชากาแฟให้บริการ
ทานเสร็จได้เวลากลิ้งลงไป เอ้ย! เดินลงไปเที่ยวด้านล่างกันแล้วค่ะ ทางว่าโหดแล้ว วิวโหดกว่า สวยเป็นบ้าเลย
จากที่พักเราเดินมาไม่ไกล ก็ถึงด้านล่างแล้ว
จุดนี้คือ 'สะพานมิตรภาพแม่น้ำคอง’ สะพานนี้มีแม่น้ำคองไหลผ่านหมู่บ้านตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม 'นั่งแพไม้ไผ่' ล่องไปตามแม่น้ำสายหลักของหมู่บ้านชมบรรยากาศสองข้างทาง
หากใครสนใจสามารถติดต่อกับที่พักได้เลยนะคะ
โดยรอบบริเวณยังมีวิถีธรรมชาติที่หาดูได้ยากในสมัยนี้ ให้เราได้พบเห็นอีกด้วย
เราแวะทานมื้อกลางวันกันที่ร้าน ‘ฮอมฮักเมืองคอง’ จัดมาค่ะ ราคา 60 บาท
ภาพบรรยากาศท้องทุ่งนา ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขา ข้าวหลักสิบ วิวหลักล้าน ของแทร่
ก่อนจะหลับ ไม่ใช่ ก่อนจะกลับที่พักเราแวะเติมกาแฟกันที่ร้าน ‘ฮักเน้อ’
วิวดี กาแฟโดน อีกแล้วครับท่าน
โดยรอบบริเวณสะพานแห่งนี้ ยังมีร้านค้า คาเฟ่ โฮมสเตย์ ให้เลือกตามความชอบใจอีกมากมายนะคะ
เราเดินกลับมายังที่พักเพื่อชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นกัน
ความรู้สึกเกินบรรยายเลยค่ะ สวยมากกกกกก
วันที่ 3 : เมืองคองต้องลองมา
เรานัดรถมารับในตอนเช้า เพื่อเดินทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ได้เวลากลับกันแล้ว
ปิ๊กแล้วหนา แล้วมีโอกาสจะมาใหม่แน่นอนเจ้า
..............................................................................................
บางครั้งเราเคยถามตัวเองว่า 'เดินทางมาไกลแสนไกลเพื่ออะไร' ภาพทิวเขา ทะเลหมอก ดวงดาวบนท้องฟ้า มิตรไมตรีอันอบอุ่นของผู้คนที่นี่
‘เมืองคอง’ ตอบเราได้เป็นอย่างดี ถ้าเราไม่ออกเดินทาง เราคงไม่รู้หรอกว่าปลายทางนั้นสวยงามขนาดไหน
*ฝากเพจ ‘ฟันม้าพาเที่ยว’ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะ ถ้าชอบกดถูกใจ ถ้าใช่กดแชร์ เข้ามาพูดคุยกันได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ..^_^
[CR] รีวิว ‘เมืองคอง : เชียงใหม่’ 3 วัน 2 คืน [เมืองคอง ต้องลองมา]
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้