มันไม่ใช่จุดจบ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้น....part 1

ก็น่าจะจริงแหล่ะ  เพราะดูเหมือนกระแสเรื่องยุบพรรคนี่ ทำให้คนไทยตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้นกว่าเดิมเยอะไปอีก

แต่วันนี้จะขอมาเขียนถึงจุดเริ่มต้นก่อน  วันหลังจะมาเขียนรอยต่อของการเปลี่ยนแปลง ( ถ้าไม่ถูกยึดล๊อคอินไปซะก่อน ) 

ถ้าย้อนกลับไปมองถึงการเมืองที่ผ่านมา  อนาคตใหม่พรรคที่ไม่เคยมีใครคิดว่า จะมาแรง  กลับกลายมาเป็นพรรคที่มีเสียงสนับสนุน
เป็นอันดับสามของประเทศ  แถม สส ก็โนเนม ไม่เป็นที่รู้จักของคนในประเทศเลย  นั่นแปลว่า ฐานเสียงของอนาคตใหม่  น่าจะเป็นเลือดใหม่
หรือคนที่เบื่อการเมืองแบบเก่า ที่มีวัฏจักรวังวนอยู่กันไม่กี่พรรค และสิ่งที่ทำให้อนาคตใหม่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ "  อุดมการณ์ "
ที่พวกเค้ามีแต่ตั้งใจจะทำ

ถามว่า แล้วทำไมจนถึงวันนี้ อนาคตใหม่ไปไม่รอด  โดนทั้งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการ  แปลว่าเสียงสนับสนุนพรรค น้องลงหรือ ???

คำตอบคือ   อนาคตใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง และมีแนวคิดค่อนข้างจริงใจ และตรงไปตรงมา มีหลายคนในพรรคที่ความรู้ดีมาก  มีคุณสมบัติ
เพียบพร้อมที่จะพากันเดินหน้าพัฒนาประเทศให้ก้าวไกล  และเสียงสนับสนุนพรรคนี้ ก็ยังมีต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แล้วทำไมพรรคถึงถูกยุบง่ายดาย ถ้ามีทั้งคนเก่ง และมีทุน  ?????

คำตอบคือ สิ่ง อนาคตใหม่พยายามสู้และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศไทย และการเมืองไทย นั่นคือสิ่งที่ดี และควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
แต่มันเป็นการต่อสู้ที่แสนจะยากลำบากมาก จนถึงมากที่สุด  เพราะถ้ามองให้ลึกลงไป  เราจะเป็นเห็นว่า โครงสร้างของประเทศเราเต็มไปด้วย
ระบบรัฐอุปถัมภ์ มีกลไกลที่ซับซ้อนในระบบราชการ   การย้ายข้าราชการในสังกัด เป็นไปอย่างง่ายดาย  การใช้องค์กรของรัฐเป็นฐานเสียงยัง
นิยมทำ และ การขยายฐานอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ยังมีต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน  การเอาชนะรัฐบาลที่มีสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงกับกองทัพนั่นคืองาน
ที่ยากและหินที่สุด   ต้องยอมรับว่า รัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชน จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะ ฐานอำนาจของกองทัพเค้าวางไว้แทบจะทุกองค์กร
การต่อต้านกองทัพของอนาคตใหม่  จึงเร่งปฎิกิริยาให้ทุกยุบเร็วขึ้น 


คำถามต่อมา แล้วสิ่งที่รัฐบาลทำตอนนี้ไม่ตอบโจทย์หรือ  ?  การยุบพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้ประเทศเดินหน้าได้ต่อไปหรือไม่ 

ตอบคือ   ถ้ามองไปถึงเรื่องสงครามการค้าที่ ทุกประเทศโดนอยู่  ก็คงปฎิเสธไม่ได้ ว่าไทยจะได้ผลกระทบ  แต่สิ่งที่ชี้ชัดว่า
เรากำลังเสียสูญและ มีโอกาศกลับไปเป็นประเทศที่ยากจนลง นั่นคือ การประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจ ที่เกือบทุกสัำนัก
หั่น gdp ลดลงแบบน่าสะพรึง  สัญญาณการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่อง  รวมถึงการปิดกิจการและการตกงานอย่างต่อเนื่อง
เพราะนักลงทุนหนีไปอยู่กับเพื่อนบ้าน  นั่นคือสภาวะที่รัฐบาลต้องแก้ไข และรับมือ แต่ 5 ปีที่ผ่านมา นั่นคือคำตอบว่ารัฐบาล
มีความพร้อมทั้งในเชิงความรู้ และ วิสัยทัศน์ มากแค่ไหน

ตอนนี้การยุบพรรคอนาคนใหม่ เหมือนกับการประกาศสงครามระหว่างรัฐกับประชาชนไปแล้ว  แต่มันอาจไม่ใช่สงครามที่รบรา
ฆ่าฟันกันด้วยอาวุธ   แต่มันจะเป็นการรบกันด้วยปัญญา    และความจริง  ถ้ายอมรับว่า การหยุดอยู่กับที่แบบนี้ คือการเสียโอกาส
และดึงประเทศให้ถอยหลังลงคลองเพราะความขัดแย้งที่บานปลาย เกิดจากการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม  ประชาชนทุกภาคส่วน
ต้องช่วยกันกลับมาคิดว่า 

"  การยุบอนาคตใหม่ในวันนี้  คือจุดเริ่มต้น ที่จะเปลี่ยนแปลง และพาประเทศให้เดินหน้าไปด้วยกัน " 


ถ้าไม่ถูกยึดล๊อคอิน เจอกันใหม่ในทู้หน้าค่ะ ....พาพันขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่