'ภูมิธรรม' ซัด 'เนติบริกร' ทำผิดให้เป็นถูก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
https://voicetv.co.th/read/NPRTC7x81
ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ฉะ ฝ่ายกฎหมายรัฐบาล สร้างบรรทัดทานผิดเพี้ยน ทำเรื่องเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศ เชื่อร่างงบประมาณ 2563 ส่อขัดรธน.
นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก กรณีการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร โดยนายภูมิธรรมเห็นว่าเป็นการแก้ต่างออกตัวรับหน้าแทนรัฐบาลและผู้ถูกกล่าวหาว่า "
การกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติไม่มีปัญหาใดๆ จะใช้บรรทัดฐานที่เคยพิจารณาดังเช่นในอดีตมิได้" ซึ่งกรณีเช่นนี้ถือเป็นเรื่องเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศและสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ชี้ว่ามีผลทำให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและอาจจะทำให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ตกไป นอกจากนั้น ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ สิ่งที่ รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลกระทำในวันนี้ ได้ตอกย้ำให้สังคมเห็นถึงความเป็นสองมาตรฐาน สร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยน ทำผิดให้เป็นถูก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กล่าวคือ ในกรณีการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.พรรครัฐบาลครั้งนี้ ผู้ที่เป็นเนติบริกรของรัฐบาลออกมาบอกว่า ไม่อาจใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
"
การกล่าวอ้างเช่นนี้หมายความว่าสังคมไทยวันนี้ ไม่อาจยึดถือบรรทัดฐานใดๆ ที่ผ่านมาได้ แต่กลับจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา เพื่อสนองประโยชน์แห่งตนและพวกพ้อง โดยมิได้คำนึงถึงว่าได้ใช้วิธีการดังกล่าวสร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยน ทำผิดให้เป็นถูก ครั้งแล้วครั้งเล่า ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับหลักนิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง" ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ระบุ
https://www.facebook.com/pwechayachai/posts/2829209687146857
อนาคตใหม่ กดดัน กกต. ขยับลำดับบัญชีรายชื่อใหม่ หลัง ปชป.จันทบุรี โดนใบดำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1913189
อนาคตใหม่ กดดัน กกต. ขยับลำดับบัญชีรายชื่อใหม่ หลัง ส.ส.จันทบุรี ปชป.โดนใบดำ สงสัย ที่นิ่งเฉยเพราะช่วย ‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษก และส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ และนาย
จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีพิพากษายืนตามคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้มีมติกกต.สั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร (ใบดำ) นาย
ชาติชาย วรพิพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยศาลเห็นว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กรณีหาเสียงเลือกตั้ง
นาย
ณัฐชา กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้กกต. ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ คือไม่ชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่หรือไม่ ซึ่งทางพรรคการเมืองทุกพรรคถือว่าเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อในระบบใหม่นั้น ทุกครั้งที่มีเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งซ่อม หรือพบการกระทำความผิดในการเลือกตั้ง จะต้องคำนวณสูตรบัญชีรายชื่อใหม่ จึงอยากเรียกร้องให้ กกต. ให้ความชัดเจนในประเด็นนี้ ทั้งนี้ตนอยากฝากประชาชนให้ช่วยจับตาการทำงานขององค์กรอิสระต่างๆ เพราะขณะที่ฝ่ายค้านกำลังเจอมรสุม องค์กรอิสระเหล่านี้ไม่เคยมีความช่วยเหลือเอื้อเฟื้อให้ ความนิ่งเฉยไม่ยอมคำนวณคะแนนใหม่ของกกต. ถือเป็นการช่วยฝ่ายรัฐบาลในภาวะเสียงปริ่มน้ำหรือไม่
นาย
จิรวัฒน์ ชี้แจงในประเด็นกฎหมายว่า หากพิจารณาตามคำร้องของกกต. ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 อาศัยบทบัญญัติ 3 มาตรา คือ มาตรา 138 มาตรา 73 (5) วรรคหนึ่ง และประกอบมาตรา 159 การอาศัยอำนาจของกกต. เชื่อมโยงไปว่า เมื่อเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง ก็เข้าข่ายตามมาตรา 131 วรรคสอง หมายความว่ากรอบระยะเวลา 1 ปี หากมีการตัดสินคดีว่าผู้สมัคร ส.ส.คนใดมีการทุจริต จะต้องมีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองใหม่ ดังนั้นเมื่อศาลฎีกาฯ ตัดสินแล้วในวันที่ 21 มกราคม กกต.สามารถที่จะประชุมและลงมติว่าจะต้องคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเองใหม่หรือไม่ ทั้งนี้สิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมา และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคการเมืองอื่นที่เกี่ยวข้อง จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
นาย
จิรวัฒน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ยกตัวอย่างกรณีของ 4 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เช่น น.ส.
ศรีนวล บุญลือ ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องถือว่า คะแนนแบบแบ่งเขตอยู่ที่พรรคอนาคตใหม่ ด้วยเหตุผลที่เราใช้ระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว เหตุที่เราต้องเรียกร้องประเด็นนี้ก็เพราะการทำงานสภาผู้แทนราษฎร เสียงของสมาชิกมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย การตรจสอบรัฐบาล หรือการโหวตในหลายเรื่อง
JJNY : 4in1 ภูมิธรรมซัดเนติบริกร/อนค.กดดันกกต.ขยับบัญชีรายชื่อ/ดัชนีทุจริตร่วง2อันดับ/หอการค้าฯหวั่นศก.ปีนี้ต่ำกว่า2.5%
https://voicetv.co.th/read/NPRTC7x81
ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ฉะ ฝ่ายกฎหมายรัฐบาล สร้างบรรทัดทานผิดเพี้ยน ทำเรื่องเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศ เชื่อร่างงบประมาณ 2563 ส่อขัดรธน.
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก กรณีการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร โดยนายภูมิธรรมเห็นว่าเป็นการแก้ต่างออกตัวรับหน้าแทนรัฐบาลและผู้ถูกกล่าวหาว่า "การกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติไม่มีปัญหาใดๆ จะใช้บรรทัดฐานที่เคยพิจารณาดังเช่นในอดีตมิได้" ซึ่งกรณีเช่นนี้ถือเป็นเรื่องเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศและสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ชี้ว่ามีผลทำให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและอาจจะทำให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ตกไป นอกจากนั้น ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ สิ่งที่ รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลกระทำในวันนี้ ได้ตอกย้ำให้สังคมเห็นถึงความเป็นสองมาตรฐาน สร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยน ทำผิดให้เป็นถูก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กล่าวคือ ในกรณีการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.พรรครัฐบาลครั้งนี้ ผู้ที่เป็นเนติบริกรของรัฐบาลออกมาบอกว่า ไม่อาจใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
"การกล่าวอ้างเช่นนี้หมายความว่าสังคมไทยวันนี้ ไม่อาจยึดถือบรรทัดฐานใดๆ ที่ผ่านมาได้ แต่กลับจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา เพื่อสนองประโยชน์แห่งตนและพวกพ้อง โดยมิได้คำนึงถึงว่าได้ใช้วิธีการดังกล่าวสร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยน ทำผิดให้เป็นถูก ครั้งแล้วครั้งเล่า ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับหลักนิติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง" ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ระบุ
https://www.facebook.com/pwechayachai/posts/2829209687146857
อนาคตใหม่ กดดัน กกต. ขยับลำดับบัญชีรายชื่อใหม่ หลัง ปชป.จันทบุรี โดนใบดำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1913189
อนาคตใหม่ กดดัน กกต. ขยับลำดับบัญชีรายชื่อใหม่ หลัง ส.ส.จันทบุรี ปชป.โดนใบดำ สงสัย ที่นิ่งเฉยเพราะช่วย ‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษก และส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ และนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีพิพากษายืนตามคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้มีมติกกต.สั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร (ใบดำ) นายชาติชาย วรพิพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยศาลเห็นว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กรณีหาเสียงเลือกตั้ง
นายณัฐชา กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้กกต. ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ คือไม่ชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่หรือไม่ ซึ่งทางพรรคการเมืองทุกพรรคถือว่าเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อในระบบใหม่นั้น ทุกครั้งที่มีเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งซ่อม หรือพบการกระทำความผิดในการเลือกตั้ง จะต้องคำนวณสูตรบัญชีรายชื่อใหม่ จึงอยากเรียกร้องให้ กกต. ให้ความชัดเจนในประเด็นนี้ ทั้งนี้ตนอยากฝากประชาชนให้ช่วยจับตาการทำงานขององค์กรอิสระต่างๆ เพราะขณะที่ฝ่ายค้านกำลังเจอมรสุม องค์กรอิสระเหล่านี้ไม่เคยมีความช่วยเหลือเอื้อเฟื้อให้ ความนิ่งเฉยไม่ยอมคำนวณคะแนนใหม่ของกกต. ถือเป็นการช่วยฝ่ายรัฐบาลในภาวะเสียงปริ่มน้ำหรือไม่
นายจิรวัฒน์ ชี้แจงในประเด็นกฎหมายว่า หากพิจารณาตามคำร้องของกกต. ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 อาศัยบทบัญญัติ 3 มาตรา คือ มาตรา 138 มาตรา 73 (5) วรรคหนึ่ง และประกอบมาตรา 159 การอาศัยอำนาจของกกต. เชื่อมโยงไปว่า เมื่อเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง ก็เข้าข่ายตามมาตรา 131 วรรคสอง หมายความว่ากรอบระยะเวลา 1 ปี หากมีการตัดสินคดีว่าผู้สมัคร ส.ส.คนใดมีการทุจริต จะต้องมีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองใหม่ ดังนั้นเมื่อศาลฎีกาฯ ตัดสินแล้วในวันที่ 21 มกราคม กกต.สามารถที่จะประชุมและลงมติว่าจะต้องคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเองใหม่หรือไม่ ทั้งนี้สิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมา และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคการเมืองอื่นที่เกี่ยวข้อง จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
นายจิรวัฒน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ยกตัวอย่างกรณีของ 4 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เช่น น.ส.ศรีนวล บุญลือ ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องถือว่า คะแนนแบบแบ่งเขตอยู่ที่พรรคอนาคตใหม่ ด้วยเหตุผลที่เราใช้ระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว เหตุที่เราต้องเรียกร้องประเด็นนี้ก็เพราะการทำงานสภาผู้แทนราษฎร เสียงของสมาชิกมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย การตรจสอบรัฐบาล หรือการโหวตในหลายเรื่อง