จากหนังเรื่อง Spotlight ที่เป็น Drama Thriller สุดเข้มข้นที่ Mark Ruffalo ทิ้งความสุดยอดของการแสดงไว้ในหนังเรื่องนั้น ทิ้งห่างมาประมาณ 5 ปี ทีมผู้สร้าง Spotlight กลับมาอีกครั้งกับหนังแนวคล้ายเดิม แต่คราวนี้เปลี่ยนจากนักข่าวเป็นทนายความที่ต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกกระทำจากความมักง่ายของการผลิตสินค้าออกขายทั่วโลก
“Dark Waters” ภาพยนตร์ดราม่าเข้มข้นที่สร้างมาจากเรื่องจริง ผ่านการนำแสดงโดยนักแสดงคุณภาพ “Mark Ruffalo” ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 3 รางวัลออสการ์กับการแปลงโฉมพลิกคาแร็กเตอร์มารับบทเป็น “Robert Bilottt” ทนายความดีเดือดผู้ยกความเสี่ยงต่อทั้งชีวิตตนเองและครอบครัวเพื่อเดินหน้ากัดไม่ปล่อยต่อคดีความของบริษัทยักษ์ใหญ่ “ดูปองท์” ผู้ผลิตสารเคมีในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียที่ซ่อนความลับดำมืดอันเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ภายในเมืองหลายคน เนื่องด้วยสาเหตุการรั่วไหลของสารเคมีอันตรายร้ายแรงสู่ย่านที่พักอาศัย
หนังคุมโทนทั้งเรื่องด้วยการเล่าแบบซีเรียสและอึมครึมตลอดตั้งแต่ต้นเรื่อง หนังหยิบประเด็นที่เป็นเรื่องจริงมาตีแผ่ให้เรารู้ถึงที่มาที่ไปและการต่อสู้ที่ยาวนานของคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ตอนแรกก็เหมือนจะไม่มีทางที่จะดำเนินคดีกับบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ได้ แต่ไปๆ มาๆ หนังค่อยๆ เผยจุดที่เป็นช่องโหว่ให้ทางฝั่งพระเอกของเรา สามารถหาช่องทางและหลักฐานที่สำคัญมัดตัวจนได้ ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้น คนดูต้องมานั่งลุ้นและเครียดไปกับสถานการณ์ที่นอกจากจะเหมือนทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังเหมือนกับไม่มีหนทางด้วยซ้ำ
เมื่อทุกอย่างมันถาโถมเข้ามา ความตึงเครียดจึงเกิดขึ้นกับตัวหนังและตัวละคร เรียกว่าเรารู้สึกได้เลยว่าความตึงเครียดมันแผ่ออกไปจนทั่วถึงทุกตัวละคร ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เราจะเห็นความอึดอัด ความอึมครึม ความเครียด ที่ถูกแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างกัน จนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ไม่ระเบิด ซึ่งจุดนี้มันก็เป็นจุดที่ทำให้คนที่นั่งดูลุ้นไปกับตัวละครด้วยความอัดอั้นตันใจ เหมือนคนที่มีความทุกข์แต่ไม่รู้จัระบายกับใครนั่นแหละ
แต่ถ้าบทลักษณะแบบนี้แล้วนักแสดงไม่อินหรือมือไม่ถึง บทมันจะกร่อยมาก อาจจะกลายเป็นหนังที่ดูแล้วน่าเบื่อไปเลยก็ได้ เพียงแต่นักแสดงในเรื่องทั้งหมด คือนักแสดงคุณภาพ องค์ประกอบหลายๆ อย่าทำให้นักแสดงขับพลังออกมาได้อย่างดี Anne Hathaway, Tim Robbins เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่หนักสุดคือ Mark Ruffalo ที่เรียกว่า Spotlight แกหนักหน่วงเข้มข้นยังไง เรื่องนี้แกเหมือนมาเดี่ยวโชว์ให้เห็นฝีมือกันชัดๆ เลยทีเดียว
หนังมันอาจจะไม่ใช่หนังที่ดูแล้วสนุกมากมายอะไรนัก ออกจะเนิบๆ คุมโทนอึมครึมด้วยซ้ำ แต่เมื่อเราใช้สมาธิสักนิดในการดู มันจะทำให้เรารู้สึกถึงความเข้มข้นของสิ่งที่หนังต้องการจะเล่าให้เราฟัง และจะอินไปกับมัน โดยเฉพาะตอนท้ายที่หนังมาเฉลยว่า ตัวละครบางตัวละครในหนัง คือคนจริงๆ ที่ถูกผลกระทบจากเรื่องราวนี้ ยิ่งสร้างความสะเทือนใจให้อย่างหนักหน่วงมากๆ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก - นี่มันเกือบจะเป็น Spotlight ในภาคฉายเดี่ยวของ Mark Ruffalo เลยนะ
จากหนังเรื่อง Spotlight ที่เป็น Drama Thriller สุดเข้มข้นที่ Mark Ruffalo ทิ้งความสุดยอดของการแสดงไว้ในหนังเรื่องนั้น ทิ้งห่างมาประมาณ 5 ปี ทีมผู้สร้าง Spotlight กลับมาอีกครั้งกับหนังแนวคล้ายเดิม แต่คราวนี้เปลี่ยนจากนักข่าวเป็นทนายความที่ต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกกระทำจากความมักง่ายของการผลิตสินค้าออกขายทั่วโลก
“Dark Waters” ภาพยนตร์ดราม่าเข้มข้นที่สร้างมาจากเรื่องจริง ผ่านการนำแสดงโดยนักแสดงคุณภาพ “Mark Ruffalo” ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 3 รางวัลออสการ์กับการแปลงโฉมพลิกคาแร็กเตอร์มารับบทเป็น “Robert Bilottt” ทนายความดีเดือดผู้ยกความเสี่ยงต่อทั้งชีวิตตนเองและครอบครัวเพื่อเดินหน้ากัดไม่ปล่อยต่อคดีความของบริษัทยักษ์ใหญ่ “ดูปองท์” ผู้ผลิตสารเคมีในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียที่ซ่อนความลับดำมืดอันเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ภายในเมืองหลายคน เนื่องด้วยสาเหตุการรั่วไหลของสารเคมีอันตรายร้ายแรงสู่ย่านที่พักอาศัย
หนังคุมโทนทั้งเรื่องด้วยการเล่าแบบซีเรียสและอึมครึมตลอดตั้งแต่ต้นเรื่อง หนังหยิบประเด็นที่เป็นเรื่องจริงมาตีแผ่ให้เรารู้ถึงที่มาที่ไปและการต่อสู้ที่ยาวนานของคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ตอนแรกก็เหมือนจะไม่มีทางที่จะดำเนินคดีกับบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ได้ แต่ไปๆ มาๆ หนังค่อยๆ เผยจุดที่เป็นช่องโหว่ให้ทางฝั่งพระเอกของเรา สามารถหาช่องทางและหลักฐานที่สำคัญมัดตัวจนได้ ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้น คนดูต้องมานั่งลุ้นและเครียดไปกับสถานการณ์ที่นอกจากจะเหมือนทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังเหมือนกับไม่มีหนทางด้วยซ้ำ
เมื่อทุกอย่างมันถาโถมเข้ามา ความตึงเครียดจึงเกิดขึ้นกับตัวหนังและตัวละคร เรียกว่าเรารู้สึกได้เลยว่าความตึงเครียดมันแผ่ออกไปจนทั่วถึงทุกตัวละคร ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เราจะเห็นความอึดอัด ความอึมครึม ความเครียด ที่ถูกแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างกัน จนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ไม่ระเบิด ซึ่งจุดนี้มันก็เป็นจุดที่ทำให้คนที่นั่งดูลุ้นไปกับตัวละครด้วยความอัดอั้นตันใจ เหมือนคนที่มีความทุกข์แต่ไม่รู้จัระบายกับใครนั่นแหละ
แต่ถ้าบทลักษณะแบบนี้แล้วนักแสดงไม่อินหรือมือไม่ถึง บทมันจะกร่อยมาก อาจจะกลายเป็นหนังที่ดูแล้วน่าเบื่อไปเลยก็ได้ เพียงแต่นักแสดงในเรื่องทั้งหมด คือนักแสดงคุณภาพ องค์ประกอบหลายๆ อย่าทำให้นักแสดงขับพลังออกมาได้อย่างดี Anne Hathaway, Tim Robbins เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่หนักสุดคือ Mark Ruffalo ที่เรียกว่า Spotlight แกหนักหน่วงเข้มข้นยังไง เรื่องนี้แกเหมือนมาเดี่ยวโชว์ให้เห็นฝีมือกันชัดๆ เลยทีเดียว
หนังมันอาจจะไม่ใช่หนังที่ดูแล้วสนุกมากมายอะไรนัก ออกจะเนิบๆ คุมโทนอึมครึมด้วยซ้ำ แต่เมื่อเราใช้สมาธิสักนิดในการดู มันจะทำให้เรารู้สึกถึงความเข้มข้นของสิ่งที่หนังต้องการจะเล่าให้เราฟัง และจะอินไปกับมัน โดยเฉพาะตอนท้ายที่หนังมาเฉลยว่า ตัวละครบางตัวละครในหนัง คือคนจริงๆ ที่ถูกผลกระทบจากเรื่องราวนี้ ยิ่งสร้างความสะเทือนใจให้อย่างหนักหน่วงมากๆ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้