พอจะเข้าใจอยู่ครับ นี่แหล่ะสังคมบ้านเรา และยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว 555 สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือของกินจุบจิบๆนี่ ไม่เคยขาดมือกันเลย และถ้าเราทำตัวแตกต่าง ก็จะมองเราแปลกๆครับ เราต้องค่อยๆให้มันเป็นไปครับ ค่อยๆให้เขารู้ว่าเราไม่กินนะ แรกๆก็อาจจะรับเป็นน้ำใจไป แต่เราจะกินนิดๆ หรือไม่กินก็ได้ ให้รับไว้ก่อน ยิ้มรับไว้ก่อนครับ หลังๆพอเขาเห็นว่าเราไม่กิน เขาก็จะเข้าใจ และไม่เอามาให้เราอีก ตอนผมเลิกกินเหล้า หรือกินข้าวเหลือมื้อเดียวหรือสองมื้อ ผมก็ต้องคอยตอบคำถาม แบ่งรับแบ่งสู้แบบนี้แหล่ะครับ แรกๆเขาจะมองเราทำตัวแปลกๆ พอนานๆไปเขาก็จะชินไปเอง ยิ่งหลังๆมานี่ เห็นเราสุขภาพดี แข็งแรง หน้าอ่อนกว่าวัย จะยิ่งมาคุยมาขอเคล็ดลับด้วยซ้ำนะ ค่อยๆให้เวลาๆปรับๆไปครับ
ส่วนเรื่องไขมันนั้น หลายๆคนยังเข้าใจผิดกันมากนะ ไขมันที่มาจากอาหารธรรมชาติ ไม่ผ่านความร้อนนั้น มีประโยชน์ต่อร่างกายครับ ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วย แต่พวกน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีที่ขายตามท้องตลาดแล้วนำมาผัดมาทอดนั้น ขอบอกว่าอันตรายอย่างยิ่ง เพราะมันจะกลายเป็นไขมันทรานทันที ยิ่งทอดซ้ำๆนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่สุดของอันตราย ยิ่งกล้วยทอดนี่ ผมอยากบอกว่ากล้วยไม่อันตรายหรอกครับ แต่ไอ้แป้งที่ชุบแล้วไปจุ่มน้ำมันทอดนั้นแหล่ะครับ สุดยอดอันตรายเลยล่ะ โอเค..ถ้านานๆคุณกินที อาทิตย์ครั้งสองอาทิตย์ครั้ง ก็ไม่มีปัญหาไรครับ
ส่วนเรื่องที่เวลาป่วย ร่างกายจะไม่มีสารอาหารไรมารักษาตัวเองนี้ ก็เป็นความคิดที่มโนกันมาทั้งนั้น หรืออาจจะมาจากสื่อต่างๆอะไรก็แล้วแต่ ขอบอกว่าไม่เป็นความจริงๆแต่อย่างใด ร่างกายเรามันฉลาดครับ มันไม่ได้โง่ เคยไหมครับ เวลาป่วย หรือเป็นไข้เป็นหวัดเป็นไรก็แล้วแต่ เราจะไม่ค่อยรู้สึกหิวเท่าไหร่ เพราะไรล่ะครับ เพราะร่างกายต้องการพักผ่อน พักฟื้นยังไงล่ะ แล้วการกินนี่แหล่ะ มันใช้พลังงานมาก แล้วร่างกายจะพักฟื้นได้อย่างไรล่ะ คนเราก็แปลก ชอบไปกินๆๆ แล้วก็กินๆๆ เพราะคิดว่าการกินจะช่วยนำสารอาหารไปซ่อมแซมซะงั้น แต่จริงๆในร่างกายเรามีพลังงานและไขมันที่สะสมไว้อยู่แล้ว มันจะเปลี่ยนของพวกนั้นมาแปลงมาเป็นพลังงานหรือสารอาหารให้เราเองครับ จึงอยากให้ฟังสัญญาณของร่างกายเราเองดีที่สุดครับ
ฉะนั้น ของแบบนี้ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ น้องต้องมีกำลังใจ และพยายามทำต่อไปครับ เขาเห็นน้องสวย หุ่นดี ผิวพรรณดี อื่นๆดีไปหมด เดี๋ยวเขาก็จะมาขอเคล็ดลับน้องเองนะ