ผ่านแล้ว 23 มาตรา! สภาเร่งถกงบฯ ข้ามคืน ‘วรวัจน์’ ชี้งบท้องถิ่น 2 แสนล้าน ส่อขัดกฎหมาย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3357864
 
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงค่ำที่ประชุมสภาฯ ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตั้งแต่มาตรา 16 งบประมาณรายจ่ายกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งตั้งงบประมาณไว้ 4.5 พันล้านบาท มาตรา 17 งบประมาณรายจ่ายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท มาตรา 18 งบประมาณรายจ่ายกระทรวงพลังงาน วงเงิน 1.3 พันล้านบาท มาตรา 19 งบประมาณรายจ่ายกระทรวงพาณิชย์ วงเงิน 4.3 พันล้านบาท มาตรา 20 งบประมาณรายจ่ายกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 2.89 แสนล้านบาท
 
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการอภิปราย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล กมธ.เสียงข้างน้อย ตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ขัดกฎหมาย เนื่องจากร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ระบุให้มีการโอนถ่ายงบประมาณโดยตรงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เขตปกครองรูปแบบพิเศษ (กทม.) และ(พัทยา) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
 
แต่ปรากฏว่ามีการดึงงบของเทศบาล และอบต.ไว้ที่ สถ. มากถึง 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งกฎหมายเขียนไว้ชัดว่าให้กระจายงบลงสู่ท้องถิ่นโดยตรง ดังนั้น การจัดทำงบประมาณปีนี้ถือว่าขัดต่อกฎหมายเยอะมาก หากสมาชิกโหวตให้ผ่านโดยที่ไม่อนุมัติงบประมาณคืนให้กับอปท. เท่ากับสมาชิกทั้งหมดจะทำผิดกฎหมายกันหมด เชื่อได้ว่าหลังจากนี้จะต้องมีคนร้องเรียนเรื่องดังกล่าวแน่นอน ตนขอถามว่ากมธ.เสียงข้างมาก และสำนักงบประมาณ พร้อมรับผิดในส่วนนี้แล้วหรือยัง
 
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาไล่เรียงตั้งแต่ มาตรา 21 งบประมาณรายจ่ายกระทรวงยุติธรรม วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท มาตรา 22 กระทรวงแรงงาน วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาท มาตรา 23 กระทรวงวัฒนธรรม วงเงิน 4.8 พันล้าน ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้อภิปรายให้ความร่วมมือในการรักษาเวลาเป็นอย่างดี ทำให้การลงมติแต่ละมาตราผ่านไปอย่างรวดเร็ว  โดยที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นชอบตามที่กมธ.เสียงส่วนใหญ่แก้ไขมาทั้ง 3 มาตรา
 
กระทั่งเวลา 02.25 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้สั่งพักการประชุม และนัดประชุมอีกครั้งในเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. รวมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ทั้ง 2 วัน ที่ประชุมพิจารณาไปแล้ว 23 มาตรา 16 กระทรวง รวมเวลา 32 ชม.
 

---

 
สภาเดือด! กมธ.แฉพิรุธงบเช่าคอมพ์‘ก.เกษตรฯ’เครื่องละ 3 แสน ถ้าซื้อแค่หมื่นกว่า
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3355622
 
สภาเดือด กมธ.แฉพิรุธงบเช่าคอมพ์‘ก.เกษตรฯ’เครื่องละ 3 แสน ถ้าซื้อแค่หมื่นกว่า
 
สภาเดือด / เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 9 ม.ค. สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 วาระ 2-3 ต่อเป็นวันที่สอง โดยเป็นการพิจารณาในมาตรา 14
 
ที่ประชุมเริ่มเข้มข้นขึ้น เกิดการปะทะคารมระหว่างกมธ.กับส.ส. เมื่อเข้าสู่การอภิปรายในเรื่องงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานในกำกับ ตามที่กมธ.เสียงข้างมากได้แก้ไข หลังนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ชี้เเจงการตัดงบประมาณของกรมวิชาการเกษตรว่า พบข้อผิดปกติเยอะมาก ตั้งงบรั่วไหล ขอดูทีโออาร์การจัดซื้อจัดจ้างก็ไม่ให้ดู
 
อาทิ กรณีการเช่าคอมพิวเตอร์กรมวิชาการเกษตร ซึ่งสำนักงบประมาณเเจ้งว่าค่าจัดซื้อเพียง 1.7 หมื่นบาท แต่กรมใช้วิธีเช่าปีละ 6 หมื่นบาท รวม 5 ปีเท่ากับ 3 เเสนบาทต่อเครื่อง ถามว่าจัดซื้อจัดจ้างเเบบนี้ได้อย่างไร เเม้เเต่กมธ.ซีกรัฐบาลก็เห็นตรงกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ ถือเป็นการตั้งราคาสูงกว่าราคาจริง ไร้ประสิทธิภาพ เปลืองภาษีอากรประชาชน ขณะที่สำนักงบประมาณระบุว่าตั้งงบมาก่อนและเปลี่ยนเเปลงภายหลังได้ แต่ตนรับไม่ไหวกับการตั้งงบแบบนี้
  
ด้านน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เหตุใดกมธ.ตัดงบกรมวิชาการเกษตร จากเดิม 1,500 ล้านบาท เหลือ 899 ล้านบาท ตัดไป 600 ล้านบาท มากกว่าหน่วยงานอื่น ทั้งที่กรมวิชาการเกษตร มีความสำคัญในการศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ต่อเกษตรกรจำนวนมาก ตัดงบเช่นนี้ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ข้าราชการไม่ได้เดือดร้อน อยากทราบว่าเหตุใดจึงต้องตัดงบกรมวิชาการเกษตรมากมายขนาดนี้
  
ขณะที่นายวรวัจน์ชี้เเจงว่า เหตุที่ตัดงบกรมวิชาการเกษตรกว่า 600 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ามีการเช่าคอมพิวเตอร์เครื่องละ 3 เเสนบาท รวม 5 ปี อยากถามว่ารับได้หรือไม่ กมธ.ชุดนี้ตัดงบน้อยมาก ถ้าไม่พบการทุจริตที่ชี้เเจงไม่ได้ก็ไม่ตัด เมื่อกรมวิชาการเกษตรตอบไม่ได้ว่า เหตุใดค่าเช่าคอมพิวเตอร์ถึงเป็น 3 เเสนบาท ทั้งที่ค่าซื้อเพียงเเค่ 1.7 หมื่นบาท เมื่อการทำงานไม่โปร่งใส ตอบกมธ.ไม่ได้ก็ไม่มีใครกล้าให้งบ เพราะมีความผิดปกติเกินจริงเป็น 10 เท่า
 
ทำให้น.ส.รังสิมา ถามกลับว่า หากตัดเฉพาะเรื่องค่าคอมพิวเตอร์ออกไปก็ไม่ถึง 600 ล้านบาท ทำไมตัดต้องตัดทั้งหมด จะตัดก็ควรตัดเฉพาะคอมพิวเตอร์ทิ้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งนายวรวัจน์สวนกลับทันทีว่า กมธ.อยากจะตัดเยอะกว่านี้ ขอบอกว่า งบปีนี้มีปัญหาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผิดปกติมากที่สุด กมธ.เสียงข้างน้อยอยากจะตัดมากที่สุด แต่กมธ.เสียงข้างมากไม่ให้ตัด เพราะเห็นการรั่วไหลเเล้ว แต่ตัดไม่ได้ เราก็อึดอัด
 
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ในฐานะกมธ. ชี้เเจงว่า อธิบดีกรมวิชาการเกษตรชี้เเจงกมธ.ว่า ค่าเช่าคอมพิวเตอร์ตกปีละ 6 หมื่นบาท เเต่ราคากลางอยู่เเค่ 3 หมื่นบาท เดิมในเอกสารงบประมาณ กรมวิชาการเกษตรชี้แจงกมธ.ว่า ค่าเช่าคอมพิวเตอร์ตกเครื่องละ 5 พันบาทต่อเดือน เเต่เมื่อกมธ.ซักถามและให้กลับไปทบทวนใหม่ กรมวิชาการเกษตรก็ไปแก้ไขเอกสารกลับมาใหม่เหลือเพียงเครื่องละ 800 บาทต่อเดือน โดยให้เหตุผลว่าเอกสารชุดเเรกที่ให้มานั้นผิด ถ้ากมธ.ไม่ตรวจเจอ แสดงว่าต้องผิดเลยตามเลยใช่หรือไม่ กรมวิชาการเกษตรจะมาตั้งงบหลอก กมธ.เเบบนี้ได้อย่างไร นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดจึงต้องตัดสูงถึง 50 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นการตัดในภาพรวมไม่ใช่ตัดเฉพาะโครงการใดโครงการหนึ่ง
  
หลังจากนั้นน.ส.รังสิมาพยายามขอใช้สิทธิอภิปรายต่อเนื่องจากการถูกรุม แต่นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานระบุว่า ก็ท่านอยากวางระเบิดไว้เอง พร้อมกับตัดบทเข้าสู่การอภิปรายต่อไป