สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็น "อัตตา" แต่อัตตาอยู่ใน "อนัตตา"

สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็น "อัตตา" แต่อัตตาอยู่ใน "อนัตตา"

  แต่เราทั่วไปมักจะบอกว่า "สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา" คนทั่วไปเลยเข้าใจผิด ไม่วิเคราะห์วิจัยพิจารณาให้ลึกซึ้งเข้าไป คนทั่วไปก็เลยปฏิเสธ "อัตตา" แต่ที่จริงแล้วเราจะปฏิเสธอัตตาไม่ได้เลย

  มันเป็นขั้นตอนในการดำเนินจากพื้นฐานเข้าสู่เบื้องสูง คือ จะต้องเป็นจะต้องมี อัตตา" ก่อน ถึงจะเป็น "อนัตตา" เพราะถ้าไม่มีอัตตาก็ไม่รู้ว่าเป็นอนัตตาตรงไหน นี่แหละ ถึงจะเข้าใจได้ง่าย

  บางคนจะอธิบายทีเดียวเลยอธิบายระดับสูงสุดเลย คนที่ภูมิปัญญาเข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจก็จะมาเถียงกันตรงนี้แหละ มี "อัตตา" หรือ "ไม่มีอัตตา" ฯลฯ

  แต่ถ้าเรายอมรับใน "อัตตา" แต่อัตตาอยู่ใน "อนัตตา" ยังไงก็ต้องไปสู่อนัตตา คุณจะยอมรับไม่ยอมรับก็เป็นเช่นนั้น

  สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็น "อัตตา" แต่อัตตาอยู่ใน "อนัตตา" เพราะว่าจะต้องเสื่อมสลาย เปลี่ยนแปลงไปตามนั้น จนในที่สุดก็จะเป็นอนัตตา ไม่สามารถควบคุมได้

  ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะว่าอยู่ภายใต้กฎแห่งพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

  กฎแห่งธรรม ยังไงเราก็หนีให้พ้นจากกฎแห่งธรรมไม่ได้ จึงสรุปว่า "อัตตา" ทั้งหลายทั้งปวงคือ "อนัตตา"

 
^_^  ..._/\_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่