“ช่อ พรรณิการ์” กร้าวอนาคตใหม่ เป็นที่รวมคนอุดมการณ์เดียวกัน...

วันนี้น่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า จะรับหรือไม่รับคำร้องของกกต.ที่ยื่นขอให้วินิจฉัยคดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ยอมรับ ว่าคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน แต่หากมีการยุบพรรคเกิดขึ้น ก็ต้องทำให้ผู้มีอำนาจเห็นว่า การยุบพรรคไม่สามารถหยุดยั้งอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ได้

เป็นความเห็นของน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่ระบุว่า หากมีการยุบพรรคเกิดขึ้นจริง ส.ส.พรรคจะย้ายไปสังกัดพรรคอื่น 

ส่วนสมาชิกพรรคก็จะไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ เนื่องจากต้องการทำให้เห็นว่าการยุบพรรคไม่มีความหมาย เพราะ พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่แค่พรรคการเมืองแต่เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่สามารถยุบได้
แม้จะพยายามยืนยันเช่นนี้ แต่น.ส.พรรณิการ์ ยอมรับว่า คดีการกู้เงินที่มีโทษสูงสุด คือ การยุบพรรค เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายกังวล ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย



ส่วนกรณีที่ศาลยกคำร้องพรรคอนาคตใหม่ที่ยื่นฟ้องกกต.เกี่ยวกับการเร่งรีบทำคดีถือหุ้นสื่อวี-ลัค มีเดีย น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า ไม่วสามารถดำเนินการอย่างไรต่อได้ แต่เชื่อว่าประชาชนจะเห็นปัญหาการเร่งรัดทำคดีของกกต.และเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าน.ส.พรรณิการ์ ไปพูดในเวทีพบประชาชนเพื่อรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญที่ จ.อุตรดิตถ์ ว่า ขณะนี้มีการเตรียมการให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

น.ส.พรรณิกา ระบุว่า อยากให้ฟังให้ครบถ้วน เพราะ การพูดในวันนั้นเป็นการพูด เนื่องจากมีการพยายามสร้างความเข้าใจให้ประชาชนว่า ไม่ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีใหม่ประเทศก็จะดีขึ้นได้แล้ว จึงชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเพียงครึ่งเดียว เนื่องจากหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ว.250 คน ก็จะมีอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและมีวาระอยู่ต่ออีก 5 ปี ซึ่งนั่นหมายความว่า การจัดวางตัวนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายโดยผู้มีอำนาจ

ส่วนที่มีการระบุชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง โดยอ่านจากคอลัมน์หนังสือพิมพ์ต่างๆเท่านั้น ยืนยันว่าความขัดแย้งคงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่การพูดเรื่องการวางตัวนายกรัฐมนตรี แต่ความขัดแย้ง น่าจะเกิดขึ้นจากการที่ไม่ยอมให้อำนาจเป็นของประชาชนโดยแท้จริง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่